บทที่ 541 เต่าเซียนเสวียนอู่ ใกล้เคียงกับเซียนอย่างยิ่ง!
ซีเริ่มลงมือ แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้ลงมืออย่างถึงที่สุด ไม่ได้ตัดความทรงจำที่เกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้าทิ้ง แต่เลือกจะปิดผนึกความทรงจำส่วนนี้เอาไว้
นางหักใจลงมือถึงที่สุดไม่ได้ นางไม่เต็มใจจะลืมเลือนหลี่จิ่วเต้าไปโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นนางจึงทิ้งจิตสำนึกเอาไว้ให้ตัวเอง หากวันหน้าข้างหน้าสามารถทำทุกสิ่งได้สำเร็จ นางก็จะสามารถทำลายผนึกและจดจำทุกสิ่งได้
หลังจากประทับผนึกแล้ว นางก็ไม่คิดถึงหลี่จิ่วเต้าอีก ความทรงจำส่วนนั้นหายออกไปจากหัวของนาง หากไม่คลายผนึก นางย่อมไม่อาจจำความทรงจำส่วนนี้ได้
“แดนมากมายในอาณาจักรแห่งนี้ล้วนไม่มี เช่นนั้นก็อาจเป็นสถานที่แห่งนั้น…”
สีหน้าของนางเรียบเฉย ขณะเช็ดน้ำตาก็วิเคราะห์อย่างละเอียด
กล่องสี่เหลี่ยมนั่นไม่ธรรมดา ไม่อาจถูกทำลายลงได้ ไม่มีทางที่มันจะอยู่อย่างสงบนิ่ง อย่างไรก็จะต้องสร้างปรากฏการณ์บางอย่างที่เหนือสามัญสำนึกออกมา
นอกจากนี้ กล่องสี่เหลี่ยมก็ไม่มีทางจะถูกสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้ครอบครอง
การต่อสู้ในครั้งนั้นชุลมุนวุ่นวายเกินไป เกรงว่ากล่องสี่เหลี่ยมจะถูกเปิดออกเล็กน้อย ทำให้พลังพิเศษรั่วไหลออกมาจากด้านในกล่อง
พลังนั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ไม่ใช่อะไรที่สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้จะสามารถควบคุมได้ กระทั่งสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรแห่งอื่นและภพเซียนก็ไม่อาจทำได้
หลังจากกล่องตกลงมา ด้วยพลังที่มากล้นทำให้มีโอกาสสูงที่จะก่อเกิดเป็นแดนอันตรายขึ้น ดังนั้นนางจึงเดินทางไปในแดนอันตรายนับไม่ถ้วนที่ไร้ผู้ปกครองเพื่อตามหา
ทว่านางไปมาแทบทุกหนแห่งแล้ว แต่กลับไม่พบสิ่งที่ต้องการ
สถานที่ที่กล่องสี่เหลี่ยมตกลงมาอาจแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก จึงสามารถปิดบังร่องรอยทั้งหมดได้
นางนึกถึงสถานที่หนึ่งขึ้นมา!
แดนบรรพโกลาหล!
ในยามนั้นพวกนางไม่ได้หนีอย่างไร้จุดหมาย แต่กำหนดจุดหมายเอาไว้แล้ว นั่นก็คือแดนบรรพโกลาหลที่อยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ พวกนางต้องการจะเข้าไปยังดินแดนแห่งนั้นเพื่อพลิกฟื้นตนเองกลับขึ้นมา
แดนบรรพโกลาหลอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง ด้านในนั้นล้วนเกินกว่าจะจินตนาการถึง หากพวกนางต้องการจะปกป้องกล่องและล้างแค้นให้กับตระกูล ทำให้ตระกูลเซียวต้องชดใช้อย่างสาสม พวกนางจำต้องพึ่งพาแดนบรรพโกลาหล
ดังนั้นหลังจากที่พวกนางออกมาจากภพเซียน ก็เลือกตรงมายังอาณาจักรแห่งนี้
“ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้!”
ดวงตาของซีเปล่งประกาย หากกล่องตกลงไปในแดนบรรพโกลาหล เรื่องทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผลขึ้นมาก ไม่เช่นนั้นหลังจากค้นหามานานเพียงนี้คงต้องได้อะไรมาบ้างแล้ว
“ตามหาแดนบรรพโกลาหล!”
นางเปลี่ยนแผนการไปค้นหาแดนบรรพโกลาหล ไม่ว่าสถานที่นี่จะเกี่ยวข้องกับกล่องหรือไม่ นางก็จะไปแดนบรรพโกลาหลอยู่แล้ว
หากกล่องอยู่ในแดนบรรพโกลาหล เช่นนั้นก็ดีไป แต่หากไม่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด
หากนางสามารถเข้าสู่แดนบรรพโกลาหลได้จริง ๆ นางจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมากอย่างแน่นอน นั่นจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนางในการตามหากล่อง
คิดแล้วนางก็เริ่มเคลื่อนไหว
เกี่ยวกับแดนบรรพโบราณโกลาหล นางไม่ได้ไม่รู้ข้อมูลอะไร ทั้งยังมีร่องรอยเบาะแส!
…
อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาก็มาถึงยังที่อยู่ของผู้เฒ่าเต่า อันเป็นเกาะกลางทะเลแห่งหนึ่ง
เกาะกลางทะเลแห่งนี้กว้างใหญ่จนราวกับไร้ขอบเขต เรียกมันว่าแผ่นดินใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินเลย ที่แห่งนี้คือเกาะจักรพรรดิเต่า อันเป็นสถานที่เต่าเซียนเสวียนอู่อาศัยอยู่
เต่าเซียนเสวียนอู่คือนามจักรพรรดิของผู้เฒ่าเต่า มีคนกล่าวว่าผู้เฒ่าเต่าได้ทะลวงผ่านขอบเขตเทียนตี้ขึ้นไปแล้ว อยู่เหนือยิ่งกว่าเทียนตี้ จึงไม่อาจนำคำว่าจักรพรรดิมาตั้งเป็นนามให้ได้
คำพูดนี้ยังเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
นี่เป็นเพราะว่าไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าผู้เฒ่าเต่ามีชีวิตอยู่มายืนยาวเพียงใด นับตั้งแต่วันที่ได้รู้จักผู้เฒ่าเต่า ผู้เฒ่าเต่าก็อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเสียแล้ว
จักรพรรดิรุ่นแล้วรุ่นเล่าพากันร่วงโรยลงไป ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีอายุขัยได้ ทว่าแม้เวลาจะผ่านไปยาวนานจนไม่อาจนับได้ ผู้เฒ่าเต่าก็ยังคงมีชีวิตอยู่ มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ผู้เฒ่าเต่าจะสามารถหลุดพ้นออกจากขั้นเทียนตี้ ไปถึงขอบเขตสูงยิ่งกว่าที่ผู้คนไม่อาจจินตนาการถึง
พวกเขาจึงเรียกขานผู้เฒ่าเต่าผู้นี้ว่าเต่าเซียนเสวียนอู่ ต่างพากันคิดว่าแม้ผู้เฒ่าเต่าจะยังไม่กลายเป็นเซียน แตก็ใกล้เคียงแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นเทียนตี้คนใดในอาณาจักรอวี้ซวี เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เฒ่าเต่าทุกคนก็ล้วนนอบน้อมเคารพนับถือผู้เฒ่าเต่าเป็นอย่างยิ่ง
ลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาร่อนลงบนเกาะ มาถึงด้านหน้าลานเต๋าของผู้เฒ่าเต่า
“ท่านบรรพจารย์โบราณหลับลึก ไม่พบแขกมานานมากแล้ว ท่านทั้งสองได้โปรดกลับไปเถิด!”
มีศิษย์เต๋ารูปงามผู้หนึ่งเดินออกมาจากลานเต๋า ก่อนจะกล่าวกับลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายา
ตอนเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่มัจฉาสัตมายาคาดเดาเอาไว้แล้ว
ปกติผู้เฒ่าเต่ามักนอนหลับลึก แทบไม่ปรากฏตัวออกมา เขาเองก็ไม่คิดว่าตนเองจะสามารถเข้าพบผู้เฒ่าได้โดยตรง
“รบกวนช่วยแจ้งกับท่านเต่าเซียนด้วย ว่าพวกเรามีเรื่องสำคัญจึงขอเข้าพบ!”
มัจฉาสัตมายากล่าวกับศิษย์เต๋า
“ต้องขออภัยด้วย เมื่อบรรพจารย์โบราณหลับลึก ไม่ว่าอะไรก็ห้ามรบกวนโดยเด็ดขาด พวกเราเองก็สามารถพบท่านบรรพจารย์โบราณได้ก็ต่อเมื่อท่านตื่นเท่านั้น” ศิษย์เต๋าตอบ
“เช่นนั้นหรือ? แต่ว่าพวกเราก็ยังต้องการจะพบหน้าท่านเต่าเซียน พวกเรามีเรื่องสำคัญจริง ๆ จึงต้องการจะพบ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของท่านเต่าเซียน!” มัจฉาสัตมายาพูดอีกครั้ง
กล่าวตามทรงแล้ว ที่พวกเขามาในครั้งนี้ ย่อมเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งสำหรับผู้เฒ่าเต่าอย่างแน่นอน
อย่างไรเสียพวกเขาก็ต้องการจะพาผู้เฒ่าเต่าไปยังลานเล็ก ๆ ของคุณชาย
และเมื่อผู้เฒ่าเต่าเข้าไปในลานเล็ก ๆ ของคุณชายแล้ว ผู้เฒ่าเต่าก็จะได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาล สามารถกลายเป็นเต่าเซียนที่แท้จริงได้
ผู้เฒ่าเต่านั้นลึกล้ำเกินหยั่งถึง มีข่าวลือว่าผู้เฒ่าเต่าได้ทะลวงผ่านขั้นเทียนตี้ขึ้นไปนานแล้ว บรรลุสู่ขอบเขตที่สูงกว่า คาดเดากันว่าอาจกลายเป็นเซียนแล้ว
แต่ทั้งเขาและลั่วสุ่ยแน่ใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าผู้เฒ่าเต่าไม่สามารถกลายเป็นเซียนที่แท้จริงได้
ด้านในอาณาจักรอวี้ซวีไม่มีสสารนิรันดร์อยู่ หากผู้เฒ่าเต่าไม่สามารถหลอมสสารนิรันดร์เข้ามาในร่างได้ ย่อมไม่มีทางกลายเป็นเซียนได้ ดังนั้นผู้เฒ่าเต่าก็ยังคงมีอายุขัยจำกัด มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเหลือเวลาอยู่อีกไม่มากแล้ว
ดังนั้นขอเพียงแค่พวกเขาสามารถพบผู้เฒ่าเต่า จากนั้นก็อธิบายเรื่องนี้ให้ฟัง ผู้เฒ่าเต่าน่าจะตกลงยอมตามพวกเขาไป
“ต้องขออภัยจริง ๆ ยามที่บรรพจารย์โบราณหลับลึก มีพลังบางอย่างคอยปกป้องเอาไว้อยู่ แม้พวกเราต้องการจะรายงานเรื่องของพวกท่านทั้งสองก็ไม่อาจทำได้”
ศิษย์เต๋ากล่าว
เมื่อมัจฉาสัตมายาเตรียมเปิดปากจะพูดอะไรอีก ลั่วสุ่ยก็รั้งมัจฉาสัตมายาเอาไว้
นางหันไปพูดกับศิษย์เต๋า “เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่รบกวนมากไปกว่านี้แล้ว”
หลังจากนั้นนางก็พามัจฉาสัตมายาเดินออกไป
“พี่สาวจะล้มเลิกเช่นนี้หรือ?”
ระหว่างทางมัจฉาสัตมายาอดถามลั่วสุ่ยขึ้นมาไม่ได้
“ไม่มีทาง!”
ลั่วสุ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม “ข้ารับรู้ได้ว่าศิษย์เต๋าผู้นั้นไม่ได้โกหก เขาไม่อาจติดต่อกับผู้เฒ่าเต่าที่หลับลึกได้จริง ๆ อีกทั้งผู้เฒ่าเต่าก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กระทั่งญาณสัมผัสของข้าก็ยังไม่อาจตรวจสอบสถานการณ์ในลานเต๋าได้อย่างละเอียด”
“แข็งแกร่งถึงปานนั้น!?”
มัจฉาสัตมายาตกตะลึง เขารู้ว่าพี่ลั่วสุ่ยแข็งแกร่งแค่ไหน ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าเต่าจะอยู่ไม่ไกลจากการกลายเป็นเซียนแล้วจริง ๆ
“ใช่แล้ว!”
ลั่วสุ่ยพยักหน้า “ความแข็งแกร่งของผู้เฒ่าเต่าจะต้องใกล้เคียงกับเซียนอย่างมาก อาจสามารถใช้พลังของเซียนได้เสียด้วยซ้ำ! พลังในลานเต๋าสามารถทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงอันตราย! ข้าคงไม่อาจส่งเสียงไปถึงผู้เฒ่าเต่าที่อยู่ด้านในนั้นได้”
หลังจากนั้นนางก็หัวเราะออกมา “แต่ข้ายังมีวิธีที่จะทำให้ได้พบผู้เฒ่าเต่า”
“วิธีอะไร?”
ดวงตาของมัจฉาสัตมายาเป็นประกาย
รอยยิ้มกว้างปรากฏบนหน้าของลั่วสุ่ย “เจ้าคอยดูให้ดีแล้วกัน”