ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 560 ก้มหัว (ปลาย)

ตอนที่ 560 ก้มหัว (ปลาย)

​สือ​อี​เหนียง​เล่า​ความสงสัย​ใน​ใจ​ของ​ตัวเอง​ให้​เขา​ฟัง

​“​น่าจะ​ไม่ใช่​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่างมั่นใจ​ ​“​ท่าน​แม่​ไม่มีทาง​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ลูกสะใภ้​แน่นอน​ ​เพราะ​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะ​คิด​ว่า​ลูกสะใภ้​ไม่มี​ความสามารถ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ครอบครัว​ของ​พี่​สาม​ก็​คงจะ​ไม่​เป็น​เช่นนี้​!​”​ ​พูด​จบ​ ​พวกเขา​สอง​คน​ก็​ตกใจ​พร้อมกัน

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นอา​ยุ​น้อยกว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​แค่​ไม่​กี่​วัน​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​เขา​ก็​ควรจะ​แต่งงาน​แล้ว​

แต่​ช่วงนี้​ไท่ฮู​หยิน​ไม่สน​ใจฮู​หยิน​สาม​ ​คิดดู​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​มี​ความเป็นไปได้​น้อยมาก

​โชคดี​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ว่า​จะ​สู่ขอ​ให้​ใคร​ ​ก็​คง​ต้อง​บอก​คนที​่​เป็น​พ่อแม่​อย่าง​เรา​!​ ​รอ​ให้ท่าน​แม่​บอก​เรา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”​ ​เขา​หลุดพ้น​ออกมา​จาก​การคาด​เดา​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​จิ​่น​เกอ​ตอนที่​อยู่​ที่​วัด​อวิ​๋นจ​วี​ ​“​…​ฟัง​จาก​ที่​เขา​เล่า​ ​เจ้า​อยู่​กับ​เขา​ทั้ง​ช่วง​บ่าย​เช่นนั้น​หรือ​”

​“​ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ท่าที​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​นาง​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​เห็น​อะไร​ก็​ตื่นเต้น​ไป​หมด​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะว่า​ก่อนหน้านี้​เคย​ให้​เขา​ดู​ภาพวาด​ ​เกรง​ว่า​แม้แต่​ไก่​ ​เป็ด​ ​วัว​ ​แกะ​ก็​คงจะ​ไม่รู้​จัก​กระมัง​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หยุดชะงัก

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​อยู่นาน​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร

​สอง​วัน​ต่อมา​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​นำ​ไก่ฟ้า​สีทอง​ ​นก​ยวน​ยาง​ ​นก​กระ​เรียน​ขาว​และ​นกยูง​มาที​่​ลาน

​“​นี่​มัน​อะไร​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​สีหน้า​ดู​ไม่ดี​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ใน​ลาน​ก็​เต็มไปด้วย​อุจจาระ​ของ​สัตว์​พวก​นี้​น่ะ​สิ​”

​แต่​จิ​่น​เกอ​กลับ​ตะโกน​อย่าง​ตื่นเต้น​ ​เขา​พุ่ง​เข้าไป​จับ​หาง​นกยูง​ ​นกยูง​ตัว​นั้น​พึ่ง​จะ​มา​อยู่​ใน​สภาพแวดล้อม​ที่​ไม่​คุ้นเคย​ ​มัน​กำลัง​อยู่​ใน​ความ​งุนงง​ ​ถูก​จิ​่น​เกอ​จับ​ ​มัน​ก็​ตกใจ​แล้ว​วิ่ง​ไปร​อบ​ๆ​ ​แต่​จิ​่น​เกอ​กลับ​จับ​ขนนก​ยูง​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดูด​้วย​ความพอใจ​ ​“​พัด​ ​พัด​ขอรับ​!​”

​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีพัด​ขนนก​ที่​ทำ​จาก​ขนนก​ยูง​แขวน​อยู่​

​สือ​อี​เหนียง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​นาง​รีบ​ย่อ​ตัว​ลง​พูด​กับ​เขา​ ​“​นี่​คือ​เสื้อผ้า​ของ​นกยูง​ ​เจ้า​ไม่​ควร​ถอดเสื้อผ้า​ของ​มัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​เสื้อ​สีขาว​ของ​เขา​ ​“​ดู​สิ​ ​เจ้า​ยัง​สวม​เสื้อผ้า​เลย​!​”

​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​วิ่งไล่​นกยูง​ ​พยายาม​จะ​เอา​ขนนก​ยูง​สอด​เข้าไป​ให้​มัน​เหมือนเดิม

​นกยูง​ตัว​นั้น​ตกใจ​ ​มัน​จะ​ให้​เขา​จับได้​เช่นไร​ ​ใน​ลาน​เต็มไปด้วย​ขนนก​ ​ไก่ฟ้า​สีทอง​บิน​ไป​อยู่​บน​เขา​หิน​ทะเลสาบ​ไท่​หู​ ​นก​ยวน​ยาง​หลบ​อยู่​ใต้​กระถางดอกไม้​ใต้​ตั่ง​นั่ง​เหม่ย​เห​ริน​ ​นก​กระ​เรียน​ขาว​กระพือปีก​ไปมา​…​ ​บ่าว​รับใช้​ต่าง​ตื่นตระหนก​ตกใจกลัว​ ​บางคน​ก็​ใช้​มือ​คลุม​หัว​วิ่ง​ไป​หลบ​อยู่​ข้างๆ​ ​บ้าง​ก็​พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​แล้วไป​ช่วย​จิ​่น​เกอ​จับ​นกยูง​ ​จู๋​เซียง​ยืน​ตัวสั่น​อยู่​หน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​รีบ​กลับ​เข้าไป​ข้างใน​เถิด​ ​จิ​่น​เกอ​มี​อาจิน​คอย​ดูแล​ ​พวก​บ่าว​จะ​ทำความสะอาด​ที่นี่​เอง​ ​หาก​นก​พวก​นี้​กระโดด​เข้ามา​หา​ท่าน​มัน​จะ​ไม่ดี​เอา​นะ​เจ้า​คะ​!​”

​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับเป็น​ห่วง​จิ​่น​เกอ​ ​“​รีบ​อุ้ม​เขา​มา​”

​หง​เหวิน​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​แต่กลับ​ถูก​ปีก​ของ​นก​กระ​เรียน​ขาว​ปัด​ออก​ไป​ข้างๆ​

​บรรยากาศ​ใน​ลาน​กำลัง​วุ่นวาย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​เข้ามา

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​เขา​พูด​อย่าง​งุนงง

​สือ​อี​เหนียง​ราวกับ​มองเห็น​ความหวัง​ ​“​ท่าน​โหว​ ​รีบ​จับ​นก​กระ​เรียน​ตัว​นั้น​ไว้​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​ไป​จับ​ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​นก​กระ​เรียน​ขาว​ ​นก​กระ​เรียน​ขาว​ก็​ส่งเสียง​ร้อง​ ​ทำเอา​คน​ทั้ง​จวน​ตื่นตระหนก

​“​ใคร​เขา​เลี้ยง​นก​กระ​เรียน​ขาว​ใน​ลาน​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ป้อน​ต้ม​ถั่วเขียว​ให้​จิ​่น​เกอ​ที่อาบน้ำ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​สะอาด​เรียบร้อย​แล้ว​ ​นาง​หัวเราะ​แล้ว​ตำหนิ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​แล้วยัง​ไม่​ให้​คน​นำ​ไป​เลี้ยง​ไว้​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​!​”

​เดิมที​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่า​ให้​จิ​่น​เกอ​เล่น​ก่อน​สัก​สอง​สาม​วัน​แล้ว​ค่อย​นำ​ไป​เลี้ยง​ใน​สวนดอกไม้​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่า​จะ​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​แบบนี้​

​เขา​ตอบกลับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สุย​เฟิง​ ​บ่าว​รับใช้​คน​ใหม่​ของ​ตัวเอง​นำ​นก​กระ​เรียน​ขาว​และ​นก​ตัว​อื่นๆ​ ​ไป​เลี้ยง​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​

​จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​กลืน​ต้ม​ถั่วเขียว​ใน​ปาก​ลง​ไป​ใน​ท้อง​แล้ว​รีบ​พูดว่า​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​มัน​คือ​ของ​ข้า​ ​ของ​ข้า​ขอรับ​”

​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​นาง​บอก​สุย​เฟิง​ ​“​จับไก่​และ​นก​พวก​นั้น​ผูก​เชือก​ไว้​ที่​เท้า​”​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความรัก​และ​เอ็นดู​ ​“​นก​พวก​นั้น​เป็น​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ใคร​ก็​ห้าม​แตะ​”

​จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​กว้าง

​รอยยิ้ม​สดใส​ราวกับ​ดวงอาทิตย์​ก็​ไม่​ปาน

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​ชอบ​อก​ชอบใจ​ ​บอก​ให้​ป้า​ตู้​ไป​หยิบ​จักจั่น​หยก​มา​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​“​สวย​หรือไม่​”

​หยก​สีเขียว​ส่อง​ประกาย​ราวกับ​ลูกแก้ว

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​อะไร​คือ​ของดี​หรือไม่​ดี​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เอ่ย​เรียก​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​”

​จิ​่น​เกอ​ถือ​มาม​อง​ซ้าย​มอง​ขวา​ด้วย​ท่าที​ที่​สงสัย

​ไท่ฮู​หยิน​สะบัด​มือ​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ ​“​ของ​ทุกอย่าง​ล้วนแต่​มีพรห​มลิ​ขิต​ของ​มัน​ ​ข้า​อยาก​มอบให้​เขา​ ​ใช่​ว่า​เขา​จะ​อยากได้​”

​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ประโยค​ดี​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เก็บ​มัน​ใส่​ใน​กระเป๋า​เรียบร้อย​แล้ว

​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​อย่างขบขัน​ ​นาง​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​สองครั​้ง​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​ต้อง​ชอบ​แน่นอน​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่สน​ใจ

​ไท่ฮู​หยิน​ชอบ​เด็กน้อย​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เป็น​เด็ก​ร่าเริง​และ​น่ารัก​ ​นำ​สิ่งของ​ออกมา​ล่อ​เด็ก​ ​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร

​เขา​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไปดู​สุย​เฟิง​จัดการ​ไก่​และ​นก​พวก​นั้น​

​จื่อ​หง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​สาม​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​แล้ว​พูด​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​“​เชิญ​นาง​เข้ามา​!​”

​สือ​อี​เหนียง​กำลังจะ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ

​“​ไม่เป็นไร​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอ่ย​ห้าม​นาง​ ​“​เมื่อ​ครู่​เขา​เหงื่อ​ออก​เต็มตัว​ ​พึ่ง​จะ​ได้​นั่ง​ ​ให้​เขา​นั่ง​ทาน​ต้ม​ถั่วเขียว​ดับ​ร้อน​ที่นี่​เถิด​ ​ไม่ต้อง​พา​เขา​ไป​กับ​เจ้า​ ​วันนี้​อากาศ​ร้อน​กว่า​วัน​อื่น​”

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​แต่​ยืน​อยู่​ข้างๆ

ฮู​หยิน​สาม​เดิน​เข้ามา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​ป้อน​ต้ม​ถั่วเขียว​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ก็​อยู่​ด้วย​หรือ​!​”

​จิ​่น​เกอ​ถือโอกาส​ตอนที่​ช้อน​ตัก​ต้ม​ถั่วเขียว​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​ไม่​ยื่น​ออกมา​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​ป้า​สาม​”​

​“​ไอ​๊​หยา​”​ ฮู​หยิน​สาม​ยิ้มแย้ม​กว่า​เดิม​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​รู้ความ​ที่สุด​ ​ไม่​แปลกที่​เป็น​ดวงใจ​ของ​ท่าน​แม่​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เยินยอ​เกิน​จริง

​ไท่ฮู​หยิน​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​ป้อน​ต้ม​ถั่วเขียว​ให้​จิ​่น​เกอ​ต่อ

​สือ​อี​เหนียง​เห็นฮู​หยิน​สาม​ทำท่า​ที​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​นาง​จึง​เดิน​เข้าไป​คำนับฮู​หยิน​สาม​

​ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​เก้าอี้​เข้ามา​ให้​นาง​นั่ง​ ​ยื่น​ชาม​ที่ว่างเปล่า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​แล้ว​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​เช็ด​ปาก​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​จากนั้น​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มองฮู​หยิน​สาม​ ​“​ที่​ข้า​เรียก​เจ้า​มา​เพราะ​มีเรื่อง​จะ​คุย​กับ​เจ้า​”

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ

ไม่รู้​ว่าการ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​เรียกฮู​หยิน​สาม​มาหา​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ของ​ฟัง​ซื่อ​หรือไม่

​นาง​เอียงหู​ฟัง

​ได้ยิน​ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​ ​“​เจี่ยน​เกอ​ไม่​เด็ก​แล้ว​ ​เจ้า​ยัง​หาคู่​ครอง​ที่​เหมาะสม​ให้​เขา​ไม่ได้​สักที​ ​ข้า​รู้จัก​สกุล​สกุล​หนึ่ง​…​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​แนะนำ​คุณหนู​สกุล​จิน​อย่าง​กระชับ​ ​“​คุณหนู​สกุล​นี้​ไม่ว่า​จะ​เป็น​หน้าตา​หรือว่า​นิสัย​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​เหมาะสม​กับ​เจี่ยน​เกอ​ของ​เรา​ ​เรื่อง​นี้​ข้า​จะ​ตัดสินใจ​ให้​เขา​เอง​ ​เจ้า​คิด​ว่า​จะ​เชิญ​ใคร​ให้​มา​เป็น​แม่สื่อ​ ​แล้ว​อีก​สอง​วัน​ก็​ไป​สู่ขอ​ที่​จวน​สกุล​จิน​เถิด​!​”

ฮู​หยิน​สาม​ตกตะลึง​ ​นั่ง​อึ้ง​ไม่พูดไม่จา​อยู่นาน​

นาง​ไม่เคย​คิด​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะเข้า​มายุ​่ง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เจี่ยน​เกอ​ ​และ​ยิ่ง​คิดไม่ถึง​ว่า​สกุล​ที่​ไท่ฮู​หยิน​พูดถึง​จะ​มี​ภูมิหลัง​ยากจน​เช่นนี้​…

​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​!​”​ ฮู​หยิน​สาม​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดเสี​ยง​ดัง​ ​“​ให้​เจี่ยน​เกอ​ของ​เรา​เรียก​รอง​ผู้บัญชาการ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ตะวันออก​ว่า​พ่อตา​…​”

​ไท่ฮู​หยิน​จับจ้องฮู​หยิน​สาม​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา​ ​สายตา​คู่​นั้น​เฉียบคม​ราวกับ​มีด​ ​ทำเอาฮู​หยิน​สาม​รู้สึก​เย็นวาบ​ขึ้น​มา​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​รวบรวม​ความกล้า​พูด​ออกมา​ ​แต่​น้ำเสียง​กลับ​แผ่วเบา​ ​“​…​ ​อย่างน้อย​เจี่ยน​เกอ​ของ​เรา​ก็​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ที่​องครักษ์​วัง​หลวง​ ​หาก​สหาย​ร่วมงาน​ของ​เขา​รู้​ ​จะ​ให้​เขา​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​กัน​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​พูดไม่ออก

ตำแหน่ง​ของ​บุตรชาย​ตัวเอง​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​คน​หา​ให้​เขา​ ​ตอนนี้​ยัง​ตัดสินใจ​เรื่อง​แต่งงาน​แทน​เขา​…​ ​หรือว่า​ตอนที่​ไท่ฮู​หยิน​หา​ตำแหน่ง​ให้​เจี่ยน​เกอ​ ​นาง​ก็​คิด​เรื่อง​นี้​อยู่​แล้ว​?

ฮู​หยิน​สาม​เงยหน้า​มอง​ไท่ฮู​หยิน​

​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​อย่าง​เย็นชา​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​เจ้า​ไม่เห็นด้วย​กับ​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​เช่นนั้น​หรือ​”

ไม่เห็นด้วย​!

ไม่เห็นด้วย​อย่างที่​สุด​!

แต่​หาก​พูด​เช่นนี้​ ​ไท่ฮู​หยิน​ต้อง​โมโห​แน่นอน​ ​ถึง​ตอนนั้น​หาก​ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้​สวี​ลิ่ง​ควน​พูด​กับ​กรม​กลาโหม​ ​บุตรชาย​ตัวเอง​อาจจะ​ต้อง​เสีย​ตำแหน่ง​นั้น​ไป​ ​แล้วยัง​มีสา​มี​ ​เรื่อง​ที่นาง​ปล่อย​เงินกู้​ ​สามี​ก็​เป็น​แพะรับบาป​ให้​ตน​แล้ว​ ​เขา​ต้อง​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ก็​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​หาก​ต้อง​ถูก​ไท่ฮู​หยิน​สั่งสอน​เพราะ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​บุตรชาย​อีก​…​ตน​สงสาร​สามี​ ​แล้วก็​สงสาร​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​…

ฮู​หยิน​สาม​รู้สึก​สับสน​ ​นาง​ขยับ​ปาก​ ​แต่กลับ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​

​ถึงแม้ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ไม่รู้​อะไร​ ​แต่​เขา​กลับ​สัมผัส​ได้​ถึง​ความตึงเครียด​ระหว่าง​ผู้ใหญ่

​เขา​ผละ​ตัว​ออกมา​จาก​อ้อมแขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เงียบๆ​ ​แล้ว​พุ่ง​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​แทน

​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ตบหลัง​เขา​เบา​ๆ​ ​อย่าง​อ่อนโยน

​ความสนใจ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ที่ฮู​หยิน​สาม​ ​เมื่อ​เห็น​ว่าฮู​หยิน​สาม​ลังเล​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่​คัดค้าน​ ​เช่นนั้น​ก็​ตกลง​ตาม​นี้​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​เรียก​ป้า​ตู้​ ​“​เจ้า​นำ​ป้ายชื่อ​ของ​ข้า​ไป​เชิญ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ที่​จวน​หย่ง​ซัง​โหว​มา​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ตอนที่​นาง​มา​เป็น​แม่สื่อ​ให้​ฉิน​เกอ​ ​นาง​จัดการ​ได้​อย่าง​รอบคอบ​ ​รบกวน​นาง​เหมือนเดิม​เถิด​ ​เชิญ​นาง​มาช​่วย​เป็น​แม่สื่อ​ให้​เจี่ยน​เกอ​!​”

​ป้า​ตู้​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เปิดม่าน​ออก​ไป

​เสียง​ผ้าม่าน​ทำให้ฮู​หยิน​สาม​ได้สติ​กลับมา​

ไม่ได้​ ​ที่​เรือน​มีลูก​สะใภ้​ที่อยู่​ไม่​เป็นสุข​อยู่​แล้ว​คน​หนึ่ง​ ​ตน​จะ​หา​ลูกสะใภ้​ที่​ไม่​ฟัง​คำพูด​ของ​ตัวเอง​อีก​คน​ไม่ได้​!

​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​นาง​ก็​นึกถึง​คำพูด​ที่​ซิ่ง​เจียว​พูด​กับ​นาง​เมื่อเช้า​วานนี้​ ​‘​…​ตอนที่​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ออก​ไป​ ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ก็​เข้ามา​พอดี​เจ้าค่ะ​ ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ยืน​มอง​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​อยู่​ตรงนั้น​ครู่หนึ่ง​ ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ก็​จับมือ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ท่าน​ตะโกน​ถาม​ว่า​ใคร​มา​ ​เกรง​ว่า​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​คงจะ​ไม่ยอม​ปล่อยมือ​นาง​เจ้าค่ะ​…​’

ช่วงนี้​ฉิน​เกอ​เอาแต่​อยู่​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋​อกั​บนาง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะว่า​ฟัง​ซื่อ​คน​นั้น​ยักคิ้วหลิ่วตา​ให้​บุตรชาย​ลับหลัง​ตัวเอง​ ​บุตรชาย​ของ​ตน​จะ​ไม่เห็น​แก่​หน้า​สาวใช้​ที่​ตัวเอง​ส่ง​ไปรับ​ใช้​เขา​ได้​อย่างไร

​คิด​เช่นนี้​ ​เลือด​ใน​ตัว​ของ​นาง​ก็​พุ่งพล่าน

คนที​่​ฐานะ​ของ​ตระกูล​ไม่​สูงส่ง​อย่าง​สกุล​จิน​ ​หากแต่​งงาน​เข้ามา​ก็​คงจะ​กลายเป็น​กับแกล้ม​ของ​ฟัง​ซื่อ​ ​ถึง​ตอนนั้น​ตน​จะ​ข่ม​ฟัง​ซื่อ​ได้​อย่างไร

ฮู​หยิน​สาม​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ ​นาง​เดิน​เข้าไป​คุกเข่า​ต่อหน้า​ไท่ฮู​หยิน

​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​”​ ฮู​หยิน​สาม​ดึง​แขน​เสื้อ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ใช่​ว่า​ข้า​ไม่เห็นด้วย​กับ​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​ ​แต่ว่า​ข้า​ยัง​ไม่เคย​เจอ​คุณหนู​สกุล​จิน​ ​เลย​ไม่​ค่อย​สบายใจ​…​”

​“​เกลือ​ที่​ข้า​เคย​กิน​ยัง​มากกว่า​ข้าว​ที่​เจ้า​เคย​กิน​เสียอีก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ดึง​แขน​เสื้อ​ตัวเอง​ออกมา​จาก​มือ​ของฮู​หยิน​สาม​ ​“​หรือ​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​จะ​มอง​คน​อย่าง​คุณหนู​สกุล​จิน​ไม่​ออก​อย่างนั้น​หรือ​”

ฮู​หยิน​สาม​รีบ​พูด​ ​“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​…​”

​“​ในเมื่อ​ไม่ได้​สงสัย​ใน​สายตา​ของ​ข้า​ ​เจ้า​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​พูด​อะไร​อีก​”​ ​ไม่​รอ​ให้ฮู​หยิน​สาม​พูด​อะไร​อีก​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ตกลง​ตาม​นี้​ ​พรุ่งนี้​เจ้า​อย่า​ลืม​นำ​วันเกิด​ของ​เจี่ยน​เกอ​มา​ให้​ข้า​”​ ​พูด​จบ​ก็​ทำท่า​ที​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​ข้า​จำ​ไม่ผิด​ ​เจี่ยน​เกอ​คลอด​ยาม​ไฮ​่​ใช่​หรือไม่​”

​วันเกิด​ ​คือ​โชคชะตา​ของ​คน​คน​หนึ่ง​ ​หาก​คนที​่​มี​เจตนาร้าย​รู้​เข้า​ ​อาจจะ​ทำคุณ​ไสย​ใส่​เขา​จนถึง​ตาย​ได้​ ​ดังนั้น​วัน​แรก​ที่​คลอด​ ​จะ​ไม่มีใคร​ไปรา​ยงา​นข​่า​วดี​เลย​ทันที​ ​ปกติ​จะ​เลือก​ยาม​ใด​ยาม​หนึ่ง​ ​เพื่อ​ไม่​ให้​คนอื่น​รู้​เวลา​ที่แท้​จริง

​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ยาม​เกิด​ของ​เจี่ยน​เกอ​เช่นนี้​ ​แท้จริง​แล้วก็​คง​รู้​วัน​เดือน​ปีเกิด​ของ​เจี่ยน​เกอ​ ​ถึงแม้ว่าฮู​หยิน​สาม​จะ​ไม่ยอม​บอก​วัน​เดือน​ปีเกิด​ของ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​สามารถ​เขียน​ให้​ฝ่าย​หญิง​ได้​

ฮู​หยิน​สามขา​นรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​ด้วย​ความขมขื่น

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท