รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 546 เลินเล่อเกินไป ประมาทไปแล้ว!

บทที่ 546 เลินเล่อเกินไป ประมาทไปแล้ว!

บทที่ 546 เลินเล่อเกินไป ประมาทไปแล้ว!

ชอบกินเปลือกแอปเปิลรึ?

แบบนี้ก็ได้หรือ?

บรรดาเทียนตี้ตาโตอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงเลยสักนิด แต่ละข้ออ้างของเต่าเซียนเสวียนอู่ช่าง…แปลกใหม่ไม่เหมือนใครเสียจริง!

ทว่าพวกเขาเองก็ตกตะลึงเหมือนกัน เปลือกแอปเปิลนั่นฉกาจถึงเพียงนั้นเชียว? ถึงขั้นทำให้เต่าเซียนเสวียนอู่ยอมกลับคำทั้งหมดที่ตนเคยกล่าว ยอมตบหน้าตัวเอง!

หรือเป็นดั่งที่มัจฉาสัตมายาว่า สิ่งนั้นช่วยให้เต่าเซียนเสวียนอู่อายุขัยเพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นปี

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เปลือกแอปเปิลนั่นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง อยู่ในระดับน่าทึ่ง!

ต้องรู้ว่า เต่าเซียนเสวียนอู่มีขอบเขตพลังสูงส่งอย่างยิ่งยวด เหนือขั้นเทียนตี้ไปนมนาน โอสถเทียนตี้ยังไม่ส่งผลต่อเต่าเซียนเสวียนอู่ ไม่อาจเพิ่มอายุขัยของเต่าเซียนเสวียนอู่ได้

หากว่าเปลือกแอปเปิลเหล่านี้ช่วยเพิ่มอายุขัยเต่าเซียนเสวียนอู่ได้นับหมื่นปีจริง เปลือกแอปเปิลเหล่านั้นมีโอกาสเป็นเปลือกผลเซียนสูงมาก!

อนิจจา ก่อนนี้พวกเขาเดือดดาลเพราะลั่วสุ่ยใช้เปลือกแอปเปิลเป็นของกำนัลแทนคำขอโทษ กลับมิได้พินิจแอปเปิลเหล่านั้นให้ละเอียดดี ไม่รู้ว่าเปลือกแอปเปิลเหล่านั้นใช่เปลือกผลเซียนจริงหรือไม่

ลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเต่าเซียนเสวียนอู่จะเอ่ยวาจาเยี่ยงนี้ พวกเขาคิดในใจว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด รู้ถ้อยคำ ‘กินเศษกินเลย’ มากกว่า!

“ผู้อาวุโสไม่โกรธแล้วใช่หรือไม่”

ลั่วสุ่ยถามยิ้ม ๆ คราวนี้เต่าเซียนเสวียนอู่คงหายโกรธได้แล้วกระมัง

“ไม่โกรธ ไม่โกรธ ข้าไฉนเลยจะถือสาเด็ก ๆ อย่างพวกเจ้ากันเล่า พวกเจ้าแค่ชอบตกปลามิใช่หรือ หาใช่เรื่องใหญ่ไม่ ไม่มีปัญหาเลย!”

เต่าชราหัวเราะเบา ๆ ไม่เหลือท่าทีเอาเรื่องสักนิด ปล่อยผ่านได้อย่างสิ้นเชิง

หน้าตาสำคัญเท่าชีวิตที่ไหน

เปลือกแอปเปิลเหล่านี้สุดยอดจริง ๆ หลังเขากลืนเปลือกแอปเปิลลงไป ก็รู้สึกได้ทันทีว่าขุมปราณชีวิตมหาศาลกำลังเวียนว่ายอยู่ในร่างกายของเขา เขาไม่เหลือความรู้สึกคล้ายอายุขัยกำลังเหือดแห้งละเหย กระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างยิ่ง!

รอจนเขากลั่นพลังเหล่านี้ในกายได้หมดเมื่อใด เขาย่อมมีชีวิตต่อไปได้อีกหลายหมื่นปี หรืออาจนานยิ่งกว่านั้น!

“ผู้อาวุโสไม่โกรธก็ดีแล้ว”

ลั่วสุ่ยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยต่อ “หนนี้ผู้น้อยผลีผลามมาหาผู้อาวุโส เพียงเพราะต้องการพบผู้อาวุโสและหารือด้วยนิดหน่อย…”

“เรื่องอันใด” เต่าชราถาม

“เรื่องนั้น…”

ใบหน้าลั่วสุ่ยฉายแววลำบากใจ เอ่ยขึ้นเสียงเบา “ผู้อาวุโส เราไปคุยกันที่อื่นดีหรือไม่”

นางต้องการพาตัวเต่าชราไป หมายจะให้เต่าชราไปเป็นเต่าดูเล่นในบ่อชมปลา ขืนกล่าวออกมาต่อหน้าธารกำนัล เกรงว่าเต่าชราต้องเสียหน้า

“เรื่องใดกันถึงต้องลึกลับเพียงนั้น ต้องไปพูดกันที่อื่นด้วยหรือ ไม่จำเป็น ข้าเชื่อใจพวกเขา! พวกเขาทุกคนล้วนควรค่าแก่การเชื่อใจของข้า เจ้ามีเรื่องใดว่ามาเลยเถิด!” เต่าชรากล่าว

หลังเอ่ยวาจาเหล่านี้ออกไป บรรดาเทียนตี้ซาบซึ้งใจเหลือคณา พวกเขารู้สึกกันหมดว่าไม่เสียแรงที่มาที่นี่ ลำพังวาจาของเต่าชราเหล่านี้ พวกเขาก็มาอย่างคุ้มค่าแล้ว!

“เรื่องนั้น…หาใช่เรื่องใหญ่อันใด เพียงแต่ผู้น้อยคิดว่าเราหารือกันตามลำพังดีกว่า” ลั่วสุ่ยเกลี้ยกล่อม

“มิใช่เรื่องใหญ่อันใดยิ่งไม่ต้องเลี่ยง เจ้าว่ามาได้เต็มที่”

เต่าชรากล่าวอีกครั้ง ยืนกรานให้ลั่วสุ่ยเอ่ยออกมาต่อหน้าทุกคน

ประเด็นสำคัญคือเขากลัวลั่วสุ่ยคิดไม่ซื่อ หารือเรื่องชั่วช้าสามานย์กับเขา เขากลัวตัวเองห้ามใจไม่อยู่ ยอมจำนนต่อลั่วสุ่ย แล้วดิ่งลงไปในความมืด

หากอีกฝ่ายมิได้นำเปลือกแอปเปิลออกมา เขาคงไม่ยืนกรานขนาดนี้ เขามั่นใจว่าหักห้ามใจตัวเองไหว ทว่า ในเมื่อลั่วสุ่ยนำเปลือกแอปเปิลออกมาได้ ย่อมนำสิ่งที่วิเศษวิโสยิ่งกว่านี้ออกมาได้ เขาไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าสามารถหักห้ามตัวเองไหว

เพราะเหตุนี้ เขาจึงขอให้ลั่วสุ่ยเอ่ยออกมาต่อหน้าทุกคน มีบรรดาเทียนตี้อยู่ ต่อให้เขาห้ามใจตัวเองมิไหว บรรดาเทียนตี้ก็ต้องช่วยเขา และไม่ถลำลึกตกต่ำไปเพราะเหตุนี้

ถ้าหากลั่วสุ่ยมิได้ต้องการหารือเรื่องชั่วช้าสามานย์กับเขา ยิ่งมิใช่เรื่องใหญ่

ดั่งเช่นที่เขาว่า เขาเชื่อใจในเหล่าเทียนตี้ ไม่ว่าเรื่องใดก็พูดได้ทั้งนั้น

“ก็ได้”

เมื่อเห็นว่าเต่าชรายืนกราน ลั่วสุ่ยได้แต่เอ่ยออกมา “ข้าอยากพาผู้อาวุโสไปที่ที่หนึ่ง ที่นั่นมีบ่อน้ำอยู่แห่งหนึ่ง ข้าอยากให้ผู้อาวุโสไปใช้ชีวิตที่นั่น”

พูดจบ นางหยิบน้ำออกมาหนึ่งแก้ว พร้อมกล่าวต่อ “นี่คือน้ำจากบ่อนั้น”

น้ำในแก้วนั้นสุกสกาวแวววาว ซ้ำยังมีขุมปราณชีวิตอันน่าทึ่งไหลเวียนอยู่ สูงส่งมหัศจรรย์อย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้มิใช่น้ำอมตะก็แทบไม่ต่างกัน!

เพื่อรักษาหน้าตาของเต่าชรา ลั่วสุ่ยพยายามบอกทางอ้อมอย่างที่สุดแล้ว ทว่าเต่าชราและบรรดาเทียนตี้อยู่ระดับไหน?

แต่ละตนล้วนมีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน ประสบการณ์ล้นหลาม หลังพวกเขาได้ยินคำกล่าวของลั่วสุ่ย ก็เข้าใจความหมายในวาจาของลั่วสุ่ยทันที!

ให้เต่าเซียนเสวียนอู่ไปใช้ชีวิตในบ่อน้ำ…

เห็นชัด ๆ ว่าต้องการนำเต่าเซียนเสวียนอู่ไปเป็นสัตว์เลี้ยง!

พับผ่าสิ!

เลินเล่อเกินไป!

ประมาทไปแล้ว!

ใบหน้าเต่าชราคร่ำเครียด รู้สึกแย่เหลือแสน

มีเหตุการณ์เปลือกแอปเปิลก่อนหน้านี้แล้ว ทันทีที่ลั่วสุ่ยหยิบน้ำแก้วนั้นออกมา เขาและบรรดาเทียนตี้ก็พินิจพิเคราะห์น้ำแก้วนั้นอย่างละเอียด

และหลังจากพวกเขาได้พิจารณาแล้ว ก็ต้องตะลึงงันไปในบัดดล น้ำในแก้วใบนั้นสูงส่งมหัศจรรย์อย่างยิ่งยวด เกินกว่าทุกสิ่งที่พวกเขาเคยรับรู้ และพวกเขาผุดความคิดขึ้นมาทันทีว่านี่คือน้ำอมตะ!

หลังเต่าชราได้เห็นน้ำแก้วนี้ ก็ยอมจำนนในทันใด อยากตามลั่วสุ่ยไปด้วย

ไม่ต้องคิดไปมากกว่านี้ก็รู้ได้เลยว่าบ่อน้ำแห่งนั้นสูงส่งเหนือจินตนาการเพียงใด หากเขาได้ไปที่นั่นจริง จากนี้ไปคงมิต้องกังวลว่าอายุขัยจะหมดสิ้นอีก นอกจากนี้ ขอบเขตพลังของเขาก็คงบรรลุสูงขึ้นอีกหลายระดับ!

แม้ว่าเขาสัมผัสไม่ถึงสสารนิรันดร์ในน้ำนั้น กระนั้น เขาสัมผัสถึงสสารพิเศษบางอย่าง สสารระดับนี้คล้ายว่ามิได้ด้อยพลังไปกว่าสสารนิรันดร์เลย มิหนำซ้ำ เขายังรู้สึกได้ราง ๆ ว่าสสารชนิดนี้อาจทรงพลังยิ่งกว่าสสารนิรันดร์เสียอีก!

สิ่งนี้ยวนตายวนใจสำหรับเขามาก หลังเข้าไปในบ่อน้ำ เขาต้องบรรลุเป็นเซียนได้แน่ และกลายเป็นเต่าเซียนอย่างแท้จริง!

เพียงแต่…จะให้รับปากอย่างไรเล่า!?

เทียนตี้ทั้งหลายกำลังดูอยู่ ขืนรับปากง่าย ๆ แบบนี้ เขามิขายหน้าแย่หรือ!

ชั่วลมหายใจนี้ อย่าให้เขาพูดเลยว่าขมขื่นใจเพียงใด หากรู้อย่างนี้ ไยเขาต้องยืนกรานให้กล่าวต่อหน้าธารกำนัลด้วย หารือกันส่วนตัวมิดีกว่าหรือ!

นี่เขาขุดหลุมฝังตัวเองหรือนี่!

เทียนตี้ทั้งหลายฉลาดหลักแหลมกันทั้งนั้น เห็นเต่าเซียนเสวียนอู่ไม่พูดจา จึงรู้ดีว่าเต่าเซียนเสวียนอู่อยากตกลงจะแย่

ว่าไปแล้ว ผู้ใดไม่อยากเล่า

นี่คือวาสนาการเปลี่ยนแปลงสูงสุด!

โอกาสบรรลุเซียนอยู่ตรงหน้า ผู้ใดจะยอมทิ้งไปเล่า!

นี่ก็เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสนี้ หากพวกเขามีด้วย ย่อมต้องตอบตกลงทันที!

“ใช้ชีวิตที่ไหนไม่สำคัญ สำคัญที่ผู้อาวุโสเต่าเซียนชื่นชอบการว่ายน้ำ คงอยากไปว่ายน้ำในบ่อน้ำแห่งนั้นใช่หรือไม่!”

“จริงสิ ผู้อาวุโสเต่าเซียนชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ควรต้องไปว่ายที่บ่อน้ำนี้สักครา!”

เหล่าเทียนตี้พากันเอ่ยปาก

ให้ตายสิ!

แต่ละคนเรียนรู้ไวปานนี้เลยหรือ

มัจฉาสัตมายานิ่งอึ้ง นึกในใจว่าสมเป็นเหล่าเทียนตี้ นำความรู้มาใช้ได้รวดเร็วเช่นนี้!

“ทุกท่านรู้จักข้าดีจริง ๆ งานอดิเรกที่ข้าผู้นี้โปรดปรานที่สุดก็คือออกว่ายน้ำไปทั่วทุกที่!”

เต่าชราบอกกับเหล่าเทียนตี้ รู้ว่าเทียนตี้ทั้งหลายปูทางลงให้กับเขา

“ดีเลย!”

ลั่วสุ่ยคลี่ยิ้ม ดีใจอย่างยิ่งยวด นางจัดการเรียบร้อยทั้งหินอัศจรรย์และเต่าชรา นางกลับได้แล้ว

ขณะเดียวกัน นอกอาณาจักรอวี้ซวี ท่ามกลางอวกาศกว้างใหญ่ไพศาล

“คุณชายอยู่ที่อาณาจักรอวี้ซวีหรือ”

บนนาวาล่องนภา หลิงอินพึมพำกับตัวเองเสียงเบา

นางบังคับนาวาล่องนภาอยู่ ทันทีที่เข้าใกล้อาณาจักรอวี้ซวีก็สัมผัสได้ถึงพลังงานกล้าแกร่งน่าพรั่นพรึงอย่างไม่มีสิ่งใดทัดเทียม ขณะเดียวกัน ยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนงมวยอันสูงส่งอีกด้วย

เป็นผลให้นางนึกถึงคุณชายขึ้นมาทันที!

“ไปเถิด เข้าไปดูหน่อย!”

นางมิได้ลังเล แล่นนาวาล่องนภาเข้าไปในอาณาจักรอวี้ซวี

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท