รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 550 ต้าเต๋อ? ไม่จำเป็นต้องกังวลไป!

บทที่ 550 ต้าเต๋อ? ไม่จำเป็นต้องกังวลไป!

บทที่ 550 ต้าเต๋อ? ไม่จำเป็นต้องกังวลไป!

เซียวฮุ่ยเดินออกมาด้านนอก ก่อนที่ร่างของหมาป่าขาวจะระเบิดออก ร่างนี้ถูกอสูรหมูทำให้แปดเปื้อนไปแล้ว นางจะไม่ใช้มันอีกต่อไป

นางสร้างร่างเนื้อบริสุทธิ์ของตนเองขึ้นมาด้วยวิชาลับบางอย่าง เพียงไม่นานร่างของนางก็ก่อตัวขึ้นมาเป็นหญิงสาวเยาว์วัยที่มีผิวพรรณงดงาม

นี่คือรูปลักษณ์ของนางในตอนที่เป็นสาว

เซียวฮุ่ยยกมือข้างหนึ่งขึ้น ใช้พลังสร้างเก้าอี้โยกขึ้นมาตัวหนึ่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนฟังเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือดที่ดังออกมาจากภายใน รอยยิ้มกว้างปรากฏบนหน้าของนาง

อสูรหมูต้องประสบกับความเจ็บปวดเดียวกับที่นางพานพบในเวลานั้น ทำให้นางเบิกบานใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังสบายใจเป็นอย่างยิ่ง นางมีความสุขยิ่งกว่าตอนที่นางได้กลายเป็นเซียนเสียอีก!

นางชื่นชมตัวเองเป็นอย่างมากที่สามารถนึกความคิดดี ๆ เช่นนี้ออกมาได้ เดิมทีนางวางแผนจะหาแม่สุกรมาให้อสูรหมู แต่ว่าแม่สุกรจะดีเท่าพระเก้าประทีปพุทธเจ้าได้อย่างไร?

นี่คือพระเก้าประทีปพุทธเจ้าเชียวนะ!

ด้านในอสูรหมูเอาแต่ร้องออกมาไม่หยุด มันไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมีวันที่มันจะมาลงเอยเช่นนี้!

เดิมทีเมื่อพระเก้าประทีปพุทธเจ้าพุ่งเข้าใส่ มันไม่ได้หวาดกลัวอะไรมากมาย อย่างไรเสียพระเก้าประทีปพุทธเจ้าก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง แม้มันจะถูกบังคับให้อยู่เบื้องล่างก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

ทว่ามันก็ไม่ได้คาดคิดว่าหลังจากพระเก้าประทีปพุทธเก้าผลักมันลงไปแล้ว ร่างกายก็เปลี่ยนเป็นวัยหนุ่มอย่างรวดเร็ว!

ตอนนั้นมันเจ็บเป็นอย่างมาก เจ็บจนอย่างจะตายไปเสีย!

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง หลังจากผ่านครบหนึ่งพันครั้ง ร่างของพระเก้าประทีปพุทธเจ้าก็เปลี่ยนร่างกลับเป็นเด็กอีกครั้ง ดวงตาที่หมองมัวก็กลับมาแจ่มชัด

“กู่ฝอ…หลังจากนี้ข้ากลายเป็นคนของท่านแล้ว อะ ไม่สิ หลังจากนี้ข้ากลายเป็นหมูของท่านแล้ว ท่านจะต้องรับผิดชอบข้า!”

อสูรหมูร้องไห้ขณะเอ่ยกับพระเก้าประทีปพุทธเจ้า

พระเก้าประทีปพุทธเจ้าอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากได้ยินถ้อยคำของอสูรหมูก็พลันระเบิดความโกรธออกมาทันที!

“รับผิดชอบมารดาเจ้าเถอะ!”

เขาสบถด่า ก่อนจะตบอสูรหมูจนตายภายในครั้งเดียว!

บารมีที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติสมัยโบราณ จนถึงตอนนี้พังทลายลงไปหมดเพราะอสูรหมูตนนี้ หากมันเป็นสตรีเพศก็แล้วไปเถอะ…

แต่นี่มันเป็นหมูเพศชายตนหนึ่ง!

เขาน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด หากเป็นครั้งเดียวก็แล้วไปเถอะ แต่นี่เขากลับต้องทำเป็นพันครั้ง…

ในตอนนี้เขาอยากจะแขวนคอฆ่าตัวตายจริง ๆ!

“เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ?”

ในตอนนั้นเองเสียงของเซียวฮุ่ยก็ดังมาจากด้านนอก

พระเก้าประทีปพุทธเจ้าตัวสั่นสะท้าน ก่อนรีบวิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ลงไปคุกเข่าต่อหน้าเซียวฮุ่ย “เป็นข้าที่ตามืดบอด มองไม่ออกว่าท่านแข็งแกร่งมากเพียงไร ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

ต้องประสบกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ เขาก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมา แต่หากต้องตายจริง เขาก็ไม่ยินยอม ยังคงอยากมีชีวิตอยู่ต่อ

“วางใจได้ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะสังหารเจ้า อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้”

เซียวฮุ่ยกล่าวอย่างไม่แยแส

หลังจากผ่านพันครั้ง ความโกรธภายในใจของนางก็สลายหายไปมากแล้ว

การเก็บพระเก้าประทีปพุทธเจ้าเอาไว้มีประโยชน์มากกว่าการสังหารทิ้ง

นางเกิดความสนใจในพลังศรัทธาที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้ารวบรวมเป็นอย่างมาก พลังศรัทธานี้ไม่ได้อ่อนแอ ทั้งยังสามารถช่วยเหลือนางในการฟื้นฟูตัวเองได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าตอนนี้นางจะสามารถฟื้นฟูตนเองได้รวดเร็วมาก ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงแรกเท่านั้น

หลังจากไปถึงขอบเขตจักรพรรดิแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะรักษาความเร็วในการฟื้นตัวเอาไว้เท่านี้ อย่างไรเสียนางก็บาดเจ็บไปจนถึงรากฐาน

เดิมทีนางยังกลัดกลุ้มว่าจะฟื้นฟูตนเองในช่วงหลังอย่างไรดี ทว่าเมื่อนางได้เห็นพลังศรัทธาที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้ารวบรวมมาก็เกิดความสนใจขึ้นเป็นอย่างมาก พลังชนิดนี้พิเศษไม่เหมือนกับพลังอื่น ๆ หากมองลึกลงไปแล้วจะพบว่ามันน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก

“ขอบคุณท่านเซียน!”

พระเก้าประทีบพุทธเจ้ารีบเอ่ยขอบคุณ แม้ว่าเซียวฮุ่ยจะไม่ได้ปล่อยเขาไปอย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของชีวิตตนในตอนนี้

“เรียกข้าว่านายท่าน!”

เซียวฮุ่ยพูดอย่างไม่แยแส

“ตามที่นายท่านต้องการ!”

พระเก้าประทีปพุทธเจ้ารีบเปลี่ยนคำเรียกทันที

เซียวฮุ่ยพยักหน้าน้อย ๆ จากนั้นก็มองพินิจไปทางพระเก้าประทีปพุทธเจ้า

“เจ้ามีความสามารถพิเศษเป็นอย่างยิ่ง พลังศรัทธานี่เป็นสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?”

นางถามพระเก้าประทีปพุทธเจ้า ตัวนางไม่รับรู้ประวัติของพุทธศาสนาแม้แต่น้อย

นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าเสียด้วยซ้ำ นางเข้าใจไปว่าพระพุทธศาสนามีต้นกำเนิดมาจากพระเก้าประทีปพุทธเจ้า พลังศรัทธานี้เองก็เช่นกัน

“ไม่ใช่!”

พระเก้าประทีปพุทธเจ้าตอบกลับอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาต้องการจะยอมรับเรื่องทั้งหมดนี้ไว้เอง แต่ก็ไม่กล้าที่จะโกหกต่อหน้าเซียวฮุ่ย

เขาเล่าทุกสิ่งออกมา บอกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและพระอมิตาภะพุทธเจ้าให้เซียวฮุ่ยฟัง

“พระอมิตาภะพุทธเจ้า?”

เซียวฮุ่ยทวนคำอีกครั้ง “เป็นคนผู้นี้หรือ”

หลังจากฟังสิ่งที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้าเล่าแล้ว นางก็ชื่นชมพระอมิตาภะพุทธเจ้าขึ้นมาเล็กน้อย สร้างพลังศรัทธาขึ้นมาเพื่อให้ทั้งผู้ศรัทธาและผู้ถูกศรัทธาได้รับประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย นับว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่ธรรมดาเลย ถึงกับเปิดหนทางการใช้พลังแบบใหม่ได้

ส่วนการที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้าทำการปรับเปลี่ยนให้พลังศรัทธาเอื้อประโยชน์เพียงฝ่ายตน ทำให้นางรู้สึกเย้ยหยันเป็นอย่างยิ่ง วิธีการเช่นนี้ไม่อาจเดินไปได้ไกลมากนัก สิ่งที่สามารถเก็บเกี่ยวได้มีอยู่อย่างจำกัด

เทียบกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าแล้ว พระเก้าประทีบพุทธเจ้ายังห่างไกลอยู่มากนัก

“จะว่าไป ครั้งหนึ่งเคยมีคนมาจากด้านนอก กล่าวว่าตนเป็นพระเข้ามาในภพเซียน ทำให้เกิดการแย่งชิงกันของกองกำลังจำนวนมาก สุดท้ายก็ถูกตระกูลเยี่ยคว้าไปได้…”

เซียวฮุ่ยหรี่ตาลง นึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในภพเซียน ที่ด้านในภพเซียนไม่มีพระ ดังนั้นผู้ที่เรียกตนเองว่าเป็นพระก็น่าจะเป็นพระอมิตาภะพุทธเจ้า

“ไม่รู้ว่าเขาจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ หากรู้ตั้งแต่แรกคงจะต้องต่อสู้แย่งชิงอย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยให้ตระกูลเยี่ยได้ตัวไป!”

นางกล่าวออกมาอย่างนึกเสียดาย

หากพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้รับการปลูกฝัง มีโอกาสอย่างมากที่เขาจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในภพเซียน และทำให้ตระกูลเซียวแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ตระกูลเยี่ย

ตระกูลเยี่ยเองก็เป็นตระกูลใหญ่ของภพเซียนเหมือนกับตระกูลเซียว ถือว่าเป็นผู้ที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของภพเซียน

พระเก้าประทีปพุทธเจ้าที่อยู่ด้านข้างไม่กล้าพูดสิ่งใด เป็นไปได้หรือไม่ที่เซียวฮุ่ยจะมาจากภพเซียนจริง ๆ? ส่วนพระอมิตาภะพุทธเจ้าเองก็กลายเป็นเซียนได้เข้าสู่ภพเซียน?

“ตามที่เจ้ากล่าวมา ในแดนฝอพลังศรัทธาแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ทั้งยังเชี่ยวชาญในการใช้มากยิ่งกว่า?”

เซียวฮุ่ยถามพระเก้าประทีปพุทธเจ้า

“ใช่แล้ว พลังศรัทธาในแดนฝอมีอยู่มากมายมหาศาล ที่แห่งนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของพุทธศาสนา ความศรัทธาหยั่งรากลึก เมื่อเทียบกับที่อื่นแล้ว ที่แห่งนั้นพลังศรัทธาบริสุทธิ์และหนาแน่นกว่า ถ้าหากครอบครองมันได้ จะต้องได้รับผลการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!” พระเก้าประทีปพุทธเจ้าพูด

เขาสร้างพุทธภูมิเก้าประทีปขึ้นมาก็เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าโจมตีแดนฝอ แดนฝอนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากสามารถพิชิตก็จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล

“ดี!”

ดวงตาของเซียวฮุ่ยเป็นประกาย “เช่นนั้นก็ไปยึดแดนฝอเสีย จากนั้นก็แทนที่พระอมิตาภะพุทธเจ้า ข้าจะกลายมาเป็นพุทธเจ้าคนใหม่!”

นี่อาจเป็นหนทางเดียวที่นางจะสามารถฟื้นฟูตนเองได้อย่างรวดเร็ว นางต้องการยึดครองแดนฝอ แทนที่พระอมิตาภะพุทธเจ้า รับพลังศรัทธาอันบริสุทธิ์จำนวนมากมา

“ตกลง! ข้าจะช่วยเหลือนายท่านอย่างสุดความสามารถที่มี!”

พระเก้าประทีปพุทธเจ้ากล่าวขึ้นมาทันที

ทว่าภายในใจของเขากลับรู้สึกขมฝาดเป็นอย่างมาก

ความปรารถนาของเขาคือการได้แทนที่พระอมิตาภะพุทธเจ้า ไม่ต้องการเป็นลำดับที่สองอีกต่อไป ทว่าตอนนี้เซียวฮุ่ยกลับโผล่มา และยังต้องการแทนที่พระอมิตาภะพุทธเจ้า…

เขายังคงต้องเป็นลำดับที่สองต่อไป!

แต่ลำดับที่สองก็ลำดับที่สอง อย่างไรก็ดีกว่าตาย!

เขาได้แต่ปลอบตัวเองในใจ

“หลังจากนี้ข้าจะสอนวิชาบางอย่างให้กับเจ้า จะได้ช่วยให้เจ้าฟื้นตัวขึ้นมา เพื่อให้สามารถรวบรวมดินแดนแห่งนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น วางรากฐานของพวกเราให้มั่นคง หลังจากนั้นค่อยเปิดฉากโจมตีแดนฝอ!”

ดวงตาของเซียวฮุ่ยเป็นประกาย

“ขอบคุณนายท่าน!”

พระเก้าประทีปพุทธเจ้ากล่าวขอบคุณด้วยความตื่นเต้น

“ทว่าที่แดนฝอมีตัวยุ่งยากอยู่เล็กน้อย เดิมทีข้ากับคนผู้นั้นเป็นคนคนเดียวกัน ทว่าตอนนี้กลับแยกจากกัน ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงได้รับการคุ้มครองจากวิถีสวรรค์ ยากยิ่งที่จะรับมือ และนี่ก็เป็นเหตุผลให้ข้าหนีมาตั้งหลักอยู่ที่แห่งนี้ด้วย!”

จากนั้นเขาก็เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับต้าเต๋อออกมา

คนอื่น ๆ ในแดนฝอล้วนรับมือไม่อยาก ทว่าต้าเต๋อนั้นยากยิ่งที่จะรับมือ

“การคุ้มครองจากวิถีสวรรค์?”

เซียวฮุ่ยส่งเสียงหัวเราะออกมา “วิถีสวรรค์ของฟ้าดินที่พังทลายเช่นนี้จะมีพลังขนาดไหนกันเชียว ไม่จำเป็นต้องกังวลไป หลังจากที่เราลงมือ ต้าเต๋อผู้นั้นจะต้องถูกจัดการได้อย่างแน่นอน”

นางไม่ใส่ใจต้าเต๋อที่รับการคุ้มครองจากวิถีสวรรค์

เป็นดั่งเช่นที่นางกล่าว ฟ้าดินที่นี่ไม่ได้เป็นดั่งช่วงแรกเริ่ม ดังนั้นแล้วการคุ้มครองจากวิถีสวรรค์ย่อมไม่อาจสร้างความยุ่งยากให้กับนาง

หลังจากที่นางฟื้นตัวแล้ว นางจะต้องสามารถจัดการต้าเต๋อได้อย่างแน่นอน

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท