ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 567 ความสุข (ต้น)

ตอนที่ 567 ความสุข (ต้น)

​วัน​แรก​ของ​เดือน​เก้า​ ​ผล​การ​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​ก็​ออก​แล้ว​ ​เซ่าจ​้ง​หราน​สอบ​ได้​อันดับ​ที่​สิบ​สี่

​เมื่อมี​ข่าวดี​ ​สกุล​เวย​เป่ย​โหวก​็​ส่ง​ผู้ดูแล​ไป​จุด​ประทัด​ฉลอง​ที่​เรือน​นอก​ของ​สกุล​เซ่า​ ​ในทางตรงกันข้าม​ ​สกุล​สวี​ดู​เงียบสงบ​มากกว่า​ ​ผู้ดูแล​จ้าว​นำ​ชุด​เกราะ​ชุด​ใหม่​ไป​ให้​สกุล​เซ่า​

​“​…​ชุด​เกราะ​ที่​ท่าน​โหว​เคย​สวม​ตอน​สู้รบ​ที่เ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​ขอรับ​”

​เซ่าจ​้ง​หราน​ได้​ฟัง​แล้วก็​ตกใจ​ ​เขา​รับ​ชุด​เกราะ​นั้น​มาด​้ว​ยมื​อส​อง​มือ​ ​จากนั้น​ก็​นำ​ไป​วาง​ไว้​ที่​ห้อง​หนังสือ​ด้วย​ความเคารพ​ ​แล้ว​พา​ผู้ดูแล​จ้าว​ไป​ดื่ม​สุรา​ที่​โถง​บุปผา

​ใน​โถง​บุปผา​ล้วนแต่​เต็ม​ไป​ที่​ด้วย​คนที​่​มาร​่วม​แสดงความยินดี​ ​ผู้ดูแล​ฝ่าย​รายงาน​ของ​สกุล​หลิน​ก็​อยู่​ที่นี่​ ​พวกเขา​สนิทสนม​กัน​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้ามา​ ​“​คุณชาย​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ประเดี๋ยว​บ่าว​ดูแล​ผู้ดูแล​จ้าว​ให้​เอง​ขอรับ​”

​ทาง​ฝั่ง​ทิศตะวันออก​ของ​โถง​บุปผา​มี​ห้อง​ปีก​อยู่​ห้อง​หนึ่ง​ ​คนที​่​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​นั้น​ล้วนแต่​เป็น​สหาย​ของ​เซ่าจ​้ง​หราน

​เซ่าจ​้ง​หรา​นก​็​ไม่​เกรงใจ​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดคุย​กับ​พวกเขา​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​ยัง​ห้อง​ข้างๆ​

​ผู้ดูแล​ฝ่าย​รายงาน​ของ​สกุล​หลิน​แนะนำ​คนที​่​นั่ง​ใน​โถบุป​ผา​ให้​ผู้ดูแล​จ้าว​รู้จัก

​มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​หอบ​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คนใน​พระราชวัง​มา​ขอรับ​ ​บอกว่า​ฮ่องเต้​อยาก​เจอ​คุณชาย​ ​เชิญ​คุณชาย​ไป​เข้าเฝ้า​ใน​พระราชวัง​ประเดี๋ยวนี้​ขอรับ​”

​ทันใดนั้น​ก็​เกิด​ความโกลาหล​ขึ้น​ใน​โถง​บุปผา​ ​ทุกคน​พากัน​เดิน​เข้าไป​แสดงความยินดี​กับ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​บางคน​ก็​บอกว่า​ ​“จ​้ง​หราน​ ​เจ้า​ประสบความสำเร็จ​แล้ว​”​ ​บางคน​ก็​บอกว่า​ ​“จ​้ง​หราน​ ​ฮองเฮา​อาจจะ​อยาก​เจอ​เจ้า​ก็ได้​”​ ​แล้วก็​มี​คน​หัวเราะ​ว่า​ ​“จ​้ง​หราน​ ​มี​คน​ของ​ตัวเอง​อยู่​ใน​ราชสำนัก​ดี​เสีย​จริง​”

​เซ่าจ​้ง​หราน​ยิ้ม​แล้ว​ตอบกลับ​พวกเขา​ว่า​ ​“​สมพรปาก​ของ​ทุกคน​”​ ​และ​ ​“​ขอให้​เป็น​เช่นนั้น​”​ ​ไม่ได้​เก็บ​ซ่อน​ความปิติยินดี​ของ​ตัวเอง​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​เย่อหยิ่ง​ ​ท่าที​อ่อนน้อม​อย่าง​พอเหมาะ

​ผู้ดูแล​จ้าว​ที่​ยืน​อยู่​ท่ามกลาง​ฝูงชน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แต่​สายตา​กลับ​มี​ความ​เคร่งขรึม

​เมื่อ​เซ่าจ​้ง​หรา​นอ​อก​ไป​แล้ว​ ​เขา​อ้างว่า​ยัง​ต้อง​กลับ​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​เหอฮ​วาห​ลี่​

​“​เรียก​เซ่าจ​้ง​หราน​ไป​เข้าเฝ้า​ใน​พระราชวัง​ตอนนี้​อย่างนั้น​หรือ​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​พู่กัน​ลง​แล้ว​เอน​ตัว​พิง​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ครุ่นคิด

​ผู้ดูแล​จ้าว​เห็น​ดังนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​พูด​เบา​ๆ​ ​“​บ่าว​ส่ง​คน​ไป​สืบ​ใน​พระราชวัง​แล้ว​ขอรับ​ ​เร็ว​ที่สุด​ยาม​ไฮ​่​ ​ช้า​ที่สุด​พรุ่งนี้​ยาม​ซื่อ​ก็​น่าจะ​มี​ข่าวคราว​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​เขา​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​ก็​มีเสียง​คน​วิ่ง​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ประตู

เสียง​วิ่ง​ที่​ดังลั่น​เช่นนี้​ ​นอกจาก​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ ​ยัง​จะ​มี​ใคร​กล้า​วิ่ง​นอก​ห้อง​หนังสือ​ของ​เขา​แบบนี้​อีก

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​มุม​ปาก​

​ผู้ดูแล​จ้าว​เห็น​เช่นนี้​สายตา​ก็​เป็นประกาย​ ​จากนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​เปิด​ประตู​ ​จิ​่น​เกอ​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​ความตื่นเต้น

​“​ท่าน​พ่อ​!​”​ ​เขา​เดิน​อ้อม​โต๊ะเขียนหนังสือ​ไป​นั่ง​บน​ตัก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​“​นก​ของ​ข้า​ขอรับ​!​”

​มือ​น้อย​ๆ​ ​ที่​อ้วนท้วม​กำ​นกกระจอก​ตัวเล็ก​อยู่​ใน​มือ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยก​ยิ้ม​ ​สายตา​เต็มไปด้วย​ความพอใจ​

​เขา​ลูบ​หัว​บุตรชาย​เบา​ๆ​ ​“​ผู้ดูแล​จ้าว​อยู่​ที่นี่​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไม่​ทักทาย​ผู้ดูแล​จ้าว​เล่า​”

​จิ​่น​เกอ​หันหน้า​ไป​ตะโกนเรียก​ ​“​ผู้ดูแล​จ้าว​!​”

​ผู้ดูแล​จ้าว​รีบ​โค้ง​คำนับ​แล้ว​พูด​อย่าง​มีมา​รยา​ทว่า​ ​“​บ่าว​ไม่กล้า​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ไป​จับ​นก​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​มา​หรือ​ขอรับ​”

​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​เขา​หันหน้า​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​สุย​เฟิง​จับ​มา​ ​ยัง​จับ​แมลง​ด้วย​ได้​ด้วย​ ​นก​ทาน​แมลง​”

​เขา​พูด​ชัด​กว่า​สอง​สาม​เดือนก่อน​ไม่น้อย

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​อุ้ม​บุตรชาย​ ​“​ไป​กัน​เถิด​ ​เรา​ไป​จับ​แมลง​ที่​สวน​หลัง​จวน​กัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ผู้ดูแล​จ้าว​ ​“​มี​ข่าว​แล้ว​ค่อย​มาบ​อก​ข้า​!​”

​ผู้ดูแล​จ้าว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​มองดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​จิ​่น​เกอ​เดิน​ออก​ไป

​*****

​ข่าว​มา​เร็ว​กว่า​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ผู้ดูแล​จ้าว​คาดคิด​เอาไว้​เสียอีก

​“​…​ฮ่องเต้​ทรง​เรียก​บัญฑิต​เซ่า​ไป​เข้าเฝ้า​ ​เชิญ​บัญฑิต​เซ่า​เข้าไป​ถาม​เรื่อง​การสู้​รบ​!​”

ถาม​เรื่อง​การสู้​รบ​!

​สวี​ลิ่ง​อี๋พฃัน​ตัวสั่น​ ​“​เช่นนั้น​บัญฑิต​เซ่า​ตอบ​เช่นไร​”

​คนที​่​มารา​ยงา​นคือ​ขันที​อายุ​สิบห้า​สิบ​หก​ปี​ ​สายตา​ของ​เขา​กระฉับกระเฉง​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​เขา​ก็​ตอบกลับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​“​บัญฑิต​เซ่า​เข้าเฝ้า​ฮ้อง​เต้​เป็นครั้งแรก​ ​ไม่​แปลกที่​เขา​จะ​ตื่นเต้น​ ​เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​‘​ใช้งาน​คนที​่​เหมาะสม​เอาชนะ​ศัตรู​ ​ไม่มีใคร​สามารถ​ป้องกัน​ได้​ ​แม่ทัพ​ที่​ชาญฉลาด​และ​กล้าหาญ​ ​คือ​แม่ทัพ​ที่​น่านับถือ​และ​น่าเคารพ​ ​ทหาร​ทุก​นาย​ต้อง​คุ้นเคย​กับ​กลยุทธ์​และ​มี​ความกล้าหาญ​ ​เคลื่อน​กองทัพ​ต้อง​เข้มงวด​ ​รู้จัก​พลิกแพลง​สถานการณ์​ ​แบบนี้​ได้รับ​ชัยชนะ​แน่นอน​’​…​”

ล้วนแต่​เป็น​แค่​คำพูด​ใน​ตำรา​!

​ขันที​คน​นั้น​รายงาน​พลาง​ลอบมอง​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​ขึ้น​ ​เมื่อ​ขันที​คน​นั้น​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ฝืนยิ้ม​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ฮ่องเต้​ว่า​เช่นไร​”

​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​เช่นนี้​ ​สูญเปล่า​ไป​เพราะ​บัญฑิต​เซ่า​ ​ขันที​คิด​ว่า​ตัวเอง​เข้าใจ​ความคิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สายตา​ของ​เขา​มี​ความเห็นอกเห็นใจ​ ​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดูแล​พวก​ตน​เป็น​อย่างดี​ ​จึง​พูดเสี​ยง​เบา​ลง​

​“​ฮ่องเต้​จึง​ตรัส​ถามถึง​คนใน​สกุล​ของ​บัญฑิต​เซ่า​ ​ว่า​พวกเขา​ล้วนแต่​รับ​ตำแหน่ง​อะไร​”​ ​ขันที​คน​นั้น​กุมมือ​ ​“​ได้ยิน​ว่า​บัญฑิต​เซ่า​ยัง​มีน​้​อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ ​ปีนี​้​อายุ​สิบห้า​ปี​ ​กำลัง​เตรียมตัว​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​ซิ่ว​ไฉ​ ​ฮ่องเต้​ได้​ฟัง​แล้วก็​ทรง​หยุดชะงัก​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ตรัส​ถาม​ผู้บัญชาการ​โอว​หยาง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ว่า​ ​‘​เจ้า​มี​หลานสาว​คน​หนึ่ง​ไม่ใช่​หรือ​ ​ปีนี​้​อายุ​สิบ​สาม​ปี​ ​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ใช่​หรือไม่​ ​ตอนนี้​มี​คู่ครอง​ที่​ดี​เช่นนี้​ ​เจ้า​ยัง​จะ​รอ​อะไร​ ​ยัง​ไม่​ส่ง​คน​ไป​ทาบทาม​ที่​ตระกูล​ของ​บัญฑิต​เซ่า​อีก​!​’​”

​ผู้บัญชาการ​โอว​หยาง​ ​ก็​คือ​โอว​หยาง​หมิง​ ​ผู้บัญชาการ​ของ​องครักษ์​วัง​หลวง​ ​ตั้งแต่​เขา​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​เมื่อ​อายุ​สิบ​สาม​ปี​ ​เขา​ก็​กลายเป็น​องครักษ์​ของ​ฮ่องเต้​ ​แล้วยัง​เป็น​คนรัก​สันโดษ​ ​นอกจาก​สหาย​ที่​เป็น​องครักษ์​ด้วยกัน​สอง​สาม​คน​ ​เขา​ไม่เคย​ไปมาหาสู่​กับ​คนอื่น​ ​เป็น​คนที​่​ฮ่องเต้​เชื่อใจ​มาก​ที่สุด

​ฮ่องเต้​ตรัส​เช่นนี้​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​พระราชทาน​งาน​สมรส

​โอว​หยาง​หมิง​ต้อง​ตอบ​ตกลง​อยู่​แล้ว

​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ผู้ดูแล​จ้าว​เปลี่ยนไป​ ​ผู้ดูแล​จ้าว​อุทาน​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​ทั้งสอง​สกุล​จะ​แต่งงาน​กัน​หรือ​!​”

​“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​ขันที​คน​นั้น​ยิ้ม​ ​“​ผู้บัญชาการ​โอว​หยาง​และ​บัญฑิต​เซ่า​ก้มหัว​ให้​ฮ่องเต้​ ​ขอบ​พระทัย​ที่​ฮ่องเต้​ทรง​มอบ​สมรส​พระราชทาน​ ​ฮ่องเต้​พอ​พระทัย​ ​จึง​พระราชทาน​สุรา​อวี​้​ลู่​ให้​บัญฑิต​เซ่า​สอง​ไห​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​พวก​ข้า​ออก​ไป​ส่ง​บัญฑิต​เซ่า​ ​ตอนนี้​บัญฑิต​เซ่า​น่าจะ​กลับ​ไป​ถึง​จวน​แล้ว​กระมัง​!​”

​“​ลำบาก​กง​กง​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​ผู้ดูแล​จ้าว​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อย่าง​มีมา​รยาท​ ​“​รบกวน​กลับ​ไป​ทักทาย​เหล​ยก​งกง​แทน​ข้า​ด้วย​!​”

​ขันที​คน​นั้น​รีบ​โค้ง​คำนับ​ ​“​ท่าน​โหว​อย่า​ได้​เรียก​ข้า​เช่นนี้​เลย​”​ ​พูดคุย​กัน​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​จาก​ห้อง​หนังสือ​กับ​ผู้ดูแล​จ้าว​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​ครุ่นคิด​อยู่​ที่​เดิม​ครู่หนึ่ง

​ผู้ดูแล​จ้าว​ก็​กลับ​เข้ามา

​“​มอบ​ป้าย​หยก​ให้​ไป​แล้ว​ขอรับ​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ทำ​สีหน้า​ลังเล​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​?​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​สะบัด​มือ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นี่​เป็นความ​เมตตา​ของ​ฮ่องเต้​ที่​มีต​่​อส​กุล​เซ่า​ ​เจ้า​เตรียม​ส่ง​ของขวัญ​ไป​แสดงความยินดี​กับ​สกุล​เซ่า​เถิด​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ในที่สุด​ก็​ผ่าน​ไป​ได้​ด้วยดี​ ​คืนนี้​เรา​จะ​ได้​นอนหลับ​สนิท​สักที​!​”

​ผู้ดูแล​จ้าว​หัวเราะ​แล้ว​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ใน​ลาน​หลัก

​โคม​สีแดง​ใต้​ชายคา​ส่องแสง​สว่าง​ทั่ว​ลาน​ ​กิ่งไม้​ที่​ถูก​ลม​ฤดูร้อน​พัดผ่าน​ส่งเสียง​ดัง​คลอ​ไป​กับ​เสียงอ่าน​หนังสือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืน​ฟัง​อยู่​ใต้​ชายคา​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เปิดม่าน​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง

​สาวใช้​ที่​เฝ้ายาม​กำลังจะ​ไปรา​ยงาน​สือ​อี​เหนียง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ยกมือ​ห้าม​แล้ว​เดิน​ย่อง​เข้าไป​ข้างใน

​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยืน​เอา​มือ​ไขว้หลัง​อยู่​หน้า​เตียง​เตา​ ​คน​หนึ่ง​ถือ​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​อยู่​ใน​มือ​ ​คน​หนึ่ง​ยืน​ตัวตรง​ท่อง​ตำรา​ ​แล้วยัง​มี​เจ้าตัว​เล็ก​คน​หนึ่ง​นั่ง​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​ ​บิด​ตัว​ไปมา​ราวกับ​นั่ง​อยู่​บน​เข็ม​ตรงข้าม​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่​ปาน

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม

​สายตา​ของ​เจ้าตัว​เล็ก​คน​นั้น​พลัน​เป็นประกาย​ ​เขา​กระโดด​ขึ้น​ยืน​แล้ว​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​พ่อ​”​ ​เสียงดัง​ราวกับ​มองเห็น​ความหวัง​

​สือ​อี​เหนียง​เหลือบมอง​เขา​

​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​นั่งลง​ทันที​แล้ว​เอ่ย​เรียก​ ​“​ท่าน​พ่อ​”​ ​เบา​ๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​น้อยใจ​

​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ลงมา​จาก​เตียง​เตา​

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หันหน้า​มา​โค้ง​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​

​จิ​่น​เกอ​มองดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แต่กลับ​นั่ง​อยู่​ที่​เดิม​ไม่กล้า​ขยับ​ไป​ไหน​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​เดิน​เข้าไป​อุ้ม​เขา​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”

​จิ​่น​เกอ​รีบ​กอด​คอส​วีลิ​่​งอี​๋​เอาไว้​ ​แล้ว​ซบ​ลง​บน​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​“​เจี​้ย​เกอ​จะ​อ่านหนังสือ​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ริน​ชา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​เรียก​สาวใช้​เข้ามา​รับใช้​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​“​แต่​จิ​่น​เกอ​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มา​อยู่​รอบ​ๆ​ ​ข้า​บอก​ก็​ไม่​ฟัง​ ​แล้วยัง​เอะอะโวยวาย​รบกวน​พี่ชาย​ ​บอกว่า​จะ​ออก​ไป​เล่น​ ​ข้า​จึง​ให้​เขา​นั่ง​อยู่​ตรง​มุม​เตียง​เตา​ ​ไม่​ให้​ใคร​สนใจ​เขา​”

​จิ​่น​เกอ​กอด​คอส​วีลิ​่​งอี​๋​ไว้​แน่น​ ​ท่าที​ราวกับ​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​อุ้ม​เขา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวใจ​อ่วน​ยวบ

​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​!​”​ ​เขา​ตบหลัง​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​พลาง​เอ่ย​ปลอบใจ​ ​“​พี่​ห้า​ของ​เจ้า​จะ​อ่านหนังสือ​ ​เรา​อย่า​ไปร​บก​วน​เขา​เลย​!​”​ ​แล้ว​หันไป​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจี​้ย​เกอ​อ่านหนังสือ​เสร็จ​แล้ว​หรือยัง​”

​“​เหลือ​อีก​สองหน้า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด

​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​เรา​ไป​วาดภาพ​ที่​ห้อง​หนังสือ​ดี​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​เงยหน้า​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ราวกับ​ดวงอาทิตย์​ใน​ฤดูร้อน​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​ดี​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​วาดภาพ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​เขา​ ​จากนั้น​ก็​พา​เขา​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ

​จิ​่น​เกอ​นั่ง​อยู่​บน​ตัก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ถือ​พู่กัน​แล้ว​ขีดเขียน​บน​กระดาษ​ ​ประเดี๋ยว​ก็​วาด​เป็น​วงกลม​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ลากเส้น​ยาว​ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาด​เพิ่ม​เข้าไป​ใน​วงกลม​ของ​เขา​ ​กลายเป็น​ไก่​ตัวเล็ก​ๆ​ ​วาด​เพิ่ม​เข้าไป​ใน​เส้น​ยาว​ๆ​ ​ของ​เขา​ ​กลายเป็น​มังกร​ที่​บิน​อยู่​บน​ก้อน​เมฆ​ ​ทำเอา​จิ​่น​เกอ​ชอบ​อก​ชอบใจ​ ​เขา​ยัด​พู่กัน​ใส่​ใน​มือ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​วาด​นกยูง​ ​นกยูง​แบมือ​ขอรับ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​แก้​คำพูด​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​“​นั่น​ไม่ได้​เรียกว่า​นกยูง​แบมือ​ ​มัน​เรียกว่า​นกยูง​รำแพน​!​”

​จิ​่น​เกอ​ก็​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​วาด​นกยูง​รำแพน​ขอรับ​!​”

​นกยูง​มักจะ​รำแพน​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​สุย​เฟิง​ที่​เป็น​คนดู​แลนั​้น​ใช้​วิธี​อะไร​ ​ทำให้​มัน​ยอม​รำแพน​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​ปรบมือ​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​สุ่ย​เฟิ​งก​็​ได้รับ​เงินราง​วัล​สิบสอง​ตำลึง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เคย​วาดภาพ​นกยูง​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พรุ่งนี้​เรา​ไป​วาดภาพ​นกยูง​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​กัน​ดีกว่า​!​”

​จิ​่น​เกอ​ไม่ยอม​ ​เขา​บิด​ตัว​ไปมา​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​ดึก​แล้ว​ ​ท่าน​รีบ​อาบน้ำ​นอน​เถิด​!​”

​จิ​่น​เกอ​จึง​นิ่ง​ลง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ว่า​มัน​น่าสนุก​ ​จึง​ตบหลัง​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อ่านหนังสือ​เสร็จ​แล้ว​หรือ​!​”

​“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​แล้ว​เดิน​เข้ามา​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​ข้า​ไป​อาบน้ำ​ให้​จิ​่น​เกอ​ดีกว่า​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลูบ​หัว​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เดิน​ไป​ยัง​เรือน​หลัก​กับ​สือ​อี​เหนียง

​มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ท่าน​บุตร​เขย​มา​ขอรับ​!​”

​“​ตอนนี้​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​สีหน้า​ที่​สับสน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถาม​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

​“​กลับมา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​กล่อม​จิ​่น​เกอ​นอน​ก่อน​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​กับ​บ่าว​รับใช้

​สือ​อี​เหนียง​กล่อม​จิ​่น​เกอ​หลับ​ไป​แล้ว​ ​จากนั้น​ก็​นั่ง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ภายใต้​แสง​ตะเกียง​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​มัน​ร้อน​ ​จึง​ไป​นั่ง​บน​ตั่ง​ใน​ห้องโถง​ ​ถือ​พัด​แล้ว​คุย​กับ​จู๋​เซียง​ ​“​…​เจ้า​บอก​หู่​พั่ว​ว่า​ ​เรื่อง​ลูก​สำคัญ​ที่สุด​ ​ดูแล​ลูก​ให้​ดี​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​ข้า​ยัง​มี​เจ้า​ ​หาก​ไม่ไหว​จริงๆ​ ​ก็​เรียก​สาวใช้​น้อย​ที่​ไหวพริบดี​มาช​่ว​ยก​็​ได้​”

​“​บ่าว​ก็​พูด​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​จู๋​เซียง​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​แต่ว่า​พี่​หู่​พั่ว​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​คิด​ว่า​มัน​คือ​เรื่อง​ที่​เคย​สัญญา​กับ​ท่าน​ไว้​ ​นาง​จึง​ร้อนใจ​เจ้าค่ะ​”

​“​ข้า​ยัง​ไม่รีบร้อน​เลย​ ​แล้ว​นาง​จะ​รีบร้อน​ทำไม​กัน​”​ ​ทันทีที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปิดม่าน​เดิน​เข้ามา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท