ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 569 ความสุข (ปลาย)

ตอนที่ 569 ความสุข (ปลาย)

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​ ​เอ่ย​ถาม​ ​“​เช่นนั้น​พี่​สาม​ก็​ไม่ต้อง​เข้าไป​ยุ่ง​สิ​ขอรับ​ ​มัน​เป็นเรื่อง​ของ​สตรี​ ​พี่​สาม​เข้าไป​ยุ่ง​คง​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​”

​คุณชาย​สาม​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​อยาก​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​อย่างนั้น​หรือ​ ​แต่​หาก​ข้า​ไม่​เข้าไป​ยุ่ง​ ​เกรง​ว่า​ครอบครัว​คง​ไม่มีวัน​สงบสุข​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​พี่สะใภ้​สาม​ของ​เจ้า​กับ​ภรรยา​ของ​ฉิน​เกอ​ถึง​ไม่มี​วาสนา​ต่อกัน​แบบนี้​ ​คน​หนึ่ง​จะ​ไป​ทาง​ทิศตะวันออก​ ​อีก​คน​จะ​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​แต่​ภรรยา​ของ​ฉิน​เกอ​พูดจา​หรือ​ทำ​อะไร​ล้วน​มีเหตุผล​…​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ส่ายหน้า​ ​“​โชคดี​ที่​ภรรยา​ของ​เจี่ยน​เกอ​เป็น​คน​ไม่​คิดเล็กคิดน้อย​ ​พี่สะใภ้​สาม​ของ​เจ้า​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​แค่​ยิ้ม​แล้ว​รับฟัง​ ​แล้วยัง​เป็นมิตร​กับ​ภรรยา​ของ​ฉิน​เกอ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ครอบครัว​คงจะ​วุ่นวาย​ไม่​จบ​ไม่​สิ้น​”​ ​เขา​พูด​ต่อไป​ ​“​ท่าน​แม่​มอง​คน​ไม่ผิด​จริงๆ​ ​ข้า​รู้สึก​ว่านิ​สัย​ของ​ภรรยา​เจี่ยน​เกอ​มี​ความคล้ายคลึง​กับ​น้อง​สะใภ้​สี่​ ​เป็น​คน​อัธยาศัย​ดี​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ฟัง​ซื่อ​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​ ​ไม่เพียงแต่​จัดการ​เรื่อง​ทุกอย่าง​ได้​อย่างเหมาะสม​ ​ญาติพี่น้อง​ล้วน​เอ่ย​ชม​ว่านาง​เป็น​แม่​ศรีเรือน​ ​และ​ไม่ว่า​ภรรยา​ตัวเอง​จะ​ไร้เหตุผล​แค่ไหน​ ​นาง​ก็​แค่​กลี​้​ยก​ล่อม​ภรรยา​ตัวเอง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​ไม่กล้า​ขัดใจ​ภรรยา​ตัวเอง​ ​ถือว่า​เป็น​ลูกสะใภ้​ที่​กตัญญูรู้คุณ​ ​ตำหนิ​ฟัง​ซื่อ​เช่นนี้​ ​นับว่า​ดู​เข้มงวด​กับ​นาง​มากเกินไป​ ​เขา​จึง​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​วันนี้​มาหา​เจ้า​เพราะ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ไม่​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ดีกว่า​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่งงาน​ ​คนที​่​หนาน​จิง​จะ​มา​หรือไม่​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​เขา​พูดจา​ขัดแย้ง​กัน​ ​ก็​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​ช่วย​พี่สะใภ้​สาม​หรือไม่ก็​ลูกสะใภ้​ใหญ่​ปกปิด​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​ช่วย​ใคร​ ​แม้แต่​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​ของ​ตัวเอง​ ​ตน​ยัง​ไม่​อยาก​เข้าไป​ยุ่ง​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​ของ​พี่​สาม​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ดีใจ​ที่​คุณชาย​สาม​เปลี่ยน​เรื่อง

​“​บอกว่า​อีก​สอง​สาม​วัน​ก็​จะ​ถึง​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอ่ย​ตอบ​ ​“​ข้า​ส่ง​ผู้ดูแล​ไปรับ​แล้ว​”

​คุณชาย​สาม​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หรือว่า​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​นี้​เรา​จะ​ไปเที่ยว​หนาน​จิง​กัน​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ข้า​เคย​ไป​หนาน​จิง​กับ​ท่าน​พ่อ​ตอน​เด็ก​แค่​ครั้ง​เดียว​ ​ที่นั่น​มี​ร้านอาหาร​ที่​สร้าง​อยู่​บน​แม่น้ำ​ ​ชื่อว่า​ ​‘​หลิว​ซัง​’​ ​และ​มี​อาหาร​ที่​เรียกว่า​ ​‘​เทพ​เซียน​ข้าม​ทะเล​’​ ​คือ​การ​ใช้​น้ำเย็น​แช่​เม็ด​บัว​…​”

​พวกเขา​ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​อยู่​ที่นั่น​ ​ในขณะเดียวกัน​ ​ใน​เรือน​ที่อยู่​ไม่​ไกล​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อุ้ม​แมว​สอง​ตัว​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​“​สุย​เฟิ​งบ​อก​ว่า​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่​อยากได้​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​แทบจะ​ลมจับ​ ​“​เขา​ไม่​อยากได้​ ​เขา​ไม่​อยากได้​แต่​เจ้า​กลับ​เก็บ​มา​เลี้ยง​อย่างนั้น​หรือ​ ​รีบ​นำ​ไป​คืนให้​จิ​่น​เกอ​!​”

​“​ไม่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ซิน​เจี​่น​เอ๋อร​์​อุ้ม​แมว​ไว้​แน่น​ ​ลูก​แมว​สอง​ตัว​ถูก​นาง​รัด​จน​ส่งเสียง​ร้อง​ออกมา

​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ห้า​ซีด​ขาว​ ​เห็น​เหอ​เซียง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​ก็​ตำหนิ​เสียงดัง​ ​“​ยัง​ไม่​อุ้ม​แมว​สอง​ตัว​นี้​ออก​ไป​อีก​!​”

​เหอ​เซียง​ไม่กล้า​ ​นาง​ค่อยๆ​ ​เดิน​เข้าไป​ข้างหน้า​ ​แต่​สายตา​กลับ​มอง​ไป​ที่​ป้า​สือ​ด้วย​สายตา​ขอความช่วยเหลือ

​ป้า​สือ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​นั่งยองๆ​ ​ลง​ตรงหน้า​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​แต่​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ถอยหลัง​ออก​ไป​สอง​ก้าว​ด้วย​ความหวาดระแวง​

​ป้า​สือ​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​คุณหนู​สอง​ชอบ​เจ้า​แมว​สอง​ตัว​นี้​หรือ​เจ้า​คะ​”

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า

​“​เช่นนั้น​เรา​เลี้ยง​แมว​ของ​เรา​เอง​สอง​ตัวดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มองดู​แมว​ที่​ขน​นุ่ม​ฟู​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​อยาก​เลี้ยง​เจ้าขา​วกับ​เจ้า​เขียว​!​”

​เจ้าขา​วกับ​เจ้า​เขียว​ ​คือ​ชื่อ​ที่นาง​ตั้ง​ให้​แมว​สอง​ตัว​นั้น

​“​เช่นนั้น​เรา​เลี้ยง​แมว​สอง​ตัว​ที่​เหมือนกับ​เจ้าขาว​และ​เจ้า​เขียวดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​ป้า​สือ​พยายาม​พูด​โน้มน้าว​ ​“​แมว​สอง​ตัว​นี้​คือ​แมว​ที่​ไท่ฮู​หยิน​จับ​มาจาก​จวน​ของ​หวงฮู​หยิน​ ​จวน​ของ​หวงฮู​หยิน​ยัง​มี​แมว​อีก​สอง​ตัว​ที่​เหมือนกัน​อย่าง​กับ​แกะ​ ​หาก​คุณหนู​สอง​อยากได้​ ​พวกเรา​ก็​ไป​จับ​สอง​ตัว​นั้น​มา​ ​แบบนี้​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​“​ก็ได้​!​”​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็ดี​ใจ​ ​“​แบบ​นั้น​ข้า​ก็​จะ​มี​แมว​หลาย​ๆ​ ​ตัว​!​”​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ยัง​ไม่​อยาก​คืน​เจ้าขา​วกับ​เจ้า​เขียว​ให้​จิ​่น​เกอ

ฮู​หยิน​ห้า​โมโห​ ​“​ไม่ต้อง​พูดดี​กับ​นาง​ ​รีบ​คืน​แมว​สอง​ตัว​นั้น​ให้​จิ​่น​เกอ​…​ไม่ใช่​สัตว์​หายาก​อะไร​ ​เมื่อก่อน​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​เคย​เลี้ยง​ที่​สกุล​เดิม​ตั้ง​สอง​สาม​ตัว​”​ ​นาง​บอก​ป้า​สือ​ ​“​เจ้า​นำ​ป้ายชื่อ​ของ​ข้า​ไป​ที่​จวน​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ ​ขอ​แมว​จาก​องค์​หญิง​มาสัก​สอง​ตัว​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“​หรือว่า​ของ​ที่​จิ​่น​เกอ​ไม่​อยากได้​ ​เรา​ก็​ต้อง​เก็บ​มา​เป็น​ของ​ตัวเอง​อย่างนั้น​หรือ​”

ปัญหา​ก็​คือ​ ​มัน​คือ​ของ​ที่​จิ​่น​เกอ​ไม่​อยากได้​!

​ป้า​สือ​เห็น​ว่าฮู​หยิน​ห้า​กำลัง​เดือดดาล​ ​จึง​ไม่กล้า​พูด​เกลี้ยกล่อม​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เกลี้ยกล่อม​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ปล่อย​แมว​สอง​ตัว​นั้น​ลง

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​ป้า​สือ​ก็​ไม่กล้า​ใช้กำลัง​กับ​นาง

​พวก​นาง​สอง​คน​จึง​มองหน้า​กัน​อยู่​ตรงนั้น

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​เช่นนี้​ก็​เดิน​เข้าไป​จับ​แมว​สอง​ตัว​นั้น​ด้วยตัวเอง​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตะโกน​ร้อง​แล้ว​วิ่ง​ออก​ไป​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​วิ่ง​ตาม​ออก​ไป

​แต่กลับ​มี​คน​รูปร่าง​สูงใหญ่​เดิน​เข้ามา

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตกใจ​ ​นาง​รีบ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ ​ก็​เห็น​ใบหน้า​ที่​หล่อเหลา

​“​ท่าน​พ่อ​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​รีบ​พุ่ง​เข้าไป​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ท่าน​แม่​จะ​เอา​แมว​ของ​ข้า​ไป​ให้​จิ​่น​เกอ​!​”

​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​แล้ว​อุ้ม​บุตรสาว​ตัวเอง​ ​เขา​ส่ง​ยิ้ม​ให้ฮู​หยิน​ห้า​ที่​วิ่ง​ตาม​ออกมา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ลูก​ไม่รู้​ความ​ ​เจ้า​ค่อยๆ​ ​พูด​กับ​นาง​ก็ได้​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​โมโห​ขนาด​นี้​”

ฮู​หยิน​ห้า​โมโห​ ​นาง​เล่า​ที่​ไป​ที่มา​ให้​เขา​ฟัง​อย่างรวดเร็ว​ ​“​…​นาง​เห็น​ว่า​มัน​น่าสนุก​ ​จึง​อุ้ม​กลับมา​เช่นนี้​!​ ​นี่​คือ​แมว​ที่​ท่าน​แม่​จับ​มา​ให้​จิ​่น​เกอ​โดยเฉพาะ​…​”

​“​เขา​ไม่​อยากได้​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ไม่สน​ใจ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​ ​เรา​ไม่ได้​แย่ง​ของ​เขา​มา​เสียหน่อย​”

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​พ่อ​”​ ​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ

ฮู​หยิน​ห้า​เห็นท่า​ที​ไม่สน​ใจ​อะไร​ของ​สามี​ตัวเอง​ ​ก็​พูดไม่ออก​อยู่นาน

​*****

​ตอนนี้​คนที​่​ทำให้เกิด​เรื่อง​วุ่นวาย​เช่นนี้​กลับ​กำลัง​นอน​อยู่​ใน​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อย่างสบายใจ​

​ไท่ฮู​หยิน​สวม​แว่นตา​อ่านหนังสือ​สอง​สาม​บรรทัด​ ​แล้วก็​ถอด​แว่นตา​ออก​มองดู​จิ​่น​เกอ

​ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​เดิน​เข้ามา​ ​ก็​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​ถือ​เตาผิง​มือ​อยู่​ใน​มือ

​“​ยัง​ไม่​ถึง​เดือน​แปด​เลย​เจ้าค่ะ​!​”​ ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​แล้ว​ย่อเข่า​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ระวัง​จะ​เป็น​ร้อนใน​เอา​ได้​!​”

​“​ข้า​เห็น​จิ​่น​เกอ​หน้าแดง​ ​จะ​แตะ​ดู​ว่า​เขา​ร้อน​หรือไม่​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​จบ​ก็​ยื่น​เตาผิง​มือ​ให้​อวี​้​ป่าน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​ใช้​มือ​ที่​อุ่นๆ​ ​ลูบ​หลัง​จิ​่น​เกอ​ ​“​หาก​มือ​ของ​ข้า​เย็น​ ​ประเดี๋ยว​เขา​จะ​ตกใจ​ตื่น​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้ฮู​หยิน​สอง​นั่งลง​ข้าง​ตัวเอง

ฮู​หยิน​สอง​นึกถึง​ตอนที่​สวี​ซื่อ​จุน​ยัง​เป็น​เด็ก​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ทำ​กับ​เขา​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​แม่​ช่าง​ละเอียดอ่อน​เสีย​จริง​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​“​เมื่อก่อน​ดูแล​จุน​เกอ​ที่​ร่างกาย​อ่อนแอ​ ​ต้อง​ระมัดระวัง​อยู่​ตลอด​ ​ข้า​ชิน​แล้ว​ ​ตอนนี้​มาดู​แล​จิ​่น​เกอ​ ​พลอย​รู้สึก​ว่า​เด็ก​คน​นี้​ช่าง​เลี้ยง​ง่าย​เสีย​จริง​”​ ​จากนั้น​ก็​ลูบ​หน้าผาก​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความรัก​และ​เอ็นดู

​จิ​่น​เกอ​ที่​ถูก​รบกวน​พลัน​เบะ​ปาก​แล้ว​พลิกตัว​

​ท่าที​ที่​น่ารัก​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​หัวเราะ​ออกมา​

​ช่วงนี้​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ยุ่ง​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลัว​ว่า​แม่นม​กู้​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​ดูแล​เขา​ได้​ไม่ดี​ ​จึง​ให้​จิ​่น​เกอ​มา​อยู่​กับ​ตัวเอง​ ​ช่วงนี้​เวลากลางวัน​และ​กลางคืน​ของฮู​หยิน​สอง​นั้น​สลับ​กัน​ ​แต่​สำหรับ​นาง​ที่​เป็น​คนดู​แลตัว​เอง​ ​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ฤดูร้อน​ ​ฤดูใบไม้ร่วง​และ​ฤดูหนาว​ ​นาง​ล้วน​คุ้นชิน​หมด​แล้ว​ ​ยาม​เข้าสู่​ต้น​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​แน่นอน​ว่านาง​ต้อง​ดูแลตัวเอง​ให้​เตรียมพร้อม​สำหรับ​ฤดูหนาว​ ​แล้วยัง​ต้อง​ปรับ​นิสัย​การ​ใช้ชีวิต​ให้​เหมาะสม​ ​เรื่อง​ที่อยู่​ใน​มือ​นาง​ถูก​วาง​ลง​ชั่วคราว​ ​นาง​มักจะ​มา​พูดคุย​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​ ​จึง​ได้​เจอ​กับ​จิ​่น​เกอ​บ่อย​ขึ้น​เรื่อยๆ​

​“​เรื่อง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จัดการ​เรียบร้อย​แล้ว​หรือยัง​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​จิบ​ชา​

​“​ผู้ดูแล​จ้าว​ไป​เมือง​ซัง​โจว​ด้วยตัวเอง​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ ​“​คน​ของ​สกุล​เซ่า​ก็​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​ฤกษ์งาม​ยาม​ดี​คือ​ยาม​เฉิน​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ไปดู​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดีกว่า​!​”

​นาง​เป็น​ม่าย​ ​วัน​แต่งงาน​เลย​ไปร​่ว​มงาน​ไม่ได้​

​ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้​ป้า​ตู้​ไป​ส่งฮู​หยิน​สอง​ที่​เรือน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​

​ข้าวของ​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ชอบ​ใช้​ถูก​จัดเก็บ​หมด​แล้ว​ ​เหลือ​แค่​ของ​บางอย่าง​ใน​ห้อง​ที่​ยัง​ต้อง​ใช้​ใน​ชีวิตประจำวัน​ ​ทำให้​เรือน​ของ​นาง​ดู​ว่างเปล่า​

​นาง​หน้าแดง​พลาง​ยก​ชามา​ให้ฮู​หยิน​สอง

ฮู​หยิน​สอง​มองดู​เด็กสาว​ที่​ตัวเอง​เห็น​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​ ​แววตา​พลัน​ปรากฏ​ความ​โศกเศร้า

​นาง​จับมือ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​“​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​นั้น​ ​รัก​เจ้า​ราวกับ​ไข่มุก​ใน​ฝ่ามือ​ ​พวกเขา​จัดการ​เรื่อง​ทุกอย่าง​ให้​เจ้า​แล้ว​ ​หาก​ข้า​ยัง​จะ​ให้​คำแนะนำ​อะไร​เจ้า​อีก​ ​ก็​คง​แค่​เป็นการ​วาด​งู​เติม​ขา​[1]​”​ ​พูด​จบ​ก็​ยื่น​กล่อง​สีแดง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​อาจารย์​เสวี​่ย​ถิง​แห่ง​เมือง​ซัง​โจว​เป็น​นักปราชญ์​ผู้ยิ่งใหญ่​ ​เขา​เชี่ยวชาญ​เรื่อง​โหราศาสตร์​ ​ตอนที่​ท่าน​ลุง​สอง​ของ​เจ้า​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เรา​เคย​เป็น​แขก​ที่​หอ​ดูดาว​ไจ​ซิง​ของ​เขา​ ​เคย​เจอกัน​หลายครั้ง​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​เป็น​คน​เข้มงวด​ ​แต่​ก็​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​ ​เป็น​คนที​่​เข้าหา​ได้​ง่าย​ ​ใน​นี้​มี​ป้ายชื่อ​ของ​ท่าน​ลุง​สอง​ของ​เจ้า​ ​รูปแบบ​ของ​ป้ายชื่อ​ ​อาจารย์​เสวี​่ย​ถิง​เป็น​คน​วาด​เอง​ ​คำพูด​ที่ว่า​ ​ญาติห่างๆ​ ​จะ​เทียบ​เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ได้​เช่นไร​ ​หาก​เจ้า​เจอ​เรื่อง​อัน​ใด​ที่​ลำบากใจ​ ​ก็​ให้​ถือ​ป้ายชื่อ​นี้​ไปหา​เขา​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​เอ่ย​หยอกล้อ​ ​“​แต่​ทาง​ที่​ดีที​่​สุด​อย่า​ได้​ใช้​มัน​เลย​”​ ​

นี่​คือ​ของ​ที่​ท่าน​ลุง​สอง​ทิ้ง​ไว้​ให้ท่าน​ป้า​สอง​ใช่​หรือไม่​!

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​มองดู​รอยย่น​จางๆ​ ​ตรง​ตาของฮู​หยิน​สอง​ ​พลัน​นึกถึง​ความอ้างว้าง​ของ​เรือน​เสา​หวา​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​จับมือฮู​หยิน​สอง​ ​ลังเล​อยู่​สักครู่​หนึ่ง​ก่อน​จะ​เอ่ย​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​ป้า​สอง​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​ต้องหา​คน​มา​อยู่​ด้วย​อีก​สัก​คน​นะ​เจ้า​คะ​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​จะ​มี​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​คอย​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​เอง​!​”

ฮู​หยิน​สอง​แอบ​แปลกใจ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา

ตั้งแต่​ทาง​ฝั่ง​หนาน​จิง​ปฏิเสธ​ข้อเสนอ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ก็​ไม่มีใคร​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​เลย​

ยาม​กลางคืน​ ​ใช่​ว่านาง​จะ​ไม่เคย​คิด​ ​แต่​เมื่อ​คิด​ว่า​เด็ก​คน​นี้​จะ​ต้อง​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ใบ​นี้​ใน​ฐานะ​บุตรชาย​ของ​นาง​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​นาง​กลับ​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​กลัว​ว่า​เด็ก​คน​นี้​จะ​ไม่​ฉลาด​พอ​ ​ไม่ดี​พอ​ ​ทำให้​สามี​ตัวเอง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​…

​ความคิด​นั้น​ผุด​ขึ้น​มา​ ​ใน​หัว​ของ​นาง​ก็​ปรากฏ​ภาพ​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​เบิก​ดวงตา​กลม​โตสุก​ใส​จ้องมอง​มาที​่​นาง​ ​นาง​จึง​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ข้า​ ​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​จะ​พิจารณา​อย่าง​รอบคอบ​!​”

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​ของฮู​หยิน​สอง​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ ​นาง​ยิ้ม​ตามฮู​หยิน​สอง​

​พวก​นาง​พูดคุย​กัน​ครู่หนึ่ง​ ​ส่วนมาก​เป็นฮู​หยิน​สอง​ที่​พูด​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รับฟัง​ ​จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เดิน​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​สี่​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​ใบหน้า​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แดง​ขึ้น​มาทัน​ที​

​ตามธรรม​เนียม​แล้ว​ ​ใน​คืน​ก่อน​แต่งงาน​ของ​บุตรสาว​ ​ท่าน​แม่​จะ​ต้อง​อยู่​กับ​บุตรสาว​ ​นอกจาก​อบรมสั่งสอน​เรื่อง​ระหว่าง​สามีภรรยา​แล้ว​ ​ก็​จะ​พูด​ความในใจ​บางอย่าง​ด้วยกัน

​นาง​รีบ​ลุกขึ้น​ ​“​รีบ​เชิญ​ท่าน​แม่​เข้ามา​เร็ว​เข้า​!​”

​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​เดิน​ออก​ไป​สอง​สาม​ก้าว​ ​อยาก​จะ​ออก​ไป​ต้อนรับ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​ตัวเอง​กำลังจะ​แต่งงาน​ ​บุ่มบ่าม​แบบนี้​ ​กลัว​คนอื่น​จะ​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​ ​นาง​จึง​ถอยกลับ​มานั​่​งบน​เตียง​เตา​อีกครั้ง​ ​แต่​ก็​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ไม่​ให้เกียรติ​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

ฮู​หยิน​สอง​เห็นท่า​ที​ของ​นาง​ก็​อด​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ไม่ได้

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้สึก​ว่า​ใบหน้า​ของ​ตัวเอง​นั้น​ร้อนผ่าว

​สือ​อี​เหนียง​เปิดม่าน​เข้ามา

​เมื่อ​เห็นฮู​หยิน​สอง​ ​นาง​ก็​แปลกใจ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ย่อเข่า​คำนับฮู​หยิน​สอง​

ฮู​หยิน​สอง​คำนับ​กลับ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​ ​“​พวก​เจ้า​สอง​แม่​ลูก​พูดคุย​กัน​เถิด​ ​ข้า​ขอตัว​กลับ​ก่อน​!​”

​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​นาง​ที่​หน้า​ประตู​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เชิญ​สือ​อี​เหนียง​นั่งลง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ตะกุกตะกัก​ ​เพียงแค่​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​นาง​ก็​หน้าแดง​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

[1]​วาด​งู​เติม​ขา ​สุภาษิต​จีน​หมายถึง​ ​ทำ​สิ่ง​ที่​เกิน​ความต้องการ​หรือ​เกินความจำเป็น​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท