ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 571 เอ็นดูรักใคร่ (กลาง)

ตอนที่ 571 เอ็นดูรักใคร่ (กลาง)

​ห้อง​ที่​เต็มไปด้วย​ผู้คน​ ​ความสุข​ที่​ได้​พบ​หน้า​กัน​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ไม่กล้า​ถาม​อะไร​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​นาง​พยายาม​ระงับ​ความไม่สบายใจ​เอาไว้​ใน​ใจ​ ​จนกระทั่ง​ถึง​ยาม​พลบค่ำ​ ​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เริ่ม​มี​ความเหนื่อย​ล้า​ ​หลังจากที่​ทุกคน​แยกย้าย​กัน​ออก​ไป​ ​นาง​ถึง​ได้​มีโอกาส​พูดคุย​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​เรือน​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​

​“​เมื่อ​ครู่​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​นาง​ ​“​จู่ๆ​ ​ก็​พูดว่า​จะ​ไม่​ทำผิด​!​”

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หน้าแดง​ ​พูดเสี​ยง​เบา​จน​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ยิน​สิ่ง​ที่นาง​พูด

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​เจ้า​ไม่​บอก​ตอนนี้​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​มีโอกาส​พูด​อีก​เมื่อไร​ ​เจ้า​คิด​ให้​ดี​ว่า​จะ​พูด​หรือไม่​พูด​”

​อีก​สาม​วัน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​จะ​กลับ​เมือง​ซัง​โจว​แล้ว​ ​จากนั้น​นาง​ก็​จะ​กลายเป็น​ลูกสะใภ้​ของ​สกุล​เซ่า​อย่าง​สมบูรณ์แบบ

​“​ข้า​…​ข้า​กลัว​ท่าน​แม่​จะ​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หน้าแดง​ยิ่งกว่า​เดิม

​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​กลัว​ข้า​จะ​เป็นห่วง​?​ ​เป็นห่วง​อะไร​”

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​พูด​หยอกล้อ​ตน​ ​จึง​พูด​ตะกุกตะกัก​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​บอกว่า​ ​หาก​ไม่มี​คน​นี้​ก็​มี​คน​นั้น​…​ให้​ข้า​อย่า​เอาแต่​คิด​ว่า​จะ​ป้องกัน​คนอื่น​เข้ามา​อย่างไร​ ​ให้​คิด​ว่า​ต้อง​ควร​ทำ​เช่นไร​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ไม่กล้า​พูด​ต่อ​

​สือ​อี​เหนียง​ถึง​ได้​เข้าใจ

​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ละอายใจ

เพราะว่า​วันนั้น​ตน​ก็​ตื่นเต้น​เหมือนกัน​ ​เลย​พูด​อะไร​ไป​ตั้ง​มากมาย​ ​บาง​เรื่อง​แม้แต่​ตัวเอง​ก็​ยัง​จำ​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ

​เซ่าจ​้ง​หรา​นมี​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​ ​สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่ง​เข้าไป​แล้ว​จะ​หึงหวง​ ​จึง​แนะนำ​นาง​ว่า​แทนที่จะ​จับจ้อง​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​สอง​สาม​คน​นั้น​ไม่​วางตา​ ​ไม่​สู้​คิด​หาวิ​ธี​แสดง​จุดแข็ง​ของ​ตัวเอง​ให้​เขา​เห็นจะ​ดีกว่า​ ​ให้​เซ่าจ​้ง​หราน​ไม่​อยาก​อยู่​ห่าง​กาย​นาง​

​ตอนนั้น​นาง​ไม่ได้​คาดหวัง​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะเข้า​ใจ​ ​แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะเข้า​ใจ​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยืน​ขึ้น​ด้วย​ท่าที​เขินอาย​ ​“​ข้า​ไป​ชงชา​ให้ท่าน​แม่​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​เจ้า​กลับมา​จาก​ซัง​โจว​ ​ยัง​ไม่ได้​พักผ่อน​ก็​ต้อง​ไป​พูดคุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไป​พบปะ​กับ​ญาติ​ๆ​ ​ไม่ได้​พักผ่อน​สักที​ ​นี่​ก็​เย็น​มาก​แล้ว​ ​เจ้า​ไป​นอน​เถิด​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​พรุ่งนี้​เรา​ค่อย​ว่า​กัน​”

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้​ว่า​ตั้งแต่​คลอด​จิ​่น​เกอ​ร่างกาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อ่อนแอ​ลง​ไม่น้อย​ ​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​นาง​กำลัง​บำรุง​ร่างกาย​ตัวเอง​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ไม่กล้า​รั้ง​นาง​ให้​อยู่​ต่อ​ ​เดิน​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​ที่​ประตู

​แต่​คำพูด​ที่อยู่​ใน​ใจ​ยัง​ติด​อยู่​ที่​ลำคอ​ ​ทำให้​นาง​ไม่สบายใจ​

​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​”

​นาง​เรียก​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มี​ความลังเล​

​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​นิสัย​ขี้ขลาด​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​หยุด​เดิน

​จู๋​เซียง​จึง​ขยิบตา​ให้​สาวใช้​คนอื่นๆ​ ​ทุกคน​จึง​พากัน​ยืน​อยู่ห่างๆ

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​มี​ความกล้า​ที่จะ​พูดมาก​ขึ้น

​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​”​ ​นาง​มอง​ไป​ยัง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความ​เขินอาย​ ​“​ช่วงนี้​ท่าน​พี่​นอน​ที่​เรือน​ของ​ข้า​ทุกวัน​!​”​ ​นาง​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​เหมือน​ที่​ท่าน​แม่​พูด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​จน​แทบจะ​ไม่ได้​ยิน

​สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ทันที

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่งงาน​ได้​หนึ่ง​เดือน​แล้ว​ ​แต่​ยัง​ไม่​ตั้งครรภ์​ ​วัน​ระดู​ของ​นาง​ต้อง​มา​แล้ว​แน่นอน​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​ตอนที่​นาง​มี​วัน​ระดู​นาง​ต้อง​จัดการ​ให้​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​รับใช้​เซ่าจ​้ง​หราน​เข้านอน​ ​แต่​เขา​กลับ​นอน​ที่​เรือน​ของ​นาง​ทุกวัน​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​เซ่าจ​้ง​หราน​ปฏิเสธ​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​

​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​ออกแรง​บีบ​มือ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่​ไม่​พูด​อะไร​อยู่นาน

​แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​สบายใจ​แล้ว

​นาง​ยิ้ม​มุม​ปาก​ด้วย​สีหน้า​ที่​มีความสุข

​*****

​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ไป​แล้ว​ ​ที่​จวน​ก็​เตรียมการ​เรื่อง​ปีใหม่

​จู่ๆ​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ก็​กลับมา​ที่​เยี​่​ยน​จิง

​นาง​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​

​“​…​ไม่​เจอฮู​หยิน​สี่​มาตั​้ง​สอง​สาม​ปี​ ​งดงาม​ขึ้น​กว่า​เดิม​เสียอีก​!​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​เอ่ย​ชื่นชม​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​สายตา​ของ​นาง​กลับ​มอง​ไป​ที่​จิ​่น​เกอ​ด้วย​สายตา​ที่​มี​ความ​โหยหา​ ​“​ตอนที่​ข้า​ออก​ไป​ ​ยัง​ไม่มี​แม้แต่​เงา​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​วิ่งเล่น​ได้​แล้ว​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เหมือน​คำพูด​ที่ว่า​ ​กลัว​จะ​ไม่มี​ ​ไม่​กลัว​จะ​ได้​เลี้ยง​”​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​เรื่อง​เด็ก​ๆ​ ​“​ปีนี​้​อี้จ​ยาน​่า​จะ​อายุ​ยี่สิบ​เอ็ด​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​มอง​บุตรสาว​สกุล​ใด​เอาไว้​ ​กำหนด​วัน​แต่งงาน​แล้ว​หรือยัง​”

​นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​มีสี​หน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

​“​อี้จ​ยายัง​ไม่ได้​แต่งงาน​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​เขา​สอบ​ไม่​ผ่าน​ติดต่อกัน​สอง​ปี​ ​นายท่าน​โมโห​จึง​ส่ง​เขา​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​วัดจ​ยา​ซิ่ง​ ​ระหว่าง​นั้น​มี​คน​มา​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​ ​แต่​ก็​ถูก​นายท่าน​ปฏิเสธ​ทั้งหมด​ ​บอก​แค่​ว่า​เขา​ยัง​ไม่มี​อาชีพ​การงาน​ ​จะ​แต่งงาน​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​ได้​แต่​มองดู​อี้จ​ยายืด​เยื้อ​มาถึง​ทุกวันนี้​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​ปลอบใจ​นาง​ ​“​เมื่อ​แต่งงาน​แล้ว​ ​มี​คน​คอย​ดูแล​ ​ประเดี๋ยว​เขา​ก็​จะ​รู้ความ​มากขึ้น​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​เจ้า​ต้อง​เกลี้ยกล่อม​นายท่าน​เสียบ​้าง​”​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​คุณหนู​ทั้ง​สาม​คน​ ​“​…​สบายดี​หรือไม่​”

​“​เป็น​เพราะ​ได้รับ​วาสนา​จาก​ไท่ฮู​หยิน​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ ​นาง​รีบ​เปลี่ยน​เรื่อง​ทันที​ ​“​โหร​วจิ​่น​หมั้น​หมาย​กับ​คุณชาย​ใหญ่​ของ​สกุล​ใต้เท้า​โจว​ ​เจ้ากรม​โยธา​ธิ​การ​สหาย​ของ​นายท่าน​ ​แต่​เพราะว่า​ใต้เท้า​โจว​ล้ม​ป่วย​เสียชีวิต​ไป​ ​จึง​ทำให้​เรื่อง​แต่งงาน​ล่าช้า​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​บอก​ให้​คน​นำ​เทียบ​เชิญ​ออกมา​ ​“​ที่​ข้ามา​ที่นี่​ครั้งนี้​ ​หนึ่ง​คือ​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สอง​คือ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​โหร​วจิ​่น​ ​อยาก​เชิญ​ไท่ฮู​หยิน​ไปร​่ว​มงาน​แต่ง​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หยิบ​เทียบ​เชิญ​สีแดง​ออกมา​

​“​ยินดี​ด้วย​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​รับ​เทียบ​เชิญ​มา​ ​เห็น​บน​เทียบ​เชิญ​เขียน​ว่าวั​นที​่​สี่​เดือน​สอง​นาง​จึง​พูดว่า​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​ไปร​่ว​มงาน​แน่นอน​”

​“​ข้า​จะ​รอ​ไท่ฮู​หยิน​มาร​่ว​มงาน​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูดคุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​สอง​ ​เพราะ​บุตรสาว​คนโต​ของ​ตัวเอง​จะ​แต่งงาน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​เชิญฮู​หยิน​สอง​ ​ไม่ว่า​นาง​จะ​ไป​หรือไม่​ไป​ ​มัน​ก็​ขึ้นอยู่กับ​นาง​!

ฮู​หยิน​สอง​รู้​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว

​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​อี้จ​ยาต​้​อง​เดือดร้อน​เพราะ​คุณหนู​สอง​สกุล​หัน​?​”

​นาย​หญิง​เซี่ยง​ไม่เคย​พูดจา​อ่อนโยน​ต่อหน้าฮู​หยิน​สอง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เพราะว่า​เรา​อยาก​หา​คนที​่​ดีกว่า​นี้​ให้​อี้จ​ยา​”

พี่ชาย​ของ​ตัวเอง​ ​ตน​จะ​ไม่รู้​นิสัย​ของ​เขา​ได้​อย่างไร

พี่ชาย​คือ​ซื่อ​จื่อ​ของ​ตระกูล​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​อยาก​มี​หลานชาย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การ​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ไม่​ผ่าน​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ ​บางคน​ยัง​ต้อง​สอบ​ตั้ง​แปด​ครั้ง​หรือ​สิบ​ครั้ง​กว่า​จะ​ผ่าน​ ​คนอื่น​ไม่รู้​ ​แต่ว่า​เขา​คือ​คนที​่​เคย​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ ​จู่​เห​ริน​และ​บัณฑิต​ชั้นสูง​มาก​่อน​ ​เขา​จะ​ไม่รู้​ได้​เช่นไร​ ​เขา​ไม่มีทาง​ปฏิเสธ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​คนอื่น​เพียง​เพราะ​เรื่อง​นี้​แน่นอน

นาย​หญิง​เซี่ยง​หลอก​คนอื่น​ได้​ ​แต่​ไม่มีทาง​หลอก​ตน​ได้​!

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

​สายตา​ที่​มอง​นาย​หญิง​เซี่ยง​ของ​นาง​กลับ​มี​ความ​เย้ยหยัน

​นาย​หญิง​เซี่ยง​ไม่พอใจ​ ​พูดคุย​สอง​สาม​ประโยค​ก็​จะ​กลับ​จวน​ ​ไม่ว่าฮู​หยิน​สอง​ ฮู​หยิน​สี่​เละ​ไท่ฮู​หยิน​จะ​เชิญ​นาง​ทานข้าว​ ​นาง​ก็​ยืนกราน​ที่จะ​กลับ​ ​“​ข้า​พึ่ง​จะ​กลับมา​ ​มีเรื่อง​หลาย​เรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​ ​วัน​อื่น​ค่อย​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​สาม​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​ยืนกราน​ที่จะ​กลับ​ ​จึง​บอก​ให้​สือ​อี​เหนียง​ออก​ไป​ส่ง​นาย​หญิง​เซี่ยง

​“​ดูเหมือนว่า​ ​ข่าวลือ​ที่ว่า​คุณชาย​คนโต​ของ​สกุล​เซี่ยง​ดวง​พิฆาต​ภรรยา​คือ​เรื่องจริง​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​เรื่อง​สกุล​เซี่ยง​กับ​ป้า​ตู้​เบา​ๆ

​ป้า​ตู้​นึกถึง​ความโกลาหล​ครั้งก่อน​ของ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นี่​มัน​เป็นเรื่อง​นานา​จิต​ตัง​ ​ต่างจิตต่างใจ​กัน​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​มัน​เป็นเรื่อง​ของ​คนอื่น​ ​นาง​จึง​ไม่สน​ใจ​ ​เมื่อถึง​วันที่​สาม​เดือน​สอง​ ​นาง​ก็​แต่งตัว​ไป​ดื่ม​สุรา​แสดงความยินดี​ที่​สกุล​เซี่ยง​กับฮู​หยิน​สอง​ ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า

​ใต้เท้า​เซี่ยง​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ข้างนอก​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​จึง​เป็น​คน​จัดการ​เรื่อง​ใน​จวน​ ​เพราะว่า​ไม่ใช่​งานแต่ง​ ​จึง​มีโต​๊ะ​แค่​สิบ​กว่า​โต๊ะ​ ​ล้วนแต่​เป็น​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ที่​สนิทสนม​กัน​ ​พูด​อะไร​กัน​ก็ได้​ ​หยอกล้อ​กันเอง​บ้าง​ ​ทำให้​บรรยากาศ​ดูก​ลม​กลืน​ ​แต่​แขก​พวก​นี้​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​นั้น​ไม่รู้​จัก​ ​พวก​นาง​ไป​นั่ง​อยู่​ที่​โถง​บุปผา​เล็ก​ที่​คั่น​ด้วย​ม่าน​กัน​ลม​ใน​โถง​บุปผา​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เงียบเหงา​ ​แต่กลับ​ได้ยิน​เสียง​คน​ข้างนอก​ ​ไม่​ถึงกับ​เงียบเหงา​จน​เกินไป​ ​แล้วยัง​สามารถ​ทักทาย​คน​ข้างนอก​ ​ทำความรู้จัก​กับ​คนแปลกหน้า​ ​จัดการ​ได้​ชาญฉลาด​อย่างมาก

​ทุกครั้งที่​มี​แขก​เข้ามา​ ​เสียง​คำนับ​ ​เสียง​ถามไถ่​ ​เสียร​่ำ​ลาก​็​ดัง​เข้ามา​เสมอ

​มี​คน​ยืน​อยู่​หน้า​ม่าน​กั้น​ลม​ ​“​…​เห็นฮู​หยิน​ที่​ถือ​ผ้าไหม​เซียง​อวิ​๋น​ซาค​นนั​้น​หรือไม่​ ​คน​นั้น​คือ​แม่​สามี​ในอนาคต​ของ​คุณหนู​สาม​สกุล​เซี่ยง​”

​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​แซ่​กง​ ​เป็น​คนเมือง​จิง​โจว​มณฑล​หูก​่​วง​ ​เหตุใด​ถึง​ยอมให้​บุตรสาว​แต่งงาน​ออก​ไป​อยู่​ไกล​ขนาด​นั้น​”

​“​พวกเขา​เป็น​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​แห่ง​หูก​่​วง​ ​เป็น​สกุล​ขุนนาง​มา​หลาย​ชั่วอายุ​ ​ใน​ตระกูล​มี​คนที​่​มีชื่อเสียง​ ​บางที​ท่าน​บุตร​เขย​ในอนาคต​อาจจะ​เป็น​คนขยัน​ขันแข็ง​ก็ได้​ ​เรียนหนังสือ​ที่​สำนัก​ศึกษา​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​ไปรับ​ตำแหน่ง​ที่​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​ ​เมื่อ​ออกมา​แล้ว​สถานะ​ก็​ยืนหยัด​มั่นคง​พอดี​ ​ดีกว่า​ตระกูล​พวกเรา​ตั้ง​เยอะ​ ​หาก​สามี​ไม่​ออก​ไป​เป็น​ขุนนาง​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ลูก​ๆ​ ​ไม่มี​อนาคต​ ​หาก​ออก​ไปรับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ ​ก็​ต้อง​ออก​ไปรับ​ตำแหน่ง​ไกล​บ้านเกิด​ยัง​ไม่พอ​ ​ทิ้ง​ให้​ภรรยา​อยู่​ที่​เรือน​คนเดียว​ ​แล้ว​จะ​แตกต่าง​อะไร​จาก​หวัง​เป่า​ช่วน​เล่า​[1]​”

​“​พูด​ได้​ไม่เลว​!​”​ ​อีก​คน​หนึ่ง​หัวเราะเยาะ​นาง​ ​“​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​เจ้า​แล้ว​ ​การ​สอบ​บัณฑิต​ชั้นสูง​ ​สอบ​ทั่นฮ​วา​พวก​นี้​ ​เป็นเรื่อง​ที่​ง่ายดาย​เช่นนั้น​หรือ​…​”

​ไท่ฮู​หยิน​ที่นั่ง​อยู่​ข้างใน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ที่แท้​คุณหนู​สาม​สกุล​เซี่ยง​จะ​แต่งงาน​ออก​ไป​อยู่​ที่​หูก​่​วง​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​คุณหนู​สอง​แต่งงาน​กับ​ใคร​”

​ในขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​เดิน​เข้ามา

​สีหน้า​ของ​นาง​ดู​เป็นธรรมชาติ​แต่​สายตา​ของ​นาง​กลับ​มี​ความ​เย็นชา​ ​ท่าที​ยัง​เคร่งขรึม

​ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่านาง​ไม่​ค่อย​สนิทสนม​กับ​พี่สะใภ้​ของ​ตัวเอง​ ​กลัว​ว่านาง​เป็น​เช่นนี้​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​จะ​ถาม​ ​จึง​รีบ​ลาก​นาง​มาหา​ตัวเอง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​มา​ได้เวลา​พอดี​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​ได้ยิน​ว่า​คุณหนู​สาม​จะ​แต่งงาน​ออก​ไป​อยู่​ที่​หูก​่​วง​ ​ไม่รู้​ว่า​คน​สกุล​โจว​เป็น​คนที​่​ไหน​เช่นนั้น​หรือ​”

ฮู​หยิน​สองสี​หน้า​ผ่อนคลาย​ลง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เป็น​คน​มณฑล​เจียง​ซี​เมือง​หยง​เฟิง​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​อุทาน​ ​“​ไอ​๊​หยา​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​เมือง​หยง​เฟิ​งมณ​ฑล​เจียง​ซี​ ​คุณหนู​สาม​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​เมือง​จิง​โจว​มณฑล​หูก​่​วง​…​นาย​หญิง​เซี่ยง​ช่าง​ใจกว้าง​เสีย​จริง​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​คุณหนู​สอง​แต่งงาน​กับ​ใคร​หรือ​เจ้า​คะ​”

​“​ข้า​ไม่ได้​ถาม​นาง​!​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​ออก​ไป​แล้ว​นั้น​ราวกับ​น้ำ​ที่​สาด​ออก​ไป​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้ามา​ดื่ม​สุรา​แสดงความยินดี​ก็​พอแล้ว​!​”

​จู่ๆ​ ​บรรยากาศ​ก็​เยือกเย็น​ลง​

ฮู​หยิน​ห้า​เคย​ได้ยิน​ข่าวลือ​ว่า​ ฮู​หยิน​สอง​อยาก​ให้​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​แต่งงาน​กับ​คุณชาย​น้อย​สอง​

​หาก​เป็น​คนอื่น​นาง​คงจะ​หยอกล้อ​สักหน่อย​ ​แต่​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับฮู​หยิน​สอง​ ​นาง​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ลังเล

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​กำลัง​คิด​เรื่อง​เดียว​กับฮู​หยิน​ห้า​

ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของฮู​หยิน​สอง​แล้ว​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​นี้​

เรื่อง​นี้​คงมี​ลับลมคมใน​กระมัง

​นาง​กลับ​ไป​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​สกุล​โจว​แห่ง​เมือง​หยง​เฟิ​งมณ​ฑล​เจียง​ซี​ ​คือ​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ใน​ท้องถิ่น​หรือ​เจ้า​คะ​”

​“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​สกุล​ของ​พวกเขา​มี​คน​เป็น​ขุนนาง​ทุก​ชั่วอายุคน​ ​ตั้งแต่​ราชวงศ์​ก่อน​จนถึง​ราชวงศ์​ปัจจุบัน​ ​สกุล​เขา​มีบัณ​ฑิต​ชั้นสูง​ประมาณ​ยี่สิบ​กว่า​คน​ ​ดังนั้น​จึง​มี​คนพูด​ล้อ​ว่า​ ​‘​หาก​ไม่มี​สกุล​โจว​ก็​ไร้​ซึ่ง​บัณฑิต​ชั้นสูง​’​”

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​เล่าเรื่อง​ที่​สกุล​เซี่ยง​และ​สกุล​โจว​แต่งงาน​กัน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​คิด​อะไร​ ​แค่​พูดว่า​ ​“​ใต้เท้า​เซี่ยง​เป็น​คน​มองการณ์ไกล​”

​ในขณะที่​เขา​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ป้า​ฟัง​ ​ป้า​รับใช้​ของ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ดึก​ขนาด​นี้​?​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​ที่​ห้องโถง​ ​จากนั้น​ก็​กลับมา​อย่างรวดเร็ว​ ​“​ท่าน​โหว​ ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​มี​ข่าวดี​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ป้า​ฟัง​มารา​ยงาน​ตามคำสั่ง​ของ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​และ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​!​”

[1]​หวัง​เป่า​ช่วน ​ตัวเอก​หญิง​ใน​ละคร​เพลง​งิ้ว​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​มีบิ​ดา​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ ​ต้อง​พลัดพราก​จาก​สามี​และ​อยู่ตัว​คนเดียว​ถึง​ ​18​ ​ปี​ ​ก่อน​จะ​ได้​กลับมา​รัก​กัน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท