บทที่ 560 จ้าวสมุทร ‘หวาดกลัวจากใจจริง!’
บนจักรวาลหมื่นดาราอันกว้างใหญ่ไพศาล เรือโบราณขนาดใหญ่ลำแล้วลำเล่าแล่นผ่าน แต่ละลำเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิด มีทั้งเผ่ามนุษย์และอสูรต่าง ๆ
อาณาจักรเทียนหยวนเดิมทีเป็นเพียงแค่อาณาจักรระดับกลาง ท่ามกลางอาณาจักรนับหมื่นไม่อาจนับได้ว่าแข็งแกร่ง แต่ทว่าหลังจากเข้าร่วมกับแดนมรณา
ความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนนี้เหนือชั้นยิ่งกว่าแดนระดับกลางอื่น ๆ ทั้งยังสามารถไล่หลังตามอาณาจักรเก้าตอนบนได้
ครั้งนี้ผู้นำอาณาจักรมาด้วยตนเอง นำทัพพาสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งทั้งหมดในอาณาจักรเทียนหยวนมาด้วย
นี่คือผู้ปกครองอาณาจักรที่ได้รับการแต่งตั้งจากแดนมรณา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักเทียนหยวนล้วนเชื่อฟังคำสั่งของเขา
เขามีใบหน้ามืดมน สีหน้าเองก็ดูไม่ค่อยจะดี
เดิมทีพวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความเสียหายให้กับพลังที่ปกป้องอาณาจักรแห่งนี้ เกิดเป็นรอยแตกในม่านพลังป้องกัน
แม้ว่ารอยแตกจะเล็กเป็นอย่างมาก แต่ก็นับได้ว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ การที่มีรอยแตกปรากฏขึ้นแม้เป็นรอยที่เล็กจ้อย ก็สามารถแสดงให้เห็นว่าพลังที่คอยคุ้มกันอาณาจักรไม่สมบูรณ์อีกต่อไป ทั้งยังลดลงเป็นอย่างมาก พวกมันสามารถอาศัยรอยแตกทำลายการป้องกันให้หมดสิ้น หลังจากนั้นจึงส่งคนเข้าไปฆ่าสังหารในอาณาจักร!
ทว่าไม่รู้ด้วยเหตุใด รอยแตกนั่นถึงได้รับการซ่อมแซมไปแล้ว!
ทำได้อย่างไรกัน?
พลังที่คอยปกป้องอาณาจักรถูกสร้างขึ้นมาจากพลังของวิถีสวรรค์ ผู้ใดกันจะสามารถเทียบเคียงวิถีสวรรค์และซ่อมแซมพลังนั่นได้!?
แววตาของเข้าล้ำลึกขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คาดเอาไว้!
โดยเฉพาะการตายของเหลิงเจี้ยนทำให้เขารู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย
เหลิงเจี้ยนเป็นยอดฝีมือจากอาณาจักรเทียนหยวนที่เข้าไปในอาณาจักรแห่งนี้ผ่านทางรอยแตกขนาดเล็ก ขอบเขตของเขานั้นไม่แย่เลย เป็นถึงขั้นสูงสุดของตี้จวิน!
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเหลิงเจี้ยนในอาณาจักรแห่งนี้
สภาพแวดล้อมของอาณาจักรแห่งนี้เลวร้ายเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่จะมียอดฝีมือระดับสูงเกิดขึ้นมา ในสมัยโบราณ พวกเขาได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอาณาจักรแห่งนี้ พลังของวิถีสวรรค์แทบทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้จึงแปรเปลี่ยนกลายเป็นม่านคุ้มกันเพื่อต่อต้านพวกเขา เช่นนั้นแล้วยังจะเหลืออะไรหล่อเลี้ยงให้กำเนิดยอดฝีมือระดับสูงขึ้นมากัน?
ไม่มีทางเป็นไปได้!
เมื่อเหลิงเจี้ยนเข้าไปแล้วย่อมสามารถสังหารล้างอาณาจักร!
แม้จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตดั้งเดิมของอาณาจักรแห่งนี้ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างอาณาจักรที่เข้ามาตั้งรกราก เขาก็ไม่คิดกังวลอะไรเกี่ยวกับการล้างสังหารของเหลิงเจี้ยน
พวกเขาเคยเข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้ในสมัยโบราณ ได้รับรู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรจำนวนมากเข้ามาตั้งรกรากด้านในอาณาจักรแห่งนี้
สิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลย พวกมันต่างก็มีภูมิหลังลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มีแดนมรณาที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรใด พวกเขาก็ล้วนไม่อาจยั่วยุได้
พวกเขาตระหนักได้ในจุดนี้ดี เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตภายนอกอาณาจักรเหล่านั้นที่รับรู้ในจุดนี้เป็นอย่างดี
แม้ว่าสิ่งมีชีวิตภายนอกอาณาจักรเหล่านี้จะไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาคือแดนมรณา แต่พวกมันก็ต้องสามารถตระหนักได้ถึงบางสิ่งอย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลายมาเป็นศัตรูของพวกเขาเพื่อสิ่งมีชีวิตชนพื้นเมืองเหล่านี้
ผู้ที่สังหารเหลิงเจี้ยนและซ่อมแซมรอยแตกจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตชนพื้นเมืองของอาณาจักรแห่งนี้!
“น่าเสียดาย กว่าจะทำสำเร็จนั้นไม่ง่ายเลย แต่ทุกสิ่งล้วนหวนคืนกลับไปสู่จุดเดิม!”
เขาหรี่ตาลง พลังป้องกันของอาณาจักรแห่งนี้ฟื้นกลับไปสู่จุดสูงสุดเช่นเดิม นี่หมายความว่าพวกเขาต้องเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้เขาคาดไม่ถึงจริง ๆ
หลังจากการต่อสู้ในสมัยโบราณ อาณาจักรแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่อาจเทียบชั้นกับพวกเขาได้อีกต่อไป ครั้งนี้พวกเขาควรจะมาที่นี่เพื่อทำตามคำสั่งของแดนมรณาให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างง่ายดาย
ทว่าพวกเขาต้องประสบกับความยุ่งยากก่อนจะทันได้เข้าไปเสียด้วยซ้ำ อาณาจักรแห่งนี้ลึกล้ำเกินไป แม้จะได้รับความเสียหายครั้งใหญ่จากพวกเขา พลังที่หลงเหลืออยู่ก็ยังคงน่าหวาดกลัว พลังป้องกันที่วิถีสวรรค์สร้างขึ้นมาก็ยังสามารถปิดกั้นพวกเขาเอาไว้ได้
“นายท่านแห่งแดนมรณาได้โปรดลงมือด้วยเถิด!”
เขาติดต่อไปยังแดนมรณาเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยกำลังของพวกเขาเพียงฝ่ายเดียว แม้จะสามารถทะลวงผ่านพลังป้องกันของอาณาจักรแห่งนี้ได้แต่ก็ต้องใช้เวลานานเป็นอย่างมาก
คำสั่งจากแดนมรณาคือให้พวกเขาทำการล้างสังหารโดยไว กวาดล้างสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้ ทำให้โลหิตหลั่งรินชโลมทั่วทั้งผืนดิน
เดิมทีมีรอยแยกอยู่ทำให้พวกเขาสามารถเข้าไปแล้วทำตามคำสั่งให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้รอยแยกกลับถูกซ่อมแซมแล้ว ทุกอย่างหวนคืนสู่จุดเดิม เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะดำเนินการฆ่าล้างให้เสร็จสิ้นในระยะเวลาอันสั้น ทางเดียวที่สามารถทำได้คือการขอความช่วยเหลือจากแดนมรณา
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับการตอบกลับจากแดนมรณา กล่าวว่าจะส่งคนไปช่วยเหลือ ให้เขารอก่อน
‘ทำให้โลหิตหลั่งรินชโลมทั่วทั้งผืนดิน ทำเพื่อสิ่งใดกัน?’
เขาคิดขึ้นมาในใจอย่างเงียบงัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าแดนมรณาต้องการจะทำสิ่งใด
คำสั่งที่แดนมรณามอบมาคือการฆ่าล้าง ไม่อาจปล่อยให้สิ่งมีชีวิตชนพื้นเมืองใด ๆ หลุดรอดออกไปได้ ส่วนเหตุผลนั้นแดนมรณาไม่ได้บอกกับเขา
แต่เขาสามารถรู้ได้อย่างชัดเจน ว่านี่จะต้องเป็นงานใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง!
‘แดนมรณาเองก็วางแผนไว้สำหรับแดนบรรพโกลาหลใช่หรือไม่?’
เขาคิดในใจขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่แดนมรณาจะทำอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับแดนบรรพโกลาหล
ทว่าน่าเสียดาย ที่มันเป็นเพียงแค่การคาดเดาของเขา ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่
พวกเขาได้แต่ทำตามคำสั่งของแดนมรณาเท่านั้น สิ่งที่รู้มีเพียงน้อยนิด ทั้งยังติดต่อกับแดนมรณาน้อยครั้ง พวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าแดนมรณามีที่มาแบบใด!
หากให้พวกเขากล่าวถึงแดนมรณาแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าลึกลับไม่อาจคาดการณ์ได้!
…
ทะเลต้องห้าม
สีหน้าของจ้าวสมุทรเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม สองเท้าก้าวไปมาไม่อาจหยุดอยู่เป็นที่
ทะเลต้องห้ามอันกว้างใหญ่ หลงเหลือเพียงเขาผู้เดียว ฉากอันยุ่งเหยิงสามารถเห็นได้ทุกหนแห่ง จนกระทั่งถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูทะเลต้องห้ามให้กลับมาสมบูรณ์เช่นเดิมได้ ความเสียหายของส่วนหน้าที่ทะเลต้องห้ามได้รับนั้นรุนแรงเกินไป
“เลิกเป็นศัตรูกับคนเหล่านั้นสักทีได้หรือไม่!”
จ้าวสมุทรร้องไห้ ทิ้งน้ำตาไหลลงมาสองสาย รู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก
เขาได้รับการแจ้งจากเบื้องบนว่าบรรพจารย์หลายท่านจะนำสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรทั้งหมดมายังอาณาจักรแห่งนี้ ทั้งยังกล่าวอีกด้วยว่าจะทำให้หลิงอินและเหล่าชนพื้นเมืองต้องชดใช้อย่างสาสม!
หากพวกหลิงอินได้ชดใช้อย่างสาสม เขาก็ควรจะมีความสุขเป็นอย่างมาก ทว่าเขานั้นผ่านความทุกข์ทนมามากจากน้ำมือของพวกหลิงอิน
มันทำให้เขาไม่อาจมีความสุขได้จริง ๆ!
นี่เป็นเพราะเขาหวาดกลัวพวกหลิงอิน คนเหล่านั้นน่าเหลือเชื่อจนเกินไป แม้ว่าเหล่าบรรพจารย์จะพายอดฝีมือทั้งหมดมายังอาณาจักรแห่งนี้ เขาก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งยังสังหรณ์ว่ากำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้น!
แต่ทว่าเขาก็ไม่กล้าพูดออกไป
เรื่องทั้งหมดเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจตัดสินใจได้โดยสิ้นเชิง
เหล่าบรรพจารย์มาด้วยตนเอง ทั้งยังนำยอดฝีมือทั้งหมดของอาณาจักรมาด้วย จะรับฟังคำพูดของเขาได้อย่างไร
หากเขาบอกว่าถ้ามุ่งเป้าไปที่พวกหลิงอินอาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เหล่าบรรพจารย์อาจตบตีเขาจนตายก็เป็นได้
อย่างไรเสีย เหล่าบรรพจารย์จะเชื่อเขาได้อย่างไรว่าเพียงแค่พวกหลิงอินก็ต่อต้านคนจากอาณาจักรของพวกเขาทั้งหมดได้!
กล่าวตามตรงแล้วกระทั่งเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกหลิงอินจะสามารถทำเช่นนั้นได้
ทว่าเขานั้นได้รับความทุกข์ทนจากพวกหลิงอินมากเกินไป จึงไม่อาจไม่เชื่อได้ จนกลายเป็นเช่นนี้ยามนึกถึงพวกหลิงอินขึ้นมา…
เขาไม่ต้องการจะเป็นศัตรูกับพวกหลิงอินอีกต่อไป!
“หวังว่าเมื่อถึงยามนั้นจะไม่มีเรื่อง ‘เกินความคาดหมาย’ มากเกินไป ให้พวกเราสามารถสังหารพวกหลิงอินได้สำเร็จด้วยเถอะ!”
เขาสวดอ้อนวอนในใจอย่างเงียบงัน
…
เมืองชิงซาน
ด้านในบ้านของหลิงอิน
“พี่ชาย วันนี้ข้าจะพาท่านไปเยี่ยมเยียนคุณชาย!”
สองวันที่ผ่านมา พี่ชายของเสี่ยวหยาค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมจนเริ่มคงที่แล้ว นางจึงตัดสินใจจะพาพี่ชายไปเยี่ยมเยียนคุณชาย
นางจะต้องพาพี่ชายไปเยี่ยมเยียนคุณชายอย่างแน่นอน หากไม่มีคุณชายแล้วละก็ พี่ชายของนางคงถูกกลืนกินไปแล้ว นางเองก็ไม่มีหนทางใดที่จะช่วยเหลือพี่ชายได้
“ตกลง!”
พี่ชายของเสี่ยวหยาพยักหน้าด้วยความหนักแน่น เขาเองก็ต้องการพบคุณชายเป็นอย่างมาก