รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 564 กฎระเบียบดึกดำบรรพ์เข้าร่าง สำเร็จร่างระเบียบดึกดำบรรพ์!

บทที่ 564 กฎระเบียบดึกดำบรรพ์เข้าร่าง สำเร็จร่างระเบียบดึกดำบรรพ์!

บทที่ 564 กฎระเบียบดึกดำบรรพ์เข้าร่าง สำเร็จร่างระเบียบดึกดำบรรพ์!

จะมิให้ญาณหินโกลาหลตกใจได้อย่างไร

กฎระเบียบดึกดำบรรพ์ที่ควรดับสูญไปกับกาลเวลาอันยาวนาน กลับถูกหลี่จิ่วเต้านำร่องออกมาได้อย่างง่ายดาย เรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่า หลี่จิ่วเต้าอยู่เหนือพลังแห่งกาลเวลา ข้ามกลับไปยังยุคดึกดำบรรพ์ นำร่องกฎระเบียบในยุคดึกดำบรรพ์มายังยุคนี้!

สวรรค์ เขาต้องมีฝีมือความสามารถขนาดไหนกัน?

มันไม่เคยได้ยิน ไม่เคยพบเห็นมาก่อน!

น่ากลัวนัก ทั้งที่มันเห็นกับตาแล้วแท้ ๆ มันยังมิกล้าเลือกที่จะเชื่อ!

‘นี่คือบรรพาจารย์เต๋าแห่งโกลาหลหรือ!?’

มันเอ่ยในใจอย่างอดมิได้ ตะลึงเป็นอย่างยิ่ง หวนนึกถึงขอบเขตพลังอันเป็นตำนานในแดนบรรพโกลาหล

บรรพโกลาหลวิวัฒน์ทุกสิ่ง รวมถึงกฎแห่งมหาเต๋าก็วิวัฒนาออกจากบรรพโกลาหลด้วย

และบรรพจารย์เต๋าแห่งโกลาหลนั้น คือผู้ริเริ่มแห่งบรรพโกลาหล ผู้ริเริ่มแห่งมหาเต๋า สามารถเพิกเฉยต่อกฎระเบียบทั้งปวง ทำทุกสิ่งได้ตามใจชอบ

ขอบเขตระดับนั้นอยู่เหนือจินตนาการ ทลายทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งมีชีวิตในแดนบรรพโกลาหลล้วนอยากสำเร็จขอบเขตบรรพจารย์เต๋า ทว่าในกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตตนใดก้าวถึงขอบเขตนี้!

มันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าวันหนึ่งมันจะได้เห็นการดำรงอยู่ระดับบรรพจารย์เต๋าโกลาหล!

มันตื่นเต้นมาก!

ต้องรู้ว่า แม้มันจะมาจากแดนบรรพโกลาหล แต่มันก็เป็นเพียงก้อนหินเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งในแดนบรรพโกลาหลเท่านั้น ไม่ถือว่าสลักสำคัญอันใดในแดนบรรพโกลาหล

แต่แล้วมันซึ่งต้อยต่ำเพียงนั้น กลับได้พบคนระดับบรรพจารย์เต๋าโกลาหล จะมิให้มันตื่นเต้นได้อย่างไร!?

‘ฮ่า ๆ ข้าคิดว่าร่วงหล่นลงจากแดนบรรพโกลาหลเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับข้า คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวาสนาสูงสุดของข้า!’

มันหัวเราะในใจอย่างอดไม่ได้

ครานั้น มันร่วงหล่นลงจากแดนบรรพโกลาหล ล่องลอยอยู่ในอวกาศ สุดท้ายตกลงไปในอาณาจักรอวี้ซวี จนมันคิดว่าเป็นเรื่องโชคร้ายที่สุด

ถึงอย่างไร มันก็ต้องแยกจากแดนบรรพโกลาหลอันสูงส่งวิเศษ

แต่แล้วบัดนี้ มันไม่เหลือความคิดเช่นนั้นแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ มันรู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่มันร่วงหล่นจากแดนบรรพโกลาหล!

มิฉะนั้น มันไฉนเลยจะได้อยู่ข้างกายบรรพจารย์เต๋าโกลาหลท่านหนึ่ง

เป็นไปมิได้เลย!

“เกิดเรื่องกับแดนบรรพโกลาหล ต้องเกิดเรื่องแน่ ๆ…”

มันคิดในใจเงียบ ๆ

ถึงแม้มันจะมิรู้ว่าเกิดเรื่องใดในแดนบรรพโกลาหล ทว่ามันนั้นรู้ดี เกิดเรื่องในแดนบรรพโกลาหลจริง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงจากเก่ามหาศาล

มิฉะนั้น มันคงไม่ร่วงหล่นลงจากแดนบรรพโกลาหล

รู้หรือไม่ สถานการณ์ในแดนบรรพโกลาหลนั้นพิเศษอย่างยิ่ง สิ่งมีชีวิตภายในนั้นทุกตน แม้กระทั่งผู้เปี่ยมอำนาจโกลาหลยังไม่อาจแยกตัวจากแดนบรรพโกลาหล แดนบรรพโกลาหลนั้นราวกับไม่มีชายแดน ไม่ว่าเดินอย่างไรก็ไม่อาจเดินออกจากแดนบรรพโกลาหลได้

ทว่ามันกลับร่วงหล่นจากแดนบรรพโกลาหล มันยังไม่รู้เลยว่าตนทำได้อย่างไร ครานั้น มีพายุพลังซัดสาดตัวมัน จากนั้น มันร่วงหล่นลงจากแดนบรรพโกลาหล ล่องลอยไปเรื่อยในอวกาศ

บ่งบอกว่าแดนบรรพโกลาหลเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ไม่เหมือนเก่าอีกต่อไป!

“หลังจากนั้น ทุกคนเข้าออกได้ตามอำเภอใจหมดเลยใช่หรือไม่!?”

มันคิดอย่างอดมิได้ รู้สึกว่าแดนบรรพโกลาหลในภายหน้าคงทลายกฎที่ไม่อาจเข้าออกได้สำเร็จ กลายเป็นดินแดน ‘อิสระ’ เข้าออกได้อย่างเสรี

ทว่าเรื่องเหล่านี้สำหรับมันแล้วมิได้สำคัญอีกต่อไป

มันไม่สนว่าแดนบรรพโกลาหลกลายเป็นดินแดน ‘อิสระ’ แล้วหรือไม่ สิ่งมีชีวิตสามารถเข้าออกได้ตามใจหรือไม่ ถึงอย่างไรมันก็ไม่ไปไหนแล้ว มันขออยู่ในลานเล็กแห่งนี้ต่อ ขอติดตามอยู่ข้างกายบรรพจารย์เต๋าโกลาหลตลอดไป!

‘ฮ่าฮ่า ไม่แน่ว่าวันหน้าข้าอาจได้เป็นผู้เปี่ยมอำนาจโกลาหลด้วยก็ได้!’

มันคิดในใจอย่างหวานชื่น รู้สึกอนาคตของมันช่างสวยงาม การได้เป็นผู้เปี่ยมอำนาจโกลาหลใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ขณะเดียวกัน หลี่จิ่วเต้านวดแป้งเสร็จสิ้น กฎระเบียบดึกดำบรรพ์ในฟ้าดินถูกเขานวดเข้าไปในแป้งทั้งหมด

แม้พวกหลิงอินจะไม่รู้ว่า สิ่งเหล่านี้คือกฎระเบียบดึกดำบรรพ์ที่สุดในฟ้าดิน กระนั้นพวกเขารู้ดีว่ากฎระเบียบเหล่านี้วิเศษสูงส่งเพียงใด ราเม็งที่คุณชายต้มในคราวนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน คงต้องมหัศจรรย์อย่างที่สุด!

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่า หลังพวกเขาได้กินราเม็งซึ่งผสมไปด้วยกฎระเบียบสูงส่งเช่นนี้แล้วจะได้ประโยชน์ขนาดไหน!

ทว่าเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลยคือ พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหันต์ บอกลาตัวตนของพวกเขาในอดีตอย่างสิ้นเชิง!

หลังนวดแป้งเสร็จแล้ว ต่อมาคือการหมัก แป้งที่ผ่านการหมักจะเด้งและอร่อยยิ่งขึ้น และดึงเส้นบะหมี่ที่มีขนาดเท่ากันได้ง่ายยิ่งขึ้น

ช่วงหมักแป้ง หลี่จิ่วเต้ามิได้อยู่ว่าง ๆ เขาเปิด ‘ตู้เย็น’ หยิบเนื้ออสูรร้ายออกมา เริ่มปรุงเป็นเนื้อพะโล้

จะเห็นได้ว่า ยังมีเนื้อเหลือใน ‘ตู้เย็น’ อีกมาก ก่อนนี้พวกอ้ายฉานล่าอสูรร้ายกลับมาได้ไม่น้อย เหลืออีกมหาศาล

ราเม็งหนึ่งถ้วยนั้น เส้นบะหมี่สำคัญ หมูเคี่ยวก็สำคัญเช่นกัน วิถีมีดของหลี่จิ่วเต้าลื่นไหลดุจสายน้ำ ไม่นานนักก็หั่นเนื้ออสูร้ายชิ้นใหญ่เป็นเนื้อลูกเต๋าในขนาดเท่ากัน

จากนั้นเขาทำการตุ๋นเนื้อ

‘การได้ชมคุณชายทำอาหารก็เป็นวาสนาการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน!’

พี่ชายเสี่ยวหยาคิดในใจอย่างอดไม่ได้

เมื่อครู่คราวคุณชายหั่นเนื้อ จังหวะแห่งเต๋าก่อเกิด แฝงไว้ด้วยปรมัตถ์วิถีมีดเกินหยั่ง เขาไม่เคลือบแคลงเลยว่า หากตรัสรู้จากสิ่งนี้ จนรู้แจ้งถึงวิถีมีด ย่อมต้องบดขยี้วิถีมีดขั้นเซียนได้อย่างง่ายดายแน่!

เขาอุทานด้วยความตะลึงไม่หยุดหย่อน นี่หรือคือขอบเขตพลังของคุณชาย?

ต่อให้คุณชายมิได้ตั้งใจแสดงวิถีมีด กระนั้นยามเขาตวัดอีโต้ ยังมีจังหวะแห่งเต๋าซึ่งก่อเกิดขึ้นเอง และปรมัตภ์แห่งวิถีมีดแผ่ออกมา

หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง กลิ่นหอมของเนื้อโชยชายออกจากห้องครัว ตลบอบอวลไปทั่วลานเล็ก

พี่ชายเสี่ยวหยากลืนน้ำลายอย่างอดไม่ไหว หลิงอิน ลั่วสุ่ย เสี่ยวหยาก็เช่นกัน สามารถได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของพวกนาง

แม้ว่าหลิงอิน ลั่วสุ่ย และเสี่ยวหยามิได้เพิ่งเคยได้กลิ่นหอมเนื้อตุ๋นครั้งแรก ซ้ำยังเคยกินอยู่หลายหน กระนั้นพวกนางก็ยังเป็นเหมือนคราวแรก ดื่มดำไปในกลิ่นหอมของเนื้อในพริบตา ความตะกละถูกกระตุ้นออกมาอย่างสิ้นเชิง

มอ~

ภายในลานเล็กข้างเคียง ลูกวัวน้อยส่งเสียงร้อง น้ำลายหยดลงจากปากที่อ้ากว้างลงบนพื้น เปียกชุ่มไปแถบใหญ่

“ท่านแม่ เหตุใดพวกเราต้องเกิดมากินหญ้าด้วย เหตุใดถึงไม่อาจเกิดมากินเนื้อ! ข้าก็อยากกินเนื้อ!”

ลูกวัวน้อยอยากกินถึงขีดสุด หากพวกมันเกิดมากินเนื้อได้ คุณชายคงไม่เอาแต่ป้อนหญ้าให้พวกมัน มันคงได้กินเนื้อที่คุณชายตุ๋น

ถึงแม้หญ้าที่คุณชายให้พวกมันกินนั้นวิเศษอย่างยิ่ง รสชาติเยี่ยมยอด ทว่าสิ่งที่ไม่อาจครอบครองย่อมสะกิดใจอยู่เสมอ ทุกครั้งที่คุณชายเริ่มตุ๋นเนื้อ มันรู้สึกอยากกินสักชิ้นอย่างยิ่งยวด

“ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน! เหตุใดพวกเราถึงมิใช่สัตว์กินเนื้อ!”

แม่ของลูกวัวน้อยอยากกินมากเช่นกัน น้ำลายหยดลงจากปากเหมือนกับมัน

บุ๋งบุ๋ง~

ภายในบ่อน้ำ เนตรของมัจฉาสัตมายากวาดมองปลาตัวอื่นอย่างเจ้าเล่ห์ ปลาเหล่านั้นกลัวจนหลบไปอยู่ในมุมหนึ่งของบ่อน้ำ อยู่ให้ห่างจากมัจฉาสัตมายา

สุดท้าย เนตรมรกตของมัจฉาสัตมายาจับจ้องอยู่ที่เต่าชรา จนเต่าชราขนลุกขนพอง

เต่าชรากางกรงเล็บเต่าออกไป ตบ ‘เพียะ’ เข้าที่หัวของมัจฉาสัตมายา สบถก่นด่า “เจ้าคงมิใช่ว่าอยากกินข้ากระมัง!?”

เนตรปลามรกตเล็ก ๆ นั่นราวกับอยากจะกลืนกินมันเข้าไปทั้งเป็น

“ขออภัย กลั้นมิไหวจริง ๆ อยากกินเนื้อขึ้นมา”

มัจฉาสัตมายารีบขอโทษขอโพย กลิ่นหอมของเนื้อทำให้มันอยากกินเนื้อ อยากตุ๋นปลาตัวอื่นรวมถึงเต่าชราในบ่อให้หมด!

ผ่านไปอีกระยะ กลิ่นหอมของเนื้อทวีคูณ รุนแรงยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าใกล้สุกแล้ว หลี่จิ่วเต้าหันมองแป้ง พบว่าแป้งก็หมักได้ที่แล้ว

เขาตั้งหม้อต้มน้ำ ก่อนจะเริ่มนวดแป้งอีกครั้ง หลังนวดแป้งเสร็จ เขาเริ่มยืดแป้ง ดึงแป้งที่เป็นก้อนให้กลายเป็นเส้นบะหมี่

เริ่มแรก บะหมี่มีเส้นใหญ่อย่างยิ่ง ทว่าหลังจากหลี่จิ่วเต้ายืดเส้นดึงเส้นไปเรื่อย ๆ บะหมี่เริ่มมีเส้นเล็กลง

หลังน้ำเดือด หลี่จิ่วเต้าโยนเส้นบะหมี่ที่ยืดเสร็จแล้วลงไปในหม้อ เพื่อทำการต้ม

เนื้อพะโล้ก็ตุ๋นเสร็จแล้วเช่นกัน

หลี่จิ่วเต้าตักเส้นบะหมี่เข้าไปในถ้วย แล้วราดด้วยเนื้อพะโล้ ทั้งยังตักเนื้อช้อนใหญ่ราดลงบนบะหมี่อีกด้วย

เขาจำได้ดีว่า เมื่อคราวกินราเม็งที่ดาวเคราะห์สีฟ้า เชาต้องหวังให้ทางร้านให้เนื้อเขาเยอะ ๆ ทุกครั้งไป แต่ทุกครั้งต้องจบลงด้วยความผิดหวัง ไม่เคยได้เนื้อเยอะเลย!

บัดนี้ เขาปรุงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ต้องใส่เนื้อให้มาก!

“ลองชิมรสชาติดูว่าเป็นอย่างไร!”

หลังหลี่จิ่วเต้ายกราเม็งมาที่โต๊ะ ก็แบ่งให้คนละหนึ่งถ้วย ก่อนจะเอ่ยยิ้ม ๆ

“ได้!”

พวกลั่วสุ่ยเริ่มกิน แต่ละคนอร่อยไปกับมันอย่างยิ่งยวด เส้นบะหมี่นุ่มเด้งน่าเคี้ยว ชิ้นเนื้อกินแล้วหอมกรุ่นมิรู้วาย ลำพังคำว่าอร่อยพอให้นิยามที่ไหน!

บะหมี่แต่ละเส้นล้วนมีกฎระเบียบดึกดำบรรพ์แฝงไว้ หลังลงไปถึงท้อง พวกเขารู้สึกได้ว่ากฎระเบียบดึกดำบรรพ์นี้หลอมละลายเข้าไปในร่างพวกเขาอย่างสมบูรณ์!

พวกเขามีร่างระเบียบกันแล้ว!

ใช่แล้ว ร่างระเบียบ!

ตัวพวกเขาเองคือกฎระเบียบ ซ้ำยังเป็นกฎระเบียบสูงส่งวิเศษที่สุด พลังและกฎระเบียบในปฐพีนี้ล้วนเป็นของพวกเขา รับคำสั่งจากพวกเขา!

สำหรับพวกเขา นี่คือผลประโยชน์สูงสุด!

พวกเขาได้บอกลาอดีตอย่างแท้จริง ยามนี้ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วยร่างระเบียบดึกดำบรรพ์นี้ ต่อให้พวกเขาไม่บำเพ็ญวิชาใด ๆ ก็สามารถดูดกลืนสสารฝึกฝนในปฐพีนี้อย่างรวดเร็ว เสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวพวกเขา รวมถึงขอบเขตพลัง!

หากพวกเขารีดเร้นวิชา ย่อมดูดกลืนได้เร็วยิ่งขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่ต้องกลัว ‘ตัวแตก’!

ร่างระเบียบดึกดำบรรพ์ช่วยให้พวกเขากลั่นสสารฝึกฝนที่ดูดกลืนเข้าร่างกายได้อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนให้กลายเป็นพลังของตัวพวกเขาเอง!

นอกจากนี้ ร่างระเบียบดึกดำบรรพ์นี้ยังช่วยให้พวกเขาได้เปรียบระหว่างต่อสู้กับศัตรู!

พวกเขาสามารถออกคำสั่งบงการกฎระเบียบในฟ้าดินนี้ วาจาเดียวตัดการเชื่อมต่อระหว่างศัตรูและกฎระเบียบ สำหรับศัตรู ถือเป็นความวิบัติอย่างไม่ต้องสงสัย

ตัดการจากกฎระเบียบ หมายความว่าพลังอาคมของศัตรูถูกตัดขาดไปด้วย ไม่อาจใช้พลังอาคมได้อีก!

“คุณชายก็คือคุณชาย!”

“นี่เป็นเพียงราเม็งถ้วยหนึ่งเท่านั้น!”

พวกเขาต่างสะท้านใจเหลือแสน ราเม็งถ้วยเดียว คุณชายก็มอบความสามารถที่แทบจะไร้เทียมทานแก่พวกเขา ช่างน่าเหลือเชื่อเป็นที่สุด!

บุ๋งบุ๋ง~

“ขอข้ากินด้วยสักคำได้หรือไม่ แค่ซดน้ำสักคำก็ยังดี!”

มัจฉาสัตมายาอยากกินจนน้ำลายไหลไม่หยุด มองตาละห้อย นึกในใจว่าเมื่อใดมันจะได้ซดราเม็งบ้างเล่า!

ต่อให้เป็นราเม็งเพียงเส้นเดียว หรือน้ำเพียงคำเดียว มันก็พอใจแล้ว!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

  1. ee พูดว่า:

    ตอนที่ 565-566มีไหมคะ เห็นแต่567

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท