ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 583 ปลิวว่อน (กลาง)

ตอนที่ 583 ปลิวว่อน (กลาง)

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​อวี​้​เกอ​เป็นเรื่อง​ยาก​ ​ยาก​ตรงไหน​หรือ​”

ก็เพราะว่า​อวี​้​เกอ​เป็น​บุตร​ของ​อนุภรรยา​ที่มา​จาก​สาวใช้​

แต่​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​จะ​กล้า​พูด​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่ได้​อยาก​ฟัง​คำตอบ​ของ​นาง​ ​เขา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ทางออก​ของ​เขา​นั้น​ยากลำบาก​ใช่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า

คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​ที่จะ​ตรงประเด็น

บุตรชาย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​พลอย​ได้รับ​ร่มเงา​บารมี​ตาม​ไป​ด้วย​ ​แต่​มัน​ก็​มี​โควต้า​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยัง​มี​ภรรยา​เอก​ที่​อายุ​ยังน้อย​อย่าง​ตน​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​ต่อไป​นาง​ต้อง​เพิ่มพูน​ลูกหลาน​ให้​สกุล​สวี​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​สำหรับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​ ​โควต้า​นั้น​ก็​จะ​ยิ่ง​สั่นคลอน​ลดลง​ตาม​จำนวน​น้องๆ​ ​ที่จะ​เกิด​มา

มีคำ​พูด​โบราญ​ที่ว่า​ ​สตรี​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​ก็​เพื่อให้​ตัวเอง​มีที​่​พึ่ง​ ​หาก​เป็น​ตระกูล​ที่​ยากจน​ ​เงิน​เพียง​สิบ​ตำลึง​ก็​สามารถ​อยู่​ได้​ถึง​สอง​สาม​ปี​ ​แต่​สวี​ซื่อ​อวี​้​เกิด​ใน​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​แค่​เรื่อง​ต้อนรับ​แขก​ไป​ใคร​มา​ ​ปี​หนึ่ง​ก็​ต้อง​ใช้​เงิน​ตั้ง​สอง​สาม​ร้อย​ตำลึง​แล้ว​ ​คนที​่​แม้แต่​เสื้อผ้า​และ​อาหารการกิน​ยัง​รับประกัน​ไม่ได้​ ​จะ​มี​ใคร​ยอมให้​บุตรสาว​แต่งงาน​กับ​เขา​กัน​เล่า

“​ถ้าหาก​อวี​้​เกอ​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ผ่าน​ ​ก็​ไม่​นับว่า​เป็นเรื่อง​ใหญ่​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เห็นด้วย​ ​เขา​ก็​พูด​ต่อ​ ​“​แต่​อย่างน้อย​เขา​ต้อง​ไม่​คุกเข่า​อ้อนวอน​ขอร้อง​ตอน​ขึ้นศาล​ ​ไม่ต้อง​ถูก​บังคับใช้​แรงงาน​ ​มีเงิน​จ่าย​ค่าภาษี​ที่ดิน​ ​และ​ด้วย​อำนาจ​บารมี​ของ​สกุล​เรา​ ​จะ​เป็น​ขุนนาง​ทูต​ตำแหน่ง​เล็ก​ๆ​ ​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​อะไร​ ​แล้ว​เขา​ยัง​เป็น​ลูก​คนโต​ของ​อนุภรรยา​ ​แต่งงาน​แล้วยัง​สามารถ​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ได้​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​หัวเราะ​ ​“​ข้า​จึง​บอกว่า​ ​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​ก็​รอ​เลือก​ลูกสะใภ้​เถิด​!​”

“​ท่าน​โหว​นี่​จริงๆ​ ​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บ่น​ขึ้น​มา​ ​“​พูด​ให้​ข้า​ตกใจ​ ​ข้า​คิด​ว่า​ท่าน​โหว​มอง​แม่นาง​สกุล​ไหน​ไว้​แล้ว​เสียอีก​ ​แต่กลับ​รอ​ให้​อวี​้​เกอ​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ผ่าน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​สู่ขอ​ภรรยา​ ​พูด​ตั้ง​นาน​ ​สุดท้าย​ก็​ไม่มี​สาระสำคัญ​อะไร​!​”

“​ไม่ต้อง​รีบ​หรอก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​ปลอบใจ​นาง​ ​“​โต​ขึ้น​แล้ว​เขา​ก็​จะ​รู้​เอง​ว่า​ควร​ใช้ชีวิต​อย่างไร​ ​ถึงแม้​รีบ​แต่งงาน​แต่​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​ล้วนแต่​ยัง​เป็น​เด็ก​ ​บางครั้ง​เรื่อง​ที่​อดทน​ได้​ ​ยอม​กันได​้​ ​แต่กลับ​ทำให้​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​สุดท้าย​ก็​เกิด​ปม​ใน​ใจ​ต่อกัน​ ​ทำให้​ความรัก​จืดจาง​ ​กลายเป็น​ความเคียดแค้น​เสียมา​กก​ว่า​”

นั่น​คือ​ความรู้สึก​ส่วนตัว​ของ​เขา​เอง​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​อยาก​ถาม​เขา​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​ความเศร้า​โศก​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ ​นาง​จึง​กลืน​ประโยค​นั้น​ลง​ไป

นาง​เปลี่ยนไป​พูดถึง​เรื่อง​ที่​น่ายินดี​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่รู้​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​สอง​วันก่อน​ข้า​และ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จัด​เสื้อผ้า​ที่​จิ​่น​เกอ​เคย​ใส่​ตอน​เด็ก​ส่ง​ไป​ที่​เมือง​ซัง​โจว​ตั้ง​หลาย​ชุด​ ​คนที​่​ไป​ส่งกลับ​มาบ​อก​ว่า​ ​ตอนนี้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สบายดี​ ​แม่​สามี​กลัว​ว่านาง​จะ​หวาดกลัว​ ​จึง​เชิญ​หลานสาว​สกุล​เดิมที​่​พูดจา​เป็น​ ​แล้วยัง​เคย​คลอด​บุตรชาย​มา​แล้ว​สี่​คน​มา​เป็น​แขก​ที่​จวน​ ​คอย​พูดคุย​เป็นเพื่อน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ดูแล​อาหารการกิน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​จะ​ถึง​วันที่​สิบห้า​เดือน​แปด​แล้ว​ ​ข้า​อยาก​เขียนจดหมาย​ขอบคุณ​ ​ให้​คนที​่​นำ​ของขวัญ​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์​ไป​ส่ง​ที่​เมือง​ซัง​โจว​นำ​ไป​ด้วย​ ​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

“​ไม่จำเป็น​ต้อง​เขียนจดหมาย​ขอบคุณ​เพราะ​เรื่อง​นี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลังเล​ ​“​นาง​เป็น​แม่​สามี​ ​อยาก​จะ​ทำตัว​เช่นไร​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เรา​ก็​พูด​อะไร​ไม่ได้​!​”

“​ไอ​๊​หยา​ ​ก็​แค่​ช่วย​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอาใจ​แม่​สามี​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่สน​ใจ​ ​“​ใคร​จะ​ไม่​อยาก​ฟัง​คำพูด​ที่​ไพเราะ​กัน​เล่า​ ​เรา​ทำ​เช่นนี้​ ​นาง​จะ​ได้​มีหน้ามีตา​ ​หาก​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทำ​อะไร​ผิดพลาด​ ​นาง​ก็​จะ​ได้​เห็นใจ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​อีก​สอง​เดือน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​จะ​คลอด​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​บุตรชาย​หรือว่า​บุตรสาว​ ​ผู้ดูแล​หญิง​ที่​ข้า​ให้​ไป​ส่ง​ของ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับมา​บอกว่า​ ​ดูท่า​ที​แล้ว​ ​น่าจะเป็น​บุตรชาย​เจ้าค่ะ​ ​แต่​ข้า​คิด​ว่านา​งอยาก​ได้เงิน​รางวัล​มากกว่า​ ​เพราะ​ตอนที่​ข้า​ตั้งครรภ์​จิ​่น​เกอ​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​บอกว่า​เป็น​บุตรสาว​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​นาง​บ่น​ ​เขา​ก็​ขยับ​หน้า​เข้าไป​ใกล้​นาง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​แล้ว​เจ้า​เล่า​”

“​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​นำ​เสื้อผ้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ส่ง​ไป​หมด​ ​ถึง​ตอนนั้น​บุตรชาย​ของ​เรา​จะ​สวมใส่​อะไร​”

“​จิ​่น​เกอ​โต​แล้ว​ ​สวม​เสื้อผ้า​พวก​นั้น​ไม่ได้​แล้ว​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​เข้าใจ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​หมายถึง​อะไร​ ​นาง​หน้าแดง​แล้ว​หยุดชะงัก​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อย่าง​เขินอาย​ ​“​ทุกคน​ล้วนแต่​บอกว่า​จิ​่น​เกอ​มี​วาสนา​ ​ล้วนแต่​บอกว่า​ที่​ไท่​จื่อ​เฟย​ให้กำเนิด​บุตรชายคนโต​ได้​อย่างราบรื่น​ ​ล้วนแต่​เป็น​เพราะ​วาสนา​ของ​เขา​…​ข้า​จึง​อยาก​ทำให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สบายใจ​…​”

“​เป็น​เพราะ​วาสนา​ของ​จิ​่น​เกอ​?​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​แปลกใจ​ ​“​ใคร​เป็น​คนพูด​กัน​”

“​ท่าน​ไม่รู้​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​นาง​ปิดปาก​ยิ้ม​ ​“​สอง​วันก่อน​ข้า​ไป​เยี่ยม​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ ​เจอ​กับ​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ของ​จง​ซาน​โหว​ ​พอ​เห็น​จิ​่น​เกอ​ ​สายตา​ของ​นาง​ก็​เป็นประกาย​ ​จะ​เชิญ​ข้า​ไป​เป็น​แขก​ที่​เรือน​ของ​นาง​ให้​ได้​ ​บอกว่า​ลูกสะใภ้​ของ​นาง​มีลูก​คนที​่​สี่​แล้ว​ ​ล้วนแต่​เป็น​เด็กผู้หญิง​ ​อยาก​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​นั่ง​บน​เตียง​ลูกสะใภ้​นาง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ข้า​บอกว่า​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ส่ง​คน​มา​เชิญ​ข้า​ไป​ที่​จวน​องค์​หญิง​ ​เกรง​ว่า​ข้า​คงจะ​ปลีกตัว​ออกมา​ไม่ได้​ ​แต่​นาง​ยังคง​ไม่เชื่อ​ ​ไป​ส่ง​ข้า​ถึง​จวน​องค์​หญิง​ด้วยตัวเอง​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ข้า​คงจะ​ไม่​ไปหา​พี่​หญิง​โจว​กะทันหัน​เช่นนั้น​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​เอ่ย​หยอกล้อ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​นั่ง​บน​เตียง​ของ​นาง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ดีกว่า​!​”

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ตี​ไหล่เขา​เบา​ๆ​ ​“​ชอบ​แกล้ง​คนอื่น​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หัวเราะ

“​ข้า​พูด​เรื่องจริง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​นาง​ ​“​เจ้า​บอก​ข้ามา​ตามตรง​ ​ว่า​เจ้า​ส่ง​เสื้อผ้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ไป​ให้​คนอื่น​แล้ว​กี่​ชุด​…​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​ถาม​อะไร​กัน​เจ้า​คะ​…​ ​ส่ง​ไป​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สอง​สาม​ชุด​ ​ส่ง​ไป​ให้​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​สอง​ชุด​ ​แล้วก็​ส่ง​ไป​ให้​องค์​หญิง​หย่ง​อาน​สอง​ชุด​…​”

พวกเขา​สอง​คนพูด​คุย​หัวเราะ​กัน​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลืม​เรื่อง​ของ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ไป

*****

เมื่อถึง​เดือน​แปด​ ​เยี​่​ยน​จิง​ก็​เริ่ม​มี​ฝนตก​ปรอยๆ

สือ​อี​เหนียง​มองดู​เสื้อผ้า​ไหม​สีน้ำเงิน​ตัวใหม่​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​โชคดี​ที่​ท่าน​พ่อ​ของ​เจ้า​เตือน​ข้า​ ​บอก​ให้​นำ​ตะกร้า​เตรียม​สอบ​และ​กระดาษ​สอบ​ของ​เจ้า​ออกมา​ตาก​เมื่อ​เดือน​หก​ ​ไม่เช่นนั้น​คงจะ​แย่​!​”​ ​พูด​ต่อไป​อีกว่า​ ​“​ท่าน​โหว​บอกว่า​ ​ตะกร้า​เตรียม​สอบ​และ​กระดาษ​สอบ​พวก​นี้​ทำให้​เจ้า​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​และ​ระดับ​เมืองหลวง​ ​ต่อไป​พวก​มัน​ก็​จะ​ทำให้​เจ้า​สอบผ่าน​การ​สอบ​เซียง​ซื่อ​และ​การ​สอบ​ฮุ่ย​ซื่อ​ด้วย​”

ใกล้​จะ​สอบ​แล้ว​ ​นาง​อยาก​พูด​ให้กำลังใจ​สวี​ซื่อ​อวี​้​

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​แต่​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​แววตา​ของ​เขา​เป็นประกาย

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่​ค่อย​ชิน​กับ​การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนี้​ต่อหน้า​บุตรชาย​ตัวเอง​ ​เขา​กระแอม​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูด​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​“​เอาล่ะ​ ​นี่​ก็​สาย​แล้ว​ ​คารวะ​ท่าน​แม่​เสร็จ​เจ้า​ก็​ออก​ไป​ได้​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ผู้คน​แห่​กัน​มา​ ​ถนน​ติดขัด​ ​ฝน​ก็​ตก​ ​ยัง​ต้อง​เดิน​ไป​สนาม​สอบ​อีก​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​“​ไป​ส่ง​พี่ชาย​ของ​เจ้าที่​สนาม​สอบ​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​เถิด​!​”

สอง​พี่น้อง​โค้ง​คำนับ​แล้ว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​อย่าง​เชื่อฟัง​

จิ​่น​เกอ​วิ่ง​เข้าไป

เขา​จับมือ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​เบิกตา​กว้าง​ ​“​ข้า​ไป​ด้วย​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​หัวเราะ

เขา​โน้มตัว​ลง​แล้ว​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​รอ​ให้​เจ้า​โตก​ว่านี​้​แล้ว​ค่อย​ไป​!​”

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​อุ้ม​เขา​ ​“​พี่ชาย​ของ​เจ้า​มีธุระ​ ​อย่า​รบกวน​เขา​เลย​ ​ประเดี๋ยว​แม่​เล่านิทาน​ให้​เจ้า​ฟัง​”

จิ​่น​เกอ​ถึง​วัย​ที่​ฟัง​นิทาน​แล้ว​ ​เขา​เหมือนกับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​เล่า​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​จน​ปากเปียกปากแฉะ​ก็​ไม่ยอม​หยุด

ถึงแม้​ไม่​ดึงดัน​ที่จะ​ไป​ด้วย​ ​แต่​จิ​่น​เกอ​ก็​เบะ​ปาก​ ​ทำท่า​ที​ไม่พอใจ

สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ทำให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่สบายใจ​ ​จึง​รีบเร่ง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ให้​ออก​ไป​ ​“​ข้า​ให้​จู๋​เซียง​พา​พวก​เจ้า​ไปหา​ท่าน​ย่า​ดีกว่า​ ​ท่าน​ย่า​เอง​ก็​เป็นห่วง​เรื่อง​การ​สอบ​ของ​เจ้า​ ​ตอนนี้​ท่าน​น่าจะ​ตื่น​แล้ว​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​แต่กลับ​ไม่​เดิน​ออก​ไป​ทันที​ ​เขา​ถาม​จิ​่น​เกอ​ ​“​เจ้า​ชอบ​ทาน​อะไร​ ​ประเดี๋ยว​ขากลับ​ข้า​จะ​ซื้อ​มา​ฝาก​เจ้า​!​”

จิ​่น​เกอ​ไม่เคย​ทาน​ของ​ข้างนอก​มาก​่อน​ ​เขา​ไม่​เหมือน​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตอน​เด็ก​ ​แค่​ลูกกวาด​เม็ด​เดียว​ก็​ทาน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​ไม่เคย​เลือก​ทาน​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่เคย​เจาะจง​ว่า​จะ​ทาน​อะไร​

เขา​เอียง​หัว​ครุ่นคิด​อยู่​ตั้ง​นาน​ ​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทาน​ปลา​กรอบ​ขอรับ​!​”

ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ

อาหารเช้า​วันนี้​ก็​มี​ปลา​กรอบ

หลังจาก​หัวเราะ​เสร็จ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​พูด​อย่างจริงจัง​ว่า​ ​“​หอ​ชุน​ซีน​่า​จะ​มี​ปลา​กรอบ​ ​ข้า​ออกมา​จาก​สนาม​สอบ​แล้ว​จะ​ไป​ซื้อ​ให้​เจ้า​!​”

จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​แล้ว​ซุก​ตัว​เข้าไป​ใน​อ้อมอก​ของ​สือ​อี​เหนียง

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เจ้า​ตั้งใจ​สอบ​เถิด​ ​บอก​ให้​บ่าว​รับใช้​ไป​ซื้อ​ปลา​กรอบ​มา​ให้​เขา​ก็ได้​”

พวกเขา​สอง​พ่อ​ลูก​ไม่ได้​จะ​โกหก​จิ​่น​เกอ

สือ​อี​เหนียง​พลัน​โล่งใจ

สิ่ง​ที่นา​งก​ลัว​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ผู้ใหญ่​เห็น​ว่า​เด็ก​ยัง​เล็ก​ ​คิด​ว่า​เด็ก​ไม่รู้​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​ให้​คำสัญญา​สุ่มสี่สุ่มห้า​ ​สุดท้าย​ก็​ไม่​ทำตาม​สัญญา​ ​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ ​เด็ก​จะ​ไม่มี​ความไว้วางใจ​ต่อ​ผู้ใหญ่

หลังจาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบ​เสร็จ​ ​เขา​ก็​ซื้อ​ปลา​กรอบ​กลับมา​ให้​จิ​่น​เกอ​จริงๆ​

แต่​น่าเสียดาย​ที่​จิ​่น​เกอ​นอนหลับ​ไป​แล้ว

สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​“​เดิมที​จะ​กลับมา​เร็ว​กว่านี​้​ ​แต่ว่า​พี่ใหญ่​ฟัง​นั้น​รอ​ข้า​อยู่​นอก​สนาม​สอบ​ ​ลาก​ข้า​ไป​ดื่ม​ชาด​้วย​ขอรับ​…​แล้วยัง​มีส​หาย​ของ​เขา​ ​ข้า​จึง​บอก​ให้​ซือ​จู๋​กลับมา​รายงาน​…​เดิมที​อยาก​มอบให้​เขา​ด้วยตัวเอง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​คุย​กัน​นาน​ขนาด​นี้​…​”

พอ​จะ​จินตนาการ​ตาม​ได้

เหมือนกับ​การ​รวมตัวกัน​ใน​วันที่​สอง​หลังจาก​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​เสร็จ​ ​ไม่ว่า​จะ​สอบ​ได้ดี​หรือว่า​ไม่ดี​ก็​ล้วนแต่​รู้สึก​โล่งใจ​ ​สำหรับ​จะ​สอบ​ติด​หรือว่า​ซ้ำชั้น​ ​นั่น​คือ​เรื่อง​ของ​อีก​สอง​วันข้างหน้า

นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ข้าม​อบ​ให้​เขา​พรุ่งนี้​ก็ได้​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​เอ่ย​ขอโทษ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นั่ง​รอส​วี​ซื่อ​อวี​้​กลับมา​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เขา​สนิทสนม​กับ​ฟัง​ทั่นฮ​วาตั​้ง​แต่​เมื่อไร​กัน​”

ก่อนหน้านี้​บอก​ให้​คน​เฝ้า​อยู่​หน้า​ประตู​ ​หาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับมา​แล้วก็​ให้​เขา​เข้ามา​คารวะ​ ​แต่​เจอ​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​เขา​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ออกมา

“​อวี​้​เกอ​ก็​สนิทสนม​กับ​ฟัง​ทั่นฮ​วาตั​้ง​นาน​แล้ว​นี่​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​แต่​แค่​เรื่อง​ภรรยา​ของ​ฉิน​เกอ​ ​พวกเขา​มี​จุดยืน​ไม่​เหมือนกัน​ ​ในเมื่อ​ตอนนี้​สอง​สกุล​กลับมา​คืนดีกัน​แล้ว​ ​พวกเขา​จึง​ยิ่ง​สนิทสนม​กัน​มากขึ้น​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​แล้ว​ไม่​ถาม​อะไร​อีก

จิ​่น​เกอ​ตื่นขึ้น​ใน​วัน​ต่อมา​ ​เห็น​ถุง​ปลา​กรอบ​วาง​อยู่​บน​หัว​เตียง​ ​เขา​ก็​งุนงง

“​คุณชาย​น้อย​สอง​ซื้อ​มาจาก​หอ​ชุน​ซี​ ​ซื้อ​มา​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​”​ ​แม่นม​กู้​รีบ​พูด​ ​“​เขา​นำมา​ให้​เมื่อคืน​แต่​ท่าน​นอนหลับ​ไป​แล้ว​”

จิ​่น​เกอ​ดีใจ​ ​ถือ​ปลา​กรอบ​วิ่ง​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​พี่​สอง​ซื้อ​ปลา​กรอบ​ให้​ข้า​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​เขา​ ​“​ประเดี๋ยว​อย่า​ลืม​ขอบคุณ​พี่​สอง​ของ​เจ้า​!​”

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​เจอ​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เขา​ก็​เอ่ย​ขอบคุณ​อย่าง​รู้ความ

“​ไม่ต้อง​เกรงใจ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​เขา​เบา​ๆ

มีสาว​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​สอง​ถาม​ว่า​คุณชาย​น้อย​สอง​มาคา​รวะ​ท่าน​หรือยัง​ ​หาก​คารวะ​แล้ว​ ​เชิญ​คุณชาย​น้อย​สอง​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​ประเดี๋ยว​เจ้าค่ะ​”

เพิ่งจะ​พูด​จบ​ก็​มีสาว​ใช้​อีก​คน​หนึ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​พี่​อวี​้​ป่าน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​มาถาม​ว่า​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​คารวะ​ท่าน​หรือยัง​ ​หาก​คารวะ​แล้ว​ ​เชิญ​คุณชาย​น้อย​สอง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ประเดี๋ยว​เจ้าค่ะ​!​”

เมื่อวาน​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับมา​ดึก​จน​เกินไป​ ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​จึง​ไม่ได้​รอ​เขา​

พวก​นาง​คงจะ​เป็นห่วง​เรื่อง​การ​สอบ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​มา

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​ราวกับ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​

นาง​ยิ้ม​แล้ว​บอก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​รีบ​ไป​เถิด​ ​อย่า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​และ​ท่าน​ป้า​สอง​รอนาน​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

ผ่าน​ไป​สอง​สาม​วัน​ก็​มี​ข่าว​มาจาก​ศาล​ว่าการ​ ​บอกว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบ​ได้​อันดับ​ที่​เก้า

เขา​กลายเป็น​ลูกศิษย์​ของ​ราชวงศ์​ต้า​โจว​ ​ไม่เพียงแต่​สามารถ​ไป​เล่าเรียน​ที่​สำนัก​ศึกษา​ ​ยัง​ได้รับ​ข้าว​หก​กระสอบ​ทุก​เดือน​อีกด้วย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท