รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 572 จอบเส็งเคร็ง รอโดนหลอมเป็นไม้กวนอุจจาระได้เลย!

บทที่ 572 จอบเส็งเคร็ง รอโดนหลอมเป็นไม้กวนอุจจาระได้เลย!

บทที่ 572 จอบเส็งเคร็ง รอโดนหลอมเป็นไม้กวนอุจจาระได้เลย!

ห้วงวารีลึกล้ำเยือกเย็นดั่งน้ำหมึก มองเพียงปราดเดียวก็คล้ายว่าจะถูกดูดกลืนวิญญาณเข้าไป เดิมทีที่นี่ไร้นาม ต่อมาถูกสิ่งมีชีวิตอาณาจักรม่อเยวียนยึดครอง ขนานนามว่าม่อเยวียน

อาณาจักรม่อเยวียน

หากกล่าวถึงอาณาจักรนี้ ย่อมมีสิ่งมีชีวิตมากมายคุ้นเคยเป็นอย่างดี นี่คือหนึ่งในอาณาจักรเก้าตอนบนมิใช่หรือ?

ทว่าแท้จริงแล้วมิใช่

อาณาจักรม่อเยวียนแห่งนี้มิใช่อาณาจักรม่อเยวียนซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรเก้าตอนบน แม้ว่าทั้งสองอาณาจักรพ้องชื่อกัน ทว่าความห่างชั้นนั้นใหญ่หลวงนัก

อาณาจักรม่อเยวียนในอาณาจักรเก้าตอนบนมิอาจเทียบเทียมอาณาจักรม่อเยวียนนี้ได้เลย!

อาณาจักรม่อเยวียนแห่งนี้แข็งแกร่งน่าพรั่นพรึงเฉกเช่นอาณาจักรแดนต้องห้าม มีกำลังรบขั้นเทียนตี้อยู่มากมาย ซ้ำยังมีกำลังรบเหนือขั้นเทียนตี้ขึ้นไปด้วย อาณาจักรม่อเยวียนในอาณาจักรเก้าตอนบนกล้าแกร่งได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

ทว่า หากไล่ย้อนกลับไป ทั้งสองอาณาจักรล้วนกำเนิดมาจากอาณาจักรเดียวกัน อาณาจักรม่อเยวียนแห่งนี้แตกย่อยออกไปจากอาณาจักรม่อเยวียนในอาณาจักรเก้าตอนบน

เพราะเส้นทางที่เลือกนั้นไม่เหมือนกัน อาณาจักรม่อเยวียนแห่งนี้ก้าวเดินบนเส้นทางผิดแผกบิดเบี้ยว เพื่อให้ได้มาซึ่งความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม และมีชีวิตอยู่ได้นานยิ่งขึ้น จึงยอมทอดทิ้งเส้นทางชอบธรรม

“ได้ยินว่า ห้วงวารีทมิฬในอาณาจักรม่อเยวียนแห่งอาณาจักรเก้าตอนบนนั้นถูกถมจนราบ พวกเขายังจะยืนกรานไม่รวมตัวกับเราอีกหรือ”

ผู้เฒ่าอมตะพึมพำเสียงเบา ได้ยินข่าวคราวมาบ้าง

“สุดท้ายก็ต้องมา พวกเราพัฒนาได้ไกลกว่าพวกเขามากนัก ทั้งยังสำเร็จอย่างสูงส่งบนเส้นทางที่บุกเบิกขึ้นมาใหม่ ช้าเร็วพวกเขาก็ต้องคุกเข่าขอร้องพวกเรา”

เขาเอ่ยต่อ

ตึง ตึง ตึง!

มีเสียงดังมาจากด้านเส้นทาง พลังผนึกกำลังหายไป ผู้เฒ่าอมตะอดยกยิ้มมุมปากมิได้ ราวกับได้เห็นสิ่งมีชีวิตภายในเส้นทางแล้ว

ช่วงเวลาที่ถูกผู้อื่นข่มเหงตามใจชอบ ในที่สุดก็จะจบลงแล้วในวันนี้ เขาได้รับข่าวมาว่า คราวนี้ บูรพาจารย์ผู้เปี่ยมอำนาจแห่งอาณาจักรม่อเยวียนเดินทางมายังที่นี่ด้วย ในอาณาจักรนี้ มิมีผู้ใดสามารถดูหมิ่นรังแกเขาได้อีก

“ลูกหมาเอ๋ยลูกหมา ใกล้ถึงคราวเจ้าได้เรียกพ่อทูนหัวแล้ว!”

รอยยิ้มแจ่มใสปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา ประหนึ่งว่าได้เห็นมีดมารคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเรียกเขาว่าพ่อทูนหัว เสียงแล้วเสียงเล่า

อัปยศอดสูยิ่งนัก เขาถูกศาสตราที่ตนสร้างขึ้นเองกำราบจนหมอบอยู่กับพื้น ร้องเรียกพ่อทูนหัวอย่างไร้ศักดิ์ศรี ช่างอกตรมยิ่งนัก

ฟึ่บ!

เวลานั้นเอง แสงสว่างลำหนึ่งพวยพุ่งเข้ามาจากฟากฟ้าไกล คลื่นพลังสยดสยองสั่นกระเพื่อม ราวกับอุกกาบาตถล่ม

“เป็นลูกหมาอย่างเจ้าจริง ๆ ด้วย!”

จอบเซียนมาถึง ทันได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นของผู้เฒ่าอมตะพอดี มันโมโหโทโส ระหว่างทางมันจามไม่หยุด เป็นเพราะผู้เฒ่าอมตะสบถก่นด่าเขาไม่หยุดจริง ๆ

จะให้มันทนได้เยี่ยงไร เหวี่ยงจอบเข้าไป จนผู้เฒ่าอมตะเลือดเนื้อเละเหลว ร่างระเบิดไปครึ่งท่อน โลหิตและเศษเนื้อปลิวว่อน

ผู้เฒ่าอมตะทุกข์ใจเป็นหนักหนา!

เห็น ๆ อยู่ว่ายอดฝีมืออาณาจักรม่อเยวียนใกล้มาถึงแล้ว เหตุใดดาบมารถึงมาถึงล่วงหน้าเสียได้!

มาช้ากว่านี้อีกสักแป๊บก็ยังดี!

เขาร่ำไห้ ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดเหลือแสน เขาลืมตัวเกินไป ลืมไปว่าไม่ว่าอย่างไร ดาบมารเล่มนี้ก็หลอมขึ้นโดยเขา การก่นด่าดาบมารจักทำให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างกับมัน

นี่อย่างไร มันดันเรียกดาบมารมาเสียได้!

ทรมานใจเกินไปแล้ว เขาเพิ่งเอ่ยว่ายุคสมัยแห่งความอัปยศกำลังจะสิ้นสุด ปรากฏว่ายังมิทันขาดคำ ความอัปยศก็เกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง

เขาอยากจะตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่ ทนอีกหน่อยมิได้หรือ รอให้ยอดฝีมืออาณาจักรม่อเยวียนรวมพลกับเขาแล้วค่อยด่ามิได้หรือ

บัดนี้สิดี เมื่อเผชิญกับดาบมาร เขาไม่มีกำลังต่อต้านแม้แต่น้อย ได้แต่ปล่อยให้ดาบมารทำตามอำเภอใจ

“ตาเฒ่า หนนี้เจ้าตายแน่! คราวก่อนข้ามิได้ฆ่าเจ้า ยอมไว้ชีวิตสักครา เดิมคิดว่าเจ้าจะสำนึกความผิด แก้ไขตนเอง หารู้ไม่ เจ้ากลับยิ่งเลวร้ายเป็นทวีคูณ!”

จอบเซียนจิตสังหารพลุ่งพล่าน หวดจอบเข้าไปไม่หยุดหย่อน ผู้เฒ่าอมตะถูกเขาทุบจนแหลกเหลว สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรม่อเยวียนตื่นตกใจกันหมด เจ้า…เจ้าจอบเล่มนี้เหตุใดถึงดุดันเยี่ยงนี้!?

อะไรกันนี่!

จอบก็เป็นศาสตราวุธได้หรือ

น่าประหลาดใจยิ่งนัก!

ตู้ม!

เวลานั้น เสียงระเบิดดังมาจากเส้นทาง ผนึกทลาย สิ่งมีชีวิตพลังปราณสยดสยองตนแล้วตนเล่าก้าวออกจากข้างใน

“บังอาจนัก!”

สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งคำรามกราดเกรี้ยว เสียงนั้นประหนึ่งอสนีบาต ทั่วทั้งนภากู่ร้องไม่หยุด กฎแห่งสวรรค์และโลกในอาณาจักรแห่งนี้ถูกเขาข่มลงได้ น่ากลัวยิ่งนัก

“ท่านบูรพาจารย์ช่วยข้าด้วย!”

ผู้เฒ่าอมตะร้องตะโกน เขายังไม่ตาย ทว่าเหลือเพียงวิญญาณ เหาะไปหาบูรพาจารย์อย่างรวดเร็ว

จากนั้น เขาหลอมกายเนื้อขึ้นมาใหม่ด้วยความว่องไว

หลังมาอยู่ข้างกายบูรพาจารย์ เขาก็วางใจลงสนิท ปราศจากความกังวลอีกต่อไป

บูรพาจารย์เป็นกำลังรบเหนือขั้นเทียนตี้ มิหนำซ้ำ ที่มาคราวนี้มิได้มีบูรพาจารย์เพียงผู้เดียว หากแต่มีบูรพาจารย์ถึงหลายท่าน จอบเซียนต้านทานได้เสียที่ไหน

เป็นไปไม่ได้เลย!

“เจ้าจอบเส็งเคร็ง วันนี้ข้าจะหลอมเจ้าให้ได้ หลอมเจ้าเป็น…เป็นไม้กวนอุจจาระ ให้เจ้าต้องอยู่ในสุขาทุกวี่วัน เป็นเครื่องมือกวนอุจจาระของผู้อื่น!”

เขาจ้องดาบมารเขม็งพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ขบกรามแน่นจนฟันแทบหัก เขารู้สึกว่า ต่อให้ขจัดดาบมารไปก็มิอาจคลายความแค้นในใจเขา เขาจะหลอมดาบมารให้เป็นไม้กวนอุจจาระ!

ไม้กวนอุจจาระ!

หลังจอบเซียนได้ยินวาจาที่ผู้เฒ่าอมตะกล่าว ก็เดือดดาลแทบบ้า

มันเอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม “วันนี้ ข้าจะสะกดวิญญาณเจ้าเข้าไปในหิน แล้วโยนลงไปในบ่ออุจจาระ ให้เจ้าเป็นหินพิทักษ์สุขาไปตราบชั่วชีวิต!”

ไอ้เวรตะไลนี่ ริอ่านคิดหลอมเขาเป็นไม้กวนอุจจาระรึ

วันนี้เขายอมปล่อยผู้เฒ่าอมตะไปง่าย ๆ สิแปลก!

“รนหาที่ตาย!”

เวลานั้น บูรพาจารย์ผู้นั้นแค่นเสียงเย็น ฟาดฝ่ามือลงมาทันควัน ชั้นบรรยากาศต้านรับพลังน่ากลัวนี้ไม่ไหว ระเบิดแหลกลาญออกมา

พลังน่ากลัวซัดสาด ฝ่ามือนี้ของเขาเสมือนนภาถล่ม น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก แม้กระทั่งกฎแห่งสวรรค์และโลกในอาณาจักรนี้ยังพังครืนแหลกเหลว แบกรับมิไหว

“ผู้ที่รนหาที่ตายคือเจ้า!”

จอบเซียนเอ่ยเสียงเย็น กระโจนตัวขึ้น ปลายจอบทอประกายเย็นยะเยือกชวนผวา ฟาดฟันฝ่ามือบูรพาจารย์ผู้นั้นลงไปได้ในคราเดียว!

“อะ…ไรกัน!”

“เป็นไปได้อย่างไร!?”

เสียงอุทานลือลั่นดังไปทั่ว สิ่งมีชีวิตทุกตนจากอาณาจักรม่อเยวียนต่างชาไปทั้งหนังหัว ไอเย็นมากมายพุ่งพรวดจากฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงศีรษะ

นี่คือท่านบูรพาจารย์เชียวนะ กำลังรบเหนือขั้นเทียนตี้ กลับถูกฟันฝ่ามือลงในบัดดล จะมิให้พวกเขาตกใจได้เยี่ยงไร

น่ากลัวเกินไปแล้ว วิญญาณพวกเขาสั่นสะท้าน ต้องเป็นจอบเช่นไรกันแน่!?

ผู้ใดกันที่สร้างจอบระดับนี้ขึ้นมาได้!?

“มิ…มิใช่กระมัง!”

ผู้เฒ่าอมตะสีหน้าเปลี่ยนไปมหันต์ แม้กระทั่งท่านบูรพาจารย์ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของจอบเล่มนี้หรือ

“เป็นไปไม่ได้!”

ทว่าเขาปัดความคิดนี้ตกไปในภายหลัง ถึงแม้จอบเล่มนั้นจะแข็งแกร่ง แต่จะแข็งแกร่งกว่าท่านบูรพาจารย์ได้อย่างไร

ต้องเป็นเพราะท่านบูรพาจารย์ประมาท ประเมินจอบเล่มนี้ต่ำไป มิได้ใช้กำลังทั้งหมด ถึงได้ถูกจอบเล่มนี้ฉวยโอกาส ฟันฝ่ามือลงมา!

อีกอย่าง ฝ่ายพวกเขายังมีกำลังรบระดับบูรพาจารย์อีกหลายท่าน วันนี้ จอบเล่มนี้ต้องจบสิ้นลง ณ ที่แห่งนี้แน่!

คิดมาถึงนี่ เขาใจเย็นลง

“จอบเส็งเคร็งเล่มเดียว คิดจริง ๆ หรือว่าสามารถพลิกฟ้าได้ ท่านบูรพาจารย์ทั้งหลายจุติมายังที่แห่งนี้ มีหรือที่เจ้าจะต่อกรด้วยไหว!?”

เขาตวาดใส่จอบเซียน “เจ้ารอโดนหลอมเป็นไม้กวนอุจจาระได้เลย!”

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน