ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 588 ออกเรือน (ต้น)

ตอนที่ 588 ออกเรือน (ต้น)

​เผชิญ​กับ​การ​ต้อนรับ​ที่​อบอุ่น​ของ​สกุล​เซี่ยง​ ​ทำเอา​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ไม่​ติด​ ​หลังจาก​ทานอาหาร​กลางวัน​เสร็จ​ ​นาง​ก็​อ้างว่า​เป็นห่วง​จิ​่น​เกอ​อยู่​ที่​เรือน​คนเดียว​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา

​นาย​หญิง​เซี่ยง​ไม่ได้​รั้ง​นาง​ไว้​ ​ออก​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​นาย​หญิง​เกา​ ​นาย​หญิง​เกา​จะ​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ขึ้นรถ​ม้า​ ​“​เรา​ไม่ได้​มี​ญาติ​เยอะ​ ​หาก​เจ้า​มี​เวลา​ ​ก็​มานั​่ง​เล่น​ที่​จวน​บ่อยๆ​ ​เถิด​!​”​ ​นาง​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่รัก​และ​เอ็นดู​ราวกับ​มารดา​มอง​บุตรสาว​ของ​ตัวเอง​ ​ท่าทาง​ก็​เต็มไปด้วย​ความเป็นห่วง​เป็นใหญ่​ของ​ผู้ใหญ่​ ​พลอย​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​สบายใจ​

​สือ​อี​เหนียง​พยายาม​ไม่​ทำ​สีหน้า​ตกใจ​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​จับ​แขน​ป้า​ซ่ง​ที่​ยื่น​ออกมา​ ​“​นาย​หญิง​เกา​เกรงใจ​ข้า​เช่นนี้​ ​ทำให้​ข้า​ไม่กล้า​มาหา​ท่าน​อีกแล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​นาย​หญิง​เกา​ยิ้ม​แล้ว​ดึง​มือ​กลับ​ไป

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​แอบ​รู้สึก​นับถือ​ใน​ใจ​ ​นาง​เหลือบมองฮู​หยิน​สอง​ที่อยู่​ข้างหลัง

ฮู​หยิน​สอง​ขมวดคิ้ว​ด้วย​สีหน้า​ที่​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ถอนหายใจ​ ​จากนั้น​ก็​ขึ้นไป​บน​รถม้า

หาก​ตัวเอง​เจอ​เช่นนี้​ ​ก็​คงจะ​รู้สึก​อึดอัด​เหมือนกัน​กระมัง

​ดังนั้น​ ​ทันทีที่​กลับมา​ถึง​ตรอง​เหอฮ​วาห​ลี่​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​เดิน​ขึ้นไป​บน​รถลาก​แล้ว​บอก​ป้า​รับใช้​ที่​ติดตาม​มา​ ​“​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​!​”​ ​แต่​เมื่อมา​ถึง​หน้า​ประตู​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​นาง​กลับ​เปลี่ยนใจ​ ​“​ไปหา​ท่าน​โหว​!​”

​ป้า​รับใช้​งุนงง​ ​นาง​รีบ​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​อย่างนอบน้อม​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​ที่​ห้อง​หนังสือ​ลาน​ข้างนอก​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​ปรึกษา​เรื่อง​ของ​ปีหน้า​กับ​บรรดา​ผู้ดูแล

​สอง​สาม​ปีนี​้​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​พักผ่อน​อยู่​ที่​จวน​ ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​มีอำนาจ​ ​แล้วยัง​ใช้​คน​เป็น​ ​รายได้​ของ​จวน​ตอนนี้​มากกว่า​ตอนที่​คุณชาย​สาม​เป็น​คนดู​แล​จวน​ตั้ง​สองเท่า​ ​เขา​อยาก​เชื้อเชิญ​เถ้าแก่​สอง​สาม​คน​มาทา​นข​้า​วที​่​จวน​ใน​ช่วง​ปีใหม่​ของ​ปีนี​้​ ​ถือว่า​ให้เกียรติ​พวกเขา​ที่ทำงาน​หนัก​เพื่อ​เขา​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา

​ได้ยิน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มาหา​ ​เขา​ก็​แปลกใจ​ ​รีบ​กำชับ​บ่าว​รับใช้​ ​“​เชิญฮู​หยิน​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ ​จากนั้น​ก็​ชงชา​แดงฝู​เจี​้​ยน​ ​บอก​ให้​โรง​ครัว​ทำ​ของว่าง​สอง​สาม​อย่าง​!​”

​ผู้ดูแล​สอง​สาม​คน​ก้มหน้าก้มตา​ลง​ ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่ได้​ยิน​ที่​เขา​พูด

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปรึกษา​เรื่อง​งาน​กับ​พวกเขา​ต่อ

​แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​ใจ​ไม่​ค่อย​อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​สัก​เท่าไร

คนที​่​สามารถ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​เช่นนี้​ได้​ ​ไม่ใช่​คนธรรมดา​อย่างแน่นอน

​พ่อบ้าน​ไป๋​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ขยิบตา​ส่งสัญญาณ​ให้​คนที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​มี​คนพูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​บ่าว​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​เรา​ต้อง​คิด​ให้​รอบคอบ​ ​หรือว่า​ให้​พวก​บ่าว​ไป​ปรึกษา​กัน​ก่อน​ ​หาก​มี​วิธี​แล้ว​ ​ค่อย​ให้ท่าน​โหวตัด​สิน​ใจ​ก็ได้​ขอรับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​คิด​ว่า​มีเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​มากเกินไป​ ​ปรึกษา​กันต​่อ​ไป​เช่นนี้​ก็​คง​ไม่มีที่สิ้นสุด​ ​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​ ​ไม่​สู้​ให้​ผู้ดูแล​ที่​เข้าใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ปรึกษา​กัน​ให้​เรียบร้อย​ก่อน​ดีกว่า​ ​

​เขา​พูด​ขึ้น​ ​“​อืม​”​ ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ ​ปล่อย​ให้​ผู้ดูแล​สอง​สาม​คน​นั้น​หันมา​มองหน้า​กัน​อยู่​ใน​ห้อง​

​*****

​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างหน้า​ต่าง​ ​นาง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​อย่าง​สง่างาม​ ​แต่​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​เรื่อง​ที่นา​งมา​หา​ตัวเอง​ ​ซึ่ง​ขัด​กับ​พฤติกรรม​ปกติ​ของ​นาง​ ​เขา​ก็​คิด​ว่า​ตอนนี้​นาง​ต้อง​เป็นกังวล​มาก​แน่นอน​

​ไม่​รอ​ให้​ภรรยา​พูด​อะไร​ ​เขา​ก็​เอ่ยปาก​ไล่​บ่าว​รับใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป​จน​หมด

​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ไม่ต้อง​เสียแรง​ไล่​เอง​

​นาง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ตอนนั้น​ท่าน​บอกว่า​นายท่าน​สกุล​เซี่ยง​เป็น​คนดี​ ​เพราะ​ท่าน​เห็น​ว่า​ต่อไป​เขา​จะ​ได้​เป็น​สมุหนายก​?​ ​หรือ​เห็น​ว่า​เขา​เป็น​คน​มือ​ขาวสะอาด​เป็น​ขุนนาง​ที่​ดี​คน​หนึ่ง​เจ้า​คะ​?​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​คำถาม​แล้วก็​แปลกใจ

​แต่​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​เช่นนี้​ ​อีกทั้ง​นาง​ไม่เคย​พูด​เรื่อง​ที่​ไม่มี​จุดประสงค์​ ​เขา​เลย​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​หาก​จะ​บอกว่า​เป็น​สมุหนายก​ ​ก็​ต้อง​มีโอกาส​ที่​ดี​ ​หาก​จะ​บอกว่า​เป็น​คน​มือ​ขาวสะอาด​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ผ่าน​ขุนนาง​ระดับ​สาม​ไป​ได้​ยาก​ ​ตอนที่​นายท่าน​ผู้เฒ่า​สกุล​เซี่ยง​มีชีวิต​อยู่​ ​เขา​ทำให้​ใคร​หลาย​คน​ไม่พอใจ​ ​นายท่าน​เซี่ยง​อาจจะ​ได้รับความเดือดร้อน​จาก​นายท่าน​ผู้เฒ่า​สกุล​เซี่ยง​ ​นายท่าน​เซี่ยง​จึง​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​นี้​มาก​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เก๋อ​เหล่า​หรือว่า​ราชทูต​ตำแหน่ง​เล็ก​ๆ​ ​คนที​่​สนิทสนม​กับ​เขา​นั้น​มี​ไม่น้อย​ ​หาก​เขา​อยาก​ประสบความสำเร็จ​คง​ต้อง​มี​คน​คอย​ยื่นมือ​ช่วยเหลือ​ ​ข้า​คิด​ว่า​หาก​เขา​มีโอกาส​มาก​พอ​ ​เกรง​ว่า​เขา​คงจะ​ได้​เป็น​สมุหนายก​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​นาง​มอง​ตา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​สกุล​เซี่ยง​อยาก​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​อวี​้​เกอ​และ​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​ใหม่​อีกครั้ง​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีสี​หน้า​ประหลาดใจ​ ​รีบ​ถาม​ทันที​ ​“​เช่นนั้น​พี่สะใภ้​สอง​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

​สือ​อี​เหนียง​พูดตาม​ความจริง​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ไม่ได้​ปริปาก​พูด​อะไร​เลย​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​นิ่งเงียบ​ ​ทำ​สีหน้า​ครุ่นคิด

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​กำลัง​คิด​เรื่อง​เดียวกัน

ตอนที่​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูด​เรื่อง​นี้​ ฮู​หยิน​สอง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​นั้น​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​ด้วย​นิสัย​ของฮู​หยิน​สอง​แล้ว​ ​หาก​ไม่เห็นด้วย​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​ปฏิเสธ​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ในเมื่อ​นาง​ไม่​พูด​อะไร​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​นาง​คงจะ​เห็นด้วย​อยู่​บ้าง

ถึงแม้ว่า​ตอนนั้น​ตน​จะ​คัดค้าน​การ​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​ ​แต่​สาเหตุ​ไม่ใช่​เพราะ​สกุล​เซี่ยง​ ​แต่​เพราะว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ให้เกียรติ​ตน​ ​ต่อมา​เรื่องราว​พัฒนา​มาจนกระทั่ง​ถึง​งานเลี้ยง​ของ​วันนี้​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​ทำ​อะไร​ตามใจ​ตัวเอง​เกินไป​ ​ไม่สน​ใจความ​รู้สึก​ของ​ผู้อื่น​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​ชอบ​สัก​เท่าไร​

ต่อไป​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​มี​อนาคต​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​อาจจะ​หา​ภรรยา​ที่​ดี​เหมือน​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​ไม่ได้​ ​แต่​หา​ภรรยา​ที่​ตระกูล​มี​ภูมิหลัง​สะอาด​ ​หน้าตา​สวยงาม​มา​อยู่​กับ​เขา​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​อะไร​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำให้​เรื่องราว​ซับซ้อน​ขนาด​นี้

แต่ว่า​ไท่ฮู​หยิน​รัก​และ​เอ็นดูฮู​หยิน​สอง​มาต​ลอด​ ​หาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้​แต่งงาน​กับ​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​ ​ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ต่อสกุล​สวี​และ​สกุล​เซี่ยง​ ​หาก​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ยอม​ก็​คงดี​ ​แต่​กลัว​ว่า​ถึงแม้​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ตำหนิ​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​ไม่มี​มารยาท​ ​แต่​ก็​ยัง​อยาก​ให้​ทั้งสอง​สกุล​แต่งงาน​กัน

ตน​จึง​มาหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก่อน​

ตน​อยาก​หาเหตุ​ผล​ที่​ไม่​ควร​ปฏิเสธ​การ​แต่งงาน​ระหว่าง​สอง​สกุล​ให้​ตัวเอง​ ​แล้วก็​ยัง​อยาก​ฟัง​ความคิดเห็น​สำหรับ​เรื่อง​นี้​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​นาง​ราวกับ​กบ​ใน​กะลา​ ​ไม่รู้​เรื่อง​โลก​ภายนอก​เลย​แม้แต่น้อย

​“​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ผิดสัญญา​ก่อนหน้านี้​ ​ข้า​คิด​ว่าการ​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ดีเจ​้า​ค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​ข้า​เลย​อยาก​ฟัง​ความคิดเห็น​ของ​ท่าน​โหวก​่อน​”

ความหมาย​ก็​คือ​นาง​ไม่เห็นด้วย

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ได้ยิน​เจ้า​พูด​ครั้งก่อน​ ​ว่า​หลานสาว​ของ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​กำลัง​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​ ​โต้วฮู​หยิน​เคย​พูดถึง​อวี​้​เกอ​ของ​เรา​ต่อหน้า​เจ้า​หรือไม่​”

​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​พูด​ขึ้น​ ​“​ไม่เคย​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

​“​เจ้า​เคย​คิด​หรือไม่​ว่า​เพราะเหตุใด​”

​“​ถึงแม้ว่า​อวี​้​เกอ​จะ​เป็น​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ ​แต่​ก็​ยัง​ห่างไกล​จาก​บัณฑิต​ชั้นสูง​!​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การ​สอบ​ระดับ​ที่สูง​ขึ้น​ก็​ยิ่ง​ยาก​ขึ้น​เรื่อยๆ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​สกุล​อย่าง​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​เลย​ไม่สน​ใจ​เขา​กระมัง​”

​“​นี่​เป็น​เพียง​หนึ่ง​ใน​เหตุผล​ทั้งหมด​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ยัง​มี​อีก​เหตุผล​ที่​สำคัญ​ก็​คือ​ ​เรา​เป็น​สกุล​ญาติ​ของ​ราชวงศ์​ ​คนที​่​มองการณ์ไกล​อย่าง​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ ​ไม่​อยาก​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ของ​ราชวงศ์​ในอนาคต​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่​อยาก​เข้าใกล้​เรา​ ​แต่​คนที​่​เห็นแก่​ผลประโยชน์​ตรงหน้า​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ต้อง​อยาก​แต่งงาน​กับ​สกุล​เรา​ ​ขอบเขต​การ​เลือก​ของ​เรา​จึง​น้อยลง​ ​ดังนั้น​ตอนนั้น​ที่​ใต้เท้า​เซี่ยง​ไม่สน​ใจ​อนาคต​ของ​ตัวเอง​ ​แล้ว​ตอบ​ตกลง​การ​แต่งงาน​กับ​อวี​้​เกอ​ทันที​ ​ข้า​จึง​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ ​เพราะ​ระหว่าง​คำ​ว่า​สกุล​ญาติ​ของ​เชื้อพระวงศ์​กับ​สกุล​เดิม​ของ​พี่สะใภ้​ที่​เป็น​ม่าย​นั้น​ต่างกัน​ยิ่งนัก​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​เห็นด้วย​กับ​การ​แต่งงาน

​แต่​สือ​อี​เหนียง​ยังคง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​เขา​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​จับมือ​นาง​ ​“​หาก​เจ้า​ไม่​ชอบ​จริงๆ​ ​ข้า​จะ​ไป​พูด​กับ​ท่าน​แม่​เอง​!​”

​เขา​พูดถึง​ขนาด​นี้​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่กล้า​คัดค้าน​อีกต่อไป

​นาง​ดึง​มือ​กลับมา​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​โหว​ให้​เวลา​ข้า​คิด​สักประเดี๋ยว​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ยัง​ลาน​ข้างใน

​ระหว่างทาง​ก็​บังเอิญ​เจอ​เข้ากับ​สวี​ซื่อ​จุน

​“​เหตุใด​ท่าน​แม่​ถึง​มา​อยู่​ที่นี่​ขอรับ​”​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความแปลกใจ

​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ยิ้ม​ให้​เขา​ ​พอ​เห็น​ทิศทาง​ที่​เขา​กำลังจะ​เดิน​ไป​จึง​เอ่ย​ถาม​ ​“​เจ้า​จะ​ไปหา​ท่าน​พ่อ​หรือ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​ ​“​ท่าน​พ่อ​บอก​ให้​ข้ามา​หายา​มนี​้​ ​บอกว่า​จะ​ปรึกษา​เรื่อง​เชิญ​เถ้าแก่​มางาน​เลี้ยง​ช่วง​เทศกาล​ตรุษจีน​กับ​บรรดา​ผู้ดูแล​ ​บอก​ให้​ข้า​ไป​ฟัง​อยู่​ข้างๆ​ ​เรียนรู้​การ​จัดการ​เรื่อง​ใน​จวน​”

​“​เช่นนั้น​เข้า​ต้อง​ตั้งใจ​เรียนรู้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ให้กำลังใจ​เขา​ ​“​รายได้​ส่วนใหญ่​ของ​สกุลมา​จาก​เรื่อง​พวก​นี้​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​อย่างจริงจัง​ ​“​ท่าน​พ่อ​ก็​พูด​แบบนี้​ ​ท่านเ​เม​่​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​ตั้งใจ​เรียนรู้​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ให้​ดี​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​จากนั้น​ก็​บอกลา​สวี​ซื่อ​จุน

​เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​มองเห็น​ชายคา​ของ​เรือน​สวี​ซื่อ​อวี​้

​นาง​จึง​ไป​ที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้

​“​หาก​เรา​ให้​เจ้า​แต่งงาน​กับ​หลานสาว​ของ​ท่าน​ป้า​สอง​ ​เจ้า​คิด​อย่างไรบ้าง​”

​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา​ด้วย​ท่าที​และ​สีหน้า​ที่จริง​จัง

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พลัน​หน้าแดง​ ​มุม​ปากของ​เขา​กระตุก​ ​แต่กลับ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​อยู่นาน​

​นาง​กำลัง​ทำให้​เขา​ลำบากใจ

​สือ​อี​เหนียง​ลุง​ขึ้น​ ​“​เจ้า​อ่านหนังสือ​ต่อ​เถิด​ ​ข้า​ขอตัว​ก่อน​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ขานรับ​ ​เดิน​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​เมื่อ​นาง​กำลัง​ก้าว​ขาออก​ไป​ได้​ก้าว​เดียว​ ​กลับ​มีเสียง​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ข้างหลัง​ ​“​ท่าน​ป้า​สอง​ดี​กับ​ข้ามา​ตลอด​…​แล้ว​ท่าน​ป้า​สอง​ก็​ยัง​เป็น​คน​เฉลียวฉลาด​ขอรับ​…​ ​“

เรื่อง​นี้​เกี่ยว​อะไร​กับ​เรื่อง​ที่ฮู​หยิน​สอง​ดี​กับ​เขา​ ​เกี่ยว​อะไร​กับ​ความ​ฉลาด​ของฮู​หยิน​สอง​?

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​บ่น​ใน​ใจ​ ​แต่​ใน​หัว​ของ​นาง​กลับ​รู้สึก​ชาวาบ

สวี​ซื่อ​อวี​้​บอก​ความในใจ​ของ​ตัวเอง​แล้ว

​พอก​ลับ​มาถึง​เรือน​ ​นาง​ก็​ล้างหน้าล้างตา​แล้วไป​หา​ไท่ฮู​หยิน

​จิ​่น​เกอ​กำลัง​นอน​กลางวัน​อยู่​บน​เตียง​เตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​นั่ง​พูดคุย​กัน​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​พยักหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ ​“​มา​แล้ว​หรือ​!​”

​“​พึ่ง​ออก​ไป​ข้างนอก​มา​ ​จึง​กลับ​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ก่อน​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อธิบาย​ให้​พวก​นาง​ฟัง

ฮู​หยิน​สอง​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา

​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​ ​ข้า​เห็น​สีหน้า​ของ​อี๋​เจิน​ดู​ไม่​ค่อย​ไม่สบายใจ​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูด​อะไร​หรือไม่​ ​ข้า​ถาม​นาง​ตั้ง​เท่าไร​แต่​นาง​ก็​ไม่ยอม​บอก​!​”

​สือ​อี​เหนียง​เล่า​ที่​ไป​ที่มา​ของ​เรื่องราว​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​โมโห​ ​แต่กลับ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ท่าที​ที่​เป็นห่วง​ ​“​เจ้า​หมายความว่า​?​”

​หาก​สือ​อี​เหนียง​ยัง​มอง​ความคิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​ออก​ ​เช่นนั้น​นาง​คงจะ​โง่​เกินไป​แล้ว

​“​ข้า​ล้วนแต่​ฟัง​ท่าน​แม่เจ้า​ค่ะ​!​”

​ครั้งนี้​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​หนักแน่น

​ไท่ฮู​หยิน​ตบมือ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​เจ้า​ก็​ปรึกษา​กับ​คุณชาย​สี่​เถิด​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เห็นอกเห็นใจ

​*****

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กอด​นาง​แน่น​ ​“​ต่อไป​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เจี​้ย​เกอ​และ​จิ​่น​เกอ​ ​เจ้า​ชอบ​ใคร​เรา​ก็​ไป​สู่ขอ​สกุล​นั้น​เถิด​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่เคย​ได้​เลือก​การ​แต่งงาน​ของ​บุตร​อนุภรรยา​และ​บุตร​ภรรยา​เอก​ด้วยตัวเอง​ ​เขา​จึง​รู้สึก​ผิด​ใน​ใจ

​แต่​สือ​อี​เหนียง​ไม่ใช่​คน​ใจแคบ

เมื่อก่อน​ตน​ขี้ขลาด​ ​มักจะ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​มี​ภาระหน้าที่​อัน​ยิ่งใหญ่

แต่​ชีวิต​ล้วน​รังสรรค์​จาก​ฝีมือ​ของ​มนุษย์

ตน​เลย​ไม่สน​ใจความ​ชอบ​ส่วนตัว​ของ​ตัวเอง​ ​ในเมื่อ​ทุกคน​ล้วนแต่​คิด​ว่าการ​แต่งงาน​ครั้งนี้​ไม่เลว​ ​ก็​ไม่มี​อะไร​ให้​ต้อง​กังวล

ทุกคน​ล้วนแต่​ต้อง​รับผิดชอบ​ใน​การตัดสินใจ​ของ​ตัวเอง​!

​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดจา​เคร่งขรึม​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เม้มปาก​ยิ้ม​แล้ว​แกล้ง​พูดว่า​ ​“​ได้​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​อยาก​ให้​เขา​แต่งงาน​กับ​บุตรสาว​ของ​ซุ่น​อ๋อง​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​หน้า​ไม่เข้าใจ​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​เขา​เลย​รับปาก​ว่า​ ​“​บุตรสาว​ของ​ซุ่น​อ๋อง​เช่นนั้น​หรือ​ ​ได้​สิ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​เขา​เป็น​คนพูด​จริง​ทำ​จริง​ ​แต่​ซุ่น​อ๋อง​เป็น​คนใน​ราชวงศ์​ ​จะ​อยาก​แต่ง​กับ​ใคร​ก็​แต่ง​ง่ายๆ​ ​ได้เสีย​ที่ไหน

​นาง​พลัน​หน้าซีด

​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​ ​“​แค่​เจ้า​ไม่รังเกียจ​ที่​บุตรสาว​ของ​เขา​อ้วน​เหมือน​เขา​ก็​พอ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความ​ตะลึง​ ​ก่อน​จะ​กลั้น​เสียงหัวเราะ​เอาไว้​ไม่อยู่

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท