บทที่ 575 หวงหลง ‘ฝึกฝนความเร็ว ปราบต้นหลิวและเจ้าก้อนหินด้วยการโจมตีครั้งเดียว!’
เหล่าซากศพเน่าเปื่อยต่างพากันหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่ละร่างล้วนดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก ภายในปากเต็มไปด้วยฝันสีเหลืองผุ ๆ ต้าเต๋อมองดูแล้วรู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างยิ่ง
“หยุดหัวเราะ มีตรงไหนน่าขบขันกัน!”
ต้าเต๋อตำหนิอย่างจริงจัง นี่กำลังดูแคลนเขาถึงเพียงนี้เชียวหรือ? แต่ทว่าเขาเองก็สามารถเข้าใจได้ อย่างไรเสียเขาก็อายุเพียงไม่กี่ขวบปี ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าเขาจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
“ก็ไม่มีอะไรน่าตลกจริง ๆ เสียเวลากับเด็กเหลือขอมากไปแล้ว สังหารมันเสีย!”
“พวกเรายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมาย!”
เหล่าซากศพเน่าเปื่อยเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไรต้าเต๋อมากนัก
ซากศพเน่าเปื่อยจำนวนนับไม่ถ้วนทำการลงมือโจมตีสังหารต้าเต๋อ พวกมันต่างก็ไม่ต้องการจะเข้ามาต่อสู่ระยะประชิดกับต้าเต๋อ แม้ว่าในหมู่พวกมันจะมีผู้อยู่เหนือขั้นเทียนตี้สามารถต่อสู้ระยะประชิดและสังหารต้าเต๋อได้
ทว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
พวกมันคร้านจะเข้าไปพัวพันอะไรกับเด็กวัยเพียงไม่กี่ขวบปี
ต้าเต๋อถอนหายใจออกมา ก่อนส่ายศีรษะเล็กน้อย “ข้ามอบโอกาสให้แต่พวกเจ้ากลับไม่คว้าเอาไว้ ช่างมันเถอะ ข้าจะส่งและโปรดสัตว์ให้พวกเจ้าเอง”
เขากระโดดขึ้นจากพื้น ตบฝุ่นดินออกจากบั้นท้าย จากนั้นก็เรียกใช้ประคำ!
“วันนี้ข้าต้าเต๋อฝอจะสำแดงบารมีพุทธะให้ได้ยล ความชั่วร้ายเช่นพวกเจ้าจักต้องดับสูญ!”
ต้าเต๋อกล่าวเสียงดัง ประคำลอยขึ้นไปบนฟ้าสูงลิบอย่างรวดเร็ว แสงพุทธะจำนวนนับไม่ถ้วนสาดส่องลงมา มีเสียงสวดมนต์ดังสะท้อนก้อง ประหนึ่งว่าเป็นเสียงสวดมนต์ของสรรพสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนจากหมื่นอาณาจักร
ตู้ม!
ปรากฏพระพุทธรูปขนาดใหญ่ลอยออกมาจากประคำ ทั้งร่างเปล่งปลั่งสว่างไสว ไหลเวียนด้วยพลังอำนาจสูงสุด ส่องแสงประหนึ่งสามารถสาดทอไปทั่วถึงสวรรค์ทั้งเก้า
พระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศประหนึ่งสามารถปราบปรามได้ทั้งท้องนภา อยู่ยืนยงคงกระพัน ลมหายใจที่แผ่ออกมาอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง ดุจดั่งเซียนพุทธสีทองอร่าม
หากพินิจดูแล้ว พระพุทธรูปทององค์ใหญ่นี้มีหน้าตาเหมือนกับต้าเต๋อเป็นอย่างมาก ราวกับเป็นต้าเต๋อในร่างที่โตขึ้น
และความจริงก็ไม่ต่างอะไรจากนี้นัก
นี่เป็นประคำที่คุณชายทำขึ้นเองเพื่อต้าเต๋อ ย่อมต้องยึดสิ่งสูงสุดเป็นต้าเต๋อ ไม่ใช่พระอามิตภะพุทธเจ้าหรือฝอองค์อื่น ๆ!
เสียงนับไม่ถ้วนที่สวดท่องมนต์ย่อมไม่ได้เอ่ยถึงพระอมิตภะพุทธเจ้า แต่เป็นต้าเต๋อฝอ!
ดังนั้นแล้วพระพุทธรูปสีทองที่ปรากฏขึ้นจึงเป็นรูปลักษณ์ของต้าเต๋อในอนาคต
ฝ่ามือสีทองตบลงมางดงามและยิ่งใหญ่ เกิดเสียงราวกับท้องฟ้าทลาย สั่นสะท้านทำให้หัวใจของคนจับจ้องต่างตื่นตะหนก ไม่สามารถแม้แต่จะคิดต่อต้านได้โดยสิ้นเชิง
เหล่าซากศพพากันมองด้วยความหวาดผวา ต่างสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลจากต้าเต๋อ พวกมันพากันมองมาด้วยสายตาเหลือเชื่อ เจ้าโล้นน้อยไม่ได้กล่าวข่มขู่ แต่เอ่ยวาจาสัตย์จริง หากไม่เข้าไปต่อสู้ระยะประชิดกับโล้นน้อย พวกมันก็ไม่มีโอกาสจะลงมือทำสิ่งใดเลยจริง ๆ!
เมื่อฝ่ามือสีทองร่วงหล่นลงมาแล้ว พวกมันย่อมไม่มีโอกาสรอด ช่องว่างระหว่างพลังมีอยู่มากเกินไป พวกมันจะต้องถูกสังหารตายภายในพริบตาเป็นแน่
ในตอนนี้พวกมันเต็มไปด้วยความเสียใจและเคว้งคว้าง หากเลือกได้อีกครั้ง พวกมันจะต้องเลือกเข้าไปสู้ระยะประชิดอย่างแน่นอน!
อย่างน้อยพวกมันอาจมีชีวิตยืนยาวได้มากกว่านี้สักนิด…
ฝ่ามือสีทองพุ่งลงมา พลังอันยิ่งใหญ่เกินต้านท้าน ‘ชำระล้าง’ ซากศพเน่าเปื่อยทั้งหมดในทันทีจนหายลับไปในแสงพุทธะอันเจิดจรัส ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น!
เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตของแดนอันตรายก่อนหน้านี้ทั้งหมด พวกมันล้วนถูกแสงพุทธะ ‘ชำระล้าง’!
“คุณชายช่างทรงพลังยิ่งนัก!”
ต้าเต๋อเก็บประคำด้วยความรู้สึกเคารพยำเกรงคุณชายที่มากขึ้น
ประคำเพียงหนึ่งเส้น ด้วยฝีมือของคุณชายก็สามารถแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ หากเขาไม่ได้พบเห็นรับรู้ด้วยตนเอง เกรงว่าตีจนตายเขาก็ไม่อาจเชื่อได้
ขณะนั้นเอง ของชิ้นหนึ่งบนร่างของเขาก็สว่างขึ้น ตามด้วยเสียงที่ดังขึ้นมา
“นี่ต้าเต๋อ เนื้อวิหคทองอร่อยหรือไม่?”
อ้ายฉานส่งเสียงหัวเราะด้วยความสนุกสนานออกมา หลังจากนางจัดการปัญหาของเส้นทางที่ได้รับมอบหมายแล้ว นางก็เอ่ยถามสถานการณ์ของฝั่งต้าเต๋อ ต้องการจะรู้ว่าต้าเต๋อมี ‘ความสุข’ มากเพียงใด
“อร่อยของเจ้าน่ะสิ! ทั้งหมดล้วนเป็นซากศพเน่าเปื่อย แค่มองดูก็อาเจียนได้หลายปี!”
ต้าเต๋อตอบอย่างคับแค้นใจ
“อ้าว ไม่ใช่อาณาจักรของวิหคทองหรือ? สงสัยข้าจะจำผิด ขอโทษด้วย บางทีข้าอาจจำผิดไปจริง ๆ”
อ้ายฉานตอบกลับ แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่อาจหยุดหัวเราะได้ ดูมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
ต้าเต๋อจบการติดต่อไป จดจำสิ่งนี้เอาไว้ในใจ วันข้างหน้าอย่าปล่อยให้เขาได้มีโอกาสบ้าง เขาจะต้องเอาคืนอ้ายฉานอย่างแน่นอน!
…
สิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรทั้งหมดที่มาตามเส้นทางต่างถูกปราบปรามและสังหารตายทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น!
สิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรเหล่านี้ ต่างหาดีไม่ได้สักตัว เพื่อแสวงหาความก้าวหน้าและอายุที่ยืนยาว พวกมันล้วนเลือกเดินบนเส้นทางอันต่ำช้าและนองไปด้วยเลือด ไม่รู้ว่าได้สังหารสิ่งมีชีวิตไปมากน้อยเพียงใด
ยังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องสิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรทิ้งพักพวกเหล่านั้นไว้ในอาณาจักรแห่งนี้ ทั้งเคยก่อความวุ่นวายมาครั้งแล้วครั้งเล่า เก็บเกี่ยวชีวิตไปเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
เรื่องเหล่านี้สามารถสืบย้อนกลับไป มีหลักฐานข้อเท็จจริงชัดเจน ทั้งหมดล้วนผ่านการตรวจสอบของพวกเมิ่งจีมาหมดแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงสังหารสิ่งมีชีวิตภายนอกอาณาจักรทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น
หากไม่ใช่เพราะสิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรเหล่านี่ชั่วร้ายเลวทราม โหดเหี้ยมและบิดเบี้ยว พวกเขาก็คงไม่สังหารล้างสิ้นเช่นนี้ การปล่อยพวกมันทิ้งเอาไว้ในอาณาจักรแห่งนี้นับเป็นการขาดความรับผิดชอบ
“ข้าจะรับหน้าที่เก็บกวาด วันข้างหน้าเมื่อแดนบรรพโกลาหลปรากฏขึ้น ทั้งหมื่นอาณาจักรคงไม่อาจอยู่อย่างสงบ จะต้องมารวมตัวกันยังที่แห่งนี้ จึงจำเป็นต้องสยบเอาไว้เสียบ้าง!”
เมิ่งจีกล่าวว่าตนเองจะเก็บซากศพของสิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรที่ออกมาจากเส้นทางทั้งหมดเอาไว้
การปรากฏตัวของแดนบรรพโกลาหลนั้นเป็นเรื่องจริง ทั้งยังเป็นแค่เรื่องของเวลา โดยเฉพาะตามที่หลิงอินเล่ามา บอกว่าเรื่องราวของแดนบรรพโกลาหลแพร่หลายอย่างกว้างขวางในอาณาจักรอวี้ซวี สิ่งมีชีวิตจำนวนมากเตรียมมายังอาณาจักรแห่งนี้
และเรื่องราวของแดนบรรพโกลาหลก็จะแผ่กระจายออกไปมากกว่านี้ในระยะเวลาไม่นาน เมื่อถึงตอนนั้น สิ่งมีชีวิตจากหมื่นอาณาจักรก็ล้วนจะแห่กันมายังอาณาจักรแห่งนี้ เกิดเป็นความวุ่นวายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เมื่อถึงยามนั้นก็จำเป็นต้องมีการสยบขวัญ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรกล้าก่อความวุ่นวาย
สิ่งนี้สำคัญเป็นอย่างมาก สามารถลดการบาดเจ็บล้มตายของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้ได้อย่างมาก ทั้งยังสามารถป้องกันอาณาจักรแห่งนี้จากการถูกทำลาย
หากถึงตอนนั้นแล้วพวกเขาเอาซากศพของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ออกมา จะต้องมีผลในการใช้ขู่ขวัญอย่างมากเป็นแน่
อย่างไรเสียอาณาจักรที่อยู่เบื้องหลังแดนเหล่านี้ก็แข็งแกร่งและน่าหวาดเกรงเสียยิ่งกว่าอาณาจักรเก้าตอนบน!
…
ด้านนอกเมืองชิงซาน
ตงฟางเวิ่นกำลังซ่อนตัวอยู่ในระยะใกล้เพื่อรอชมการแสดงดี ๆ
เขาเฝ้ารอที่จะได้ชมการแสดงนี้เป็นอย่างมาก จึงรีบกลับมาก่อนที่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงจะมา
“เขามาแล้ว เขามาแล้ว มาพร้อมกับรอยยิ้มเต็มหน้าด้วย!”
ในตอนนั้นเองดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นมา บนถนนใหญ่ที่มุ่งตรงเข้าไปยังเมืองชิงซาน จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกำลังเดินเชิดหน้า ดูเหมือนว่าเขากำลังอารมณ์ดีจึงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากเป็นระยะ
“ตอนนี้ยิ่งยิ้มอย่างมีความสุขมากเท่าใด เมื่อต้องร้องไห้ภายหลังยิ่งเจ็บปวดเท่านั้น น้องชาย ข้าจะภาวนาให้เจ้าในใจ ขอให้ต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินเบามือกับเจ้าด้วย!”
ตงฟางเวิ่นแสยะยิ้ม
อีกด้านหนึ่ง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกำลังตื่นเต้นและมีความสุขเป็นอย่างมาก
เขาจะไม่ตื่นเต้นและมีความสุขได้อย่างไร?
เขาจะได้พบคุณชายในอีกเร็ว ๆ นี้ ทั้งยังได้ชำระแค้นอย่างสาสมเสียที!
อันที่จริง เดิมทีเขาควรมาถึงตั้งนานแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงฝึกซ้อมหลายครั้งระหว่างทาง พยายามให้ตนเองมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการโจมตีครั้งเดียวสามารถปราบปรามต้นหลิวและเจ้าก้อนหินได้!
‘ทุกอย่างล้วนฝึกฝนจนไม่อาจชำนาญไปมากกว่านี้ได้แล้ว ครั้งนี้จะต้องไม่ผิดพลาดเด็ดขาด!’
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าวในใจอย่างชื่นมื่น
ความเร็วในการลงมือที่เขาฝึกฝนมานั้นทลายขีดจำกัดเดิมของตนไปอย่างสิ้นเชิง ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะต้องตอบสนองไม่ทัน ถูกเขาปราบลงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างแน่นอน!
‘ใช้กิ่งหลิวฟาดก้อนหิน และเอาก้อนหินทับต้นหลิว ลุยเลย!’
เขาตะโกนในใจด้วยความตื่นเต้น
ในที่สุดความแค้นครั้งใหญ่ก็จะได้รับการสะสางแล้ว!