และท่ามกลางพายุโหมซัดครั้งนี้ สิ่งที่ดึงดูดสายตาได้มากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือนักเขียนนิทานจากเยี่ยน กระแสอันทรงพลังของการ์ตูน ทำให้แทบเห็นเงาอันเปี่ยมไปด้วยความเร่งร้อนของพวกเขาได้ทั่วทุกแห่งหน…
ประชันวรรณกรรม!
นักเขียนนิทานเด็กจากเยี่ยนหลายคนเริ่มเปิดฉากท้าประชันวรรณกรรมกับคู่แข่งที่คิดว่าฝีมือสูสีกัน นอกจากนั้นเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ด้วยการใช้แพล็ตฟอร์มออนไลน์อย่างปู้ลั่วและบล็อกในการเริ่มต้นกระบวนการท้าประลอง
ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา!
เมนชันถึงกันซึ่งๆ หน้า!
นี่คือธรรมเนียมของชาวเยี่ยน!
เมื่อก่อนมีอุปสรรคคือกำแพงทางวัฒนธรรม ความเข้าใจที่ชาวเยี่ยนมีต่อนักเขียนในฉิน ฉี และฉู่นั้นยังมีจำกัด ดังนั้นนับตั้งแต่เมื่อคืนวานเป็นต้นมา ชาวเยี่ยนในแวดวงนิทานหลายคนจึงเร่งรีบทำการบ้าน การประเมินในครั้งนี้อาจไม่ได้ถูกต้องแม่นยำ แต่โดยมากมักไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อเผชิญหน้ากับการประชันวรรณกรรมแล้วควรจัดการอย่างไร
นักเขียนนิทานแทบทุกคนจากทั้งฉิน ฉี และฉู่ล้วนเลือกรับคำท้าโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่เพียงเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ใช้โอกาสนี้โปรโมตผลงานใหม่ ถึงอย่างไรคุณสมบัติหนึ่งของการประชันวรรณกรรมก็คือสามารถดึงดูดให้ผู้คนแห่มามุงดูได้มาก
ทว่าสถานการณ์ในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งใด
เนื่องจากชาวเยี่ยนที่ส่งคำท้าประชันวรรณกรรมนั้นมีมากเกินไปเหลือเกิน ส่งผลให้เกิดสังเวียนซึ่งเปิดฉากประลองอยู่ทั่วทุกแห่งหน จนผู้คนไม่รู้ว่าควรดูสังเวียนใดดี นั่นทำให้การประชันวรรณกรรมเหล่านี้สูญเสียความสนใจในวงกว้างที่พวกเขาควรได้รับ
‘ประชันวรรณกรรมกันเต็มไปหมด!’
‘ดูไม่ไหวแล้ว!’
‘เห็นชัดๆ ว่านี่เป็นสงครามครั้งสำคัญของนักเขียนนิทาน แต่ฉันกลับรู้สึกตลกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเด็กกำลังทะเลาะกัน นักเขียนนิทานไม่เหมาะกับภาพความดุเดือดแบบนี้’
‘คนเยี่ยนนี่น่ากลัวจริงๆ’
‘สิ่งที่ผมสนใจที่สุดในตอนนี้ก็คือการประชันวรรณกรรมที่อามู่มู่ท้าอาจารย์หยวนหยวน อามู่มู่เป็นหนึ่งในนักเขียนนิทานที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของมณฑลเยี่ยน อาจารย์หยวนหยวนถึงแม้จะเขียนนิทานขนาดยาวเป็นหลัก แต่ครั้งนี้เขียนสปินออฟของเรื่องลูกหมูสามตัว ความทรงจำในวัยเด็กจะมีส่วนช่วยได้มาก’
‘ฝั่งปรมาจารย์อูกุยก็น่าตื่นเต้นเหมือนกันนะ!’
‘ทางปรมาจารย์อูกุยผมขำแทบแย่ นิทานเรื่องเจ้าเต่าน้อยมีอิทธิพลต่อผู้คน ต่อให้ตัดนักเขียนนิทานที่ยังฝีมือไม่เข้าขั้นออกไปส่วนหนึ่งแล้ว นักเขียนนิทานเบอร์ต้นๆ จากเยี่ยนโจวที่ท้าประชันวรรณกรรมกับปรมาจารย์อูกุยก็มีตั้งหกคน ปรมาจารย์อูกุยเองก็คงบ่นเหมือนกันว่าไม่รู้จะรับคำท้าของใคร’
‘…’
สังเวียนประชันวรรณกรรมเบ่งบานทั่วทุกแห่งหน ผู้เขียนเรื่องเจ้าเต่าน้อยอย่างปรมาจารย์อูกุยก็ตกเป็นเป้าหมายของสาธารณชน และทำให้เกิดเสียงหัวเราะจากชาวเน็ตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกคนล้วนคิดว่าปรมาจารย์อูกุยเป็นนักเขียนที่ได้รับคำท้าจากชาวเยี่ยนมากที่สุดในกระแสนิทานครั้งนี้ จู่ๆ ชายคนหนึ่งซึ่งไม่มีใครนึกถึงก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างฉับพลัน
‘หลานเมิ่งชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘เป่าเส่าชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘โอวเทียนหมิงชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘เทียนจี้ไป๋ชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘เอ้อป้าเมียวชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘อวี้เจ่อจื้ออวี๋ชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘อู๋กู้เตอเสี่ยวพั่งชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
มีนักเขียนทั้งหมดเจ็ดคนจากมณฑลเยี่ยนที่ส่งคำท้าถึงฉู่ขวงพร้อมกัน และได้ทำลายสถิติคำท้าจากนักเขียนหกคนของปรมาจารย์อูกุย ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนจากทั้งฉิน ฉี และฉู่ต่างตกตะลึง ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาทันใด
‘อะไรกันครับเนี่ย’
‘เล็งฉู่ขวงกันหมดเลยเหรอ’
‘คนเยี่ยนกลุ่มนี้คงทำการบ้านกันมาไม่ดี คิดว่าฉู่ขวงก็เป็นนักเขียนนิทานฝีมือดีมากคนหนึ่ง ยังไงซะช่วงนี้สื่อต่างๆ ก็พูดถึงแต่เรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ของฉู่ขวง เพียงแต่คนเยี่ยนกลุ่มนี้คงนึกไม่ถึงว่าฉู่ขวงไม่ใช่นักเขียนนิทาน ผลงานนิทานของเขาสิริรวมแล้วมีหนึ่งเรื่องถ้วน เพียงแต่ผลงานเรื่องเดียวของเขาสร้างอิทธิพลที่น่ากลัวได้มากทีเดียว’
‘ฮ่าๆๆๆ!’
‘นึกไม่ถึงเลยว่าชีวิตนี้จะได้เห็นคนมากขนาดนี้ท้าประชันกับฉู่ขวงในเวลาเดียวกัน ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ท้าประชันนิยายสืบสวนสอบสวน แฟนตาซี หรือเรื่องสั้น แต่สนามนี้ก็ยังดูตลกแบบบอกไม่ถูก’
‘ฉู่ขวง: ???’
‘โอ๊ยขำแทบแย่ ก่อนหน้านี้ต้องถูกชาวเน็ตแกงมาแหงๆ ที่บอกว่าเจ้าแก่ฉู่ขวงเป็นนักเขียนที่เย่อหยิ่งจองหองที่สุดในวงการอะไรนั่น เรียกแรงแค้นจากนักเขียนนิทานมณฑลเยี่ยนได้ผลชะงัด ครั้งนี้สงสารฉู่ขวงจริงๆ!’
‘ฉู่ขวงจะทำยังไงล่ะทีนี้’
‘ฉู่ขวง: พูดไปพวกคุณอาจไม่เชื่อ เพราะผมเพิ่งเดบิวต์ไปไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ปล่อยเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ออกมาแค่เรื่องเดียว เพราะฉะนั้นที่จริงแล้วผมไม่นับว่าเป็นนักเขียนนิทานเลยสักนิด’
‘…’
ต้องเข้าใจว่าผู้ท้าประลองจากมณฑลเยี่ยนซึ่งยังมีชื่อเสียงและอิทธิพลไม่มากเหล่านั้น ได้ถูกชาวเน็ตตัดออกจากสารบบไปแล้ว ดังนั้นเจ็ดคนที่ส่งคำท้าถึงฉู่ขวงล้วนเป็นนักเขียนนิทานชื่อดังจากมณฑลเยี่ยน ต่อให้สุ่มเลือกออกมาสักคนก็มีแต่ระดับยอดฝีมือ!
ชาวเน็ตระเบิดหัวเราะกันจนน้ำหูน้ำตาไหล
ทว่าในวงการนิทานของฉิน ฉี และฉู่กลับงุนงง
ชาวเยี่ยนกลุ่มนี้เล่นพิเรนทร์อะไรขึ้นมา ถึงเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ที่ฉู่ขวงเขียนจะยอดเยี่ยม แต่นักเขียนนิทานจากฉิน ฉี และฉู่ก็มีตั้งมากมาย ฉู่ขวงซึ่งในปัจจุบันนี้มีผลงานนิทานเพียงเรื่องเดียวนั้นควรค่าแก่ให้พวกคุณล้อมโจมตีจริงหรือ?
‘คนเยี่ยนพวกนี้ไม่ได้โง่!’
มีคนอ่านความคิดของผู้ท้าดวลเหล่านี้ออก ‘พวกเขาอาจไม่รู้เรื่องราวของฉู่ขวง แต่พวกเขาก็ยังเลือกฉู่ขวง เพราะการท้าประลองกับฉู่ขวงทำจะทำให้เกิดกระแสมากพอที่จะเป็นประเด็นสนทนา นี่ไม่ใช่เพียงเพราะอิทธิพลของเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ แต่ยังเกี่ยวโยงไปถึงผลงานของฉู่ขวงในหมวดหมู่อื่นๆ ด้วย การท้าทายฉู่ขวงจะทำให้ผลงานของพวกเขาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก!’
‘ที่แท้ก็เป็นแบบนี้?’
‘ดังนั้นการเลือกฉู่ขวงถึงจะเป็นวิธีที่ฉลาดหลักแหลมที่สุด หนึ่งก็เพราะฉู่ขวงมีผลงานนิทานเพียงเรื่องเดียว ความสามารถคงจะยังไม่ได้แข็งแกร่งอะไร สองก็เพื่อไม่ให้ใครพูดได้ว่าพวกเขารังแกคนอื่น เพราะเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ของฉู่ขวงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เรื่องนี้ไม่เพียงรับประกันโอกาสชนะ แต่ยังรับประกันด้วยว่าแต่ละสังเวียนของการประชันวรรณกรรมจะโดดเด่น!’
‘…’
เมื่อตระหนักได้ถึงความคิดของชาวเยี่ยน นักเขียนนิทานชาวฉิน ฉี และฉู่ก็พลันปวดตับขึ้นมา มีสังเวียนประลองตั้งมากมาย แต่สังเวียนที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มากที่สุดกลับเป็นฉู่ขวง ทำให้นักเขียนนิทานอย่างพวกเขาที่มีแผนจะดึงดูดความสนใจจากสาธารณชนรู้สึกอย่างไรล่ะ?
ใช่แล้ว
ที่นักเขียนนิทานจากฉิน ฉี และฉู่ตอบรับคำท้าของชาวเยี่ยนอย่างกระตือรือร้น เพราะพวกเขามีความคิดที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คนผ่านการประชันวรรณกรรม ความกระตือรือร้นประเภทนี้ไม่ควรสูญเปล่า ทว่าตอนนี้คล้ายกับว่าความสนใจทั้งหมดจะถูกฉู่ขวงกอบโกยไปหมดแล้ว
และในขณะนั้นเอง
ก็เกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งทำให้นักเขียนนิทานจากฉิน ฉี และฉู่นับไม่ถ้วนตะลึงงัน อาจารย์ฉีฉีจากฉินและอาจารย์จินซานจากฉีก็ส่งคำเชิญท้าประลองถึงฉู่ขวงเช่นเดียวกัน!
แม่เจ้าโว้ย!
ทำอะไรกันฟระเนี่ย!
คำท้าจากชาวเยี่ยนเจ็ดคนยังไม่พออีกหรือ พวกคุณชาวฉินหนึ่งกับชาวฉีอีกหนึ่งก็ส่งคำท้าให้ฉู่ขวงอีก สองคนนี้เคยแพ้ให้ฉู่ขวงในราชานิทาน ถึงกับตามมาท้าประลองคนเขาถึงที่?
“…”
นักเขียนนิทานจากฉิน ฉี และฉู่ทำได้เพียงแอบบ่นก็เท่านั้น ใครใช้ให้จินซานและฉีฉีมีคุณสมบัติมากพอในการท้าประลองกับฉู่ขวง สองคนนี้เคยพ่ายแพ้ต่อฉู่ขวงมาครั้งหนึ่ง ตอนนี้ถือโอกาสหยิบยืมธรรมเนียมการประลองวรรณกรรมของชาวเยี่ยน เปิดการท้าประชันวรรณกรรมในนามของการชำระแค้น!
ฉะนั้นแล้ว!
นักเขียนชื่อดังซึ่งท้าประลองกับฉู่ขวง ก็เพิ่มขึ้นมาเป็นเก้าคนในชั่วพริบตาอย่างน่าสยองขวัญ ฉู่ขวงดึงดูดสายตาของผู้คนจากทั้งฉี ฉิน และฉู่ได้ ทุกคนต่างคาดเดาว่าท้ายที่สุดแล้วฉู่ขวงจะตอบรับคำท้าของใคร
‘ฉู่ขวงอยู่เบื้องหน้า!’
‘เผด็จศึก!’
ชาวเน็ตในชั่วขณะนี้ถึงกับจินตนาการภาพของนักเขียนเก้าคนประกาศสงครามโจมตีฉู่ขวง เป็นเก้าร่างสูงตระหง่านพร่าตา ยืนล้อมรอบฉู่ขวง แววตาของทุกคนล้วนส่องประกายจิตวิญญาณในการต่อสู้อันบ้าคลั่งและการยั่วยุที่รุนแรง
ราวกับคนกลุ่มนี้กำลังรุมโจมตีฉู่ขวง
……………………………………………………