ในเวลานั้น เฮ่อเหลียนเวยเวยแทบจะรู้สึกได้ถึงอารมณ์อันลึกล้ำที่ทะลักออกมาจากดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย
ดวงตาของเขาทำให้หัวใจของนางเต้นระรัว นางคิดที่จะลุกขึ้นโดยสัญชาตญาณ แต่เขาก็หยุดนางเอาไว้ แล้วกดร่างของนางลงไป
ใบหน้าของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยอยู่ใกล้กับใบหน้าของนางอย่างมาก นางกลืนน้ำลายอย่างประหม่า นางอยากก้มหน้าลงตอนที่ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยดึงตัวนางขึ้น แล้วพานางเข้าไปในมุมมืดๆ มุมหนึ่ง
เฮ่อเหลียนเวยเวยเงยหน้าขึ้นมองไป๋หลี่เจียเจวี๋ยแล้วถามว่า “ตรงนี้ไม่มืดเกินไปหน่อยหรือ”
“ไม่เลย” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยโน้มตัวลงมาพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองยันผนังด้านหลังของเฮ่อเหลียนเวยเวยเอาไว้ ท่านี้ทำให้หัวใจของเฮ่อเหลียนเวยเวยเต้นแรงราวกับจะระเบิด เขาถามขึ้นว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าอยากทำอะไรทุกครั้งที่เห็นเจ้าทำอะไรไม่ถูกเช่นนี้”
“อะ… อะไรหรือ” เป็นอีกครั้งที่หัวใจของเฮ่อเหลียนเวยเวยปั่นป่วนเพราะเขา
ใบหน้าของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยขยับเข้ามาใกล้นางยิ่งกว่าเดิม รอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาสามารถเอาชนะใจสตรีได้ทุกนาง ปลายจมูกของเขาอยู่ห่างจากนางไม่ถึงสามเซนติเมตร และลมหายใจที่นางสูดเข้าไปก็ล้วนแต่เป็นลมหายใจของเขาทั้งสิ้น จากนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า “ข้าอยากใช้ถุงที่พวกเราซื้อมาทั้งหมดนี้กับเจ้า”
รอยยิ้มน่าสงสัยของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นชาย หัวใจของเฮ่อเหลียนเวยเวยแทบหยุดเต้นในตอนที่เขาใช้น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยวาจายั่วยวนกิเลสเช่นนั้นออกมา
“เจ้าอาจไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน ดูเหมือนที่โลกมนุษย์จะไม่มีเจ้าพวกนี้” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยพูดต่อ “เจ้าอยากให้ข้าสอนวิธีใช้หรือเปล่า หืม”
เฮ่อเหลียนเวยเวยแทบกัดลิ้นตัวเอง นางตอบว่า “ไม่ล่ะ ข้าไม่อยากเรียน แต่ท่านบอกเองมิใช่หรือว่าท่านก็ไม่เคยใช้มันมาก่อน”
“นี่เจ้ากำลังตั้งคำถามกับความสามารถของข้าอยู่หรือ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระตุกมุมปากขึ้นกลายเป็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย จากนั้นจึงเอ่ยต่อ “เช่นนั้นก็มาลองกัน”
“เอ่อ…” สมองของเฮ่อเหลียนเวยเวยว่างเปล่าไปชั่วขณะ
สัมผัสเย็นชืดและนุ่มนวลของอีกฝ่ายง้างริมฝีปากของนางให้เปิดออกด้วยแรงอันยากจะต้านทาน
ก่อนที่นางจะทันได้มีปฏิกิริยา เขาก็อุ้มร่างของนางขึ้นและจูบนางอย่างดูดดื่ม ลิ้นของเขาเคลื่อนผ่านปลายลิ้นของนางอย่างช้าๆ และยิ่งการเคลื่อนไหวนั้นช้าเท่าใด มันก็ยิ่งทำให้หัวใจของนางสั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น
เฮ่อเหลียนเวยเวยหมดเรี่ยวแรงทันทีที่ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหยุดจูบนาง ขาของนางอ่อนยวบและทำได้เพียงแนบร่างเข้ากับอ้อมแขนของเขาเท่านั้น ทุกอณูทั่วร่างของนางสั่นสะท้านจากการสัมผัสถึงอุณหภูมิของเขา
“รสชาติไม่เลวทีเดียว” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยอุ้มนางโดยให้หลังพิงเข้ากับกำแพง ริมฝีปากบางของเขาประทับลงที่กระดูกไหปลาร้าของนาง “กลิ่นหอมเหมือนชา”
เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดตาม และนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้นางเพิ่งดื่มชาไป ก่อนสัมผัสเย็นยะเยือกที่อยู่รอบกายจะเตือนให้นางรู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน นางกระซิบว่า “ไม่ใช่ที่นี่”
“ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเข้ามาที่นี่หรอก” เขาโอบแขนรอบเอวนางเหมือนเขาต้องการลิ้มรสนางในท่านั้น
เฮ่อเหลียนเวยเวยตัวสั่นเมื่อนางได้ยินเสียงบางอย่าง
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหรี่ตาลงอย่างระแวดระวัง แล้วจึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าพูดถูก ดูเหมือนที่นี่จะไม่ใช่สถานที่ที่ดีจริงๆ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา
แต่นึกไม่ถึงว่าไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจะหัวเราะขึ้นมาและกล่าวว่า “เจ้าคงไม่เห็นด้วยกับความคิดที่เราจะใช้สิ่งนี้ให้หมดในครั้งเดียวกระมัง”
ใช้ให้หมด… ในครั้งเดียวหรือ เห็นทีนางคงได้ตายแน่หากเป็นเช่นนั้น
“ในเมื่อเจ้าไม่อยากให้มันหมดเร็วนัก เราค่อยใช้มันวันละชิ้นหลังจากกลับไปคงดีกว่า ค่อยๆ ใช้ก็แล้วกัน” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยพูดด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง
เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดว่าเช่นนั้นสู้ใช้มันให้หมดไปในครั้งเดียวเลยคงดีเสียกว่า!
ใช้วันละชิ้นย่อมหมายความว่าพวกเขาต้องทำเรื่องนั้นกันทุกวัน… เพียงแค่คิดเฮ่อเหลียนเวยเวยก็รู้สึกปวดหลังขึ้นมาเสียแล้ว ใบหน้าของนางเห่อร้อนจากความคิดนั้น
ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้อย่างใจ ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจึงไม่คิดที่จะอยู่ต่อ เขาวางใบไม้ทองคำจำนวนหนึ่งเอาไว้ แล้วสยายปีกสีดำขนาดมหึมาของตัวเองบินกลับวังปีศาจโดยมีเฮ่อเหลียนเวยเวยอยู่ในอ้อมแขน
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่ได้แตะต้องนางจริงๆ เขาทำเพียงแค่กอดนางเอาไว้เหมือนกับคืนที่ผ่านมา แต่ใบหน้าอันงดงามนั้นก็ไม่อาจทำให้นางสงบใจได้
เฮ่อเหลียนเวยเวยนอนไม่หลับตลอดคืนนั้น นางคงไม่คิดอะไรเช่นนั้นหากเมื่อครู่นี้ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่ได้เอ่ยเรื่องพวกนั้นกับนาง ตอนนี้ทุกครั้งที่นางหันหน้าไปมอง นางก็จะมองเห็นถุงยางอนามัยที่พวกเขาเพิ่งซื้อมาได้อย่างชัดเจน และนั่นทำให้นางรู้สึกจิตใจอยู่ไม่สุข
“หยุดขยับตัวเสียที ไม่อย่างนั้นข้าจะใช้พวกมันกับเจ้าเดี๋ยวนี้” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองนาง เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกได้ถึงความกดดันที่ส่งผ่านมาทางสายตาของเขา นางจึงหยุดเคลื่อนไหวในทันที
“ข้าหยุดแล้วก็ได้” เฮ่อเหลียนเวยเวยพูด และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “ข้าได้ยินมาว่าตอนที่ท่านมาที่นี่ครั้งแรก ยมโลกไม่ได้สว่างไสวเหมือนอย่างในตอนนี้ มันมืดจริงๆ หรือ”
“ในเมื่อที่นี่คือยมโลก แน่นอนว่ามันย่อมไร้ซึ่งแสงอาทิตย์” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยลดเสียงลง ในน้ำเสียงอันเยือกเย็นของเขามีความสง่างามแฝงอยู่ “ที่นี่เป็นเช่นนี้มาตลอด เจ้าไม่สามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นใดๆ ได้ อีกทั้งที่นี่ก็ไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อย แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังน่าสนใจกว่ามาก อย่างน้อยมันก็ดีกว่าพวกที่อยู่บนสวรรค์เสียอีก”
เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้ว “สวรรค์หรือ”
“เจ้าเป็นเหยื่อ ไม่ควรถามมากความนัก” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยชำเลืองมองนางเล็กน้อยและหลับตาลงอีกครั้ง ผมสีดำของเขาทิ้งตัวลงเกิดเป็นเงาตื้นลึกแตกต่างกัน
เมื่อเห็นแพขนตาหนาที่ทำให้หญิงสาวทุกคนต่างต้องอิจฉานั้น เฮ่อเหลียนเวยเวยก็สวมกอดเขา “อันที่จริงโลกมนุษย์เองก็น่าเบื่อเหมือนกัน พวกมันล้วนแต่เหมือนกันหมด เพียงแต่มีดวงอาทิตย์ก็เท่านั้น ที่ยมโลกแห่งนี้ยังมีของล้ำค่าอื่นอยู่อีกตั้งมากมายหลายอย่าง”
เจ้าตัวเล็กนี่พยายามปลอบใจข้าอยู่หรือ ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระตุกริมฝีปากขึ้นอย่างขบขัน เขาไม่ได้สนใจคำพูดของนางมากนัก
“ที่ร่างกายของท่านเย็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าที่นี่ไม่มีแสงอาทิตย์หรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ปกติแล้วอุณหภูมิร่างกายของข้าก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้วเหมือนกัน”
“อืม…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหัวเราะ นางอุ่นดีทีเดียว
เฮ่อเหลียนเวยเวยผล็อยหลับไปทั้งที่ยังคุยอยู่ ก่อนที่นางจะหลับไป นางยังคิดหาวิธีที่จะพาไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกลับไปให้เร็วที่สุดอยู่เลยด้วยซ้ำ นางไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่นิดเดียวว่าแม้นางจะนอนตัวสั่นอยู่ทั้งคืนเพราะความหนาว แต่มือของนางก็ยังจับเขาเอาไว้
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองนางด้วยดวงตาอันมืดมิด แล้วใช้มืออันเย็นเฉียบของตนสัมผัสใบหน้าของนาง
“อืม…” เฮ่อเหลียนเวยเวยครางเสียงเบา ริมฝีปากของนางเริ่มซีด แต่นางก็ยังปฏิเสธที่จะปล่อยมือออกจากเอวของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ราวกับนางยืนกรานที่จะให้ความอบอุ่นกับเขาตลอดทั้งคืน
ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยดำดิ่ง และทันทีที่เขายกมือขึ้น คบเพลิงที่อยู่รอบห้องก็พลันสว่างขึ้นในทันใด พวกมันทำให้เตียงอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
เฮ่อเหลียนเวยเวยหยุดสั่น จากนั้นนางจึงสามารถหลับได้ดีขึ้น…
ดูเหมือนไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจะชอบท่าที่พวกเขานอนอยู่ตอนนี้ทีเดียว เขากอดนางแน่นไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนหน้า
เฮ่อเหลียนเวยเวยตื่นขึ้นเพราะความร้อน นางจำได้ว่าเวลากลางคืนนั้นฝ่าบาทจะตัวเย็นอย่างกับน้ำแข็ง ทำไมจู่ๆ ที่นี่ถึงร้อนขึ้นมาได้ล่ะ
นางลืมตาขึ้นและมองไปรอบๆ ก่อนจะตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
นางหันหน้ากลับมา แล้วจึงสังเกตเห็นว่าไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกำลังเท้าคางมองนางอยู่
ผมสีดำของเขายุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้เขาดูผ่อนคลายและมีบรรยากาศสบายๆ รอยยิ้มและคอเสื้อที่ยับย่นนั้นทำให้เขาดูมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างเหลือล้น!