ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 602 เกินไป (ปลาย)

ตอนที่ 602 เกินไป (ปลาย)

​เมื่อม​อง​ไป​ที่​หยก​สีเขียว​ใน​มือ​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​น้ำตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​แทบจะ​ไหล​ออกมา​

ที่ผ่านมา​สิ่ง​ที่นา​งกัง​วล​มาก​ที่สุด​คือ​การ​ที่​บุตรชาย​ของ​นาง​ถูก​ทุกคน​เอาใจ​จน​ทำให้​เขา​เอาแต่ใจตัวเอง​ ​ไม่แยแส​คนอื่น​ ​ไม่รู้​จัก​บุญคุณ​คน​ ​และ​ยิ่ง​ไม่รู้​ว่าความ​อดทน​อดกลั้น​คือ​อะไร​ ​แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​แม้ว่า​บุตรชาย​ของ​ตน​จะ​ทั้ง​ขี้​หวง​ของ​และ​ดื้อรั้น​ ​แล้วยัง​มีข้อบกพร่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​สูญเสีย​จิตใจ​ที่​บริสุทธิ์

​ความกังวล​ที่​ติด​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​นาง​มลาย​หาย​ไป​ ​นาง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​แล้ว​โอบ​ไหล่​บุตรชาย​ด้วย​ความชื่นชม

​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​กลัว​เพราะ​ถูก​มารดา​ดุ​เรื่อง​ดึง​ดอกไม้​ออกจาก​กระถาง​ ​แต่​ตอนนี้​มารดา​โอบ​ไหล่เขา​เหมือนปกติ​ ​ก็​อด​เงยหน้า​มอง​นาง​ไม่ได้​ ​ก่อน​จะ​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ ​รู้สึก​สบายใจ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

​สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​มอง​บุตรชาย​พลาง​ส่ง​ยิ้ม​ให้​เขา

​มี​ความอบอุ่น​ไหลเวียน​อยู่​ระหว่าง​มารดา​กับ​บุตร

​ส่วน​ไท่ฮู​หยิน​ก็​น้ำตา​ซึม​ ​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​เด็กดี​ ​ท่าน​ย่า​ไม่ต้องการ​ของ​ของ​เจ้า​ ​ท่าน​ย่ามี​ของ​จะ​มอบให้​พี่ชาย​ของ​เจ้า​อยู่​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​ป้า​ตู้​เสียงดัง​ว่า​ ​“​แกะ​ใบบัว​นั้น​ออกมา​!​”​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​น้ำเสียง​ที่​ไม่ได้​จริงจัง​เมื่อครู่นี้​ ​ครั้งนี้​น้ำเสียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความแน่วแน่

​ป้า​ตู้​เอง​ก็​น้ำตา​คลอ​เช่นกัน​ ​ยิ้ม​พลาง​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​อุ้ม​กระถาง​หยก​นั้น​ออก​ไป

​อู่​เหนียง​เป็นกังวล

​นาง​เหลือบมอง​บุตรชาย​ที่​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่าง​สับสน​ด้วย​ความโกรธ

​นาง​จ้อง​ซิน​เกอ​ตาเขม​็ง​ ​อู่​เหนียง​รีบ​สาวเท้า​เดินตาม​ป้า​ตู้​ไป​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​อ้า​ปาก​พูด​ ​หน้า​ก็​แดง​จน​แทบจะ​เป็น​สี​เลือด​แล้ว​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​เป็น​ข้า​เอง​ที่​สอน​ลูก​ได้​ไม่ดี​ ​ทำให้​ไม่รู้​จัก​ผิด​ถูก​…​”​ ​พูด​พลาง​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ ​“​เป็น​พี่ชาย​ของ​เจ้าที่​ทำไม​่​ถูก​ ​เจ้า​เก็บของ​ของ​เจ้า​เอาไว้​เถิด​”

​สือ​อี​เหนียง​ที่​ไม่มี​เรื่อง​ค้างคา​ใจ​แล้ว​ ​ก็​เลย​มี​ความคิด​ดี​ๆ​ ​ขึ้น​มา

​นาง​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​แม่​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ท่าน​อย่า​แกะ​กระถาง​หยก​นั่น​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​พูด​กับ​อู่​เหนียง​ว่า​ ​“​ท่าน​เอง​ก็​เลิก​จ้อง​ซิน​เกอ​ได้​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​กัด​คน​ ​เช่นนั้น​จิ​่น​เกอ​ก็​เป็น​คน​ผิด​ ​จิ​่น​เกอ​ต้อง​ขอโทษ​ซิน​เกอ​ ​ส่วน​ซิน​เกอ​ไป​หยิบ​ข้าวของ​ของ​คนอื่น​ ​ก็​เป็น​ซิน​เกอ​ที่​ทำไม​่​ถูก​ ​ซิน​เกอ​ก็​ต้อง​ขอโทษ​จิ​่น​เกอ​เช่นกัน​!​”​ ​นาง​พูด​พลาง​ยิ้ม​แล้ว​นั่งยองๆ​ ​ข้างหน้า​ซิน​เกอ​ ​จับมือ​ซิน​เกอ​เอาไว้​ ​“​ซิน​เกอ​ ​เจ้า​ว่าน​้า​หญิง​พูด​ถูก​หรือไม่​”

​ซิน​เกอ​รีบ​พยักหน้า​ ​“​จิ​่น​เกอ​เขา​กัด​ข้า​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กวักมือ​เรียก​จิ​่น​เกอ​ ​“​รีบ​ขอโทษ​พี่ชาย​สิ​!​”

​จิ​่น​เกอ​เบะ​ปาก​ ​พูด​กับ​ซิน​เกอ​อย่าง​ไม่เต็มใจ​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​ผิด​ไป​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ไม่​กัด​เจ้า​อีกแล้ว​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​มอง​ซิน​เกอ

​ซิน​เกอ​ก้มหน้า​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​…​ข้า​ก็​ไม่​อยากได้​ของ​ของ​เจ้า​แล้ว​!​”

​สือ​อี​เหนียง​มือ​ข้าง​หนึ่ง​โอบ​จิ​่น​เกอ​ ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​โอบ​ซิน​เกอ​ ​“​พวก​เจ้า​เป็น​เด็กดี​กัน​ทั้งคู่​ ​เร็ว​ ​จับมือ​กัน​สิ​ ​ต่อไป​อย่า​ทะเลาะ​กัน​อีก​ ​แล้วก็​ห้าม​ตี​กัน​ด้วย​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

​ซิน​เกอ​ยื่นมือ​มา​ขอ​จับมือ​จิ​่น​เกอ​ก่อน

​จิ​่น​เกอ​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่จะ​ยื่นมือ​ไป​จับมือ​ซิน​เกอ

​ไท่ฮู​หยิน​เหลือบมอง​ป้า​ตู้​ ​ส่งสัญญาณ​ให้​นาง​นำ​กระถาง​หยก​กลับ​ไป​วาง​ไว้​ที่​เดิม

สือ​อี​เหนียง​จัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​อย่างเหมาะสม​แล้ว​ ​หาก​นาง​ดึงดัน​ที่จะ​แกะ​ใบบัว​อีก​ก็​มี​แต่​จะ​ยิ่ง​ทำให้​เห็น​ว่า​อู่​เหนียง​กับ​ซิน​เกอ​เสียมารยาท​เท่านั้น​ ​อย่างไร​เสีย​พวกเขา​ก็​เป็น​คน​สกุล​เดิม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​หาก​พวกเขา​เสียหน้า​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​จะ​เสียหน้า​เช่นกัน​ ​นาง​จะ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​เสียหน้า​ได้​อย่างไร

​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​โชคดี​ที่​สือ​อี​เหนียง​คิด​หาวิ​ธี​ได้​ ​ทั้ง​ไม่ได้​ละเลย​แขก​ของ​พวกเรา​ ​แล้วก็​ไม่ได้​ทำให้​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​รู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​”

​แม้ว่า​คำพูด​จะเข้า​ข้าง​จิ​่น​เกอ​เล็กน้อย​ ​แต่​ก็​โชคดี​ที่​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ

​อู่​เหนียง​พลัน​โล่งใจ

​ถ้าหาก​ต้อง​แกะ​ใบบัว​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ให้​ซิน​เกอ​จริงๆ​ ​นาง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำตัว​อย่างไร​แล้ว

บุตรชาย​ของ​ตน​เป็น​เด็กดี​และ​รู้ความ​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​ ​แต่​ก็​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ยิ่ง​โตก​็​ยิ่ง​ไม่เชื่อฟัง​ ​ยิ่ง​โตก​็​ยิ่ง​ดื้อดึง​ ​ถ้าหาก​เลี้ยง​บุตร​จน​กลายเป็น​เด็ก​ที่​ไม่รู้​จัก​ขอบเขต​ ​หาก​เฉียน​หมิง​กลับมา​แล้ว​นาง​จะ​อธิบาย​อย่างไร​ ​อย่า​ลืม​ว่า​เฉียน​หมิง​เขียนจดหมาย​มา​เพื่อให้​นาง​ไป​เติ้ง​โจว​หลายครั้ง​แล้ว​ ​เป็น​นาง​ที่​ไม่​ชอบ​ชีวิต​ที่​ยากลำบาก​ใน​เติ้ง​โจว​…

​เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​เดิน​เข้าไป​ดึง​ซิน​เกอ​ ​เตรียม​จะ​พูด​สอง​สาม​ประโยค​แล้ว​กล่าว​ลา​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กลับ​พูดคุย​กับ​ซิน​เกอ​ต่อ

​“​ซิน​เกอ​เป็น​เด็กดี​จริงๆ​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ท่าน​น้า​หญิง​จะ​ให้รางวัล​เจ้า​หนึ่ง​อย่าง​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​กำชับ​จู๋​เซียง​ ​“​เจ้า​ไป​เอา​พระ​หัตถ์​พระพุทธรูป​หยก​เหอ​เทียน​บน​โต๊ะทำงาน​ของ​ข้ามา​ให้​คุณชาย​น้อย​”​ ​เดิมที​นาง​คิด​จะ​ให้​ซิน​เกอ​เลือก​ของ​ที่​อยากได้​มา​หนึ่ง​อย่าง​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​ซิน​เกอ​จะ​ยืนกราน​อยากได้​ใบบัว​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​แล้ว​เกิด​การแย่ง​กัน​ขึ้น​มา​อีก​ ​จึง​ได้​เลือก​หยก​ชิ้น​หนึ่ง​ที่​คล้าย​กับ​ของ​จิ​่น​เกอ​มอบให้​ซิน​เกอ

​ซิน​เกอ​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ว่า​ ​“​วันนี้​จิ​่น​เกอ​ไม่เพียงแต่​ใจกว้าง​ ​ซ้ำ​ยัง​รู้จัก​กตัญญู​ต่อ​ท่าน​ย่า​ ​ทำให้​แม่​มีความสุข​อย่างมาก​ ​เลย​จะ​ให้รางวัล​เจ้า​หนึ่ง​อย่างเช่น​กัน​”

​จิ​่น​เกอ​ได้​ฟัง​เช่นนั้น​ก็​ยิ้ม​กว้าง​จน​ดวงตา​โค้ง​เป็น​รูป​จันทร์​เสี้ยว​ ​สลัด​ความทุกข์​เมื่อ​ครู่​ออก​ไป​จน​หมด

​เมื่อ​คิดได้​ว่านา​งมัก​จะ​กดดัน​บุตรชาย​อยู่​เสมอ​ ​ไม่​ให้​เขา​ทำ​โน่น​ ​ไม่​ให้​เขา​ทำ​นี่​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​บอก​มาสิ​ว่า​เจ้า​อยากได้​อะไร​”

​จิ​่น​เกอ​รีบ​พูดเสี​ยง​ดัง​ว่า​ ​“​ข้า​อยาก​ไป​เก็บ​ส้ม​ขอรับ​”

​วัน​เด็ก​ปี​ที่แล้ว​ ​เพื่อให้​เข้ากับ​บรรยากาศ​ ​สือ​อี​เหนียง​เลย​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เดินเล่น​ที่​เรือน​หลิงฉ​ยง​ซาน​ ​จิ​่น​เกอ​สังเกตเห็น​ว่า​ข้าง​เรือน​หลิงฉ​ยง​ซาน​มีต​้น​ส้ม​สีทอง​ ​จึง​งอแง​อยาก​จะ​ไป​เก็บ​ส้ม​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ต้น​ส้ม​ที่​เติบโต​บน​หน้าผา​นั้น​อันตราย​เกินไป​ ​และ​กลัว​ว่า​บ่าว​รับใช้​จะ​ไป​เก็บ​ส้ม​เพื่อ​เอาใจ​จิ​่น​เกอ​แล้ว​เกิด​อันตราย​ขึ้น​ ​จึง​ไม่เพียงแต่​ไม่​ตกลง​ ​ซ้ำ​ยัง​กำชับ​เป็นพิเศษ​ว่า​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่​อนุญาต​ให้​ไป​เก็บ​ส้ม​เด็ดขาด​ ​จิ​่น​เกอ​เศร้าซึม​เพราะ​เรื่อง​นี้​อยู่​หลาย​วัน​ ​จนกระทั่ง​เกาลัด​ใน​สวน​หลัง​จวน​สุก​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​พา​เขา​ไป​เก็บ​เกาลัด​ ​เขา​จึง​ได้​ลืม​เรื่อง​ส้ม​เหล่านั้น​ไป​ ​พอ​มาปี​นี้​จิ​่น​เกอ​ก็​หลงใหล​ใน​การพาย​เรือ

คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​ยัง​จำได้​!

​สือ​อี​เหนียง​ตัดสินใจ​ไม่​ถูก

​แต่ว่า​นาง​ได้​พูด​ออก​ไป​แล้ว​ ​ย่อม​จะ​ทำให้​จิ​่น​เกอ​สูญเสีย​ความเชื่อมั่น​ใน​ตัวนาง​ไม่ได้

​“​ได้​ ​อีก​สอง​วัน​ข้า​จะ​ให้​คน​พา​เจ้า​ไป​เก็บ​ส้ม​!​”

​จิ​่น​เกอ​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​วิ่ง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ย่า​ ​พอ​ข้า​เก็บ​ส้ม​แล้วก็​จะ​เอา​มา​ให้ท่าน​ถวาย​แด่​พระโพธิสัตว์​ด้วย​ขอรับ​!​”

​ใน​วันที่​หนึ่ง​ของ​ทุก​เดือน​ ​ไท่ฮู​หยิน​จะ​พาลูก​สะใภ้​และ​หลาน​ๆ​ ​ไป​จุด​ธูปบูชา​พระโพธิสัตว์

​“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​โอบกอด​จิ​่น​เกอ​อย่าง​มีความสุข​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​เป็น​เด็ก​กตัญญูรู้คุณ​จริงๆ​!​”

​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​สดใส​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ก็​เห็นฮู​หยิน​สอง​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​เลย​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​ป้า​สอง​ ​ข้า​ก็​จะ​เก็บ​มา​ให้ท่าน​ถวาย​พระโพธิสัตว์​เช่นกัน​ขอรับ​!​”

​เพราะว่า​เป็นเรื่อง​ใน​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ฮู​หยิน​สอง​จึง​คอย​ยืน​ดู​อยู่​ข้างๆ​ ​เฉยๆ​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ไม่ได้​มี​ห้อง​พระ​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​และ​ทน​ไม่ได้​ที่จะ​ปฏิเสธ​ความหวังดี​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เอา​สิ​ ​ป้า​สอง​จะ​รอส​้ม​จาก​เจ้า​”

​สือ​อี​เหนียง​ปวดหัว​ขึ้น​มาทัน​ที

เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ไม่รู้​ว่า​ส้ม​อยู่​ที่ไหน​ ​ก็​ไป​ให้สัญญา​กับ​ใครต่อใคร​มั่วซั่ว

​ยิ่ง​ปวดหัว​เพราะ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ให้​ใคร​เป็น​คน​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เก็บ​ส้ม​ดี​!

ที่นั่น​ไม่ใช่​ว่า​ใคร​ก็​สามารถ​ไป​ได้​!

​ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​จู๋​เซียง​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ท่าทาง​เหนื่อยหอบ

​นาง​เอา​หยก​พระ​หัตถ์​พระพุทธรูป​ขนาด​เท่า​รูปปั้น​น้ำ​กลิ้ง​บน​ใบบัว​ของ​จิ​่น​เกอ​มา

​สือ​อี​เหนียง​มอบให้​ซิน​เกอ​ ​“​ชอบ​หรือไม่​”

​ซิน​เกอ​รีบ​รับ​มา​ ​แกะ​ใบไม้​ที่​พระ​หัตถ์​ออก​ ​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ชอบ​ขอรับ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​วิ่ง​ไปหา​อู่​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ดู​สิ​ ​ท่าน​น้า​หญิง​มอบให้​ข้า​!​”

​อู่​เหนียง​มอง​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ ​ดัน​หลัง​บุตรชาย​เบา​ๆ​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ขอบคุณ​ท่าน​น้า​หญิง​อีก​!​”

​ซิน​เกอ​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​เสียงดัง

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ซิน​เกอ​ชอบ​ก็ดี​แล้ว​”

​อู่​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

​เมื่อ​เหตุการณ์​เป็น​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​กล่าว​ลา​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง​อย่างเกรงใจ​สอง​สาม​ประโยค​ ​แล้ว​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ส่ง​อู่​เหนียง​กับ​ซิน​เกอ

​พอ​หันหลัง​กลับมา​ก็​เจอ​เข้ากับ​สาวใช้​น้อย​สอง​คน​ของ​อวี​้​ป่าน

​“ฮู​หยิน​สี่​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​บอกว่า​ท่าน​ยัง​มีเรื่อง​ต้อง​ทำ​หลายอย่าง​จึง​ให้​บ่าว​มา​พา​คุณชาย​น้อย​หก​ไป​ ​ท่าน​จะ​ได้​มีสมาธิ​ทำงาน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​จะ​ได้​มี​คน​อยู่​เป็นเพื่อน​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​โปรดปราน​จิ​่น​เกอ​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้​และ​ไม่ได้​คิด​อะไร​ ​ยิ้ม​พลาง​กำชับ​หง​เหวิ​นกั​บอา​จิน​สอง​สาม​ประโยค​ ​แล้ว​มอบ​จิ​่น​เกอ​ให้​อวี​้​ป่าน​ดูแล

​เมื่อ​กลับมา​ถึง​ห้องโถง​บุปผา​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็​นำ​ของขวัญ​มา​แสดงความยินดี​กับ​งานแต่งงาน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้

​“​ยินดี​ด้วย​ ​เจ้า​จะ​ได้​เป็น​แม่​สามี​แล้ว​!​”

​สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ตก​ ​“​เช่นกัน​ ​เช่นกัน​”

​สอง​วันก่อน​บุตรชายคนโต​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็ได้​หมั้น​หมาย​แล้ว

​ทั้งสอง​นั่งลง​ตามลำดับ​ ​พูดคุย​กันได​้​ไม่​กี่​ประโยค​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ก็​มา​พอดี

​พวก​นาง​พูดคุย​เรื่อง​ความหลัง​ ​จากนั้น​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​มา​เช่นกัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เอา​รายการ​สินสอดทองหมั้น​ของ​สกุล​เซี่ยง​มาด​้วย​ ​เพราะว่า​มี​คนนอก​ ​นาง​จึง​นั่ง​รอ​จน​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กับ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​กล่าว​ลา​ ​สือ​อี​เหนียง​ใช้เวลา​อยู่​พัก​หนึ่ง​เพื่อ​ดูรา​ยกา​รสิน​สอด​ทองหมั้น​ ​กว่า​จะ​ส่ง​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กลับ​ก็​ถึง​เวลา​จุด​โคมไฟ​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ถาม​กับ​บ่าว​รับใช้​ว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มาทา​นข​้าว​หรือไม่​”

​หลาย​วัน​มานี​้​เรือน​นอก​ก็​มี​แขก​มากมาย​เช่นกัน

​“​ท่าน​โหว​ไม่ได้​ส่ง​คน​มารา​ยงาน​เจ้าค่ะ​”​ ​ขณะที่​จู๋​เซียง​กำลัง​เอ่ย​ตอบ​ ​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้ามา​พอดี​ ​นาง​รีบ​กำชับ​ให้​สาวใช้​น้อย​จัด​อาหาร​ ​แล้วไป​ปรนนิบัติ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้า​และ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​คุย​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ห้อง​ด้านใน​ ​“​…​สินสอดทองหมั้น​ของ​สกุล​เซี่ยง​มีเงิน​เจ็ด​แปด​พัน​ตำลึง​ ​พวก​ข้าวของเครื่องใช้​มี​ไม่​มาก​ ​ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​ที่ดิน​ทำเล​ดี​ ​รายได้​ต่อปี​มี​ไม่น้อย​เลย​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​ล้างหน้า​เสร็จ​ก็​เดิน​ออกมา​ ​“​สกุล​เซี่ยง​จัดการ​ได้ดี​มาต​ลอด​ ​การ​เตรียมการ​เช่นนี้​นั้น​ก็​ไม่​แปลก​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​เห็น​ว่า​อาหาร​บน​โต๊ะ​ได้​จัดวาง​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​เงา​ของ​บุตรชาย​ ​อด​ถาม​ไม่ได้​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​เล่า​”

​“​ท่าน​แม่​ให้​อยู่​เล่น​ที่นั่น​ต่อ​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รับ​ชาม​ข้าว​จาก​สาวใช้​น้อย​มา​วาง​ไว้​ตรงหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​บอกว่า​ให้​พวกเรา​ไปรับ​เมื่อ​ไป​คารวะ​ตอนเย็น​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่งลง​ ​พูด​กับ​นาง​เรื่อง​ของ​บุตรชาย​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​อยาก​จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​เริ่ม​เล่าเรียน​ปีหน้า​ ​เจ้า​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

เด็ก​ทั่วไป​จะ​เริ่ม​เรียน​ตอน​อายุ​ได้​หก​ถึง​เจ็ด​ปี​ ​บางคน​ก็​เร็ว​กว่านั​้น​สอง​ปี​ ​แต่​บางคน​ก็​ช้า​กว่านั​้น​สอง​ปี​ ​ต้อง​ดู​เป็น​คน​ๆ​ ​ไป

ปีหน้า​จิ​่น​เกอ​ก็​จะ​อายุ​ห้า​ปี​ย่าง​หก​ปี​ ​ยัง​ไม่​ถึงกำหนด​เข้าเรียน​ปฐมวัย

​“​จะ​เร็ว​เกินไป​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​พลาง​ให้​สาวใช้​น้อย​ตัก​น้ำแกง​ให้​ตัวเอง

​“​จิ​่น​เกอ​เป็น​เด็ก​ฉลาด​ ​ให้​เขา​ได้​เรียนรู้​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ตอบ

​“​ร่างกาย​ก็​แข็งแรง​ ​พลัง​เต็มเปี่ยม​ ​หา​อาจารย์​ช่วย​ถ่ายทอดวิชา​กังฟู​ให้​เขา​ ​หาก​สาย​กว่านี​้​กระดูก​ก็​จะ​แข็ง​แล้ว​ ​ก็​จะ​เรียน​ไม่​ถึง​ทักษะ​ที่แท้​จริง​!​”

​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​ท่าน​โหว​จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​ ​หรือ​จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​เรียนหนังสือ​กัน​แน่​เจ้า​คะ​”

​“​เรียน​ทุกอย่าง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​จะ​ต้อง​รู้จัก​ต่อสู้​บน​หลัง​ม้า​และ​จัดการ​เอกสาร​ใน​กองทัพ​”

​น้ำเสียง​แฝง​เอาไว้​ด้วย​ความคาดหวัง

​ใน​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ปรากฏ​ภาพ​ที่​จิ​่น​เกอ​กำลัง​เล่น​โคลน​ ​นึกถึง​ภาพ​จิ​่น​เกอ​ที่สามา​รถ​เก่ง​ทั้ง​บุ๋น​และ​บู้​ไม่​ออก​จริงๆ​ ​อด​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ไม่ได้​ ​“​ถ้า​เขา​ไม่​ชอบ​เล่า​”

​“​เด็กผู้ชาย​จะ​สามารถ​ทำตาม​ใจ​ตัวเอง​ได้​อย่างไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​โอบกอด​หรือไม่ก็​หอม​บุตรชาย​ ​เลย​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ตามใจเขา​ไม่ได้​”​ ​จากนั้น​ก็​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​เช่นนั้น​ก็​เอา​ตาม​นี้​ ​ปีหน้า​ก็​ให้​เขา​เริ่ม​เรียนหนังสือ​”​ ​ท่าทาง​ไม่​อนุญาต​ให้​สือ​อี​เหนียง​ปฏิเสธ

​เดิมที​สือ​อี​เหนียง​ยัง​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​เป็น​คนที​่​ตามใจ​ลูก

​ในเมื่อ​เขา​ได้​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​นาง​ก็​ย่อม​สนับสนุน

​“​เช่นนั้น​ก็​ทำตาม​ความตั้งใจ​ของ​ท่าน​โหว​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ดื่ม​น้ำแกง

​ทั้งสอง​คน​ทานข้าว​กัน​อย่าง​เงียบๆ​ ​หลังจากนั้น​ก็​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท