หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1416 เลือดบริสุทธิ์

บทที่ 1416 เลือดบริสุทธิ์

แม้ร่างแยกทั้งสี่ของเจ้าปรารถนาทัศน์จะเกลียดหวังเป่าเล่อเข้ากระดูกดำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เป็นอย่างที่หวังเป่าเล่อคาดไว้ พวกเขาไม่กล้าเผยตัวตน

ถึงจะไม่ใช่พวกเจ้าแห่งเจ็ดอารมณ์ แค่หวังเป่าเล่อในตอนนี้ก็มากพอที่จะกลืนกินพวกเขาได้แล้ว ขณะเดียวกันผนึกจากเมืองปรารถนาทัศน์ก็ทำให้พวกเขาเข้าใจ แม้ตอนนี้จะระเบิดตนก็ทำได้แค่ทำให้คำสาปปิดกั้นเมืองหายไปเท่านั้น แต่การจะหนีออกจากเมืองยังคงเป็นเรื่องยาก

ยังมีอีกประเด็น…นั่นคือร่างแยกทั้งสี่นี้แม้จะมาจากการระเบิดตนของเจ้าปรารถนาทัศน์และเป็นส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึกของเขา แต่ระหว่างพวกเขาเอง…กลับไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน

นัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่านี่คือเจ้าปรารถนาทัศน์ในระดับอ่อนแอที่นิสัยต่างกันไปสี่คน และพวกเขายังมีความทรงจำร่วมกันต่างไปอีกด้วย

ในหมู่พวกเขามีร่างแยกหนึ่งเป็นตัวแทนนิสัยดื้อรั้นของเจ้าปรารถนาทัศน์และยังเป็นร่างแยกที่มีความทรงจำมากที่สุด ร่างแยกนี้ซ่อนกายหรี่ตามองหวังเป่าเล่ออยู่กลางอากาศในมุมหนึ่ง

มันมั่นใจว่าภายในช่วงเวลานี้อีกฝ่ายไม่มีทางหาตนเจอจากสัมผัสเชื่อมต่อได้ และช่วงเวลานี้คือกุญแจสำคัญที่มันจะฟื้นคืนชีพและช่วงชิงปราณโลหิตกลับมา

 ไม่รู้ว่าร่างแยกที่เหลือเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็คงพึ่งพาไม่ได้นักหรอก ภารกิจของพวกมันคือเบี่ยงเบนความสนใจจากพวกคนสมควรตายเหล่านั้น 

 ประเด็นสำคัญคือต้องดูว่าข้าจะทำเช่นไร…โชคดีที่ตอนนั้นเพื่อป้องกันวิกฤตชีวิตจึงได้เตรียมการไว้บางส่วน  ร่างแยกเจ้าปรารถนาทัศน์หรี่ตากะพริบร่างออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งก็มาอยู่ที่ใต้บ่อน้ำในเมืองปรารถนาทัศน์แล้ว

บ่อน้ำนี้ธรรมดามาก ไร้ความผันผวนหรือเบาะแสใดๆ และไม่มีใครรู้เลยว่าลึกลงไปข้างในมีความลับบางอย่างซ่อนเอาไว้…

ที่แห่งนั้นมีขวดโหลปิดสนิทใบหนึ่ง

เวลานี้ร่างแยกของเจ้าปรารถนาทัศน์ปรากฏกายอยู่ข้างขวดโหล กำลังจ้องมองขวดโหลตรงหน้าซึ่งถูกปิดผนึกและฝังอยู่ที่นี่มานานหลายปี ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

ขวดโหลใบนี้คือแผนตั้งรับของเจ้าปรารถนาทัศน์ หลายปีก่อนเมื่อมหาเทพกักตน เจ้าปรารถนาทัศน์สังเกตเห็นว่าร่างกายของตนค่อยๆ สูญเสียพลังชีวิตและจำเป็นต้องหลอมรวมกับพลังชีวิตใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงได้คิดคำนวณแล้วว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปตนจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ หลังจากนั้นกายเนื้อและวิญญาณเทพอาจเกิดสัญญาณความไม่ลงรอยกัน บางทีวันหนึ่งเขาอาจจะถูกใครมาช่วงชิงร่างกายของกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ไปได้

ร่างกายนี้รองรับกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ ใครที่ได้ครอบครองก็จะกลายเป็นเจ้าปรารถนาทัศน์ในทันที

เขากังวลมากว่าหากเกิดเรื่องเช่นนี้ ตนจะไร้แรงเผชิญหน้า ตอนนั้นจึงคิดไว้แล้วว่าหากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ จะตอบโต้เช่นไร

ดังนั้นเขาจึงผลาญปราณโลหิตจากร่างกายเดิมเอาไว้ ทำให้พลังชีวิตต่ำลงยิ่งกว่าเก่าและต้องการพลังชีวิตมาเติมเต็มมากขึ้น จากนั้นจึงกลั่น…เลือดสดออกมาหนึ่งหยด

แท้จริงแล้วในแง่ของความบริสุทธิ์ เลือดหยดนี้ใกล้เคียงกับเลือดของมหาเทพมาก

เพราะว่ามันมีต้นกำเนิดเดียวกันกับร่างกาย อีกทั้งยังบริสุทธิ์อย่างน่ามหัศจรรย์ ดังนั้นตัวมันเองจึงเปรียบเสมือนจุดเปิดปิดที่สามารถควบคุมทุกอย่างของร่างกายนั้นได้

นี่ก็คือแผนรับมือที่เขาเก็บไว้เพื่อตัวเองและเป็นเหตุผลที่เขาเลือกเดิมพันทุกสิ่งระเบิดตนหลบหนีมา เจ้าปรารถนาทัศน์กังวลว่าการเก็บของสิ่งนี้ไว้ข้างตัวคงไม่ปลอดภัยจึงเลือกสถานที่แห่งนี้ในการเก็บซ่อนสิ่งสำคัญ และเป็นดังคาดไม่มีใครจินตนาการได้ว่าใต้บ่อน้ำเก่าแก่แจะมีของล้ำค่าซุกซ่อนอยู่

ยิ่งกว่านั้นในฐานะเจ้าปรารถนาทัศน์ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าในวันปกติจะมีใครมาสนใจสถานที่แห่งนี้

เจ้าปรารถนาทัศน์หรี่ตาก่อนจะหยิบขวดโหลและหายวับไปทันที

พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวันแล้ว

ในช่วงสามวันที่ผ่านมาผู้ฝึกตนทั่วทั้งเมืองต่างค้นหาสิ่งผิดปกติอย่างบ้าคลั่ง พวกเจ้าแห่งสุขก็แผ่จิตใต้สำนึกออกไปตรวจสอบดู แต่กลับไม่พบเบาะแสแม้แต่น้อยคล้ายกับว่าร่างแยกทั้งสี่หายไปอย่างลึกลับ

ส่วนหวังเป่าเล่อในช่วงสามวันนี้ก็ดูดซับกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์และปราณโลหิตจากร่างกายที่ดูดกลืนมาจนหมด ในด้านระดับความแข็งแกร่งนั้น เขาในตอนนี้ไม่ด้อยกว่าเจ้าปรารถนาและเจ็ดอารมณ์แล้ว

โดยเฉพาะสิ่งที่หวังเป่าเล่อครอบครองนั้นมีหลากหลายมาก กฎเกณฑ์แห่งเจ็ดอารมณ์ เขาฝึกไปแล้วสี่ แม้จะยังไม่ได้ระดับสูง แต่ก็มากพอที่จะหลอมรวมกันเพื่อสำแดงพลังได้

ส่วนในหกปรารถนา หากไม่นับเจ้าปรารถนาแล้ว กฎเกณฑ์ปรารถนารสของเขาก็เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงแม้จะครอบครองเพียงสามส่วน แต่ก็ทรงพลังมากเพราะมาจากต้นกำเนิด

และยังมีกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ที่เขาครอบครองไปแล้วหกส่วน ตัวเขาจึงกลายเป็นเจ้าปรารถนาทัศน์

เช่นนี้พลังต่อสู้ที่กฎเกณฑ์เหล่านี้หลอมรวมกันแสดงออกมาจึงทำให้หวังเป่าเล่อมั่นใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี…แม้จะเป็นเช่นนี้ ทว่าสามวันที่ผ่านมา แม้เขาจะแผ่ดวงจิตเทพออกไปมากน้อยเพียงไรก็ยังไม่รู้สึกถึงร่างแยกทั้งสี่แม้แต่น้อย

นอกจากนี้เมื่อหลอมรวมปราณโลหิตหกส่วนกับกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์แล้ว หวังเป่าเล่อก็ยิ่งกระหายอีกสี่ส่วนมากขึ้น เขาสัมผัสได้ว่าหากกลืนกินได้ทั้งหมด กายเนื้อของตนจะต้องไปถึงระดับสมบูรณ์แบบแน่

 ไม่ต้องถึงสี่ส่วนหรอก อีกแค่สองสามส่วน…ก็พอแล้ว  หวังเป่าเล่อพึมพำ เมื่อสิ้นสุดการฝึกฝนของวันนี้ เขานั่งอยู่ในสระโลหิต แผ่ดวงจิตเทพเตรียมจะค้นหาอีกครั้ง

ทว่าตอนนั้นเองหวังเป่าเล่อก็หน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน จู่ๆ หูของเขาก็เกิดเสียงหวีดแหลมดังก้อง เสียงนี้รุนแรงมากเสียจนร่างกายส่งเสียงคำรามทันที แรงผลักมหาศาลระเบิดออกมาจากปราณโลหิตหกส่วนในร่างกายของเขาและกำลังขับไล่ดวงวิญญาณเทพของหวังเป่าเล่อ

มันทำให้หวังเป่าเล่อที่ไม่ทันตั้งตัวนั้น ดวงวิญญาณเทพพลันปั่นป่วนและถูกสะบัดออกจากร่างกายเล็กน้อย

หากมีผู้ฝึกตนอยู่ที่นี่และใช้ดวงตาวิญญาณมองมาจะต้องเห็นว่าบนร่างกำยำที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นปรากฏภาพดวงวิญญาณเทพกำลังจะออกจากร่างเป็นแน่

หวังเป่าเล่อจิตใจสั่นไหว การต่อต้านทางกายภาพเช่นนี้กะทันหันและเร็วมากทำให้เขาถูกสะกดไว้สุดกำลังราวกับร่างกายถูกควบคุม พยายามขับไล่ดวงวิญญาณเทพของเขาอย่างบ้าคลั่ง และดูเหมือนว่าถ้ายังไม่ออกไปมันก็จะไม่มีทางหยุด

โชคดีที่กระบวนการทั้งหมดกินเวลาเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น ในหนึ่งชั่วยามนี้เอง หวังเป่าเล่อได้ระเบิดพลังจนหมดแล้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดขาว เหงื่อออกท่วมตัว เขาหายใจถี่รัวเงยหน้าขึ้น ก่อนจะกวาดดวงจิตเทพไปทั่วทุกสารทิศ ทว่ากลับไม่พบอะไรในเมืองปรารถนาทัศน์เลย

นั่นทำให้สีหน้าของหวังเป่าเล่อกลายเป็นดำทะมึน

 เจ้าปรารถนาทัศน์ นี่คือแผนรับมือของเจ้าหรือ  หวังเป่าเล่อเอ่ยเสียงเข้ม ดวงตาฉายแววดุร้าย

เวลาเดียวกันภายในบ่อน้ำโบราณในเมืองปรารถนาทัศน์ ร่างแยกของเจ้าปรารถนาทัศน์สีหน้าเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว แม้เขาจะอยู่ก้นบ่อ แต่มันได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นวังใต้ดินขนาดเล็กแห่งหนึ่ง

ตำแหน่งของสระโลหิตมีขวดโหลเลือดวางเอาไว้

 ควบคุมไม่ได้…ข้าไม่เชื่อหรอกว่าในเวลาสั้นๆ เจ้าจะควบคุมร่างกายนี้และเอาชนะเลือดแก่นแท้ของข้าได้!  ดวงตาของร่างแยกเจ้าปรารถนาทัศน์เย็นยะเยือก

 น่าเสียดายที่ใช้งานได้แค่วันละครั้งเท่านั้น แต่ไม่เป็นไร ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน! 

……………………..

 

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท