รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 589 เพียงถ้อยคำเดียว ห้วงเวลาบิดเบือน คืนกลับสภาพเดิม!

บทที่ 589 เพียงถ้อยคำเดียว ห้วงเวลาบิดเบือน คืนกลับสภาพเดิม!

บทที่ 589 เพียงถ้อยคำเดียว ห้วงเวลาบิดเบือน คืนกลับสภาพเดิม!

โกลาหล กลับตัลปัตร…

อะไรกันนี่!

เสมือนจอหงวนผู้มากด้วยความรู้ไปถามเด็กเล็กผู้เพิ่งอ่านหนังสือออกว่าควรเล่าเรียนวิชาอย่างไร…

เสมือนเศรษฐีผู้ร่ำรวยมหาศาลไปถามผู้ที่มีเงินพอแค่กินข้าวว่าหาเงินอย่างไร…

จักรพรรดิเซียนทั้งสิบเจ็ดตนหมดคำบรรยาย ต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ ตัวตนสูงส่งผู้ใช้วิชาผ่านถ้อยคำจำเป็นต้องหมายตาประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์เพียงเล็กน้อยของพวกเขาด้วยหรือ

ทว่าหมดคำบรรยายส่วนก็หมดคำบรรยาย มิมีผู้ใดกล้าลีลา ต่างบันทึกประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์ที่พวกเขาฝึกฝนลงอย่างรวดเร็ว ไม่ตกหล่นแม้แต่น้อย

พวกเขาไฉนเลยจะกล้าตกหล่น เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านผู้นี้ พวกเขามิกล้ามีเล่ห์เหลี่ยมสักนิด

“รับมาสิ”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยปาก ให้ซ่างกวนอิ๋งรับประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์เหล่านี้ไว้ทั้งหมด

ซ่างกวนอิ๋งรู้สึกตื้นตันใจมาก เหมือนทุกอย่างเป็นเพียงฝันไป ประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์ที่จักรพรรดิเซียนสิบเจ็ดท่านบำเพ็ญมาทั้งชีวิต ไม่ว่าอย่างใดล้วนเป็นวาสนาการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง มหัศจรรย์เป็นที่สุด

สุดท้าย นางเก็บประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์เหล่านั้นไว้อย่างระมัดระวังด้วยมืออันสั่นเทา

“คืนสภาพเดิมเสีย”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยเสียงเบา ภาพน่าเหลือเชื่อปรากฏ เหตุการณ์ทุกอย่างคล้ายหมุนย้อนกลับ ดาบยาวจักรพรรดิเซียนที่แหลกลาญไปก่อนหน้าก็คืนสภาพได้ดังเดิม

สายธารแห่งกาลเวลาปรากฏ ทุกสิ่งทุกอย่างไหลทวนกระแส จักรพรรดิเซียนเก่าแก่ทั้งแปดถอยกลับไปในส่วนลึก ร่างของผู้นำตระกูลและจักรพรรดิเซียนอีกเก้าก็ถอยกลับหายไปเช่นกัน

ทั้งหมดกลับคืนสู่สภาพเมื่อครั้งพวกเขาเพิ่งมาถึง!

สมาชิกทั้งหลายในตระกูลเฟ่ยออกลาดตระเวน เฝ้าระวังอย่างรอบคอบ ราวกับว่าหลี่จิ่วเต้าและซ่างกวนอิ๋งไม่เคยปรากฏตัวที่นี่มาก่อน!

ขณะเดียวกัน ทั้งที่หลี่จิ่วเต้าและซ่างกวนอิ๋งยังอยู่ในดินแดนตระกูลแท้ ๆ แต่สมาชิกตระกูลเฟ่ยที่กำลังลาดตระเวนกันอยู่ กลับทำท่าเหมือนมองไม่เห็นทั้งสองอย่างนั้น!

บิดเบือนห้วงเวลา คืนกลับสภาพเดิม!

หลังซ่างกวนอิ๋งได้เห็นภาพนี้ ก็ไม่รู้ว่าควรเอ่ยคำใด พลังอะไรกัน!?

นางตะลึงจนหัวใจแทบหยุดเต้น!

ต้องรู้ว่า พลังแห่งกาลเวลาลึกล้ำเกินหยั่งที่สุด บ่วงกรรมที่เข้ามาพัวพันนั้นมหาศาล แม้นย้อนเวลาเพียงอึดใจเดียว ก็เป็นเรื่องยากเย็นหนักหนา แทบไม่อาจทำได้เลย!

ทว่าคุณชายเอ่ยถ้อยคำเดียวเบา ๆ ก็ทำได้อย่างสมบูรณ์ ซ้ำยังย้อนเวลาไปตั้งมากมายปานนั้น น่าเหลือเชื่อที่สุด!

ซ่างกวนอิ๋งหันมองคุณชายด้วยความรู้สึกสะท้อนใจเหลือแสน โชคอะไรหล่นทับนางกัน ถึงมีโอกาสพานพบการดำรงอยู่เช่นนี้!

“ไปเถิด เราต้องไปที่อื่นต่อ”

หลี่จิ่วเต้าสะบัดมือ พาซ่างกวนอิ๋งไปจากที่นี่ เขากลัวว่าประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์ของจักรพรรดิเซียนเหล่านี้ยังไม่พอ จึงคิดไปเยือนมหาตระกูลอื่นด้วย เพื่อตามหาประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์ให้ซ่างกวนอิ๋งมากกว่านี้

ถึงอย่างไร สั่งสมให้มากก็เป็นเรื่องดี เมื่อมีประสบการณ์ฝึกตนมากเข้า เสมือนได้รับการรับรองจากหลายฝ่าย เมื่อมีคัมภีร์ฝึกตนมากเข้า ก็จะมีโอกาสเฟ้นหาท่ามกลางสิ่งล้ำเลิศ ได้ศึกษาแขนงที่ทรงพลังที่สุด

ตระกูลแล้วตระกูลเล่า หลี่จิ่วเต้าพาซ่างกวนอิ๋งไปเยือนทั้งแปดตระกูลในรวดเดียว ได้รับประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์มหาศาล

ซ่างกวนอิ๋งซาบซึ้งใจมาก ถึงแม้คุณชายจะมิได้ถ่ายทอดวิชาของท่านโดยตรง กระนั้นยังยกประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์ของทั้งเก้ามหาตระกูลให้นาง เท่ากับนางได้เหยียบไหล่จักรพรรดิเซียนทั้งหลายในการฝึกฝนยกระดับ มีจุดเริ่มต้นสูงยิ่ง!

นางไม่รู้เลยว่าบุญคุณระดับนี้จะตอบแทนคุณชายอย่างไรในอนาคต คุณชายดีกับนางเหลือเกิน

เมื่อครั้งมาถึงตระกูลเซียว หลี่จิ่วเต้ากำราบไว้ทั้งสถานที่ หลังได้รับประสบการณ์ฝึกตนและคัมภีร์ของจักรพรรดิเซียนตระกูลเซียวแล้ว เขาก็เอ่ยชื่นชมตระกูลเซียว

“เขามอตระกูลเจ้าไม่เลวเลย งดงามนัก”

ประโยคนี้ เริ่มแรกผู้นำตระกูลเซียวยังไม่เข้าใจ แต่ต่อมาเขาไตร่ตรองจนรู้เรื่อง สะเทือนอารมณ์ขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าน้ำตานองหน้า

เขามออันใดกัน!

นี่เป็นการหมายถึงหินโกลาหลก้อนนั้นในตระกูลเขาชัด ๆ!

เขาคิดไม่ผิด หินโกลาหลถูกสลับไปจริง ๆ และบัดนี้ เขาพบผู้ที่สลับไปแล้ว!

แต่เขากลับไม่มีเรี่ยวแรงแก้ไขสิ่งใด

หลี่จิ่วเต้าคืนสภาพทุกอย่างตามเดิม ย้อนห้วงเวลา ราวกับว่าเขาและซ่างกวนอิ๋งไม่เคยมาเยือนแปดมหาตระกูลมาก่อน

สุดท้าย เขาพาซ่างกวนอิ๋งกลับไป

“จำไว้ จากนี้ไป ข้าจะไม่ช่วยเหลือเจ้าอีก ต่อให้เจ้าต้องประสบเคราะห์ร้ายถึงชีวิต ข้าก็จะไม่ออกมาช่วยเจ้าอีกแล้ว หลังจากนี้ เจ้าไปได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเท่านั้น”

ชายหนุ่มบอกกับซ่างกวนอิ๋ง

“ข้าเข้าใจแล้ว! ขอบพระคุณคุณชาย!”

ซ่างกวนอิ๋งน้ำตารื้น โขกศีรษะให้คุณชายเสียงดังหนึ่งครั้ง รู้ว่าคุณชายต้องไปแล้ว

“หวังว่าหลังจากนี้เจ้าจะไม่ก่อกรรมทำเข็ญ หมั่นทำความดีให้มาก อย่าทำตามอำเภอใจเพียงเพราะเจ้าทรงพลังขึ้น! หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ยอมปล่อยเจ้าไว้!”

หลี่จิ่วเต้ากล่าว และร่างกายก็ค่อย ๆ อันตรธาน หายไปจากที่แห่งนี้

ณ เมืองชิงซาน

ภายในลานเล็กของหลี่จิ่วเต้า

ญาณหินโกลาหลเห็นทุกอย่าง!

‘บูรพาจารย์เต๋า! ท่านผู้นี้ต้องเป็นบูรพาจารย์เต๋าแน่นอน!’

ญาณหินโกลาหลร่ำร้องในใจด้วยความเต็มตื้นเหลือคณา

มันเห็นทุกอย่างจากที่นี่

วาจาเดียวริดรอนพลังของเหล่าจักรพรรดิเซียนและอาวุธจักรพรรดิเซียน นี่ยังไม่เท่าไหร่

ภพเซียนสูงส่งมิมีผู้ใดทัดเทียม จักรพรรดิเซียนเสมือนตัวตนอันไร้เทียมทาน ทว่านั่นก็เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น

ในแดนบรรพโกลาหล สิ่งมีชีวิตที่ทำเช่นนี้ได้มีอยู่ไม่น้อย กำลังรบระดับจักรพรรดิเซียนมิได้โดดเด่นนักในแดนบรรพโกลาหล

แดนบรรพโกลาหล แหล่งกำเนิดของประการทั้งปวง ที่นั่นต่างหาก คือสถานที่ที่อยู่เหนือทุกสิ่ง สิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดในที่แห่งนั้น มิมีผู้ใดธรรมดาดาษดื่น ไม่ว่าผู้ใด เมื่อออกสู่ภายนอกย่อมสามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง

หวนนึกถึงอดีต บุตรแห่งสวรรค์ในแดนบรรพโกลาหลแค่เพียงฝึกหัดวิชาปริภูมิเวลาบางอย่างเท่านั้น กลับดูดกลืนสิ่งมีชีวิตทั้งยุคสมัยหนึ่งเข้ามาในแดนบรรพโกลาหล

และสิ่งมีชีวิตในยุคสมัยนั้น เพียงอาศัยอยู่ในพื้นที่รกร้างชายขอบที่สุดของแดนบรรพโกลาหล ยังสัมฤทธิ์วิชาได้เหนือกว่าด้านนอกนั่นมากนัก

เอ่ยอย่างไม่เกินจริง สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นบดขยี้ภพเซียนได้ถึงสิบภพ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางของแดนบรรพโกลาหลเลย!

จะว่าไป แดนบรรพโกลาหลเข้าได้ออกไม่ได้ กลับเป็นความโชคดีของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ หากมิใช่เช่นนั้น สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่มีทางได้อยู่ในแดนบรรพโกลาหล คงถูกส่งกลับไปนานแล้ว

ญาณหินโกลาหลสะท้านใจอย่างยิ่งยวดในฝีมือคืนสภาพดังเดิมนั้น ทันทีที่หลี่จิ่วเต้าเอื้อนเอ่ยวาจา ห้วงเวลาพลันไหลย้อน!

สบายผ่อนคลายเยี่ยงนั้น นอกจากบูรพาจารย์เต๋าโกลาหลแล้ว ผู้ใดสามารถทำเช่นนี้ได้ง่าย ๆ อีก

เป็นไปไม่ได้เลย!

บูรพาจารย์เต๋าโกลาหลอยู่เหนือกฎระเบียบทุกอย่าง ควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ดั่งใจ ตัวตนของท่านก็คือกฎระเบียบ ทุกถ้อยคำล้วนเป็นหลักเต๋า ทลายกฎเกณฑ์ทั้งหมด!

หากหลี่จิ่วเต้ามิใช่บูรพาจารย์เต๋าสิแปลก!

มันโชคดีเหลือเกิน ทั้งที่เป็นเพียงหินสามัญในแดนบรรพโกลาหลเท่านั้น กลับโชคดีได้ติดตามอยู่ข้างกายบรรพจารย์เต๋าระดับนี้ ความเต็มตื้นในใจของมันไม่อาจพรรณนาได้ด้วยวาจา!

“เล่นนานเกินไปแล้ว เหนื่อยนัก”

ภายในลาน หลี่จิ่วเต้าบิดขี้เกียจ วางแท็บเล็ตลงและกลับไปพักผ่อนในห้อง

เขาคิดว่าเร็ว ๆ นี้คงมิได้ไปภพเซียนอะไรนั่นอีก มิสู้ไปเที่ยวในอวกาศ ชื่นชมทิวทัศน์ของจักรวาล!

บุ๋งบุ๋ง~

ภายในบ่อน้ำ เหล่าปลามังกรรวมตัวกันอีกครั้ง

“เจ้าลูกเป็ดขี้เหร่นั่นได้เป็นวิหคเพลิงจริง ๆ หรือนี่!”

“แต่ก็เปล่าประโยชน์ ลูกเป็ดขี้เหร่ก็คือลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่ได้ยินที่คุณชายเอ่ยหรือ อนาคตจักริบทุกสิ่งคืน”

“เมื่อตื่นจากฝันก็ไร้ความหมาย ลูกเป็ดขี้เหร่ตัวนี้เหมาะแก่การเพ้อฝันเท่านั้น คิดจะครอบครองทุกสิ่งนี้จริง ๆ นางคู่ควรที่ไหน!”

ปลามังกรทั้งหลายพากันวิพากษ์วิจารณ์ซ่างกวนอิ๋ง ดูแคลนซ่างกวนอิ๋งมาตั้งแต่ต้น

ถึงแม้ซ่างกวนอิ๋งจะเป็นคนจากภพเซียน กระนั้นก็เป็นเพราะนางดวงดีเท่านั้น รู้จักเลือกเกิดเท่านั้น นอกจากข้อนี้ ซ่างกวนอิ๋งไม่มีตรงไหนเทียบพวกมันได้เลย

หากพวกมันถือกำเนิดในภพเซียน ย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าซ่างกวนอิ๋งเป็นร้อยเท่า!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท