ตอนที่ 613 พบปะญาติ
ณ ห้องนั่งเล่น คุณปู่ฟางหั่นแตงโมเตรียมรับรองแขก
คุณพ่อไป๋และคนอื่น ๆ ต่างกินแตงโมอยู่คนละชิ้น
โต้วโต้วถือแตงโมชิ้นหนึ่ง แต่กินไม่มากนัก มองตระกูลไป๋ด้วยความอยากรู้อยากเห็นด้วยดวงตาสีเข้มกลมโตของหล่อน
เมื่อครอบครัวไป๋เห็นคุณย่าฟางเดินมาพร้อมกับหลินม่าย พวกเขาทั้งหมดก็มองมาที่เธอ ยกเว้นไป๋ซวงที่หลบสายตาของหลินม่าย
หลังจากนั้นก็ได้พบกับหลินม่าย
แม้ว่าในตอนนั้นหล่อนจะสวมหน้ากากอยู่ แต่ก็ยังกังวลเกี่ยวกับการถูกจดจำ
ในกรณีที่ถูกจดจำได้ ความจริงว่าหล่อนเคยได้พบกับหลินม่ายและกล่าวความเท็จจนทำให้อีกฝ่ายพลาดการนัดพบกับไป๋ลู่ก็จะถูกเปิดเผย
หากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างจะต้องเลวร้ายยิ่งกว่านี้แน่
ดวงตาของไป๋ลู่สว่างวาบราวกับหลอดไฟ ชี้ไปยังหลินม่ายอย่างตื่นเต้นและพูดกับพ่อและแม่ไป๋
“พ่อคะ แม่คะ หล่อนคือหลินม่ายที่หนูเจอบนรถไฟ! หล่อนคือหลินม่ายตัวจริง!”
ไป๋ซวงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรกเสียงต่ำ “แต่พี่ก็เคยบอกว่าหลินเพ่ยเป็นหลินม่ายมาก่อนนี่”
หลินม่ายได้ยินดังนี้จึงมองมาทางหล่อน
ไป๋ช่วงรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย แต่หลินม่ายกลับมองไปทางอื่นอย่างเฉยเมย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจำหล่อนไม่ได้
หล่อนระงับความกระวนกระวายในใจทันที
แน่นอนว่าหล่อนระแวงมากจนเกินไป
วันนั้นหล่อนเป็นหวัดและสวมหน้ากาก หลินม่ายจะจำหล่อนได้อย่างไร!
ไป๋ลู่หน้าแดง “ตอนนั้นฉันตื่นเต้นเกินไป และไม่ได้ดูอย่างระมัดระวังจึงจำคนผิด”
ไป๋ซวงยิ้มอย่างเฉยเมย “พี่รอง ครั้งนี้ก็อย่าตื่นเต้นเกินจนผิดพลาดอีกนะคะ”
เมื่อพ่อไป๋และแม่ไป๋ได้ยินคำพูดของไป๋ซวง อารมณ์ตื่นเต้นของพวกเขาราวกับถูกราดรดด้วยน้ำเย็นจนสงบลง มองหลินม่ายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
พวกเขาเคยถูกหลอกโดยหญิงชั่วชื่อหลินเพ่ยมาก่อน และด้วยบทเรียนที่ได้รับจากอดีต พวกเขาจึงระมัดระวังมากขึ้น ด้วยกลัวว่าตัวเองจะผิดพลาดอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าไป๋ซวงพูดจาเช่นนี้ หลินม่ายก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็จางหายไป
ไม่ว่าคนเหล่านี้จะเป็นญาติของเธอหรือไม่ ไม่ว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อเธออย่างไร เธอก็ไม่สนใจ
เธอไม่เคยมีญาติเลยแม้แต่วันเดียวในชีวิตทั้งสองชาติของเธอ และเธอก็ไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อพวกเขา
หากพวกเขาเต็มใจปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว เธอก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวเช่นกัน
แต่หากพวกเขาปฏิบัติต่อเธอไม่ดีนัก เธอก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยท่าทางเดียวกัน
แม่ไป๋ยืนขึ้น จ้องมองหญิงที่ดูคล้ายกับหล่อนอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนอุทานด้วยความตกใจ “ม่ายจื่อ”
หลินม่ายพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ”
ไป๋ลู่ดึงเธอไปนั่งระหว่างเธอกับแม่ไป๋และพูดด้วยความไม่พอใจ “เรียกแม่สิ เรียกแม่เร็วเข้า! ก่อนหน้านี้ที่เราเจอกันบนรถไฟ เธอดูเหมือนแม่ของฉันมาก ฉันไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วเธอคือน้องสาวของฉัน!”
หลินม่ายยิ้ม “คงจะเป็นการดีกว่าถ้ารอสิ่งที่จะพิสูจน์หรือยืนยันได้ว่าฉันเป็นคนในครอบครัวของคุณแล้วค่อยเรียกฉันแบบนั้น อย่าเพิ่งเรียกฉันแบบนั้นเลยค่ะ ถ้าฉันไม่ใช่คนในครอบครัวของคุณ คุณน้าอาจผิดหวังเอาได้”
เธอไม่ใช่คนถ่อมตัวหรือก้าวร้าวเอาแต่ใจ เธอจะไม่กระตือรือร้นที่จะทำให้อีกฝ่ายพอใจและยอมรับตัวตนของทายาทเพียงเพราะพ่อและแม่ไป๋เป็นคนมีฐานะ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ของเธอหรือไม่ก็ตาม
แม่ไป๋รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
พวกเขารีบเร่งออกจากเมืองหลวงมายังเจียงเฉิงท่ามกลางอากาศร้อนเพื่อจะได้พบกับหลินม่าย นี่คือหลินม่ายจริง ๆ ใช่หรือไม่?
เนื่องจากยังไม่ได้รับการยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด หากให้หลินม่ายเรียกหล่อนว่าแม่ก่อนก็อาจผิดหวังเหมือนที่เคยใช่หรือไม่?
แม่ไป๋เตรียมซองสีแดงที่ใส่เงินจำนวนแปดสิบแปดหยวนมาด้วย ไม่ว่าหลินม่ายจะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของหล่อนหรือไม่ หล่อนก็ตั้งใจจะมอบให้เป็นของขวัญ
แต่ในเมื่อหญิงผู้นี้เป็นเช่นนี้ ดังนั้นควรจะมอบให้เธอดีหรือไม่
หลินม่ายเป็นคนเฉลียวฉลาด แน่นอนว่าเธอสังเกตเห็นการแสดงออกของแม่ไปอย่างชัดเจน
แม้จะเป็นแม่ของเธอเอง แต่อีกฝ่ายก็ไม่กล้ามองหน้าเธอ
หลินม่ายกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นั่งลงก่อนค่ะ ฉันทำอาหารกลางวันไว้อยู่ เชิญรับประทานด้วยกันนะคะ”
หลังจากนั้นเธอก็ถอยออกไปและจากไป
ขณะที่เธอกำลังเดินไปยังห้องครัวก็อดไม่ได้ที่จะมองกลับไปที่ไป๋ซวงด้วยความประหลาดใจ
ไป๋ซวงกินแตงโมอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อเห็นหลินม่ายเดินเข้าไปในครัว จึงเอ่ยถามคุณย่าฟางด้วยน้ำเสียงไพเราะ “คุณย่าคะ ม่ายจื่อเป็นใครในครอบครัวนี้เหรอคะ?”
ตอนนี้หล่อนสงสัยว่าหลินม่ายเป็นสาวใช้ของครอบครัวนี้
หากหลินม่ายเป็นสาวใช้ของครอบครัวคุณย่าฟางจริง ๆ หล่อนจะสร้างปัญหาเพื่อกลั่นแกล้งหลินม่ายอย่างแน่นอน
หล่อนสร้างปัญหาให้กับผู้คนได้ดี
ฟางจั๋วเยวี่ยนำขวดเบียร์เปล่าทั้งหมดเข้าไปในห้องอเนกประสงค์ และเดินออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ซวงเขาก็ตอบกลับอย่างเฉยเมย “ม่ายจื่อเป็นหลานสะใภ้ของย่าผม”
รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ซวงพลันหายวับ
หลินม่ายไม่เพียงไม่ใช่สาวใช้เท่านั้น แต่เธอยังเป็นหลานสะใภ้คนโตของคุณย่าฟางอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ไป๋ซวงอิจฉาอย่างยิ่ง
หล่อนแอบมองฟางจั๋วเยวี่ย แม้เขาจะดูเฉยเมยและเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้ม แต่ก็ยังดูหล่อเหลาไม่น้อย
ขนาดผู้ชายคนนี้ยังหล่อมาก แล้วพี่ชายของเขาจะหล่อเหลาขนาดไหนกัน
ไม่คิดเลยว่าหลินม่ายจะโชคดีขนาดนี้ เธอได้อยู่บ้านหลังใหญ่โตแถมยังได้แต่งงานกับชายผู้หล่อเหลาอีก
หลินม่ายกำลังยุ่งอยู่ในครัว คุณปู่และคุณย่าฟางจึงพูดคุยกับครอบครัวไป๋
พ่อไป๋และแม่ไป๋สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ส่วนตัวของหลินม่าย โดยถามทุกรายละเอียดเกี่ยวกับทุกสิ่ง
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางผู้มีประสบการณ์รู้ว่าอะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูด
พวกเขาสามารถบอกเล่าถึงเรื่องราวของหลินม่ายได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องทรัพย์สิน ซึ่งคู่สามีภรรยาวัยชราไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้เลย
เงินเป็นสิ่งล่อลวงจิตใจ หากตระกูลไป๋เห็นว่าหลินม่ายร่ำรวยมาก พวกเขาจะไม่นึกอยากฉวยผลประโยชน์จากเธอเหรอ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงที่ชื่อไป๋ซวง แววตาและคำพูดของหล่อนเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เพียงมองแวบแรกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี!
นี่ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เพราะหล่อนน่าจะเป็นลูกแท้ ๆ ของหลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขา
มังกรให้กำเนิดมังกร หงส์ให้กำเนิดหงส์ และลูกหนูก็สามารถขุดรูได้เหมือนกับพ่อแม่
หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขาไม่ใช่คนดี เป็นไปไม่ได้ที่ลูกของพวกเขาจะเติบโตเป็นต้นไม้ที่ดี
พ่อไป๋และแม่ไป๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เป็นเรื่องน่าสงสารที่หลินม่ายต้องทนทุกข์ทรมานมากตั้งแต่อายุยังน้อย
สิ่งที่น่ายินดีคือแม้หลินม่ายจะทำงานหนักและความทุกข์ยาก แต่ผลการเรียนของเธอก็ดีมาก!
ไป๋ลู่ชื่นชมหลินม่ายไม่หยุดพัก
เมื่อเห็นว่าทั้งครอบครัวชื่นชมหลินม่ายอย่างออกนอกหน้า ไป๋ซวงก็รู้สึกอึดอัดมาก
ก่อนหน้านี้หลินเพ่ยปลอมตัวหลินม่ายและกลายเป็นที่รักของแม่ไป๋และคนอื่น ๆ หล่อนยังจำประสบการณ์การถูกทอดทิ้งได้อย่างชัดเจน หล่อนจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
หล่อนกอดแม่ไป๋อย่างอ่อนโยน “แม่คะ ม่ายจื่อในตอนนี้ก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอยู่แล้ว หล่อนแต่งงานมีลูกแล้ว ถือเป็นโชคดีสำหรับหล่อนที่ได้พบกับตระกูลฟาง หล่อนได้กินดีอยู่ดี และมีชีวิตที่ดี ชีวิตหล่อนไม่ได้ลำบากอะไรเลย แม่ไม่ต้องเสียใจหรือรู้สึกผิดต่อม่ายจื่อนะคะ”
คุณย่าฟางขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวด้วยความไม่พอใจ “เธอหมายความว่ายังไง? ม่ายจื่อมีทุกวันนี้ได้เพราะหล่อนทำงานหนักมาตลอดชีวิต หากไม่ใช่เพราะหล่อนมีความสามารถ ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่จั๋วหรานจะตกหลุมรักและแต่งงานมีลูกกับหล่อน”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ตื่นค่ะ ยัยไป๋ซวง ตื่นๆๆๆ สติค่ะสติ บุญวาสนาแข่งกันไม่ได้นะคะ
คุณย่าฟางกระหน่ำจวกนางหน่อยค่ะ เอาให้เละเป็นโจ๊กกลับไปเลย
ไหหม่า(海馬)