ตอนที่ 549 วิถีขีดสุดขั้นกลาง กระบี่ของข้าคือความมั่นใจ!
บึ้ม!
คล้อยหลังจากเสียงคำราม กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาจากร่างของหนิงฝาน
ในเวลาเดียวกัน ตรวนเทพมหาวิถีราวกับมังกรและงูที่พุ่งออกมาทางร่างกาย พลังต้องห้าม บุกเบิกฟ้าดิน ความว่างเปล่า… ทุกวิถีต่างแสดงถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นพลังของระดับวิถีขีดสุด!!
ตู้มม!
พลังวิถีขีดสุดอันน่าสะพรึงกลัวนั้นราวกับทะเลคลั่ง โหมซัดขึ้นลง แผ่กระจายกวาดล้างไปทุกสารทิศ!
ฟ้า ดิน มิติ โลกและจักรวาลทั้งหมดพังทลายลงในสุญตา ก่อตัวเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัว!
หึ่ง!
โชคดีที่กงล้อแห่งโชคชะตาปล่อยประกายแสงไร้สิ้นสุดออกมาเหนือหัวของเขา ครอบคลุมพลังงานที่พลุ่งพล่านทั้งหมด
ระดับวิถีขีดสุด!
หนิงฝานทะลวงสู่ระดับวิถีขีดสุด!
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้!
แม้ว่าเขาจะทะลวงไปถึงระดับวิถีขีดสุด แต่กลิ่นอายพลังในร่างกายของหนิงฝานยังคงลุกโชนราวกับเตาหลอมสวรรค์!
พลังระดับวิถีขีดสุดที่น่าสะพรึงกลัวยังคงพรั่งพรูออกมา และกลิ่นอายก็แข็งแกร่งขึ้น!
จนไปถึง—ระดับวิถีขีดสุดขั้นกลาง!
ควับ!
เมื่อมาถึงจุดนี้ หนิงฝานก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาของเขาทอประกายอันน่าเกรงขามออกมา
“ดี!”
“ระดับวิถีขีดสุดขั้นกลาง!”
พอรู้สึกได้ถึงพลังเอ่อล้นอันไร้ที่สิ้นสุดในร่างกาย ดวงตาของหนิงฝานพลันไหววูบ
อันที่จริง เขายังไม่พอใจกับระดับวิถีขีดสุดขั้นกลาง แต่หลังจากผ่านไปห้าสิบปี เขาไม่มีเวลาพอที่จะฝึกฝนอีกต่อไปแล้ว!
ฟึ่บ!
ลมหายใจต่อมา จึงหยัดกายลุกขึ้นทันที
“ขอแสดงความยินดีกับท่านหนิงฝานที่ทะลวงขั้นได้สำเร็จ!”
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยชิงเอ๋อร์ ฝูเทียน และคนอื่น ๆ หรือกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์โบราณที่ตื่นขึ้นจากการเคลื่อนไหวของหนิงฝาน พวกเขาทั้งหมดต่างแสดงความยินดีกับหนิงฝานโดยพร้อมเพรียง
“อืม!”
หนิงฝานพยักหน้า เพียงกวาดสายตามองครั้งเดียว ใบหน้าของเขาก็เบาใจขึ้น!
เป็นเวลาห้าพันปีที่ทุกคนไม่ได้หย่อนยานในการฝึกฝน และความแข็งแกร่งของทุกคนล้วนได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยี่ยชิงเอ๋อร์และฝูเทียนทั้งสองคนจากวิถีขีดสุดขั้นปลายได้มาถึงวิถีขีดสุดขั้นสุดยอด อันเป็นจุดสิ้นสุดของมหาวิถีแล้ว!
ควับ!
จากนั้น หนิงฝานก็เดินไปหาเยี่ยชิงเอ๋อร์ “แม่นางเยี่ย เจ้าช่วยใช้พลังจักรพรรดิชิง เพื่อนำทางคนสามคนให้ข้าได้หรือไม่!”
“ได้!” เยี่ยชิงเอ๋อร์พยักหน้า และหยิบบงกชเขียวเก้ากลีบออกมาจากอกของนางทันที!
บงกชเขียวเก้ากลีบแต่ละกลีบมีกฎที่ไม่มีที่สิ้นสุดของมหาวิถี!
“จักรพรรดิชิงโปรดอภัย เยี่ยชิงเอ๋อร์ บังอาจใช้พลังของบรรพชนเพื่อช่วยนำทางคนทั้งสามเข้าสู่ดาวราชันจักรพรรดิ!”
หลังจากพูดจบ เยี่ยชิงเอ๋อร์ก็กระตุ้นบงกชเขียวในมือทันที!
ภูเขาต้าชิงทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน แล้วลายเส้นสีเขียวชุดหนึ่งก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็วที่เชิงเขาไปสู่ยอดเขา เมื่อพวกมันทั้งหมดมาบรรจบกันบนยอดเขา ภูเขาต้าชิงทั้งหมดก็ลอยขึ้นด้วยพลังราชันจักรพรรดิเซียนสูงสุด!
ตู้ม!
ทันใดนั้น เสาแสงสีเขียวขนาดใหญ่หาใดเปรียบได้ก็ระเบิดขึ้น ก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนเหนือยอดเขา!
“คุณชายหนิง ทางผ่านมิติเสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่ทราบว่าคุณชายหนิงจะพาผู้ใดมาที่ดาวราชันจักรพรรดิ!” เยี่ยชิงเอ๋อร์หันศีรษะมาเอ่ยถาม
“ราชาทั้งสามแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ!” หนิงฝานตอบ
เมื่อเห็นว่าเยี่ยชิงเอ๋อร์สับสนเล็กน้อย เขาจึงเปิดปากอธิบาย “พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์ของตะเกียงเบิกสวรรค์! ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ถูกลิขิตไว้ มันเริ่มขึ้นเพราะข้า และมันจะต้องสิ้นสุดลงเพราะข้า!”
“อืม!”
เยี่ยชิงเอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นนางก็โบกมือไปที่บงกชเขียวอีกครั้ง พลันกระแสพลังหมุนวน!
หึ่ง หึ่ง หึ่ง!
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างสามร่างก็ก้าวออกมาจากวังวน พวกเขาคือเจิ้นหวัง ซวินหวัง และสิงหวัง!
ทันทีที่ราชาทั้งสามมาถึง พวกเขาก็มองมาที่หนิงฝานด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเดียวกับราชาโบราณทั้งสาม “กาลเวลาผันผ่าน สหายน้อยหนิงฝาน พวกเราพบกันอีกคราแล้ว!”
“พวกท่านคือสามราชาแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ หรือสามราชาโบราณ?” เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
“สามราชาโบราณก็คือสามราชาแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ สามราชาแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิก็คือสามราชาโบราณ!” ราชาทั้งสามกล่าว
ในหมู่พวกเขา ซวินหวังอธิบายว่า “หนิงฝาน พวกเราราชาทั้งสามก็คือร่างแยกของสามราชาโบราณ ไม่นานหลังจากที่เจ้าก้าวเท้าเข้าสู่เขตหวงห้ามสุญญะแปดทิศที่ด่านหนึ่งร้อย ร่างแท้จริงของเราก็ดับสูญ และพวกเราก็ตระหนักถึงภารกิจของเราได้ขึ้นมา!”
“หนิงฝาน เราสามคนเฝ้ารอมาเนิ่นนาน และวันนี้ข้าจะมอบตะเกียงเบิกสวรรค์ให้กับเจ้า!”
เจิ้นหวังโบกมือของเขา ไม้บรรทัดยาวสีดำสนิทก็ปรากฏขึ้น มันมีน้ำหนักมากถึงพันล้านจิน ราวกับสามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง!
นั่นคือเจิ้นฉื่อ!
ต่อจากนั้น ซวินหวังและสิงหวังก็นำซวินจิ้ง และสิงอวี้ภายใต้การควบคุมของพวกเขาออกมา!
ทันทีที่อาวุธทั้งสามปรากฏขึ้น พวกมันก็สำแดงอานุภาพแห่งกฎที่น่าสะพรึงกลัวทันที
“ผู้ใดจะคิดว่าเจิ้นฉื่อ ซวินจิ้ง สิงอวี้ อาวุธทั้งสามนี้จะเป็นอาวุธวิเศษเพื่อใช้เปิดตะเกียงเบิกสวรรค์เล่า!”
เมื่อเห็นฉากนี้ หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ย้อนกลับไปในตอนนั้น เมื่อเขาใช้เนตรเทวะแห่งอาณัติสวรรค์เพื่อสำรวจตะเกียงเบิกสวรรค์ข้ามผ่านกาลเวลา ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จะเกิดเรื่องบังเอิญหรือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มากมายขนาดนี้!
“รวม!”
หนิงฝานไม่ลังเลอีกต่อไป เขาใช้พลังมหาศาลรวมอาวุธยิ่งใหญ่ทั้งสามทันที!
ตู้ม!
ไม่นานหลังจากนั้น บังเกิดเสียงคำราม ตะเกียงเทวะทองสัมฤทธิ์ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา พร้อมกับรุจีแห่งกฎอันไร้ที่สิ้นสุด!
หลังจากซ่อนตัวมานานหลายปี ในที่สุดตะเกียงเบิกสวรรค์ก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง!
“หนิงฝาน ร่างจริงของเราเคยบอกเจ้าแล้ว แม้ว่าการเปิดตะเกียงเบิกสวรรค์จะสามารถเปิดดินแดนสุดท้ายได้ แต่ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสองข้อ!” ในเวลานี้ราชาทั้งสามเอ่ยเตือน
“อืม!” หนิงฝานพยักหน้า!
ในการเปิดดินแดนสุดท้ายผ่านตะเกียงเบิกสวรรค์ จะต้องเปิดใช้งานกฎแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ ณ จุดนี้ กฎแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิส่วนสุดท้ายในตัวของเขาสามารถเติมเต็มได้ ในตอนนี้สิ่งที่ยากจะจัดการก็คือพลังงานที่ต้องมากพอ!
ทว่าสำหรับเรื่องนี้ หนิงฝานมีแผนอยู่แล้ว!
เขาถามกลับไปว่า “ผู้อาวุโสทั้งสาม พวกท่านคิดว่ามีแหล่งพลังงานใดในโลกนี้ที่สามารถกระตุ้นตะเกียงเบิกสวรรค์ได้หรือไม่”
“พลังต้นกำเนิดมหาวิถีของโลกนี้? ไม่ แม้ว่าพลังต้นกำเนิดมหาวิถีจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถเปิดใช้งานตะเกียงเบิกสวรรค์ได้โดยตรง!”
“สมบัติของยอดฝีมือ? ยังไม่ใช่อยู่ดี แม้ในดาวราชันจักรพรรดิจะมีสมบัติมากมาย แต่ก็ยากที่จะรวบรวมได้ในระยะเวลาอันสั้น!”
ราชาทั้งสามพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้หลายประการ แต่พวกเขาทั้งหมดก็ปฏิเสธทุกความคิดของตัวเอง!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ทว่าในลมหายใจต่อมา ราชาทั้งสามดูเหมือนจะครุ่นคิดบางอย่างพร้อมกัน แล้วพวกเขาก็จ้องมองไปที่หนิงฝานด้วยดวงตาเบิกกว้าง “สหายน้อย หรือว่าเจ้าจะ..!”
“มิผิด!”
หนิงฝานพยักหน้า ตอนนี้ดวงตาของเขาเย็นชามาก กล่าวว่า “พลังที่น่ากลัวที่สุดของดาวราชันจักรพรรดิ ไม่ใช่พลังต้นกำเนิดมหาวิถี หรือสมบัติใด แต่เป็นเหล่ายอดฝีมือในโลกนี้!”
“สิ่งมีชีวิตระดับต่ำที่สุดในที่นี้คือยอดฝีมือระดับวิถีขีดสุด มีแม้กระทั่งระดับวิถีขีดสุดขั้นปลายและระดับวิถีขีดสุดขั้นสุดยอด สิ่งสำคัญที่สุดคือ ในตอนนั้นเหล่าผู้แข็งแกร่งในโลกนี้ร่วมมือกับจักรพรรดิจุนเพื่อสังหารร่างจริงของผู้อาวุโสทั้งสาม ตอนนี้ใช้ชีวิตของพวกเขามาเปิดตะเกียงเปิดสวรรค์ ถือได้ว่าเป็นการล้างแค้นให้กับผู้อาวุโสทั้งสาม!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึงกับความคิดของหนิงฝาน!
ผู้ที่สามารถฝึกฝนบนดาวราชันจักรพรรดิได้นั้นล้วนเป็นยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ ยังมีแม้กระทั่งบุคคลระดับเจ้าโลกอีกด้วย!
หนิงฝานกลับหันมาสนใจพวกเขา
“หนิงฝาน เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับตะเกียงเบิกสวรรค์ด้วย เจ้าแน่ใจหรือไม่” ราชาทั้งสามถามด้วยแววตาเคร่งขรึม
ชิ้ง!
ทันทีที่หนิงฝานชักกระบี่ต้าหลัวออกมา พลังกระบี่อันน่าเกรงขามก็พุ่งทะยานฟ้า จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“กระบี่ของข้าคือความมั่นใจ!!”