บทที่ 597 รำพึงในใจ ร่างนิมิตหลี่จิ่วเต้าปรากฏ!
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหมอบอยู่กับพื้น หายใจกระหืดกระหอบ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดเนื้อพลิกออกมาอยู่ด้านนอก ไม่เหลือส่วนดีสักส่วน กระดูกที่หักงอแทงทะลุชั้นผิวหนังออกมา บาดเจ็บสาหัสอย่างยิ่งยวด
เขาคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏคล้ายจะก้าวสู่ขอบเขตสูงส่ง เดิมเขาคิดว่าสามารถจัดการจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏได้ง่ายดาย ทว่าบัดนี้ดูแล้ว เหมือนจะหวังสูงไป แม้ว่าเขารอบคอบมากพอ ชิงลอบโจมตีจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏไว้ก่อน ก็ยังไม่ไหว ห่างชั้นกันมากไป จนไม่อาจลบล้างความห่างชั้นระดับนี้ได้เลย
ตาเดินหมากล้อมระเบิดพังทลายก็เป็นเรื่องที่เขาคิดไม่ถึง พลังเหนือขั้นเทียนตี้ยังไม่เป็นประโยชน์อันใด จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก
เขามิได้คลางแคลงใจเลยว่า จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏต้องมีพลังระดับเซียนแล้วแน่นอน เพียงเพราะขาดแคลนสสารนิรันดร์ ไม่อาจอยู่ยงคงกระพัน ถึงยังมิได้เป็นเซียนจริง ๆ
“เฮ้อ…”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏผู้วางแผนล่วงหน้าไว้อย่างยาวนาน ปูเส้นทางสังสารวัฏไปถึงอาณาจักรทั้งปวง รวมถึงอาณาจักรเก้าตอนบนด้วย ย่อมมิใช่คนธรรมดา น่ากลัวอย่างยิ่ง เขาไร้เดียงสาเกินไป คิดน้อยเกินไป ไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน
ที่สำคัญคือ เขาคิดไม่ถึงว่าจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏจะก้าวเหนือขั้นเทียนตี้ขึ้นไปได้ เขาไฉนเลยจะคิดได้
ขั้นเทียนตี้เป็นระดับสูงสุดในใต้หล้า บรรลุขึ้นไปได้ง่าย ๆ ที่ไหน
ในความคิดของเขา นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในภพเซียนเท่านั้น
แน่นอนว่า กับท่านเซียนก็ทำได้ ซ้ำยังง่ายดายสบายกว่าด้วย
แต่จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏจะมีความเกี่ยวข้องกับคุณชายได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้เลย
จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏดั้นด้นทลายขีดจำกัดขั้นเทียนตี้ด้วยความสามารถและฝีมือของตนเอง ถึงได้มีกำลังรบน่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างตอนนี้ จนเทียบชั้นเซียนได้!
เรื่องนี้อัศจรรย์ไม่ใช่เล่น ผิดปกติอย่างยิ่ง ไม่ผิดที่เขาไตร่ตรองได้รัดกุมไม่พอ
หากเป็นผู้อื่น ก็ไม่มีทางคาดคิดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้
หนนี้ เขาแพ้ได้…สมน้ำสมเนื้อ
“ขอข้าดูภูมิหลังความเป็นมาของเจ้าหน่อยเถิด!”
จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏก้าวเข้ามา สีหน้าเย็นชา การต่อสู้จบลงแล้ว ต่อไป เขาจักผ่าวิญญาณจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงออก ดูว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมีตื้นลึกหนาบางเช่นไรกันแน่
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงบาดเจ็บหนักไปทั้งตัว ไม่อาจยันตัวลุกขึ้นมาด้วยซ้ำ แม้กระทั่งจะเอ่ยวาจายังไม่เหลือเรี่ยวแรง สูญเสียกำลังไม่อาจต่อสู้ได้อีก เขากลายเป็นเหยื่อบนเขียง จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏจะฆ่าจะแกงเขาอย่างไรก็ได้
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่คิดยอมแพ้ มิได้สิ้นหวัง
เบื้องหลังของเขาคือผู้ใด?
เบื้องหลังของเขาคือคุณชาย!
‘ข้าต้องตกหล่นบางสิ่งไปแน่!’
เขาคิดในใจ ระลึกความทรงจำที่อยู่กับคุณชายอย่างละเอียด นึกย้อนไปถึงทุกประโยคที่คุณชายได้เอื้อนเอ่ยกับเขา เขารู้สึกว่าตนเองต้องตกหล่นบางสิ่งไป คุณชายบอกเขาให้หัดเป็นฝ่ายรุก บัดนี้เขาทำตามแล้ว เหตุไฉนถึงล้มเหลวลงได้
ด้วยพลังฝีมือของคุณชาย จะผิดพลาดได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้เลย!
นอกเสียจากว่า…เขาตีความในความหมายของคุณชายผิด คุณชายมิได้ต้องการให้เขาจู่โจมจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏ
แต่นอกจากเรื่องนี้ เขาคิดเรื่องอื่นไม่ออกแล้วจริง ๆ
‘ข้าต้องตกหล่นอย่างอื่นไปแน่!’
เขาคิดในใจอีกครั้ง รู้สึกว่าตัวเองมิได้เข้าใจผิด คุณชายบอกเขาว่าควรหัดเป็นฝ่ายรุก นั่นหมายถึงให้เขาเป็นฝ่ายจู่โจมจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏ
จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏเดินเข้ามาทีละก้าว ใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แต่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมิได้สะทกสะท้านกับจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏสักนิด เขาหลับตา หวนนึกถึงเหตุการณ์วันวานที่ได้อยู่กับคุณชาย แม้กระทั่งประโยคเดียวที่คุณชายได้เอื้อนเอ่ย เขาก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน นึกย้อนขบคิดอย่างถี่ถ้วน
“ถูกแล้ว รู้จักยอมแพ้ ช่วยให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานน้อยลงไปอีกมาก”
จ้าวแห่งสังสารวัฏหัวเราะ มองว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมองสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่งดี เขาเห็นจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหลับตา จึงเข้าใจว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงถอดใจแล้ว
ทว่าลมหายใจต่อมา สีหน้าเขาต้องเปลี่ยนไปเล็กน้อย รอยยิ้มอันตรธาน
ด้านจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมีปรากฏการณ์ประหลาด ทันใดนั้น ประกายบางอย่างปรากฏออกมากลางอากาศ เริ่มแรกนั้นกะจ้อยร่อยมาก ต่อมาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ หลอมรวมเป็นร่างคนร่างหนึ่ง
“พลังฌาน!”
นัยน์ตาจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏสั่นระริก คาดไม่ถึงนิดหน่อย เบื้องหลังจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมีภูมิหลังลึกล้ำจริงด้วย!
ขอบเขตพลังของเขาสูงส่ง มีชีวิตอยู่มายาวนานจนประเมินมิได้ จึงรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้มาก เขาสัมผัสถึงพลังฌาน!
พลังฌาน คือการเพ่งสมาธิจนเกิดภาพนิมิตของผู้ที่นึกคิดในใจ ทว่ามิใช่ใคร ๆ ต่างใช้พลังฌานได้ มีเพียงผู้ที่มีพลังยิ่งใหญ่เกรียงไกรเท่านั้นจึงจะสำแดงออกมาเป็นภาพนิมิตได้
ซ้ำยังต้องมีความเกี่ยวข้องกับผู้ตั้งฌานในระดับหนึ่ง
เช่นนี้ ยามตั้งฌาน พลังของร่างนิมิตจึงจะเกิดการเชื่อมต่อ และสำแดงออกมา
ทว่าร่างนิมิตที่สำแดงออกมานั้น มิได้หมายความว่าผู้ที่ตั้งฌานถึงมาเยือนจริง ๆ หากแต่เป็นการตอบรับจากพลังยิ่งใหญ่ของผู้ที่ถูกตั้งฌานถึง
เพราะอย่างนั้น ถึงได้บอกว่าใช่ว่าผู้ใดล้วนถูกตั้งฌานจนเป็นร่างนิมิตออกมาได้ มีเพียงพลังยิ่งใหญ่สูงสุดอย่างหามิได้เท่านั้น ถึงสามารถทะลวงผ่านฟ้าดิน ข้ามพ้นห้วงมิติเวลาและปฐพี สำแดงออกมาเป็นร่างนิมิต
ในอดีต เขาเคยพบเรื่องเช่นนี้มาก่อน
เขาได้พบกับตัวตนสูงส่งที่ถูกสำแดงออกมาเป็นร่างนิมิต แม้ท่านผู้นั้นจะตายไปแล้ว แต่ด้วยพลังฌาน พลังของท่านผู้นั้นก้าวข้ามปริภูมิเวลา เผยออกมาให้เห็น!
ท่านผู้นั้นมีนามว่า ‘ฮวง’ ลูกหลานรุ่นหลังของเขาก้าวเข้าสู่เส้นทางสังสารวัฏ มาถึงแดนสังสารวัฏ ต่อมาคิดจะจากที่นี่ไป แต่ถูกพวกเขากีดขวาง ท้ายที่สุด คนผู้นั้นก็ตั้งฌานสร้างร่างนิมิตของ ‘ฮวง’ ออกมา!
ในกาลเวลาอันแสนยาวนาน แดนสังสารวัฏของพวกเขาไม่ค่อยเสียเปรียบผู้ใด ทว่าครานั้น พวกเขากลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ‘ฮวง’ ผู้หวนคืนในร่างนิมิต กล้าแกร่งไร้เทียมทาน นำทัพลูกหลานรุ่นหลังของเขาฝ่าออกไปจากแดนสังสารวัฏ
ครานั้น เขาก็อยู่ด้วย ได้ต่อสู้กับร่างนิมิตของ ‘ฮวง’ ซึ่งสำแดงออกมาด้วยพลังฌาน ทว่าเขามิใช่คู่ต่อสู้เลยสักนิด และนี่เป็นความเจ็บปวดสูงสุดในใจของเขา!
เทียบกับเขาแล้ว ‘ฮวง’ เป็นเพียงรุ่นหลังผู้หนึ่ง แต่เขากลับไม่อาจเอาชนะแม้แต่ร่างนิมิตของ ‘ฮวง’ ที่ถูกตั้งฌานถึง ซ้ำยังห่างชั้นกันไกลโข จะมิให้เขาเจ็บปวดใจได้เยี่ยงไร?
หาก ‘ฮวง’ ตัวจริงปรากฏ จะน่าประหวั่นพรั่นพรึงขนาดไหน?
เขาสงสัยอย่างมากว่า ‘ฮวง’ มิได้ตาย หากแต่บรรลุเป็นเซียนไปนานแล้ว อยู่ยงคงกระพัน ทั้งยังอาจบรรลุเหนือขอบเขตเซียนไปอีก!
และเพราะเขามีประสบการณ์โดยตรงจากคราวนั้น เขาถึงแน่ใจได้ในพริบตาว่า ร่างที่หลอมรวมขึ้นมานั้น เกิดจากพลังฌานของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง!
ทุกอย่างที่ผู้ยิ่งใหญ่เกินหยั่งครอบครองล้วนน่าเหลือเชื่อ อย่าว่าแต่ตั้งฌานถึงเลย ลำพังคิดจาบจ้วงผู้ยิ่งใหญ่ ละลาบละล้วงทางวาจา ก็อาจมีพลังบ่วงกรรมจุติลงมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ก้อนแสงนั้นเจิดจ้าขึ้นเรื่อย ๆ บดบังทุกสิ่ง พระอาทิตย์อาบเลือดในมิติย่อม ๆ แห่งนี้ถูกบดบังอย่างสิ้นเชิง สีชาดท่วมท้นนภาพลันมลาย ถูกปกคลุมด้วยก้อนแสงนั้น มิติย่อม ๆ แห่งนี้สว่างไสวจนไม่เหลือความมืดมิดแม้แต่น้อย!
ร่างนั้นเป็นความจริงขึ้นเรื่อย ๆ จากที่เคยพร่าเลือน ก็ค่อย ๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา เป็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง ซ้ำนอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาโดดเด่นกว่าผู้อื่นแล้ว ดูไม่มีตรงไหนวิเศษวิโสเลยสักนิด
“ช่าง…ไม่น่าเคารพเลยสักนิด!”
จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏมุมปากกระตุก เดิมอยากเอ่ยว่า ‘ช่างหน้าไม่อาย’ แต่นึกได้ว่าอาจเป็นการสร้างบ่วงกรรมบางอย่าง เขาจึงเปลี่ยนจาก ‘ช่างหน้าไม่อาย’ เป็น ‘ช่างไม่น่าเคารพ’!
บุคคลที่มีพลังยิ่งใหญ่ระดับนี้ ไฉนเลยจะมีร่างเป็นเด็กหนุ่ม คิดแล้วไม่มีทางเป็นไปได้เลย เขาคงอยู่มาแล้วอย่างยาวนาน แก่จนไม่อาจแก่ไปได้กว่านี้อีก
ทว่าร่างที่สำแดงออกมานั้นกลับเป็นร่างวัยเยาว์ ในสายตาของเขา ช่างหน้าไม่อาย!
“คุณ…ชาย!”
อีกด้าน จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงตาโตอ้าปากค้าง จ้องมองร่างของคุณชาย ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น
เขาเพียงหวนนึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ เมื่อคราวอยู่กับคุณชาย เหตุใดคุณชายมาที่นี่ได้
เห็นได้ชัดว่า เขาไม่รู้เรื่อง ‘พลังฌาน’ เลยสักนิด
คุณชายมาช่วยเขาหรือ
“ขอบคุณคุณชาย!”
เขาตื้นตันเหลือคณา กล่าวขอบคุณคุณชายไม่หยุด
คุณชายมาเยือน ทุกอย่างย่อมเป็นที่แน่นอน จะไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นกับเขา ต่อให้จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏแข็งแกร่งปานใด ดุดันปานใด เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชาย จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏก็ก่อกรรมทำเข็ญไม่ได้แม้แต่น้อย!
แต่เพียงไม่นานเขาก็รับรู้ถึงความผิดปกติ
ร่างของคุณชายปรากฏ ทว่ามิได้ตอบรับเขาเลยสักนิด คุณชายยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สีหน้าราบเรียบ สายตาปราศจากความรู้สึก
“คุณชาย?”
เขาร้องเรียกอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากคุณชาย
“สร้างร่างนิมิตของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าออกมาแล้วคิดว่าจะช่วยเจ้าได้หรือ”
จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏมีสีหน้าเย็นชา จากที่ตะลึงในคราแรก ได้ค่อย ๆ สงบลงมา
เขาทอดมองจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลว เอ่ยเสียงเยียบเย็น “วันนี้ ผู้ใดก็ช่วยเจ้าไม่ได้!”
เขาไม่รู้สึกกลัวเกรงร่างนิมิตของหลี่จิ่วเต้าสักนิด
เทียบกับเมื่อครั้งต่อสู้กับร่างนิมิตของ ‘ฮวง’ เขาในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก จนรู้สึกว่าเขาอยู่ในระดับที่สามารถถูกตั้งฌานเป็นร่างนิมิตออกมาได้แล้ว!
เขากล้าต่อสู้กับหลี่จิ่วเต้าที่ถูกเข้าฌานออกมาเป็นร่างนิมิตได้เหมือนกัน!
นอกจากนี้ เขาไม่รู้สึกถึงพลังกาลเวลาแม้แต่น้อย และไม่รู้สึกถึงพลังปราณแกร่งกล้าน่าพรั่นพรึงแต่อย่างใด หลี่จิ่วเต้าผู้นี้ เมื่อเทียบกับ ‘ฮวง’ แล้ว เห็นได้ชัดว่าห่างชั้นกว่ามาก
เมื่อครั้งร่างนิมิตของ ‘ฮวง’ สำแดงออกมา ยิ่งใหญ่กว่าหลี่จิ่วเต้ามากนัก พร้อมด้วยพลังปราณสยดสยองมากมาย จนน่าเกรงขาม ชวนให้รู้สึกตระหนก
แต่ร่างนิมิตของหลี่จิ่วเต้าในยามนี้กลับไม่ชวนให้เขารู้สึกแบบนั้น
เขายิ่งมั่นใจขึ้นไปใหญ่!
“พลังฌาน!?”
หลังได้ยินคำกล่าวของจ้าวแห่งแดนสังสารวัฏ จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเริ่มเข้าใจขึ้นมา
หรือเพราะเขาหวนรำลึกถึงความทรงจำเมื่อคราวอยู่กับคุณชาย จึงได้รับการตอบรับจากคุณชายโดยไม่รู้ตัว ร่างของคุณชายถึงได้โผล่มาที่นี่หรือ
“คุณชายเก่งกาจยิ่งนัก!”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างอดมิได้ นับถือคุณชายเหลือแสน ต้องเป็นพลังฝีมือระดับไหนกัน ถึงมีกิริยาโต้ตอบกลับมาได้เพียงเพราะการรำพึง จุติลงมาเป็นร่างนิมิต พลังฝีมือเยี่ยงนี้ ก่อนนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!
“เก่งกาจรึ?”
จ้าวแห่งแดนสังสารวัฏยิ้มเย็น ประกายพิศวงส่องสว่างในมือ ดาบยาวสัมฤทธิ์เล่มหนึ่งปรากฏในมือเขา
เขาชี้ดาบยาวสัมฤทธิ์ในมือไปที่ร่างของหลี่จิ่วเต้า และจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง “ข้าจักทำลายร่างนิมิตลงเดี๋ยวนี้ ให้เจ้าได้รู้แจ้งว่าสิ่งใดที่เรียกได้ว่าเก่งกาจ!”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา การต่อสู้กับร่างนิมิตของ ‘ฮวง’ เป็นความเจ็บปวดสูงสุดในใจของเขา อย่างไรเขาก็อยากต่อสู้อีกสักครา อยากประจักษ์ถึงความต่างชั้นระหว่างเขาและบุคคลระดับนั้น ดูว่าเขาในตอนนี้กลายเป็นบุคคลระดับนั้นหรือยัง
“ข้าต่างหากที่เกรียงไกรไร้เทียมทาน!”
เขาตวาดเสียงเย็น ทั้งเนื้อทั้งตัวเปี่ยมไปด้วยความองอาจไร้เทียมทาน!