ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 617 โมโห (ปลาย)

ตอนที่ 617 โมโห (ปลาย)

​“​พวก​เจ้า​สอง​คน​ไป​เขียนหนังสือ​สัญญา​ให้ท่าน​ย่า​ประเดี๋ยวนี้​ ​สัญญา​ว่า​ต่อไป​จะ​ตั้งใจ​เรียน​กับ​อาจารย์​ ​ไม่​ทำความ​ผิด​เช่นนี้​อีก​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มองดู​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้ว​ยสี​หน้าที่​เข้มงวด

​พวกเขา​สอง​คน​พยักหน้า​แล้ว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​อย่าง​รู้ความ​ ​จากนั้น​ก็​หัน​ตัว​เตรียม​เดิน​ออก​ไป​เขียนหนังสือ​สัญญา​ที่​ห้อง​หนังสือ​

​เดิน​มาถึง​หน้า​ประตู​ ​แต่กลับ​ถูก​สือ​อี​เหนียง​เรียก​ให้​หยุด​ ​“​กลับมา​ก่อน​ ​ข้า​ยัง​มี​อะไร​จะ​ถาม​!​”

​พวกเขา​สอง​คน​รีบ​เดิน​กลับมา​ ​ยืน​กุมมือ​ด้วย​ท่าที​ราวกับ​กำลัง​รอ​รับคำ​สั่ง​

​สือ​อี​เหนียง​จิบ​ชา​สอง​สาม​จิบ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​บันทึก​บทเพลง​ ​‘​ตำนาน​หั่น​เหยา​’​ ​มีราคา​มาก​หรือ​”

เรื่อง​ที่​ควรจะ​พูด​ก็​พูด​ไป​หมด​แล้ว​ ​เรื่อง​ที่​ควร​รับผิดชอบ​ก็​ต้อง​รับผิดชอบ​ ​ก่อน​จะ​เผชิญหน้า​กับ​เรื่อง​ภายนอก​ ​ต้อง​จัดการ​เรื่อง​ภายใน​ของ​ตัวเอง​ก่อน​ ​ถึง​ตอนนั้น​หาก​ไม่มี​บันทึก​บทเพลง​คืน​หวัง​อวิ​่น​ ​มัน​คงจะ​วุ่นวาย​

​สวี​ซื่อ​จุน​มีสี​หน้า​ไม่สบายใจ​ ​“​มัน​คือ​บันทึก​บทเพลง​ ​‘​ตำนาน​หั่น​เหยา​’​ ​ที่​สมบูรณ์แบบ​ ​ข้า​พึ่ง​จะ​เคย​เห็น​เป็นครั้งแรก​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​จู๋​เซียง​เข้ามา​ ​“​เจ้า​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​แล้ว​บอก​พี่ใหญ่​ว่า​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ช่วย​ยืม​บันทึก​บทเพลง​ ​‘​ตำนาน​หั่น​เหยา​’​ ​มา​ให้​ได้​ ​บอกว่า​ข้า​รีบ​ใช้​”

คน​ของ​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​ ​มี​หลาย​คน​เป็น​นักเเสดง​งิ้ว​ ​เขา​น่าจะ​หา​เจอ

​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​สายตา​ของ​พวกเขา​เป็นประกาย​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง​ ​ระยิบระยับ​ราวกับ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า​ก็​ไม่​ปาน

​สือ​อี​เหนียง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​อย่า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​จบ​เช่นนี้​ ​ตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป​ ​พวก​เจ้า​สอง​คน​คัดลอก​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​สิบ​เล่ม​ให้​ข้า​ ​คิด​ให้​ดี​ว่า​ตอนที่​อาจารย์​จ้าว​สอน​ตำรา​เล่ม​นี้​ให้​พวก​เจ้า​ ​เขา​สอนอะ​ไร​บ้าง​…​”

​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​พวกเขา​สอง​คน​ก็​พยักหน้า​ซ้ำๆ​ ​ทันที​ด้วย​สีหน้า​ที่​ดีใจ​

​“​พวก​เจ้า​อย่า​พึ่ง​ดีใจ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยังคง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​ยัง​ไม่รู้​ว่า​จะ​หายื​มมา​ได้​หรือไม่​ ​ตอนนี้​พวก​เจ้า​รีบ​ไป​เขียนหนังสือ​สัญญา​เถิด​ ​เรา​จะ​ได้​ไป​ขอโทษ​ท่าน​ย่า​”

​พวกเขา​สอง​คน​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ผ่าน​ผ้าม่าน

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​มุม​ปาก​

​นาง​นั่ง​รอ​หนังสือสัญญา​ของ​พวกเขา​อยู่​ใน​ห้อง​ข้างใน​

​ปี้​หลัว​ยก​ของว่าง​เข้ามา​อย่างเบามือ​ด้วย​สีหน้า​ที่​เป็นกังวล

​จิ​่น​เกอ​นั่ง​เบิกตา​มอง​อยู่​ตรงนั้น​ ​ทาน​ของว่าง​ได้​อย่าง​นิ่ง​สงบ​ชิ้น​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​นั่ง​ไม่​ติด​แล้ว​

​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​ไปดู​ว่า​พี่​ๆ​ ​เขียนหนังสือ​สัญญา​เสร็จ​แล้ว​หรือยัง​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ลง​จาก​เตียง​เตา​แล้ว​วิ่ง​ออก​ไป​ทันที

​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

​จากนั้น​รอยยิ้ม​ของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​จาง​ลง​ ​นาง​นึกถึง​เรื่อง​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ขึ้น​มา​

ปล่อย​ให้​มัน​เป็น​เช่นนี้​ไป​ก่อน​เถิด​!

อีก​สอง​เดือน​ก็​จะ​ปีใหม่​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​คารวะ​ป้าย​จารึก​ของถง​ซื่อ​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ควร​เล่า​ให้​เขา​ฟังได้​แล้ว​กระมัง

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​เบา​ๆ

เมื่อก่อน​นาง​มักจะ​ปกป้อง​เขา​เสมอ​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ที่​ควร​ทำ​ ​นาง​กลับ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ ​ทุกคน​ไม่กล้า​ทำให้​นาง​เสียหน้า​ ​จึง​พากัน​แสร้งทำ​เป็น​หูหนวก​ตาบอด​เหมือน​นาง​ ​แต่​ตอนนี้​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​พูด​แล้ว​ ​นาง​กลับ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​เช่นไร​

โชคดี​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​ออก​ความคิดเห็น​

​นาง​สงบสติอารมณ์​ลง​แล้ว​จิบ​ชา​สอง​สาม​จิบ

​จิ​่น​เกอ​วิ่ง​เข้ามา​

​“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เขา​ปีน​ขึ้น​มาบน​เตียง​เตา​ ​กอด​คอสื​ออี​เหนียง​แล้ว​กระซิบ​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​จะ​บอกอะ​ไร​ให้ท่าน​ฟัง​ขอรับ​ ​พี่​สี่​และ​พี่​ห้า​เขียนหนังสือ​สัญญา​ไม่​เป็น​ขอรับ​!​”​ ​เขา​ทำท่า​ทีฟ​้​อง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​กำลัง​นั่ง​เป็นกังวล​อยู่​”

หนังสือสัญญา​…​ ​มัน​คือ​ของเล่น​ของ​นางใน​ยุค​นั้น​ ​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เขียนหนังสือ​สัญญา​ ​ทำให้​พวกเขา​ลำบากใจ​จริงๆ​ ​แต่​ปล่อย​ให้​พวกเขา​จัดการ​กันเอง​ดีกว่า​ ​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​จะ​ให้​ผู้ใหญ่​คอย​ช่วยเหลือ​ ​ต่อไป​หาก​อยาก​จะ​ปล่อย​พวกเขา​ออก​สู่​สังคม​ภายนอก​มัน​คง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตบ​ก้น​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​“​ไปหา​หนังสือ​มา​เล่ม​หนึ่ง​ ​เรา​เล่น​หาคำ​กัน​เถิด​”

​จิ​่น​เกอ​ดีอกดีใจ​ ​รีบ​ตะโกน​ขาน​ว่า​ ​“​ขอรับ​”​ ​ลง​ไป​จาก​เตียง​เตา​แล้ว​หา​หนังสือ​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​มานั​่ง​ใน​อ้อมแขน​ของ​ท่าน​แม่​

​สือ​อี​เหนียง​เปิด​หนังสือ​ ​ชี้​ไป​ที่​คำ​ว่า​ ​‘​แปด​”​’​ ​ของ​ประโยค​ ​‘​บุตร​ทั้ง​แปด​คน​ของ​สวิน​ซื่อ​ ​ถูก​ขนานนาม​ว่า​มังกร​ทั้ง​แปด​’​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ชี้​คำ​ว่า​ ​‘​สาม​’​ ​ของ​ประโยค​ ​‘​บุตร​ทั้ง​สาม​ของ​เสี่ยว​โยว​ ​ถูก​ขนานนาม​ว่า​หงส์​ทั้ง​สาม​’​ ​ทันที​ ​จากนั้น​ก็​อ่าน​ออกเสียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ชี้​ไป​ที่​คำ​ว่า​ ​‘​ความยุติธรรม​’​ ​ของ​ประโยค​ ​‘​สำหรับ​ความยุติธรรม​ ​ไม่มี​คำ​ว่า​ส่วนตัว​’​ ​แล้ว​อ่าน​ออกเสียง​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ชี้​คำ​ว่า​ ​‘​ส่วนตัว​’​ ​แล้ว​อ่าน​ออกเสียง​…​พวกเขา​สอง​คน​พลิก​หน้า​หนังสือ​ไป​เรื่อยๆ​ ​อ่าน​ไป​ประมาณ​สามสิบ​กว่า​คำ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​นั่ง​ไม่​ติด​อีกแล้ว​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​จะ​ไปดู​ว่า​พี่​ๆ​ ​เขียนหนังสือ​สัญญา​เสร็จ​แล้ว​หรือยัง​”

​เขา​ดิ้น​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง

​อ่านหนังสือ​ค่อนข้าง​น่าเบื่อ​ ​แล้ว​เขา​ก็​ยัง​เด็ก​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​นั่ง​ได้​นาน​

​“​ได้​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​วาง​หนังสือ​ลง

​จิ​่น​เกอ​วิ่ง​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​อีกครั้ง​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​กลับมา​บอก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พี่​สี่​บอก​ให้​หวัง​ซู่​ไปหา​อาจารย์​จ้าว​แล้ว​ขอรับ​ ​บอก​ให้​เขา​ถาม​อาจารย์​จ้าว​ว่า​หนังสือสัญญา​เขียน​เช่นไร​!​”

เมื่อมี​แรงกดดัน​ก็​ย่อม​มี​แรงผลักดัน​ ​ในที่สุด​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​รู้จัก​ที่จะ​คิด​หาวิ​ธี​แก้ไข​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​นาง​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​เรา​เล่น​หาคำ​กันต​่​อดี​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า

​สอง​แม่​ลูกเล่น​หาคำ​กันต​่อ

​เมื่อ​ใกล้​ถึง​ยาม​โหย​่ว​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เบื่อ​เกม​หาคำ​อีกแล้ว​ ​แล้วก็​เบื่อ​พัน​ด้าย​ ​ขว้าง​ถุง​ทราย​และ​กระโดด​เชือก​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดิน​เข้ามา​ ​มอบ​หนังสือสัญญา​ที่​ถือว่า​เขียน​ได้​ไม่เลว​สอง​ฉบับ​ให้​สือ​อี​เหนียง​

​คำขอโทษ​อยู่​ที่​ความจริงใจ​ ​คิด​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​คงจะ​ไม่​คิดเล็กคิดน้อย​อะไร​

​สือ​อี​เหนียง​พา​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

​ไท่ฮู​หยิน​มองดู​หนังสือสัญญา​แล้ว​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​พูด​แค่​ว่า​ ​“​ต่อไป​จะ​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​อีก​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​น้ำเชื่อม​ดอก​กุ้ยฮ​วา​และ​ขนม​มะม่วงหิมพานต์​ที่​พวกเขา​ชอบ​ทาน​เข้ามา​ให้​พวกเขา​

​สวี​ซื่อ​จุน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​เลือก​ขนม​มะม่วงหิมพานต์​ที่​มี​เมล็ด​งามาก​ที่สุด​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยนั​่​งอยู​่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​ ​เขา​นั่ง​ทาน​ขนม​มะม่วงหิมพานต์​ด้วย​สีหน้า​ที่​เหม่อลอย​ ​ไม่​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​ที่​แค่​หมั่น​โถว​ธรรมดาๆ​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ทาน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

การ​เติบโต​ ​มัก​มา​พร้อมกับ​ราคา​ที่​ต้อง​จ่าย

หาก​เขา​สามารถ​เรียนรู้​อะไร​ได้​จาก​เรื่อง​นี้​ ​เช่นนั้น​มัน​ก็​คุ้มค่า

​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่าที่​โถง​บุปผา​ยัง​มีเรื่อง​อีก​เยอะแยะ​ ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ต่อ​ครู่หนึ่ง​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลา​

​ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้​เด็ก​ๆ​ ​อยู่​ต่อ

​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​จน​เสร็จ​แล้ว​ ​ก็​พลบค่ำ​พอดี​

​เพราะว่า​มัน​ดึก​เกินไป​ ​ผู้ดูแล​หญิง​ต่าง​ก็​ยัง​ไม่ได้​ทานข้าว​ ​รีบ​จัดการ​เรื่อง​ของ​วันนี้​ให้​เสร็จ​ ​ทั้ง​ใน​และ​นอก​จวน​สกุล​สวี​สว่างไสว​ ​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​เดินไปเดินมา​อย่างเร่งรีบ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​แปลกใจ​

สือ​อี​เหนียง​ทำ​อะไร​รวดเร็ว​มาต​ลอด​ ​แต่​เหตุใด​ตอนนี้​คนใน​ลาน​ยัง​ทำงาน​กัน​ไม่เสร็จ

​เติงฮ​วา​ ​บ่าว​รับใช้​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สังเกต​สีหน้า​ของ​เขา​ ​ก่อน​จะ​พูด​เบา​ๆ​ ​“ฮู​หยิน​พึ่ง​จะ​มาสั​่​งงาน​เมื่อยา​มโหย​่ว​ขอรับ​ ​บรรดา​ป้า​รับใช้​ต่าง​ก็​รีบ​เก็บ​ข้าวของ​ ​พรุ่งนี้​จะ​ได้​เรียบร้อย​ขอรับ​”

​เรื่อง​ที่ฮู​หยิน​เฆี่ยน​ผู้ดูแล​ลาน​ข้างนอก​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​จวน​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​เพราะ​มัน​เป็นเรื่อง​ที่นาง​ทำ​เกินหน้า​ที่​ตัวเอง​ ​ต่อไป​จะ​เป็น​เช่นไร​ก็​ไม่มีใคร​รู้​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​จับตามอง​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เติงฮ​วา​ไม่เพียงแต่​พูดเสี​ยง​เบา​ ​แล้วยัง​พูด​อย่างระมัดระวัง​

ถึงแม้ว่า​จะ​โมโห​เพราะ​เรื่อง​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ไม่ใช่​คนที​่​ทำ​อะไร​ตามอำเภอใจ​ ​ทำ​อะไร​เห็นแก่ตัว​โดยที่​ไม่สน​ใจ​สถานการณ์​โดยรวม​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่าวั​นนี​้​วุ่นวาย​ ​เหตุใด​ถึง​สั่งงาน​บรรดา​บ่าว​รับใช้​ยาม​โหย​่ว

​สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลกใจ

​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ทานข้าว​ ​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​มี​ชาม​สี่​ห้า​ชาม​ ​ไม่มีใคร​คอย​รับใช้​นาง​ ​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ดู​ว่างเปล่า

​“​เหตุใด​ท่าน​โหว​ถึง​กลับมา​เร็ว​เช่นนี้​”​ ​นาง​เดิน​ไปรับ​ใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​“​ทาน​อะไร​หรือยัง​เจ้า​คะ​ ​พี่เขย​เจ็ด​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับ​ไป​แล้ว​หรือ​”

​“​ข้า​ทาน​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​บอก​ให้​นาง​ทาน​ต่อ​ ​แล้ว​หันไป​บอก​ให้​ชิว​อวี​่​เรียก​สาวใช้​น้อย​เข้ามา​รับใช้​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​“​ปลายเดือน​นี้​นายท่าน​ผู้เฒ่า​สกุล​เซ่า​จะ​ฉลอง​วันเกิด​ครบรอบ​เจ็ดสิบ​ปี​ ​พรุ่งนี้จ​้ง​หราน​ต้อง​รีบ​กลับ​ไป​ ​จู​อาน​ผิง​และ​เจิ​้น​ซิ่ง​นัด​กัน​ไป​สกุล​ของ​จิน​ฮั่น​หลิน​ ​มีลูก​ศิษย์​คน​หนึ่ง​ของ​จิน​ฮั่น​หลิน​พึ่ง​จะ​ได้รับ​ตำแหน่ง​ข้าหลวง​เฉวียน​โจว​ ​เรา​จึง​แยกย้าย​กัน​”​ ​เขา​พูด​พร้อมกับ​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​ชำระ​ ​เมื่อ​ล้างหน้าล้างตา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ออกมา​ ​กลับ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ถือ​ชาม​เหม่อลอย​อยู่​ตรงนั้น

​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ ​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา​แล้ว​ยิ้ม​ ​“​ท่าน​โหว​จะ​ทาน​อะไร​เพิ่ม​หรือไม่​!​”

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ ​ยก​ถ้วย​ชา​ที่​สาวใช้​เตรียม​ไว้​ให้​เขา​ขึ้น​มา​จิบ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ทาน​เถิด​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​ทานข้าว​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​

​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​เงียบสงัด

​สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลกใจ​

ยามเช้า​ของ​วันนี้​สือ​อี​เหนียง​จัดการ​ผู้ดูแล​เหล่านั้น​ด้วย​วิธี​ที่​รุนแรง​เช่นนั้น​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ทำ​ไป​เพราะ​มีเหตุผล​ ​แต่​มัน​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​สัก​เท่าไร​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​นาง​ ​เจอ​เขา​นาง​ควร​อธิบาย​ให้​เขา​ฟัง​ ​แต่กลับ​มีท​่า​ที​ใจลอย​เช่นนี้​?

​พลัน​นึกถึง​บรรยากาศ​ระหว่างทาง​ที่​เดิน​มา​เมื่อ​ครู่​…

หรือว่า​มีเรื่อง​อัน​ใด​ที่​ตน​ไม่รู้

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สำรวจ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​

​นาง​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​หลวม​ๆ​ ​มี​เส้น​ผม​สอง​สาม​เส้น​ห้อย​อยู่​ข้าง​แก้ม​ ​ถุง​ใต้​ตามี​สีเขียว​จางๆ​ ​สีหน้า​ดู​เหนื่อยล้า​

​“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​เบา​ๆ​ ​ยื่นมือ​ออก​ไป​จับ​เส้น​ผม​ที่อยู่​ข้าง​แก้ม​ไป​ทัด​ไว้​หลัง​หู​ให้​นาง​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​สายตา​ที่​สับสน​ ​ภายใต้​แสงไฟ​สลัว​ ​ทำให้​นาง​ดู​มี​ความอ่อนโยน​

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ทำไม​เจ้า​ดู​เหนื่อยล้า​!​”

​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​นึกถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​วันนี้

ไม่ได้​ร้อง​งิ้ว​ใน​เรือน​เสียหน่อย​ ​แล้วก็​ไม่ได้​แอบ​ออก​ไปดู​งิ้ว​ข้างนอก​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​แค่​เขียน​บันทึก​บทเพลง​อยู่​ใน​ห้อง​ ​แต่​เก๋อ​จิน​กลับ​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​อย่างรวดเร็ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่เพียงแต่​มาที​่​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​ด้วยตัวเอง​ ​แล้วยัง​ตำหนิ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ย.​..​เก๋อ​จิน​รู้​ได้​เช่นไร​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​นี้​?​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ทำตาม​คำสั่ง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​…​และ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​ไม่ได้​รังเกียจ​การ​ฟัง​งิ้ว​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​ชอบ​ขนาด​นั้น​ ​คนที​่​ไท่ฮู​หยิน​สนใจ​ไม่​ใช้​สวี​ซื่อ​จุน​แต่​คือ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ย.​..​ผ่าน​มาตั​้ง​หลาย​ปี​แล้ว​ ​การ​มา​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​สำหรับ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​เป็น​เหมือน​แค่​การ​มีตะ​เกียบ​เพิ่ม​อีก​คู่​หนึ่ง​ ​นาง​ไม่ได้​ชอบ​เขา​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​รังเกียจ​เขา​ ​มอบ​รางวัล​ให้​เด็ก​ๆ​ ​ก็​จะ​มีส่วน​แบ่ง​ของ​เขา​ตลอด​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่เคย​สนใจ​เขา​มาก​ขนาด​นี้​…​ไท่ฮู​หยิน​เริ่ม​ให้ความสนใจ​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​ ​หลังจาก​พิธี​ครบ​เดือน​ของ​หลานชายฮู​หยิน​สาม​?​ ​หรือว่า​ตั้งแต่​ที่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ฟัง​งิ้ว​กับฮู​หยิน​สอง​สาม​คน​นั้น​?

ตอนที่​ตน​พา​พวกเขา​ไป​ขอโทษ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ถึงแม้ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ไม่​พูด​อะไร​ ​แต่​ใน​ใจ​นาง​คิด​อะไร​อยู่​กัน​แน่​?​ ​ต่อไป​นาง​จะ​หา​ข้ออ้าง​อย่าง​อื่น​มา​จัดการ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หรือไม่

​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​แน่ใจ​

​ได้ยิน​สวี​ลิ่ง​อี๋​เรียกชื่อ​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​ก่อน​จะ​เห็น​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความเป็นห่วง​ของ​เขา​

นึกถึง​แต่​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​จน​ลืม​สวี​ลิ่ง​อี๋​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เจื่อน​ด้วย​ความรู้สึกผิด

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท