ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 618 สืบเสาะ (ต้น)

ตอนที่ 618 สืบเสาะ (ต้น)

​“​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ ​เหม่อลอย​เช่นนี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​นาง​

​สือ​อี​เหนียง​เรียบเรียง​คำพูด​ ​จากนั้น​ก็​เล่าเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ยาม​บ่าย​วันนี้​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​…​ตอนนี้​ข้า​ตั้งตารอ​ให้​ถึง​ปีใหม่​เร็ว​ๆ​ ​มี​อะไร​ก็​จะ​ได้​ค่อยๆ​ ​พูด​กับ​เขา​ ​เขา​เกิด​อะไร​ขึ้น​นิดๆ​ ​หน่อย​ๆ​ ​ข้า​จะ​ได้​ไม่​เป็นกังวล​เจ้าค่ะ​”

ที่แท้​ก็​เพราะ​เรื่อง​นี้​!

​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​และ​ไท่ฮู​หยิน​ทำ​เรื่องเล็ก​ให้​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​แต่​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ไท่ฮู​หยิน​โมโห​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เหนื่อย​ไป​ด้วย​ ​เขา​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ต้องการ​แต่​ความเร็ว​ ​ไม่​ดูป​ระ​สิทธิผล​ ​จะ​ทำให้​ยิ่ง​ไม่​บรรลุเป้าหมาย​ ​เจ้า​ยัง​ไม่ต้อง​สนใจ​เรื่อง​นี้​ ​หาก​เอาแต่​ให้ความสำคัญ​กับ​มัน​ ​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​อาจจะ​ทำให้​มีเรื่อง​ขึ้น​มา​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​จุน​เกอ​และ​เจี​้ย​เกอ​ไม่ใช่​เด็ก​ที่​ดื้อรั้น​ ​เจ้า​เกลี้ยกล่อม​พวกเขา​แล้ว​ ​หาก​พวกเขา​ยัง​ไม่รู้​ความ​ ​เช่นนั้น​หนังสือ​ที่​เรียน​มาก​็​คงจะ​ไร้ประโยชน์​”

นี่​คือ​คำพูด​ที่​ผู้คน​มัก​พูดว่า​ ​‘​ที่นี่​ไม่มี​เงิน​สาม​ร้อย​ตำลึง​’​ ​ใช่​หรือไม่​!

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ

​ได้​พูด​ออกมา​แล้ว​ ​นาง​รู้สึก​ดีขึ้น​ไม่น้อย

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​แผ่วเบา​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​จิ​่น​เกอ​เล่า​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​เขา​!​”

​“​อยู่​ทานข้าว​ที่​เรือน​ท่าน​แม่เจ้า​ค่ะ​”​ ​พูดถึง​จิ​่น​เกอ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​ออกมา​ ​“​ทานข้าว​เสร็จ​แล้ว​ข้า​จะ​ไปรับ​เขา​กลับมา​!​”

​“​เช่นนั้น​เจ้า​รีบ​ทาน​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชี้​ไป​ที่​ชาม​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ ​“​อาหารเย็น​หมด​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เรียก​สาวใช้​เข้ามา​ ​“​ยก​ข้าว​ร้อน​ๆ​ ​เข้ามา​ให้ฮู​หยิน​ใหม่​”

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ ​“​ข้า​อิ่ม​แล้ว​ ​หาก​ทาน​อีก​ตอนกลางคืน​คงจะ​นอนไม่หลับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​นาฬิกา​พก​ออกมา​ดู

​ยามซ​วี​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ถึง​เวลานอน​แล้ว​ ​ทาน​มากเกินไป​ท้อง​จะ​อืด​ ​เขา​จึง​ไม่​พูด​อะไร​ต่อ​ ​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ทาน​เสร็จ​แล้ว​ ​พวกเขา​สอง​คน​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​

ฮู​หยิน​สอง​และ​ครอบครัว​สวี​ลิ่ง​ควน​ก็​อยู่​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​สอง​สามีภรรยา​เดิน​เข้ามา​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​พูดว่า​ ​“​เหตุใด​อวี​้​เกอ​ถึง​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ถึง​เวลา​ห้าม​ออกจาก​เคหสถาน​ใน​ยามค่ำคืน​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​เจอ​เรื่อง​อัน​ใด​หรือไม่​”​ ​นาง​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​ ​มอง​ไม่​ออก​เลย​แม้แต่น้อย​ว่ายาม​บ่าย​นาง​พึ่ง​จะ​โมโห​ไป

​“​มี​คน​ของ​ฝ่าย​รักษาการณ์​อยู่​กับ​เขา​ ​ไม่มี​อะไร​น่าเป็นห่วง​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​สกุล​ญาติ​อาจจะ​บอก​ให้​เขา​อยู่​ต่อ​ ​จึง​ทำให้​เขา​กลับมา​ช้า​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​นาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​เรา​เชิญ​สกุล​ญาติ​มา​วัน​มะรืน​ ​หรือว่า​ผ่าน​ไป​สัก​สอง​สาม​วัน​แล้ว​ค่อย​เชิญ​ดีกว่า​”

​ตามธรรม​เนียม​แล้ว​ ​หลังจากที่​คู่บ่าวสาว​แต่งงาน​ ​ทั้งสอง​สกุล​ต้อง​จัดงาน​เลี้ยง​หนึ่ง​ครั้ง​ ​ปกติ​งานเลี้ยง​ของ​ฝ่าย​หญิง​จะ​จัด​ใน​วัน​ถัดไป​ของ​งานเลี้ยง​ของ​ฝ่าย​ชาย​ ​ต่อจากนั้น​ ​งานแต่ง​ก็​สิ้นสุดลง​อย่างเป็นทางการ​ ​เจ้าสาว​เริ่ม​คารวะ​ญาติผู้ใหญ่​เช้า​เย็น​ ​รับใช้​แม่​สามี​และ​พ่อ​สามี​ ​สกุล​ญาติ​ก็​เริ่ม​ไปมาหาสู่​กัน​

​งานเลี้ยง​มักจะ​จัด​หลัง​วัน​แต่งงาน​ห้าวัน​ ​เก้า​วัน​ ​หรือ​สิบสอง​วัน

​“​ข้า​คิด​ว่าวั​นมะ​รืน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เลือก​วันที่​ห้า​หลังจาก​แต่งงาน​ ​นาง​คิด​ว่า​เช่นนี้​สามารถ​แสดงให้เห็น​ถึง​ความ​กระตือรือร้น​ของ​ฝ่าย​ชาย​ ​แล้วก็​แสดงให้เห็น​ถึง​ความเคารพ​ที่​ฝ่าย​ชาย​มีต​่อ​ฝ่าย​หญิง​ ​“​ท่าน​แม่​คิด​เช่นไร​บ้าง​เจ้า​คะ​”

​“​เจ้า​ตัดสินใจ​เถิด​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​ก็​แค่​อยาก​ถาม​ให้​แน่ใจ​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ได้​ทานอาหาร​อย่าง​เอร็ดอร่อย​!​”​ ​นาง​หยอกล้อ​สือ​อี​เหนียง​

​ทุกคน​พากัน​หัวเราะ

​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​และ​คุณนาย​น้อย​สอง​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ไอ​๊​หยา​ ​พูดถึง​ก็​มา​พอดี​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม

​ทุกคน​หัวเราะ​กัน​อีกครั้ง

​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​เซี่ยง​ซื่อ​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ท่าที​ที่​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กอบกู้​สถานการณ์​ให้​พวกเขา​ ​“​เอาล่ะ​ ​อย่า​ล้อ​เด็ก​ๆ​ ​เลย​!​”​ ​นาง​ถาม​พวกเขา​ ​“​เหตุใด​ถึง​กลับมา​สาย​เช่นนี้​ ​เมื่อ​ครู่​ท่าน​ย่า​พึ่ง​จะ​ถามหา​พวก​เจ้า​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​ลุง​กลับมา​อย่างกะทันหัน​ ​เขา​กลับมา​ถึง​ยาม​เย็น​ ​ข้า​เลย​นั่ง​เป็นเพื่อน​เขา​ครู่หนึ่ง​ ​จึง​กลับมา​สาย​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​อธิบาย​ให้​ทุกคน​ฟัง​ ​“​พี่ชาย​ของ​พี่สะใภ้​ข้า​คน​นี้​คือ​บัณฑิต​ชั้นสูง​สมัย​ฮ่องเต้​เจี​้​ยน​อู่​ ​เคย​เป็น​นายอำเภอ​เขต​ติ้ง​เถา​หนึ่ง​ปี​ ​ต่อมา​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ ​เดินทาง​ไป​ทั่ว​ ​เขา​คงได้​ยิน​ว่า​โหรว​เน่อ​แต่งงาน​ ​จึง​รีบ​กลับมา​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พยักหน้า​ ​“​ท่าน​ลุง​บอกว่า​ ​ตอนที่​เขา​กำลัง​ไป​ตัก​น้ำแร่​ที่​เมือง​อู๋​ซี​ ​ได้ยิน​ข้าหลวง​อู๋​ซีพูด​ ​คืน​นั้น​จึง​เช่า​เรือก​ลับ​มา​เยี​่​ยน​จิง​ทันที​ ​แล้วยัง​มาสาย​ ​พึ่ง​จะ​ถึง​วันนี้​ยาม​เที่ยง​ขอรับ​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​แล้วยัง​มอบ​น้ำแร่​ให้​พวกเรา​เป็น​ของขวัญ​อีกด้วย​”

​“​กลับมา​ก็ดี​ ​กลับมา​ก็ดี​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​เรื่อง​ที่​พวกเขา​กลับ​สกุล​เซี่ยง​

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​ตอบคำถาม

​รู้​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​เชิญ​พี่น้อง​ ​บุตรสาว​และ​บุตร​เขย​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​หัวเราะ​พลาง​พยักหน้า​ ​“​พวก​เจ้า​คงจะ​เหนื่อย​แล้ว​ ​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​โค้ง​คำนับ​แล้ว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เซี่ยง​ซื่อ​แอบ​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้

​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​อยู่​ต่อหน้า​ญาติผู้ใหญ่​ ​แล้วยัง​อยู่​ต่อหน้า​ทุกคน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เหลือบมอง​เซี่ยง​ซื่อ​ ​แต่กลับ​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก​

​เซี่ยง​ซื่อ​เดินตาม​ไป​อย่าง​เอือมระอา

​สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​ว่านา​งอยาก​พูด​อะไร​

​กลับมา​ถึง​ห้อง​ ​นาง​ก็ได้​คำตอบ​ทันที​ ​เซี่ยง​ซื่อ​ใช้​ถ้วย​ลายคราม​บรรจุ​น้ำแร่​มา​ให้​นาง

​“​ถึงแม้ว่า​จะ​ชงชา​ได้​ไม่​มาก​ ​แต่​มัน​คือ​น้ำใจ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ของ​ข้าเจ้า​ค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​รับ​มา​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​ว่า​ ​“​นำ​ไป​ให้ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ป้า​สอง​และ​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​แล้ว​หรือ​”

​เซี่ยง​ซื่อ​พูด​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​กำลังจะ​นำ​ไป​ให้​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​บอก​ให้​ชิว​อวี​่​นำ​ขนม​ดอก​พุด​ตาน​มาม​อบ​ให้​นาง​กล่อง​หนึ่ง​ ​“​ฮองเฮา​ทรง​มอบให้​ข้า​ ​ข้า​ทาน​แล้ว​รสชาติ​ไม่เลว​ ​เจ้า​ก็​ลอง​ชิม​ดูเถิด​”

​เซี่ยง​ซื่อ​เอ่ย​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​เหวิน​จู๋​

​นำ​น้ำแร่​ไป​มอบให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​มอบ​ลูกกวาด​รส​ขิง​ให้​นาง​ ฮู​หยิน​ห้าม​อบ​เครื่องประดับ​ให้​นาง​ ​มี​แค่ฮู​หยิน​สอง​ ​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​นาง​คือ​ท่าน​ป้า​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่ได้​มอบ​อะไร​ให้​เซี่ยง​ซื่อ​

​กลับมา​ถึง​ห้อง​ ​ป้า​รับใช้​ผู้ติดตาม​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​เดิน​เข้ามา​ขยิบตา​ให้​เซี่ยง​ซื่อ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ย่อเข่า​คำนับ​ ​“​คุณนาย​น้อย​สอง​กลับมา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

​เซี่ยง​ซื่อ​พยักหน้า​ ​ป้า​เซี่ยง​รับใช้​นาง​ล้างหน้าล้างตา​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​เหวิน​จู๋​ไป​พักผ่อน​

​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”​ ​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ชำระ​ ​เซี่ยง​ซื่อ​ก็​เอ่ย​ถาม​ป้า​เซี่ยง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ทำไม​ต้อง​มา​แอบ​พูด​ด้วย​”

​ป้า​เซียง​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​ ​เล่าเรื่อง​ที่​สือ​อี​เหนียง​เฆี่ยน​ผู้ดูแล​วันนี้​ให้​เซี่ยง​ซื่อ​ฟัง​ ​“​คุณนาย​น้อย​สอง​เจ้า​คะ​ ​ดูเหมือนว่า​ ฮู​หยิน​ดูใจ​ดี​ ​แต่​ก็​ไม่ธรรมดา​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เป็นกังวล​

​เซี่ยง​ซื่อ​ไม่สน​ใจ​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​บอก​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ว่า​ ​แม่​สามี​ของ​ข้า​เป็น​คนฉลาด​ ​บอก​ให้​ข้า​เคารพ​ ​เชื่อฟัง​และ​อดทน​ ​ตราบใดที่​เรา​เชื่อฟัง​แม่​สามี​ ​แม่​สามี​ก็​ไม่มีทาง​ทำให้​ข้า​ลำบากใจ​โดย​ไร้เหตุผล​ ​ท่าน​ป้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​!​”

​ป้า​เซี่ยง​ยัง​อยาก​จะ​พูด​อะไร​ต่อ​อีก​ ​เซี่ยง​ซื่อ​ก็​บอกว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​”

​“​กำลัง​ฝึก​เขียน​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​เซี่ยง​พูด​ ​นาง​ยิ้ม​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ชื่นชม​ใน​ความ​ขยันหมั่นเพียร​ของ​สวื​่​ออ​วี​้​ ​“​ได้ยิน​มั่ว​จู๋​บอกว่า​ ​เขา​ต้อง​ฝึก​เขียน​วัน​ละ​สาม​หน้า​ ​ตั้งแต่​เริ่ม​ฝึก​ ​ก็​ไม่เคย​ตกหล่น​เลย​เจ้าค่ะ​”

​เซี่ยง​ซื่อ​เอง​ก็​ทำ​สีหน้า​ชื่นชม​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​กับ​ป้า​เซี่ยง​ ​“​นำ​โสม​อายุ​ร้อย​ปี​ที่​ท่าน​แม่​มอบให้​ข้า​ออกมา​ชงชา​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​เถิด​”

​ป้า​เซี่ยง​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​สาวใช้​เข้ามา​รับใช้​เซี่ยง​ซื่อ​ล้างหน้าล้างตา​ ​ตัวเอง​ออก​ไป​ต้ม​โสม​ ​จากนั้น​ก็​ถือ​ถาด​สีแดง​ไป​ให้​เซี่ยง​ซื่อ​ ​“​คุณนาย​น้อย​สอง​เจ้า​คะ​!​”

​เซี่ยง​ซื่อ​หน้าแดง​ ​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​หนังสือ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พึ่ง​จะ​ฝึก​เขียน​เสร็จ​ ​เห็น​เซี่ยง​ซื่อ​ยก​ถ้วย​ชา​เดิน​เข้ามา​ ​เขา​ก็​เดิน​ไปหา​นาง​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​“​นำ​ของขวัญ​ไป​มอบให้​ทุกคน​แล้ว​หรือ​”

​“​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เซี่ยง​ซื่อ​มอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ด้วย​สายตา​ที่​อ่อนโยน​ ​“​ท่าน​พี่​เหนื่อย​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​ดื่ม​ชา​สัก​ถ้วย​เถิด​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​ขอบคุณ​ ​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มาก​็​ได้กลิ่น​โสม​ทันที​ ​เขา​ทำ​สีหน้า​ตกใจ​

​เซี่ยง​ซื่อ​แอบ​เสียใจ

ตัวเอง​บุ่มบ่าม​เกินไป

โสม​นี้​เป็น​สินเดิม​ของ​นาง​ ​ตัวเอง​นำ​ออกมา​ใช้​โดยที่​ไม่​ถาม​เขา​สัก​คำ​ ​หาก​มัน​ทำให้​เขา​เข้าใจผิด​ ​คิด​ว่า​เพราะ​เขา​คือ​บุตร​อนุภรรยา​ของ​สกุล​สวี​จึง​ไม่มี​ของดี​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​แบบ​นั้น​มัน​คงจะ​แย่

​“​ท่าน​พี่​เจ้า​คะ​!​”​ ​เซี่ยง​ซื่อ​หน้าแดง​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​ดึก​ขนาด​นี้​แล้ว​ท่าน​ยัง​ฝึก​เขียนหนังสือ​…​อยาก​ให้ท่า​นมี​ชีวิตชีวา​ ​แต่​ไม่กล้า​เอะอะโวยวาย​ ​จึง​ใช้​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​เจ้าค่ะ​…​”

​เห็น​ภรรยา​ตัวเอง​รีบ​อธิบาย​เช่นนี้​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ยิ้ม​มุม​ปาก​

เหมือนกัน​กับ​เมื่อครู่นี้

มี​อาหาร​มีสุ​รา​ ​ก็​ให้​บิดา​มารดา​ทาน​ก่อน​

เขา​มีน​้ำ​แร่​ ​ก็​ควร​ให้เกียรติ​ญาติผู้ใหญ่​ได้​ดื่ม​ก่อน

แต่​เมื่อ​คิด​ว่าน​้ำ​แร่​คือ​ของขวัญ​ที่​ท่าน​ลุง​ของ​ภรรยา​เป็น​คน​มอบให้​ ​เขา​จึง​ไม่กล้า​ตัดสินใจ​เอง​ ​กะ​ว่า​จะ​กลับมา​ปรึกษา​กับ​ภรรยา​ก่อน​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ภรรยา​กลับ​ตำหนิ​เขา​ ​บอกว่า​ควรจะ​แบ่ง​น้ำแร่​ให้​ญาติผู้ใหญ่​ลอง​ชิม​ก่อน​

​“​ข้า​รู้​แล้ว​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​มอง​เซี่ยง​ซื่อ​ด้วย​สายตา​เป็นประกาย​ ​“​ชานี​้​มีกลิ่นหอม​ ​ข้า​…​”​ ​เขา​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ข้า​ชอบ​!​”

​ราวกับว่า​มี​อะไร​พุ่ง​เข้ามา​ใน​หัวใจ​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​ ​ทำให้​นาง​หายใจ​ติดขัด​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​อึดอัด​ ​และ​ก็​ทำให้​นาง​รู้สึก​ดีใจ​และ​เขินอาย​ ​ทำให้​นาง​อธิบาย​ไม่ได้​ ​ทำให้​หัวใจ​ของ​นาง​สั่น​ไหว​…

​เซี่ยง​ซื่อ​หน้าแดง​ยิ่งกว่า​เดิม​

​แต่​จู่ๆ​ ​นาง​กลับ​กลัว​ความรู้สึก​นี้​ขึ้น​มา​

​นาง​พยายาม​บอก​ตัวเอง​ไม่​ให้​คิด​อะไร​ฟุ้งซ่าน​ ​ราวกับ​กำลัง​ปิดบัง​อะไร​บางอย่าง​ ​นาง​พูด​อย่าง​ตื่นตระหนก​ ​“​ทาง​ฝั่ง​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​เรา​ส่ง​ไป​ให้​เขา​ด้วยดี​หรือไม่​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​พูด​ผิด​ทันที

คุณชาย​น้อย​สี่​คือ​ซื่อ​จื่อ​ ​ตัวเอง​พูด​เช่นนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​พี่​จะ​คิด​ว่า​ตน​กำลังจะ​ประจบสอพลอ​คุณชาย​น้อย​สี่​หรือไม่

​นาง​รีบ​พูด​ ​“​แล้วยัง​มีคุณ​ชายน้อย​ใหญ่​และ​คุณชาย​น้อย​คนอื่นๆ​ ​ส่ง​ไป​ให้​พวกเขา​ด้วยดี​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​คิด​อะไร

ภรรยา​พึ่ง​จะ​แต่ง​เข้ามา​ ​แน่นอน​ว่านา​งค​งก​ลัว​ตัวเอง​เสียมารยาท​

​“​น้อง​สี่​และ​น้อง​ห้า​อยู่​ลาน​ข้างนอก​ ​ไม่​เหมือน​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​กับ​ท่าน​แม่​ ​หาก​จะ​ให้​น้อง​สี่​ก็​ต้อง​ให้​น้อง​ห้า​”​ ​เขา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​สำหรับ​พี่ใหญ่​และ​น้อง​สาม​ ​ตอนนี้​พวกเขา​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ ​จะ​ให้​หรือไม่​ให้​ก็ได้​!​”

​ขณะที่​เขา​พูด​ ​หัวใจ​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​ก็​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​นาง​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​พรุ่งนี้​ข้า​ค่อย​นำ​ไป​มอบให้​คุณชาย​น้อย​สี่​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ส่ง​ยิ้ม​ให้​นาง​ ​“​แต่ว่า​หาก​ทำ​เช่นนั้น​ ​เรา​ก็​จะ​ไม่มี​แล้ว​!​”

​เซี่ยง​ซื่อ​ตกใจ​

ตอนนั้น​นาง​ก็​สังเกตเห็น​ว่าน​้ำ​แร่​มี​ไม่​มาก​ ​ถึง​ไม่ได้​นำ​ไป​ให้​คุณชาย​น้อย​สี่​…​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ ​ตัวเอง​จะ​พูด​เช่นนี้​ออกมา​…

​เซี่ยง​ซื่อ​พูดไม่ออก

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​อย่าง​นิ่ง​สงบ​ ​“​โชคดี​ที่​ข้า​ไม่ใช่​คนที​่​ไม่มี​หมึก​ก็​เขียน​ตัวอักษร​ไม่ได้​ ​ไม่เป็นไร​ ​พรุ่งนี้​เจ้า​นำ​ไป​ให้​น้อง​สี่​และ​น้อง​ห้า​เถิด​!​”

​เซี่ยง​ซื่อ​กัด​ริมฝีปาก​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ความหดหู่​ ​คิดในใจ​ว่า​พรุ่งนี้​ควร​ส่ง​ป้า​เซี่ยง​ไป​ขอน​้ำ​แร่​มาจาก​ท่าน​ลุง​อีก​ดี​หรือไม่​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​ไม่เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​กำลัง​ยิ้มอยู่

​*****

​สือ​อี​เหนียง​กล่อม​จิ​่น​เกอ​หลับ​ไป​แล้ว​ ​จากนั้น​ก็​กลับมา​ห้อง​ข้างใน​

​“​คิดไม่ถึง​ว่า​ภรรยา​ของ​อวี​้​เกอ​จะ​เป็น​คน​เฉลียวฉลาด​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​นั่ง​หน้า​กระจก​ ​มองดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เอน​ตัว​อ่านหนังสือ​บน​หมอน​พิง​ ​“​อวี​้​เกอ​มีนา​งคอย​ช่วยเหลือ​ ​เรา​จะ​ได้​ไม่​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หันหน้า​ไป​ถอด​ต่างหู​ออก

เช่นนี้​ ​ต่อไป​หาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ก็​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เขา​แล้ว​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท