หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1439 ถอดปรารถนา

บทที่ 1439 ถอดปรารถนา
“น่าสนใจนี่ สมกับเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ” เมื่อเห็นการโจมตีของหวังเป่าเล่อ จุดแสงที่ระเบิดนั่นก็ทำให้มหาเทพที่ถูกตนสะกดไว้เกิดสัญญาณฟื้นคืนชีพ ดวงตาปรารถนาพลันหดแคบลง
แต่นางไม่ได้สนใจมากนัก มหาเทพถูกนางควบคุมมานานหลายปี เรียกได้ว่านางมั่นใจในการควบคุมของตัวเองมาก ต่อให้ฟื้นขึ้นมาก็ไม่ทำให้เกิดการพลิกชะตาขึ้นมาได้หรอก
แต่ด้วยความรอบคอบ ปรารถนาจึงยกมือกดไปทางมหาเทพในหมอกดำด้านล่างเล็กน้อย
การกดนั้นทำให้มหาเทพตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง เปลือกตาที่ขยับเล็กน้อยก็ค่อยๆ นิ่งไป สัญญาณการคืนชีพก็ถูกสะกดกลับไปเช่นกัน
ความผันผวนหายไป พร้อมการถูกสะกดอีกครั้ง ร่างของมหาเทพที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ดูเหมือนจะสูญเสียแรงจูงใจทั้งหมดไปและจมดิ่งสู่การหลับใหลอีกครั้ง
ขณะเดียวกันปราณหมอกดำรอบตัวเขาก็ทยอยกลายเป็นใบหน้าของปรารถนาที่แสดงอารมณ์ต่างกันไป ก่อนจะแทรกซึมเข้าไปในร่างกายมหาเทพ ไหลเวียนเข้าออกร่างกายเขาไม่หยุดราวกับว่า…จะเปลี่ยนร่างมหาเทพเป็นรัง
กระทั่งในสายตาหวังเป่าเล่อ มหาเทพในตอนนี้ก็เหมือนจะเหลือเพียงร่างกาย ภายในนั้นว่างเปล่า เพราะถูกพลังปราณของปรารถนาครอบครองไว้หมดแล้ว
“ตอนนี้เคล็ดวิชาของเจ้าไร้ผลแล้ว…ในเมื่อเจ้าไม่เต็มใจตอบแทนข้า ข้าก็ทำได้แค่ไปรับของขวัญของเจ้าด้วยตัวเอง” ปรารถนาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม นางหรี่ตาลง ความดำมืดในดวงตาเผยแสงสลัวจางมองไปทางหวังเป่าเล่อ ก่อนจะอ้าปากกว้างแล้วสูดหายใจเข้า
หวังเป่าเล่อสีหน้ามืดมน เขาเหลือบมองมหาเทพที่หลับสนิทอีกครั้ง แล้วถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว สองมือทำผนึกมุทรา ทันใดนั้นพลังแห่งกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงก็แผ่กระจายออกมาทำให้ร่างกายเขาเลือนราง เวลาเดียวกันนั้นโลกรอบด้านก็กลายเป็นโลกแห่งเสียง ตัวหวังเป่าเล่อที่ผสานเข้ากับโลกแห่งเสียงก็เผยตัวออกมา เขารีบถอยจากที่เดิมอย่างรวดเร็ว
“ต่อหน้าข้ายังกล้าใช้กฎเกณฑ์ปรารถนาอีกหรือ” ปรารถนาหัวเราะเบาๆ นางคือต้นกำเนิดของความปรารถนา เจ็ดอารมณ์หกปรารถนาก็คือเต๋าของนาง และตอนนี้หวังเป่าเล่อที่อยู่ตรงหน้า กำลังแสดงเต๋าของนางออกมาอีก เรื่องนี้ทำให้ปรารถนาจิตใจเบิกบานมาก
แต่นางก็รู้ดีว่าหวังเป่าเล่อนั้น นอกจากกฎเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาก็ไม่มีอะไรแล้ว ถึงอย่างไร…ก็เป็นแค่ร่างแยกร่างหนึ่ง
“ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าอะไร…ที่เรียกว่ากฎเกณฑ์ปรารถนาที่แท้จริง” ปรารถนาหัวเราะ แล้วยกมือขวาชี้ไปข้างหน้า ทันใดนั้นความว่างเปล่าตรงหน้านางก็ราวกับผิวน้ำที่มีก้อนหินตกลงไปแล้วเกิดระลอกคลื่น
ในระลอกคลื่นนี้ โลกแห่งเสียงที่มาจากกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงของหวังเป่าเล่อก็หายวับไปทันทีราวกับถูกถอดออกไป ทำให้หวังเป่าเล่อที่ซ่อนตัวอยู่ถูกบีบบังคับให้ออกไปไกล
“ปรารถนาเสียง!” ปรารถนาเอ่ยเบาๆ
เพียงแค่คำเดียวเท่านั้น ในพริบตาที่เสียงดังขึ้นก็ดูเหมือนกับได้รวบรวมเสียงมากมายนับไม่ถ้วนเอาไว้ มันเหมือนกับเสียงทั้งหมดในมหาจักรวาล ทั้งที่ได้ยินและไม่ได้ยินพลันระเบิดออกมาในคำเดียว
หวังเป่าเล่อหน้าตาบิดเบี้ยว อักขระเสียงที่ซ้อนทับกันในร่างกายพลันระเบิดออก ก่อตัวเป็นคลื่นเสียงป้องกันด้านหน้าไว้ แต่ว่า…ก็ยังห่างชั้นกับกฎเกณฑ์ของปรารถนาราวกับหุบเหว พริบตาต่อมาเมื่อปรารถนาเสียงของทั้งสองปะทะกัน อักขระเสียงของหวังเป่าเล่อก็พังทลายลงเป็นครั้งแรก
เมื่อมันพังทลาย หวังเป่าเล่อพลันหน้าซีดเผือด เขากำลังจะถอยหนี แต่ปรารถนากลับดวงตาวาววับ แล้วเอ่ยเบาๆ
“ถอด!”
ทันทีที่คำนี้ดังออกมา หวังเป่าเล่อก็ตื่นตระหนก เขาควบคุมกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงในร่างไม่ได้อีกต่อไป มันทะลุร่างกายเขาออกมากลายเป็นตราประทับพุ่งตรงไปยังเจ้าปรารถนาแล้วหลอมรวมเข้าไป จากนั้นเจ้าปรารถนาก็มองหวังเป่าเล่อ ใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“ปรารถนาทัศน์!”
กฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์เข้าปกคลุม ดวงตาหวังเป่าเล่อแดงฉานในทันที ตรงหน้าเขาปรากฏภาพมากมาย ภาพเหล่านั้นอัดแน่นครอบคลุมทุกสิ่งที่เขามองเห็น และแต่ละภาพก็ดูเหมือนโลกใบหนึ่งที่จะครอบเขาไว้ข้างใน ไอรีนโนเวล
เส้นเลือดในดวงตาปูดโปนขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทว่าหวังเป่าเล่อก็ยังไม่ปริปาก ขณะถอยหนีออกมา สองมือก็ทำผนึกมุทราแล้วสะบัดอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ก็ทำงาน
ทว่าทันทีที่ใช้กฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ เสียงปรารถนาก็ดังก้องขึ้นอีกครั้ง
“ถอด!”
ไม่นาน ใบหน้าหวังเป่าเล่อก็ฉายความเจ็บปวดเล็กน้อยให้เห็น เลือดไหลออกจากมุมปาก กฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ในร่างกายแยกออกจากร่างเขาไป และหลอมรวมกับเจ้าปรารถนาอีกครั้ง
“ถึงข้าจะสู้คนไม่เก่งแล้วยังไงล่ะ แต่พลังที่ข้าให้เจ้า ข้าก็ย่อมเอากลับคืนมาได้เช่นกัน” เจ้าปรารถนายกมือชี้หวังเป่าเล่อด้วยรอยยิ้ม
“ปรารถนารส ถอด!”
“ปรารถนากลิ่น ถอด!”
“ปรารถนาสัมผัส ถอด!”
“ปรารถนาอารมณ์ ถอด!!”
สี่ประโยคนี้คล้ายคำสาปที่ไม่อาจปิดกั้นได้ พริบตาที่ออกมาจากปากเจ้าปรารถนา หวังเป่าเล่อก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง กฎเกณฑ์ปรารถนารสแตกสลายในตอนนั้น
เมื่อมันแตกสลาย เศษกฎเกณฑ์ปรารถนารสก็ออกมาจากร่างกายหวังเป่าเล่อและพุ่งไปหาเจ้าปรารถนาราวกับได้พบเจ้าของที่แท้จริง
ตามด้วยปรารถนากลิ่น มันแตกสลายอยู่ในร่างกายเขาเช่นกัน ก่อนจะออกมาก่อตัวขึ้นนอกร่าง ความเจ็บปวดจากการถอดกฎเกณฑ์และความรู้สึกฉีกขาดทำให้หวังเป่าเล่อเหงื่อซึมไปทั่วหน้าผาก ตอนนี้ร่างกายกำลังอดทนอดกลั้นอย่างมาก
จนกระทั่งปรารถนาสัมผัสจากไปก็ดูเหมือนว่าความอดทนได้มาถึงถึงขีดสุดแล้ว เพราะความเจ็บปวดที่เกิดจากปรารถนาสัมผัสนั้นตรงไปตรงมาที่สุด แต่ทั้งหมดนี้…ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับความสูญเสียครั้งใหญ่ของหวังเป่าเล่อที่ถูกถอดกฎเกณฑ์ปรารถนาทั้งหมดออกไป
ราวกับว่าแหล่งพลังงานที่คอยค้ำจุนชีวิตได้ละทิ้งหัวใจของเขาไปแล้ว นั่นทำให้หวังเป่าเล่อกระอักเลือดออกมาคำโต ร่างกายพลันอ่อนแอลงอย่างหาใดเปรียบ
ฐานการฝึกฝนของเขาเสื่อมถอยจากจุดสูงสุดของหกปรารถนา ดูเหมือนสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้จะมีเพียง…ร่างกายที่หล่อหลอมด้วยโลหิตของมหาเทพ
“ไม่เหลืออะไรแล้วสินะ”
“แบบนี้ก็ดี ข้าชอบเจ้าที่บริสุทธิ์แบบนี้”
“รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงอยากให้เจ้าไปเมืองปรารถนาทัศน์ เพราะขอแค่เจ้าหลอมรวมเข้ากับเลือดมหาเทพ ข้าก็จะสามารถ…ใช้มันเป็นสื่อ…ให้กลืนกินเจ้าได้อย่างราบรื่นยังไงล่ะ”
เจ้าแห่งความปรารถนาทั้งปวงหัวเราะ ความดำมืดในดวงตาเผยให้เห็นความชั่วร้ายและความโลภไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่เอ่ยร่างของนางก็พุ่งออกไป กลายเป็นไอหมอกดำ…ออกจากบริเวณนั้นแล้วพุ่งตรงมามาประชิดตัวหวังเป่าเล่อที่ถอยห่างออกไปอย่างไม่รู้ตัว
ราวกับมันต้องการจะห่อหุ้มเขา!
ในตอนนั้นเอง หวังเป่าเล่อที่ท่าทางอ่อนแอก่อนหน้านี้ดวงตาก็พลันส่องประกายเย็นเยียบ
เขากำลังรอช่วงเวลานี้!
……………………………
หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท