ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 622 การเรียน (กลาง)

ตอนที่ 622 การเรียน (กลาง)

​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีเขียว​ ​มวยผม​อย่างเป็นระเบียบ​เรียบร้อย​ ​แล้วยัง​ประดับ​ด้วย​ดอกไม้​สีแดง​ดอก​ใหญ่​สอง​ดอก​ ​ทำให้​นาง​ดู​สดใส

​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่​เจอฮู​หยิน​ตั้ง​หนึ่ง​ปี​ ฮู​หยิน​ยัง​ดู​งดงาม​เหมือนเดิม​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ห่อ​ผ้าไหม​สีแดง​ออกมา​จาก​มือ​ของ​ป้า​รับใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​คุณหนู​เก้า​ของ​เรา​นำมา​ให้ฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​ ​ทำ​รองเท้า​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ฝีมือ​อาจจะ​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​โปรดฮู​หยิน​อย่า​ได้​ถือสา​”

​ตั้งแต่​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​และ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​หมั้น​หมาย​กัน​ ​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​ที่​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​หวัง​หลิน​ ​พี่สาว​ของ​หวัง​หลัง​ก็​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​และ​นำ​ของขวัญ​ปีใหม่​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ใน​เมืองหลวง​ทุกปี​

​“​ลำบาก​คุณหนู​เก้า​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​บอก​ให้​ชิว​อวี​่​รับ​ห่อ​ผ้า​นั้น​มา​ ​บอก​ให้​สาวใช้​นำ​เก้าอี้​มา​ให้ท่าน​ป้า​สอง​คน​นั่ง​ ​แล้วก็​ยก​ชา​เข้ามา​ให้​พวก​นาง

​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ​ ​รับ​ถ้วยชามา​จิบ​หนึ่ง​ที

​สือ​อี​เหนียง​ถาม​นาง​ ​“​นายท่าน​และ​นาย​หญิง​สบายดี​หรือไม่​”

​“​ขอบพระคุณ​ที่ฮู​หยิน​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​ ​นายท่าน​และ​นาย​หญิง​สบายดี​เจ้าค่ะ​”​ ​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​วันที่​เก้า​เดือน​เก้า​ ​นาย​หญิง​พา​คุณหนู​เก้า​ไป​กราบไหว้​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ที่​วัด​ต้าฝู​…​”

​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​อาจารย์​เจี่ย​นมา​ขอ​พบ​เจ้าค่ะ​”

​ช่วงนี้​ของ​ทุกปี​ ​อาจารย์​เจี่ยน​จะ​นำ​สมุดบัญชี​ของ​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ตลอด

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​เชิญ​อาจารย์​เจี่ยน​เข้ามา​

​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​รีบ​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​

​อาจารย์​เจี่ยน​ถือ​ถุง​ผ้า​สีน้ำเงิน​เดิน​เข้ามา

​นาง​นั่งลง​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​รับ​ถ้วยชามา​จาก​สาวใช้​ ​ชิว​อวี​่​พาสาว​ใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป​ข้างนอก​อย่าง​รู้ความ​

​อาจารย์​เจี่ยน​เปิด​ถุง​ผ้า​แล้ว​ผลัก​มัน​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​สมุดบัญชี​ของ​ปีนี​้​”

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​มีส​มุด​บัญชี​เพิ่มขึ้น​กว่า​ปีก่อน​ตั้ง​สิบ​เล่ม​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​ดูเหมือนว่า​กิจการ​ของ​ปีนี​้​จะ​ดีกว่า​ปีก่อน​ไม่น้อย​เลย​!​”

​ตอนนี้​กิจการ​ของ​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​ ​ส่วน​แรก​คือ​ทำ​ผ้า​ปัก​ลาย​และ​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​ ​อีก​ส่วนหนึ่ง​คือ​ผ้าไหม​สิริมงคล​และ​ผ้าม่าน​สิริมงคล​ ​เพราะว่า​ผ้า​ปัก​ลาย​และ​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​เป็น​ของ​สำคัญ​ ​อาจารย์​เจี่ยน​จึง​เป็น​คน​สั่งงาน​ช่างเย็บ​ฝีมือดี​ด้วยตัวเอง​ ​ให้​ชิวจ​วี​๋​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​ผ้าไหม​สิริมงคล​และ​ผ้าม่าน​สิริมงคล​ ​พัฒนา​กิจการ​มา​เรื่อยๆ​ ​กิจการ​ก็​ค่อยๆ​ ​เติบโต​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ไม่เพียงแต่​มีชื่อเสียง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​แม้แต่​เจียง​หนาน​ ​ก็​มี​คน​มาสั​่ง​ทำ​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​เช่นกัน

​อาจารย์​เจี่ยน​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​ผ่าน​ไป​อีก​สอง​สาม​ปี​ ​เรา​ก็​สามารถ​ซื้อ​ร้านค้า​ที่​ถนน​ตง​ต้า​ได้​แล้ว​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ลังเล​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ว่าแต่​มีเรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​ ​ข้า​อยาก​ปรึกษา​กับ​เจ้า​!​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ทำ​สีหน้า​จริงจัง

​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ท่าน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​พูด​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​เรา​เป็น​อาจารย์​กับ​ลูกศิษย์​ ​ปรึกษา​กันได​้​ทุก​เรื่อง​”

​“​มีเรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​ ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​ได้ยิน​แล้ว​หรือยัง​”​ ​อาจารย์​เจี่ย​นพูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ได้ยิน​เจ้าของร้าน​ข้างๆ​ ​บอกว่า​ ​สอง​สาม​วันก่อน​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ขาย​ร้านค้า​ออก​ไป​อีกแล้ว​ ​ตอนนี้​ร้าน​เรา​เริ่ม​มีชื่อเสียง​แล้ว​ ​ต่อไป​ก็​คง​โด่งดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​หาก​คน​ส่วนมาก​พูดถึง​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ ​ก็​มักจะ​นึกถึง​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​บน​ถนน​ตง​ต้า​ของ​เรา​ ​หาก​เรา​ย้าย​ร้าน​ ​ลูกค้า​ที่​เดินทาง​มาหา​จาก​ทางไกล​หาร​้าน​เรา​ไม่​เจอ​ยัง​ไม่พอ​ ​หาก​มี​คน​มา​เปิดร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​แทนที่​เดิม​ของ​เรา​ ​ขโมย​กิจการ​มัน​คือ​เรื่องเล็ก​ ​แต่​หาก​ทำให้​ลูกค้า​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​เป็น​ร้าน​ของ​เรา​ ​เสียเงิน​แต่กลับ​ซื้อของ​ไม่ได้​ตามที่​ต้องการ​ ​เกรง​ว่า​มัน​คงจะ​ทำให้​เรา​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ ​เรา​ควร​ถาม​ว่า​แถว​นั้น​มี​ร้านค้า​ไหน​อยาก​จะ​ขาย​ร้าน​ ​แล้ว​ใช้​เงิน​ที่​ได้​จาก​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ซื้อ​เอาไว้​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ได้​มี​ร้าน​เป็นหลัก​เป็น​แหล่ง​”

​สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ขาย​ร้านค้า​อีกแล้ว​หรือ​!​”

​อาจารย์​เจี่ยน​ถอนหายใจ​เบา​ๆ

​สือ​อี​เหนียง​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ความคิด​ของ​ท่าน​ไม่เลว​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ท่าน​ลอง​สอบถาม​ดูก่อน​ ​หาก​เงิน​ไม่พอ​ ​ข้า​ออก​ให้​ก่อน​ ​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​คืนให้​ข้า​ก็ได้​ ​สำหรับ​เรื่อง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ ​ข้า​จะ​ไป​พูด​กับ​นาง​เอง​”

​เช่นนี้​ ​ถึงแม้ว่า​จง​ฉินปั​๋​วจะ​บังคับ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ขาย​ร้านค้า​อีก​ ​กิจการ​ใน​ร้าน​ก็​จะ​ไม่ได้​รับ​ผลกระทบ​ ​ถึงแม้ว่า​กิจการ​ใน​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ของ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ไม่ได้​ทำให้​นาง​ร่ำรวย​อะไร​ ​แต่​อย่างน้อย​มัน​ก็​ทำให้​นาง​มีเงิน​จับจ่ายใช้สอย​ไม่​ขาดมือ

​อาจารย์​เจี่ย​นพ​ยัก​หน้า​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​พลอย​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​อึมครึม​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​ได้ยิน​ว่า​หู่​พั่ว​จะ​กลับมา​หลัง​ปีใหม่​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​จู๋​เซียง​เป็น​เช่นไร​แล้ว​”

​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เป็นกังวล​ ​“​หา​ไปหา​มา​ ​ก็​ยัง​หา​คนที​่​เหมาะสม​ไม่​เจอ​!​”

​อาจารย์​เจี่ยน​หัวเราะ​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ ​เจ้า​ไม่​อยาก​ให้​จู๋​เซียง​แต่งงาน​มากกว่า​ ​สกุล​ที่​ป้า​ซ่ง​พูดถึง​เมื่อ​ครั้งก่อน​ก็​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​บิดา​มารดา​เป็น​ผู้ดูแล​ที่​ไร่​ ​บุตรชาย​ของ​พวกเขา​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​เถ้าแก่​ใหญ่​ที่​ซาน​ซี​ ​อ่าน​ออก​เขียน​ได้​ ​หน้าตา​หล่อเหลา​ ​อายุ​ก็​เท่าๆ​ ​กัน​ ​แต่​เจ้า​กลับ​บอกว่า​เขา​นั้น​ฉลาด​เกินไป​ ​ไม่​ค่อย​มั่นคง​ ​หาก​หา​คนซื่อบื​่อ​จริงๆ​ ​เกรง​ว่า​เจ้า​คงจะ​คิด​ว่า​เขา​ซื่อสัตย์​เกินไป​ ​ไม่​ค่อย​ฉลาด​กระมัง​”​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​เกลี้ยกล่อม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​จู๋​เซียง​ไม่​เด็ก​แล้ว​ ​หาก​ยัง​ไม่​แต่งงาน​ ​ก็​จะ​กลายเป็น​แม่นาง​อายุ​เยอะ​แล้ว​ ​เจ้า​ดู​ชิวจ​วี​๋​ของ​เรา​ ​นาง​ก็​มีชีวิต​ที่​ดี​ไม่ใช่​หรือ​”

​ชิวจ​วี​๋​ก็​เเต่งงาน​ช้า​จน​กลายเป็น​แม่นาง​อายุ​เยอะ​ ​ต่อมา​เถ้าแก่​ร้าน​ขาย​เครื่องเงิน​แนะนำ​คนที​่​ทำงาน​อยู่​ใน​ร้าน​เครื่องเงิน​ ​บิดา​มารดา​เสียชีวิต​ไป​ตั้งแต่​เขา​ยัง​เด็ก​ ​ครอบครัว​ยากจน​ ​มีพี​่​น้อง​ทั้งหมด​สี่​คน​ ​เขา​คือ​น้องเล็ก​สุด​ ​อยาก​แต่งงาน​กับ​ครอบครัว​ของ​อาจารย์​เจี่ยน​ ​ตอนแรก​อาจารย์​เจี่ยน​ไม่​ชอบ​ที่​เขา​หน้าตา​ไม่​ค่อย​ดี​ ​บอก​ให้​ชิวจ​วี​๋​แอบ​ไปดู​เขา​ก่อน​ ​ชิวจ​วี​๋​ไม่ได้​ว่า​อะไร​ ​อาจารย์​เจี่ยน​จึง​ฝืน​ตอบ​ตกลง​ ​ต่อมา​หลังจาก​แต่งงาน​กับ​ชิวจ​วี​๋​แล้ว​ ​เขา​เป็น​คน​ทำงาน​ทุกอย่าง​ ​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​ก็​เริ่ม​มีชีวิต​ที่​ดีขึ้น​ ​อาจารย์​เจี่ยน​เห็น​เช่นนี้​ก็​พอใจ​ ​ฤดูใบไม้ร่วง​ปีก่อน​ ​ชิวจ​วี​๋​คลอด​บุตร​เป็น​ฝาแฝด​ ​ตั้งชื่อ​เด็ก​ทั้งสอง​คน​โดย​ใช้​แซ่​ ​‘​เจี่ยน​’​ ​ทำเอา​อาจารย์​เจี่ยน​ปิติยินดี​เป็นอย่างมาก

​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​หาก​ระดูก​ใน​ไข่​[1]​ ​แต่​เมื่อ​คิด​ว่า​ผู้ติดตาม​ของ​ตัวเอง​ที่​ติดตาม​มาจาก​อวี​๋​หัง​ล้วนแต่​แยกย้าย​กัน​ออก​ไป​ ​นาง​จึง​อยาก​ให้​จู๋​เซียง​อยู่​กับ​ตัวเอง​นาน​ขึ้น​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน

​“​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​ว่า​กัน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​พึมพำ​ ​“​ใกล้​จะ​ปีใหม่​แล้ว​ ​คงจะ​ให้​นาง​แต่งงาน​ตอนนี้​ไม่ได้​!​”

​อาจารย์​เจี่ย​นรู​้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ยัง​ทำใจไม่ได้​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​จิบ​ชา​ ​พูดถึง​เรื่อง​บุตร​ฝาแฝด​ของ​ชิวจ​วี​๋​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​

​จู๋​เซียง​เห็น​อาจารย์​เจี่ยน​เดิน​ออกมา​ ​นาง​ออก​ไป​ส่ง​อาจารย์​เจี่ย​นที​่​หน้า​ประตู​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​

​“​เหมือนกับ​ทุกปี​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​ไปหา​ป้า​ซ่ง​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​ป้า​ตู้​ ​แล้วก็​ป้า​สือ​ของฮู​หยิน​ห้า​และ​ภรรยา​ของ​ผู้ดูแล​จ้าว​ ​ล้วนแต่​ถือ​กล่อง​ของขวัญ​ปีใหม่​ไป​ให้​พวก​นาง​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​เรา​ก็​ให้​ซอง​แดง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หยอกล้อ​จู๋​เซียง​ ​“​ปีนี​้​ได้​เพิ่มขึ้น​หรือไม่​”

​“​ไม่​เพิ่มขึ้น​เจ้าค่ะ​!​”​ ​จู๋​เซียง​ยิ้ม​ ​“​ยังคง​สี่​สลึง​เท่าเดิม​เจ้าค่ะ​”

​“​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่​มาก​ ​แต่​หาก​ใด​้​เช่นนี้​ตลอด​ ​ก็​ไม่ใช่​เงิน​จำนวน​น้อย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​ทิ้ง​เรื่อง​พวก​นี้​ไป​ไว้​ข้างหลัง​ ​นาง​ถาม​ ​“​จิ​่น​เกอ​เล่า​ ​ไม่เห็น​เขา​ตั้ง​นาน​แล้ว​”

​“​กำลัง​ป้อน​อาหาร​นก​กับ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​จู๋​เซียง​ยิ้ม​ ​“​มีสุย​เฟิง​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​คอย​รับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​”

​สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​ปรึกษา​เรื่อง​ขึ้นปีใหม่​กับ​จู๋​เซียง​ ​เมื่อถึง​เวลา​ทานข้าว​เย็น​นาง​ก็​เล่าเรื่อง​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอก​นาง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​เขา​พูด​ ​“​ข้า​หา​อาจารย์​ให้​จิ​่น​เกอ​ได้​แล้ว​”​ ​แต่​เมื่อ​คิด​ว่านี​่​คือ​น้ำใจ​ของ​บุตร​เขย​และ​บุตรสาว​ตัวเอง​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ให้​อาจารย์​ผัง​มาด​้วย​เถิด​ ​หาก​ไม่เหมาะสม​ค่อย​ให้​เขา​ไป​ทำงาน​ที่​ฝ่าย​รักษาการณ์​!​”

​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​จู๋​เซียง​ไป​บอก​ซิ่ว​หลาน​ ​หลังจาก​ขึ้นปีใหม่​ ​เซ่าจ​้ง​หรา​นก​็​พา​อาจารย์​ผัง​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ด้วยตัวเอง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต้อนรับ​บุตร​เขย​ที่​โถง​บุปผา​ ​ก่อน​จะ​ทดสอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​ของ​อาจารย์​ผัง​ ​จากนั้น​ก็​กลับมา​บอก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ฝีมือ​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​ ​ดูท่า​ที​เหมือน​ยัง​ไม่ได้​ออกแรง​เต็มที่​ ​แต่ว่า​ไม่​ค่อย​เชี่ยวชาญ​เรื่อง​สงคราม​…​ถึงแม้​จิ​่น​เกอ​ไม่ได้​จะ​ออก​ไป​สู้รบ​กับ​ใคร​ในอนาคต​ก็ตาม​”​ ​เขา​ไม่​ค่อย​พอใจ​สัก​เท่าไร

​“​เขา​อาจจะ​ไม่ได้​ใช้​แรง​เต็มที่​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​อาจารย์​สอน​ศิลปะ​การต่อสู้​เป็น​เหมือน​ครู​พละ​ ​นาง​คิด​ว่า​แค่​เขา​มี​ร่างกาย​แข็งแรง​ก็​พอแล้ว​ ​จ้าว​คั่ว​เอง​ก็​อ่านหนังสือ​สงคราม​มาตั​้ง​เยอะ​ ​แต่​พอ​ออกรบ​ก็​พ่ายแพ้​อยู่ดี​ ​การสู้​รบ​ ​ต้อง​มีพรสวรรค์​ด้วย​ ​“​มัน​คือ​น้ำใจ​ของ​บุตร​เขย​ใหญ่​ ​ใช้งาน​เขา​ได้​ก็​ใช้​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​อ่าน​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​ไม่​จบ​ ​แล้ว​นำ​ ​‘​ศิลปะ​แห่ง​สงคราม​’​ ​ไป​ให้​เขา​อ่าน​ ​เขา​ก็​ไม่มีทาง​อ่าน​เข้าใจ​ ​เรียนรู้​การ​ยิง​ธนู​ขี่ม้า​ก่อน​ก็ได้​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​อาจารย์​ผัง​อยู่​ที่​จวน​ ​บอกอา​จารย์​จ้าว​ว่า​จะ​ส่ง​จิ​่น​เกอ​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​สำนัก​ศึกษา​ซวงฝู​ใน​วันที่​สอง​ของ​เดือน​สอง​

​จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​ว่า​จะ​ได้​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​ ​เขา​ก็ดี​ใจ​ ​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ทุกวัน​ว่า​เมื่อไร​จะ​ถึง​วันที่​สอง​เดือน​สอง​ ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​นาง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นี่​คือ​ท่วงท่า​ของ​นักปราชญ์​!​”

​เซิน​เกอ​ก็​เอะอะโวยวาย​อยาก​ไป​ด้วย​

​ไท่ฮู​หยิน​มอบ​ขนม​ให้​เซิน​เกอ​หนึ่ง​กล่อง​ ​“​เจ้า​ค่อย​ไป​ปีหน้า​ ​ไป​เรียน​เป็นเพื่อน​พี่ชาย​เจ้า​”

​เซิน​เกอ​ดึง​แขน​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​ป้า​สี่​ทำ​กระเป๋า​ให้​ข้า​ด้วย​ขอรับ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ใช้​ผ้า​หลิง​โถว​ใน​มือ​ทำเป็น​กระเป๋า​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​นำ​หนังสือ​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​ใส่​ไว้​ข้างใน​ ​แล้วยัง​นำ​ไป​โอ้อวด​เซิน​เกอ​ก่อน​มาที​่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน

​“​ได้​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​เซิน​เกอ​ชอบ​แบบ​ไหน​ ​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​ป้า​จะ​ทำให้​เจ้า​”

​“​ชอบ​เหมือน​ของ​พี่​หก​ขอรับ​”​ ​เซิน​เกอ​พูด​ต่อไป​อีกว่า​ ​“​ชอบ​แบบ​ที่​สวย​กว่า​ของ​พี่​หก​ขอรับ​”

​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ยัง​เด็ก​ ​เฉิง​เกอ​อายุ​สาม​ขวบ​แล้ว​ ​แต่ฮู​หยิน​ห้า​ยัง​อุ้ม​เขา​ไป​ทุกที่

​เห็น​บุตรชาย​ตัวเอง​ขอก​ระ​เป๋า​จาก​สือ​อี​เหนียง​ ฮู​หยิน​ห้า​ที่​กำลัง​ป้อน​ขนม​เฉิง​เกอ​ที่นั่ง​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​ก็​เช็ด​ปาก​ให้​เขา​แล้ว​บ่น​ขึ้น​ว่า​ ​“​เด็ก​คน​นี้​ ​เห็น​อะไร​ก็​อยากได้​ไป​หมด​!​”

​“​เด็กน้อย​ก็​เป็น​เช่นนี้​แหละ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เมื่อก่อน​ตอนที่​คุณชาย​สี่​ยัง​เล็ก​ ​เขา​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ​ส่วน​คุณชาย​ห้า​ตอน​เด็ก​เขา​รู้ความ​มาก​ ​เห็น​ว่า​ข้า​ไม่สบาย​ ​ก็​มักจะ​มานั​่ง​จับมือ​ข้า​อยู่​ข้างๆ​ ​ถาม​ว่า​ข้า​ดีขึ้น​แล้ว​หรือยัง​ ​นึกถึง​ตอนนั้น​ ​หาก​ข้ามี​บุตรสาว​สัก​คน​ก็​คงจะ​ดี​!​ ​“

​พูด​จน​สวี​ลิ่ง​ควน​กระอักกระอ่วน​ ​เขา​กระแอม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่​สี่​ ​ได้ยิน​ว่า​เขย​ใหญ่​แนะนำ​อาจารย์​สอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​หรือว่า​ ​ให้​เซิน​เกอ​ไป​เรียน​ด้วยดี​หรือไม่​ขอรับ​!​ ​“

​“​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​”​ ​ใน​จวน​มี​แค่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ยืนหยัด​มา​ได้​ ​“​เซิน​เกอ​ยัง​เด็ก​เกินไป​ ​รอ​ให้​เขา​โตก​ว่านี​้​อีก​สักหน่อย​ค่อย​ว่า​กัน​เถิด​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​รีบ​พูด​ ​“​ใช่​เจ้าค่ะ​ ​เซิน​เกอ​อายุ​น้อยกว่า​จิ​่น​เกอ​ตั้ง​หนึ่ง​ปี​!​”

​เซิน​เกอ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​วิ่ง​ไป​เอะอะโวยวายฮู​หยิน​ห้า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ ​ข้า​จะ​ไป​ด้วย​ขอรับ​ ​ข้า​อยาก​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​กับ​พี่​หก​!​”

​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ห้ามื​ดม​นลง​ ​“​ปีหน้า​ค่อย​ว่า​กัน​”

​เซิน​เกอ​ไม่ยอม​ยังคง​งอแง

ฮู​หยิน​ห้า​ตำหนิ​เขา​ ​ทำเอา​เฉิง​เกอ​ตกใจ​จน​ร้องไห้​ ฮู​หยิน​ห้า​รีบ​อุ้ม​เฉิง​เกอ​เดิน​ไปร​อบ​ห้อง

​เซิน​เกอ​เห็น​เช่นนี้​ก็​น้ำตา​คลอ​เบ้า​

​ไท่ฮู​หยิน​สงสาร​เขา​ ​นาง​รีบ​เรียก​เซิน​เกอ​ไปหา​ ​กอด​เขา​แล้ว​เกลี้ยกล่อมฮู​หยิน​ห้า​ ​“​ให้​เซิน​เกอ​ไป​ด้วย​เถิด​ ​ไป​เล่น​อยู่​ข้างๆ​ ​ก่อน​ก็ได้​ ​รอ​ให้​เขา​โต​ขึ้น​กว่านี​้​อีก​สักหน่อย​ ​ค่อย​ให้​เขา​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​อย่างจริงจัง​!​ ​“

​เซิน​เกอ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​พยักหน้า

​จิ​่น​เกอ​เอง​ก็​ช่วย​เซิน​เกอ​พูด​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ขอรับ​ ​ให้​น้อง​เจ็ด​ไป​เถิด​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​นำ​เจ้า​สาม​ของ​ข้ามา​ให้ท่าน​เล่น​ด้วย​!​”

​เจ้า​สาม​คือ​สุนัข​ตัว​หนึ่ง​ของ​เขา

​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ

ฮู​หยิน​ห้า​ยืนกราน​ต่อไป​ไม่ไหว​ ​นาง​พูด​กับ​เซิน​เกอ​ ​“​เจ้า​ห้าม​ซุกซน​เด็ดขาด​ ​ไม่เช่นนั้น​จะ​ไม่​อนุญาต​ให้​เจ้า​ไป​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​”

​เซิน​เกอ​วิ่ง​เข้าไป​กอด​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ

[1]​หาก​ระดูก​ใน​ไข่ ​เป็น​สำนวน​ ​หมายถึง​ ​พยายาม​หา​ข้อ​ตำหนิติเตียน​คน​หรือ​สิ่งของ​ ​ทั้งที่​ไม่มี​ข้อ​ให้​ตำหนิ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท