ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 631 อารมณ์ (กลาง)

ตอนที่ 631 อารมณ์ (กลาง)

คำพูด​ของ​จิ​่น​เกอ​ทำเอา​ทุกคน​ชะงัก​ ​ก่อน​จะ​รู้สึก​ขบขัน

สวี​ลิ่ง​ควน​หัวเราะ​ ​เขา​ทำเป็น​ตบ​ไหล่​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​“​ไม่เลว​ ​ไม่เลว​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​พึ่ง​จะ​เริ่ม​เรียน​ ​ก็​รู้​หลักการ​แล้ว​ ​ได้​ ​ข้า​รอ​เจ้า​หยุด​เรียน​ ​แล้ว​ค่อย​พา​เจ้า​ไป​พาย​เรือดี​หรือไม่​!​”

“​ดี​ขอรับ​!​”​ ​ปีนี​้​จิ​่น​เกอ​ยัง​ไม่ได้​พาย​เรือ​ ​เขา​พูดเสี​ยง​ดัง​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​อา​ห้า​อย่า​ลืม​นะ​ขอรับ​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​นึกถึง​เซิน​เกอ​ ​“​แล้วยัง​มีน​้​อง​เจ็ด​อีกด้วย​!​”

“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​แล้ว​หันไป​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​อีก​สอง​วัน​จิ​่น​เกอ​ก็​คงจะ​เดิน​ได้​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​ถึงแม้ว่า​รอยยิ้ม​ที่​พอใจ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​จะ​ทำให้​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ของ​เขา​ดู​อ่อน​ลง​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​ดู​เคร่งขรึม​อยู่ดี​ ​“​อีก​สอง​วัน​ก็​คง​เดิน​ได้​แล้ว​!​”​ ​เขา​พูด​กับ​บุตรชาย​ ​“​ทำ​อะไร​ต้อง​ใช้​สมอง​ ​จะ​สัก​แต่​ทำไม​่​ได้​ ​นี่​คือ​การ​ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​ ​มัน​มี​ศิลปะ​ของ​มัน​ ​เอาแต่​ย่อเข่า​อยู่​ตรงนั้น​ ​เจ้า​ต้อง​คิด​ว่า​ทำไม​อาจารย์​ถึง​อยาก​ให้​เจ้า​ฝึก​ย่อเข่า​ ​มัน​คือ​การ​ฝึก​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ขา​หรือว่า​แขน​ ​หาก​ฝึก​ขา​ ​ต้อง​ฝึก​เช่นไร​ถึง​จะ​ดี​ ​แล้ว​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ฝึก​เช่นนี้​”

ตอนที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ยืน​กุมมือ​อยู่​ข้างๆ​ ​อย่างนอบน้อม​ ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​ส่ง​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​เขา​ก็​มีท​่า​ที​ร่าเริง​ขึ้น​มา​ ​กระซิบ​บอก​จิ​่น​เกอ​ ​“​อาจารย์​ที่​สอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ให้​ข้า​บอกว่า​ ​การ​ฝึก​ย่อเข่า​คือ​การ​ฝึก​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ขา​ ​หาก​เจ้า​ย่อ​ได้​อย่างมั่นคง​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​ล้ม​…​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​ ​เขา​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​เช่นนั้น​ตอนที่​ท่าน​ย่อเข่า​ ​ย่อ​ได้​นาน​แค่ไหน​หรือ​”

“​ย่อ​ได้​ครึ่ง​ก้านธูป​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ ​“​ตอนแรก​ยัง​ไม่​ค่อย​ชิน​ ​แต่​ผ่าน​ไป​นาน​เข้า​ก็​จะ​ดีขึ้น​ ​ตอนนี้​ข้า​สามารถ​ย่อเข่า​ได้​สาม​ก้านธูป​ ​แล้วยัง​ยิง​ธนู​ได้​สิบ​นัด​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ภูมิ​อก​ภูมิใจ​

สำหรับ​เขา​แล้ว​ ​นี่​คือ​การก้าวหน้า​ที่​ยิ่งใหญ่​!

จิ​่น​เกอ​ไม่สน​ใจ​ ​“​เซิน​เกอ​ยัง​ย่อเข่า​ได้​ตั้ง​สอง​ก้านธูป​!​”

สวี​ซื่อ​จุนสี​หน้าเจื่อน​ลง​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่ยอม​แพ้​ ​พูด​ด้วย​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ว่า​ ​“​ข้า​ค่อยๆ​ ​เป็น​ค่อยๆ​ ​ไป​ ​ยัง​สามารถ​ย่อเข่า​ได้​ตั้ง​สาม​ก้านธูป​ ​ดังนั้น​แค่​ยืนหยัด​ก็​จะ​ประสบความสำเร็จ​!​”​ ​เขา​เป็น​คน​อ่อนโยน​ ​แม้แต่​ตำหนิ​จิ​่น​เกอ​ก็​ยัง​ใช้​น้ำเสียง​ที่​นุ่มนวล​อ่อนโยน​ ​แต่ว่า​จิ​่น​เกอ​ยัง​เด็ก​ ​เขา​ไม่เข้าใจ​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ ​จึง​โต้ตอบ​ไป​ว่า​ ​“​รอ​ให้​ข้า​โต​เท่า​ท่าน​ ​ข้า​ต้อง​เดิน​เสา​ดอก​เหมย​ได้​แน่นอน​ ​หาก​ไม่เชื่อ​ ​ท่าน​ก็​รอดู​ได้​เลย​!​”

“​ได้​เลย​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​“​แล้ว​ข้า​จะ​รอดู​!​”

จิ​่น​เกอ​ไม่พอใจ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​ต้อง​ยอมแพ้​ข้า​!​”

“​ข้า​ไม่ได้​จะ​เดิมพัน​อะไร​กับ​เจ้า​เสียหน่อย​ ​จะ​แพ้ชนะ​ได้​อย่างไร​กัน​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​เขา​ไม่เชื่อ​คำพูด​ของ​สวี​ซื่อ​จุน

“​เช่นนั้น​เรา​เดิมพัน​กัน​เถิด​!​”

“​เดิมพัน​อะไร​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ทำท่า​ที​ไม่สน​ใจ​ ​ทำให้​จิ​่น​เกอ​ไม่พอใจ​

“​ท่าน​คิด​ว่า​จะ​เดิมพัน​อะไร​เล่า​ขอรับ​”

พวกเขา​สอง​คน​เถียง​กัน​อยู่​ตรงนั้น​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​รู้สึก​อบอุ่น

นาง​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่ตั้ง​แต่​เดิน​เข้ามา​ก็​ไม่​พูด​อะไร​ ​“​เป็น​อะไร​ไป​ ​เหตุใด​วันนี้​ถึง​เงียบ​เช่นนี้​ ​ทำการบ้าน​ไม่เสร็จ​ถูก​อาจารย์​ตำหนิ​หรือ​”

“​ไม่ใช่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​ ​“​ข้า​ไม่เป็นอะไร​ขอรับ​!​”

เขา​หลบตา​สือ​อี​เหนียง​ ​ทำให้​เขา​ดู​ไม่​เป็นตัวของตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​ ​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​คน​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยล​้​วน​แต่​เป็น​คนที​่​ตัวเอง​ไว้ใจได้​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ไม่ได้​ถาม​อะไร​อีก​ ​ตัดสินใจ​เรียก​สี่​เอ๋อร​์​เข้ามา​ซักถาม​วันพรุ่งนี้​

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เสียง​พวกเขา​ ​ก็​พูดแทรก​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ขอรับ​ ​เมื่อวาน​อาจารย์​จ้าว​ยัง​ชม​น้อง​ห้า​ ​บอกว่า​น้อง​ห้า​ตั้งใจ​ร่ำเรียน​ ​การบ้าน​ก็​ทำได้​ดี​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

เขา​ตั้งใจ​เล่าเรียน​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ดี​!

ในขณะที่​เขา​กำลัง​พูด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​เข้ามา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​สีหน้า​จริงจัง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ไม่มี​ท่าที​ผ่อนคลาย​เหมือน​เมื่อ​ครู่​ ​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​จะ​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่น​ ​“​ท่าน​ทำ​สีหน้า​อ่อนโยน​หน่อย​ไม่ได้​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ลูก​ๆ​ ​กลัว​ท่าน​ราวกับ​ท่าน​ไม่ใช่​พ่อ​ ​แต่กลับ​เหมือน​ผู้ดูแล​เสียมา​กก​ว่า​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขมวดคิ้ว​ ​“​อายุ​แตกต่าง​กัน​ ​สถานะ​แตกต่าง​กัน​ ​หรือ​จะ​ให้​ข้า​เป็น​เหมือน​เจ้า​ ​เอาแต่​หัวเราะ​ทั้งวัน​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชำระ​

สือ​อี​เหนียง​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​แล้ว​เบะ​ปาก

จิ​่น​เกอ​รีบ​กอด​แขน​มารดา​ของ​ตัวเอง​ ​“​ท่าน​แม่​พูด​กับ​ข้า​สิ​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​มองดู​ท่าที​เอาใจ​ของ​บุตรชาย​ ​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หอม​เขา​อย่างแรง​

*****

หลังจาก​พักผ่อน​หนึ่ง​วัน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เดิน​ได้​แล้ว​ ​เขา​กระโดดโลดเต้น​ราวกับ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​เอะอะ​จะ​ไป​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่

แต่​สือ​อี​เหนียง​ยัง​เป็นห่วง​เขา​ ​นาง​นวด​ขา​ให้​เขา​อย่างเบามือ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​ยัง​เจ็บ​อยู่​หรือไม่​”

“​ไม่​เจ็บ​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ส่ายหน้า​แล้ว​พูด​ด้วย​ความเบื่อหน่าย​ ​“​ท่าน​แม่​ ​หาก​ข้า​ยัง​ไม่​ไป​ข้า​ก็​จะ​ตาม​เซิน​เกอ​ไม่ทัน​แล้ว​นะ​ขอรับ​!​”

จิ​่น​เกอ​พักผ่อน​อยู่​ที่​เรือน​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ต้อง​อยู่​ที่​เรือน​ ​แต่​เซิน​เกอ​กลับ​ไป​ฝึก​ย่อเข่า​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่​ทุกวัน

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่าการ​ที่​พวกเขา​ชอบ​ฝึกฝน​ศิลปะ​การต่อสู้​เป็นเรื่อง​ที่​ดี

“​ได้​!​ ​เจ้า​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เถิด​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​เปิด​ตู้​ไม้​หวง​ลี่​ ​หยิบ​เสื้อ​ต่วน​เฮ่อ​สีน้ำเงิน​ออกมา​ ​“​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ทำให้​เจ้า​ ​สวย​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​ชื่นชอบ​มัน​อย่างมาก​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​พลาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

สือ​อี​เหนียง​ส่ง​บุตรชาย​ที่​หน้า​ประตู​ ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​ ​“ฮู​หยิน​ ​เหล​ยก​งก​งมา​ขอรับ​ ​บอกว่า​มา​เยี่ยม​คุณชาย​น้อย​หก​ตามคำสั่ง​ของ​ฮองเฮา​ ​ท่าน​โหวกำ​ลัง​พา​เขา​มาที​่​นี่​ขอรับ​!​”

ฮองเฮา​รู้เรื่อง​จิ​่น​เกอ​ได้​เช่นไร

ในขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​ร่าง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​เหล​ยก​งก​งก​็​ปรากฏ​ขึ้น​ตรง​ทางเดิน

สือ​อี​เหนียง​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​คำนับ​พวกเขา

เหล​ยก​งกง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ ​“​วันนี้​หมอ​หลวง​อู๋​สำนัก​หมอ​หลวง​ไป​จับชีพจร​ให้​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​ฮองเฮา​ถึง​ได้​รู้เรื่อง​ขา​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ส่งข้ามา​เยี่ยมเยียน​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​ ​“​ไท่​จื่อ​เฟ​ยป​ระ​ชวร​หรือ​เจ้า​คะ​”

เหล​ยก​งกง​ตอบคำถาม​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ไท่​จื่อ​เฟ​ยมี​ข่าวดี​อีกแล้ว​!​”

“​นี่​เป็นเรื่อง​น่ายินดี​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​จะ​ได้​เข้าไป​แสดงความยินดี​ใน​พระราชวัง​เมื่อไร​หรือ​!​”

ตั้งแต่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​คลอด​หวง​จั่ง​ซุน​ ​นาง​ก็​ดูแลรักษา​ร่างกาย​อยู่​ตลอด​

“​อีก​สาม​เดือน​ก็​เข้าไป​แสดงความยินดี​ใน​พระราชวัง​ได้​แล้ว​!​”​ ​เหล​ยก​งกง​พูดคุย​กับ​พวกเขา​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​ ​“​ฮองเฮา​รอ​ข้า​กลับ​ไปรา​ยงา​นอยู​่​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​รั้ง​เขา​ไว้​ ​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​เหล​ยก​งก​งด​้วย​ตัวเอง​

สือ​อี​เหนียง​กับ​จิ​่น​เกอ​กำลังจะ​ไป​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่

แต่​ไท่​จื่อ​และ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยส​่ง​นางกำนัล​มา​พอดี

หลังจาก​ทักทาย​กัน​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ส่ง​นาง​ออก​ไป​ ​เฮ่อ​กง​กง​ของ​ฮ่องเต้​ก็​มา​…​ต่อมา​ ​สกุล​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​ ​สกุล​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ ​สกุล​หวัง​ลี่​และ​สกุล​อื่นๆ​ ​ก็​ส่ง​คน​มาถาม​ไถ่​ ​โจวฮู​หยิน​และ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ถึงกับ​มา​เยี่ยมเยียน​ด้วยตัวเอง​ ​ทันใดนั้น​ ​จวน​สกุล​สวี​ก็​ครึกครื้น​ยิ่งกว่า​ขึ้นปีใหม่​เสียอีก​

สวี​ซื่อ​จุน​หยอกล้อ​จิ​่น​เกอ​ ​“​จงใจ​จุดไฟ​ชัดๆ​!​”

จิ​่น​เกอ​ไม่เข้าใจ​ ​แต่​เขา​รู้​ว่า​พี่ชาย​ไม่ได้​พูด​เรื่อง​ดี​แน่นอน​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​โกรธ​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​ ​กลับ​ไป​เขา​ก็​ไป​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​อะไร​คือ​ ​‘​จงใจ​จุดไฟ​’​

สือ​อี​เหนียง​เล่า​ให้​เขา​ฟัง

เขา​ก็​เข้าใจ​ทันที​ ​วิ่ง​ไป​คิดบัญชี​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​สุดท้าย​สวี​ซื่อ​จุน​ต้อง​มอบ​หยก​เหอ​เถี​ยน​ให้​เขา​เรื่อง​ถึง​จะ​จบ​

จิ​่น​เกอ​เริ่ม​ฝึก​ย่อเข่า​กับ​อาจารย์​ผัง​อีกครั้ง​ ​ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​วัน​ก็​บ่น​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ว่า​มัน​น่าเบื่อ​ ​อยาก​ให้​สุย​เฟิง​นำ​นก​ที่​เลี้ยง​ไป​ห้อย​ไว้​ใต้​ชายคา​ของ​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​“​…​ฟัง​เสียง​นก​ร้อง​ก็ดี​เหมือนกัน​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​ทำ​อะไร​ต้อง​ตั้งใจ​ ​ฝึก​ย่อเข่า​ก็​ฝึก​ย่อเข่า​ ​จะ​ฟัง​เสียง​นก​ร้อง​ทำไม​กัน​”

จิ​่น​เกอ​เพียง​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​คิด​อะไร​ ​แต่​ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​วัน​ ​นาง​ก็ได้​ยิน​ว่า​ทุกครั้งที่​จิ​่น​เกอ​ไป​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​เขา​มักจะ​พาสุนัข​พันธุ์​ปักกิ่ง​สอง​สาม​ตัว​ของ​เขา​ไป​ด้วย​ ​ตอนที่​เขา​ฝึก​ย่อเข่า​ ​สุนัข​สอง​สาม​ตัว​นั้น​ก็​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มาร​อบ​ตัว​เขา​ ​นอน​อยู่​ตรง​บันได​บ้าง​ ​ได้ยิน​เสียง​ฝีเท้า​ที่​ไม่​คุ้นเคย​ ​พวก​มัน​ก็​จะ​เห่า​ ​ทำเอา​หวง​เสี่ยว​เหมา​ ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​และ​คนอื่นๆ​ ​ไม่มี​สมาธิ​ ​มี​แค่​ฉัง​ซุ่น​ที่​ดีใจ​ ​ไม่​ดึง​หู​สุนัข​ตัว​นี้​ ​ก็​ไป​ดึง​หาง​สุนัข​ตัว​นั้น​ ​เล่น​อย่างสนุกสนาน​ ​อาจารย์​ผัง​ไม่พอใจ​ ​เขา​ตำหนิ​จิ​่น​เกอ​สอง​สาม​ครั้ง​ ​จิ​่น​เกอ​เลย​ไม่​พาสุนัข​ไป​ด้วย​แล้ว​ ​แต่กลับ​พาน​กยูง​ไป​แทน​ ​ตอนที่​อาจารย์​ผัง​สั่งสอน​พวกเขา​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​นกยูง​ตัว​นั้น​ก็​เดินเล่น​ใน​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​สายตา​ของ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​เผลอ​มองตาม​นกยูง​ตัว​นั้น​

สีหน้า​ของ​อาจารย์​ผัง​ย่ำแย่​ ​หลังจาก​ไตร่ตรอง​ดูแล​้ว​ ​เขา​จึง​หา​โอกาส​เชิญ​พ่อบ้าน​ไป๋​ไป​ดื่ม​สุรา

พ่อบ้าน​ไป๋​ลูบ​หัว​ตัวเอง​อยู่นาน​ ​“​หรือว่า​ ​ข้า​ช่วย​พูด​กับก​่​วน​ชิง​ให้​เจ้า​ ​ภรรยา​ของ​เขา​เป็น​ผู้ดูแล​หญิง​ของฮู​หยิน​”

อนาคต​ของ​บุตรหลาน​สกุล​ขุนนาง​คือ​การสืบทอด​ตำแหน่ง​ ​บทบาท​ของ​อาจารย์​ ​ไม่สำคัญ​เท่ากับ​สกุล​ขุนนาง​ที่​สอบผ่าน​การ​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เคอจ​วี่​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ลูกหลาน​ของ​สกุล​ขุนนาง​สูงส่ง​มาตั​้ง​แต่​เกิด​ ​พวกเขา​อาจจะ​มองไม่เห็น​หัว​ใคร​ ​ทำ​อะไร​ตามใจ​ตัวเอง​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​เห็น​หัว​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​หรือว่า​จู่​เห​ริน​ที่​ยากลำบาก​ ​ดังนั้น​คน​ทั่วไป​มักจะ​ไม่ยอม​มา​เป็น​อาจารย์​ที่​สกุล​ขุนนาง​ ​ต้อง​มา​เจอ​กับ​ลูก​ผู้ลากมากดี​ยัง​ไม่พอ​ ​แล้วยัง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ที่จะ​สอน​ลูกศิษย์​ให้​มีชื่อเสียง​ ​เสียเวลา​ตัวเอง​เสียมา​กก​ว่า​ ​ไม่มี​ชื่อเสียง​ยัง​ไม่พอ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​ผู้​ถึง​เรื่อง​ที่​ทุกคน​ให้ความสำคัญ​กับ​การเรียนหนังสือ​มากกว่า​ศิลปะ​การต่อสู้​ ​อาจารย์​สอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ก็​เหมือนกับ​องครักษ์​ ​ไม่​ค่อย​น่าเคารพ​สัก​เท่าไร

อาจารย์​ผัง​เข้ามา​ใน​เมืองหลวง​ถึง​ได้​เข้าใจ​ ​เขา​ขอบคุณ​พ่อบ้าน​ไป๋​แล้ว​ถอนหายใจ​ ​“​ท่าน​เขย​ใหญ่​ของ​พวก​เจ้า​มีบุญ​คุณ​กับ​ข้า​ ​ข้า​จึง​ตอบ​ตกลง​มาสอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ให้​กับ​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​ท่าน​ ​ตอนนั้น​ท่าน​เขย​ใหญ่​ขอร้อง​ข้า​ ​บอก​ให้​ข้า​ตั้งใจ​สอน​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ข้า​คงจะ​ไม่​ตั้งใจ​ขนาด​นี้​!​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ไม่​พูด​อะไร

อาจารย์​ที่​สอน​คุณชาย​น้อย​สี่​ใจดี​กว่า​อาจารย์​ผัง​ ​สอน​คุณชาย​น้อย​สี่​มาตั​้ง​หลาย​ปี​แล้ว​ ​แต่​เหมือน​แค่​เล่น​เป็นเพื่อน​เขา​ ​ดูเหมือนว่า​ ​อาจารย์​ผัง​คน​นี้​เป็น​คนจริง​จัง​จริงๆ

เขา​หา​โอกาส​พูด​กับก​่​วน​ชิง​ ก​่​วน​ชิง​ได้ยิน​ว่า​เรื่อง​นี้​เกี่ยวกับ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​เขา​จึง​เข้ามา​ที่​จวน​ ​มาบ​อก​หู่​พั่ว​ ​หู่​พัว​ไม่กล้า​ปิดบัง​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​จึง​กลับ​ไป​เล่า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​

“​ข้า​ไม่​ให้​เขา​นำ​นก​ไป​ ​เขา​ก็​นำ​สุนัข​ไป​ ​อาจารย์​ไม่​ให้​เขา​นำ​สุนัข​ไป​ ​เขา​ก็​นำ​นกยูง​ไป​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เหนื่อยหน่าย​ใจ​ ​ตก​เย็น​หลังจาก​เล่านิทาน​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง​แล้ว​ ​ก็​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ว่า​ ​“​ทำ​อะไร​ต้อง​ตั้งใจ​ ​ไม่เช่นนั้น​คงจะ​ทำ​อะไร​ไม่สำเร็จ​สัก​อย่าง​”​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​รับปาก​ว่า​ต่อไป​จะ​ไม่​นำ​อะไร​ไป​ยัง​เรือน​ซิ่ว​มู่​อีกแล้ว

เพื่อให้​รางวัล​จิ​่น​เกอ​ ​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​โรง​ครัว​ทำ​ขนม​และ​ของว่าง​ที่​เด็ก​ๆ​ ​ชอบ​ทาน​ ​นำ​เสื่อ​ ​เก้าอี้​เล็ก​ๆ​ ​ไป​ที่​สวน​ดอก​เถาฮ​วา​ข้าง​เรือน​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​กับ​เด็ก​ๆ​ ​ปู​เสื่อ​ลง​บน​หญ้า​ใน​สวน​ดอก​เถาฮ​วา​ ​วาง​เก้าอี้​ ​จัด​ขนม​และ​ของว่าง​ ​ทุกคน​นั่ง​อยู่​ใต้​ต้น​เถาฮ​วา​ ​ทาน​ของว่าง​ ​พูดคุย​หัวเราะ​กัน​อย่าง​มีความสุข​

เมื่อยา​มที​่​ลม​ฤดูใบไม้ผลิ​พัดผ่าน​มา​ ​ดอก​เถาฮ​วาก​็​ร่วงหล่น​ลงมา​ราวกับ​สายฝน​ ​พลอย​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​สดใส​กระปรี้กระเปร่า​ขึ้น​ไม่น้อย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท