บทที่ 607 ปลาหนึ่งตัวกินได้ห้าแบบ ปลดล็อกวิธีกินปลาได้มากขึ้น!
ปลามังกรทั้งหลายกินกันอย่างจุใจ กระทั่งจินซวี่ยังว่ายขึ้นจากก้นบ่อ ไม่เหลือเค้าเซื่องซึมอย่างเก่า มันกินอย่างเอร็ดอร่อยด้วย!
ท้ายที่สุด คุณชายก็ใส่ใจพวกมันเป็นอย่างมาก หาใช่ต้นหลิวอะไรนั่นสามารถเทียบได้!
‘เจ้าต้นหลิวเส็งเคร็ง รอก่อนเถิด อีกไม่นาน ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดี ให้เจ้าได้ชดใช้!’
มันเอ่ยในใจอย่างแค้นเคือง โตจนป่านนี้ มันมิเคยต้องอัปยศอดสู อเนจอนาถเช่นนั้นมาก่อน ต้นหลิวคือผู้ที่เขาจงเกลียดจงชังที่สุด มันขอสาบานว่าจะล้างแค้นให้ได้!
ปลามังกรที่เหลือต่างเย่อหยิ่งทะนงขึ้นเพราะความใส่ใจที่ท่านบรรพจารย์มีต่อพวกมันเช่นกัน พวกมันบางตัวถึงขั้นกระโดดขึ้นไปบนเขามอโกลาหล เพื่อท้าทายเขามอโกลาหลเป็นนัย
หินโกลาหลอันใดกัน ในสถานการณ์ที่ท่านบรรพจารย์เซียนใส่ใจพวกมันปานนี้ ภายหน้า พวกมันย่อมต้องแข็งแกร่งกว่า ถึงคราวนั้น พวกมันจักสามารถกำราบหินโกลาหลได้อย่างง่ายดาย
ญาณหินโกลาหลโมโหสุดขีด ปลามังกรเหล่านี้จองหองยิ่งนัก น่ารังเกียจเหลือเกิน!
หลังให้อาหารปลามังกรเสร็จ หลี่จิ่วเต้ามิได้รีบร้อนนำปลาไปปรุง ยังมีเวลา เขาเริ่มสอนลั่วสุ่ยดีดฉินวาดภาพ
จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลง หลี่จิ่วเต้าถึงเริ่มเตรียมการ
หนก่อนตุ๋นต้มนึ่ง หนนี้เขาเตรียมย่างปลาให้ลั่วสุ่ยกิน
แน่นอนว่ามิได้มีเพียงปลาย่างเท่านั้น ปลามังกรตัวไม่เล็ก หากทำเป็นปลาย่างอย่างเดียวออกจะสิ้นเปลืองไปหน่อย คราวก่อนปลาหนึ่งตัวกินได้สามแบบ คราวนี้เขาตั้งใจกินให้ถึงห้าแบบ ปลดล็อกวิธีกินให้ลั่วสุ่ยได้กินหลากหลายมากกว่านี้
ฟืนก่อเป็นไฟ กลิ่นถ่านผลไม้โชยชาย ยังมิได้ทันได้ย่างปลา ลำพังกลิ่นหอมจากถ่านผลไม้ก็ชวนให้ทนไม่ไหว ความอยากอาหารถูกกระตุ้นออกมาหมด
มุมปากมัจฉาสัตมายามีน้ำลายไหลย้อย เนื้อย่าง มันอยากกินที่สุดเลย!
เหล่าปลาเหลือบมองมัจฉาสัตมายาด้วยความดูแคลน โดยเฉพาะจินซวี่ สายตาที่ทอดมองมัจฉาสัตมายานั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันดูถูก
ความหมายนั้นชัดเจน อย่างเจ้าน่ะหรืออยากกินเนื้อย่าง ฝันไปเถอะ!
มัจฉาสัตมายาเห็นสายตาจินซวี่แล้วตะขิดตะขวงเป็นนักหนา ต้นหลิวคงยังสั่งสอนเขาไม่พอสิท่า ดูจากท่าทางผยองนั้นแล้ว สุนัขคงเลิกกินขี้มิได้จริง ๆ!
หลังจุดถ่านผลไม้ติดแล้ว หลี่จิ่วเต้าลุกมาอยู่ข้างบ่อน้ำ จ้องมองปลามังกรทั้งหลาย สายตาเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจ
เหล่าปลามังกรยิ่งปีติเข้าไปใหญ่ ปัดป่ายหางด้วยความเริงร่า ดูเอาเถิดว่าท่านบรรพจารย์เซียนโปรดปรานพวกมันเพียงใด ต้องมาเชยชมพวกมันอยู่บ่อย ๆ มิได้คิดเป็นอื่นใดเลย
หลี่จิ่วเต้าย่อเข่าลง ยื่นมือลงไปในบ่อน้ำ เหล่าปลามังกรพากันว่ายเข้ามาทันที หมุนวนอยู่รอบฝ่ามือหลี่จิ่วเต้า
พวกมันยินดีปรีดาคูณทวี ท่านบรรพจารย์เซียนโปรดปรานพวกมันยิ่งนัก ดูสิ ท่านบรรพจารย์เซียนยื่นมือเข้ามาหยอกเย้าพวกมันด้วย
ซ่า!
หลี่จิ่วเต้าเอื้อมมือไปจับปลามังกรตัวหนึ่ง และนำขึ้นจากบ่อน้ำ
‘ฮ่า ๆ นี่ท่านบรรพจารย์เซียนจะพาข้าไปกินเนื้อย่างหรือ’
จินซวี่หัวเราะร่วนในใจ คิดว่าท่านบรรพจารย์เซียนตั้งใจพามันไปกินเนื้อย่าง!
สายตาที่ท่านบรรพจารย์เซียนทอดมองพวกมันช่างอ่อนโยนเสียนี่กระไร มันโชคดีเหลือเกิน ได้รับเลือกโดนท่านบรรพจารย์เซียน ได้รับเกียรติอันสูงส่งเช่นนี้!
“อิจฉาจริง!”
“เหตุใดถึงไม่ใช่ข้า!”
ปลามังกรตัวอื่นในบ่อต่างมองจินซวี่ด้วยความอิจฉา พวกมันมิได้คิดเป็นอื่น เข้าใจว่าจินซวี่ถูกท่านบรรพจารย์เซียนรับเลือกไปกินเนื้อย่าง
จินซวี่ปรายตามองมัจฉาสัตมายา อย่าให้เอ่ยเลยว่าสายตานั้นโอหังปานใด ซ้ำร้ายมันยังชำเลืองมองหินโกลาหลอีกด้วย ราวกับต้องการบอกว่า เจ้าหินเส็งเคร็ง เจ้าโอหังอะไร เจ้ามีโอกาสได้กินเนื้อย่างของท่านบรรพจารย์เซียนที่ไหน
แม้ว่าการกินเนื้อย่างจะมิได้หมายความว่าก้าวพรวดเดียวสู่จุดสูงสุด ทว่าความหมายนั้นใหญ่หลวงนัก เป็นการสะท้อนให้เห็นว่ามันสำคัญขึ้นไปอีกก้าวในใจท่านบรรพจารย์เซียน!
วันนี้ได้กินเนื้อย่าง เช่นนั้นพรุ่งนี้คงได้นั่งเสมอคุณชาย ร่วมดื่มชาด้วยกัน!
ทว่าไม่นานนักมันก็ต้องตาค้าง
สถานการณ์เริ่มไม่ใช่อย่างที่คิด เหตุใดท่านบรรพจารย์เซียนถึงพามันเข้ามาในครัว?
เวรเอ๊ย!
เนื้อย่างที่ว่า คงมิใช่ว่าย่างเนื้อของมันกระมัง!?
ไม่หรอกกระมัง!
มันคิดว่าจะได้กินเนื้อย่าง ท้ายที่สุด มันกลับกลายเป็นผู้ที่ถูกย่างเสียเอง!?
ไม่เอานะ!
มันร่ำไห้ออกมาในบัดดล เมื่อครู่ยังลอบลำพองในใจ คิดว่าตนได้รับวาสนาสูงสุด!
ยังคิดอยู่ว่าวันนี้ได้กินเนื้อย่าง พรุ่งนี้คงได้นั่งดื่มชาเสมอท่านบรรพจารย์เซียน!
มัน…มันอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ!
เสียงดังตุบ มันถูกโยนลงเขียง และเห็นท่านบรรพจารย์เซียนชักมีดเล่มหนึ่งออกจากด้านข้าง
นี่ต้องการลงมือกับมันแล้วหรือ!
มันร้อนรนขึ้นมาทันที ไม่มีแก่จิตแก่ใจสนใจสิ่งใดอีก ไม่คำนึงถึงข้อห้ามของท่านบรรพจารย์เซียนอีก มันรีดเร้นพลังในกาย หมายจะกระโดดลงจากเขียง ไม่ต้องการตายไปทั้งอย่างนี้
ทว่ามันยังไม่ทันได้รีดเร้น ก็รู้สึกถึงพลังสายหนึ่งโถมทับใส่มัน พันธนาการมันไว้บนเขียงอย่างแน่นหนา ไม่อาจรีดเร้นพลังในกายได้เลย
มันอยากปริปากเอ่ยวาจายังมิได้!
“อยู่เฉย ๆ!”
คลื่นพลังจิตถ่ายทอดเข้าไปในหัวจินซวี่ คลื่นนั้นมาจากเขียง พลังที่พันธนาการจินซวี่ไว้หลั่งไหลออกจากเขียงนั่นเอง
เขียงนี้กล้าแกร่งอย่างแท้จริง รวมถึงเครื่องครัว มีดเล่มต่าง ๆ ในครัวล้วนเป็นเช่นนี้ นี่คืออุปกรณ์ที่หลี่จิ่วเต้าได้ใช้บ่อย ๆ ขอบเขตจึงสูงถึงระดับที่ลึกล้ำเกินหยั่ง
หลี่จิ่วเต้าเริ่มลงมือ ฝีมีดลื่นไหลดั่งมวลเมฆา ดุจสายธาร ไม่นานนักก็ทำความสะอาดปลามังกรเรียบร้อย วิญญาณของจินซวี่สลายไปอย่างสิ้นเชิง ตายเสียสนิท
เขาเริ่มจากการแล่เนื้อปลาส่วนที่นุ่มที่สุดออกมาเป็นชิ้น ๆ วางเรียงในจาน ทำเป็นปลาดิบ
นี่คือการกินแบบที่หนึ่ง
ชายหนุ่มได้ผสมน้ำจิ้มสำหรับปลาดิบไว้เรียบร้อย โดยมีส่วนประกอบจากซีอิ๊วและวาซาบิที่เขาปรุงขึ้นเองเป็นหลัก
จากนั้น หลี่จิ่วเต้าก็แล่เนื้อปลาส่วนหนึ่งออกมา ผสมกับผงแป้ง ไข่ไก่ เกลือ พริกไทย และเครื่องปรุงอื่น ๆ คนให้เข้ากัน แล้วจึงนำลงไปทอดในกระทะ ปรุงออกมาเป็นปลาม้วนทอด
นี่คือการกินแบบที่สอง
การกินแบบที่สามคือปลาอบสุรา ปรุงโดยสุราที่เขาหมักเอง
แกงปลานั้นรสชาติดีเลิศเป็นที่สุด หนนี้เขาปรุงแกงปลาด้วยเช่นเดิม ทว่าแตกต่างจากแกงปลาคราวก่อน หนนี้เขาใส่เต้าหู้อ่อนลงไป กลายเป็นแกงเต้าหู้ปลา
นี่คือการกินแบบที่สี่
ที่เหลือคือการกินแบบที่ห้า นั่นคือนำมาย่าง
“สวรรค์!”
“นี่มัน…!”
ภายในบ่อน้ำ ปลามังกรที่เหลือหวาดผวาจนสติหลุดลอย ปลาหนึ่งตัวกินถึงห้าแบบเชียวหรือ!
พวกมันอกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง นี่มันเรื่องอันใดกัน! ท่านบรรพจารย์เซียนโปรดปรานพวกมันมากมิใช่หรือ เหตุใดถึงต้องฆ่าพวกมันด้วย
หรือที่ท่านบรรพจารย์เซียนทำดีกับพวกมันมาตลอดล้วนเป็นเรื่องโป้ปด
“อย่างที่คิด ปลาต้องเลี้ยงให้ดีก่อนแล้วค่อยกิน เนื้อปลาคราวนี้ดีกว่าคราวก่อนมากนัก!”
หลี่จิ่วเต้ายกเนื้อปลาที่เหลือเข้ามาในลาน พร้อมเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เตรียมทำการปิ้ง
“อะไรกัน!”
“ความจริงเป็นเช่นนี้หรอกหรือ!”
ปลามังกรที่เหลือได้ยินวาจาของท่านบรรพจารย์เซียนแล้วพลันรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า หัวใจแหลกสลาย!
พวกมันหรือก็ทึกทักเอาว่าท่านบรรพจารย์เซียนชื่นชอบพวกมัน เพราะเห็นแก่พรสวรรค์ของพวกมัน คิดอยากบ่มเพาะสอนสั่งพวกมัน หารู้ไม่ ที่ท่านบรรพจารย์เซียนใส่ใจพวกมันปานนั้น ดีกับพวกมันปานนั้น ล้วนเป็นเพราะต้องการทำให้พวกมันอร่อยยิ่งขึ้น!
พวกมันเป็นเพียงเรื่องขำขันมาตั้งแต่แรก!
ก่อนหน้านี้พวกมันยังยโสโอหังถึงเพียงนั้น ดูถูกผู้อื่นไปทั่ว ที่แท้นับแต่แรกเริ่ม พวกมันเป็นเพียงตัวตลกเท่านั้น!
“ข้าคืออาหารของลั่วสุ่ยหรือ!?”
ปลามังกรเพศเมียตอนนั้นยิ่งรับไม่ได้ใหญ่ มันสบประมาทลั่วสุ่ย เห็นว่าท้ายที่สุดมันต้องได้แทนที่อีกฝ่าย ยืนเคียงข้างคุณชาย
ผลสุดท้าย มันกลับเทียบลั่วสุ่ยไม่ได้เลย มันเป็นเพียงอาหารของอีกฝ่ายมาตั้งแต่แรก!
“ไม่!”
มันยอมรับมิได้ ทำท่าจะกระโดดออกจากบ่อน้ำ ไปพูดกับท่านบรรพจารย์เซียนให้รู้เรื่อง
ปลามังกรตัวอื่นรับไม่ได้เช่นกัน พากันทำท่าจะกระโดดออกจากบ่อน้ำ ไม่เต็มใจตกเป็นอาหารของลั่วสุ่ย
“เสียสติกันไปแล้วหรือ อยู่เฉย ๆ กันให้หมด!”
ญาณหินโกลาหลแค่นเสียงเย็น ปราณโกลาหลซัดสาดออกไป กำราบปลามังกรไว้ทั้งหมด พร้อมสะกดพลังของปลามังกรเหล่านี้ไว้
บังอาจคิดจาบจ้วงคุณชายเชียวหรือ?
จะให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
มันไม่มีทางยอมเด็ดขาด!
กูจะรั่ว หิวเลย ปลาทอดกับน้ำพริกเผาสิ