แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 630 ตกบันได

ตอนที่ 630 ตกบันได

ตอนที่​ 630 ตก​บันได​

ใบหน้า​ของ​ทุกคน​รอบ​โต๊ะอาหาร​พลัน​มืดมน​ลง​ ยกเว้น​แม่ไป๋​

ดวงตา​ของ​ไป๋​ซวง​ไม่ได้​มืด​บอด​ ดังนั้น​หล่อน​จึงมองเห็น​ทุกอย่าง​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

ถึงกระนั้น​หล่อน​ก็​ไม่สนใจ​ ตราบใดที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ฟังคำพูด​สมเหตุสมผล​ของหล่อน​ เขา​และ​หลิน​ม่าย​ก็​จะต้อง​มีปัญหา​ต่อกัน​

หล่อน​ก็​จะทำลาย​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พวกเขา​ทั้งสอง​ได้​ทีละ​นิด​

แม้เรื่องราว​ระหว่าง​หล่อน​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​จะเป็นไปไม่ได้​ แต่​หล่อน​ก็​ไม่อาจ​ปล่อย​ให้​หลิน​ม่าย​มีชีวิต​ที่​ดี​ได้​

ทันทีที่​หล่อน​พูด​จบ​ พ่อ​ไป๋​ก็​ตบ​ตะเกียบ​กับ​โต๊ะ​อย่าง​แรง​ พร้อมกับ​ดวง​ตาวาว​โรจน์​ “ไป๋​ซวง!​ หุบปาก​! หาก​เธอ​พูด​อีก​คำ​หนึ่ง​ ฉัน​ตบ​ปาก​เธอ​แน่​!”

ใน​ที่สาธารณะ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ต่อหน้า​หลิน​ม่าย​ พ่อ​ไป๋​กลับ​บอ​กว่า​เขา​ต้องการ​ตบ​ไป๋​ซวง​ ซึ่งทำให้​หล่อน​เสียหน้า​อย่าง​มาก​

ใบหน้า​ของหล่อน​พลัน​แดง​สลับ​ขาวซีด​ อับอาย​มาก​จน​อยาก​จะแทรกแผ่นดิน​หนี​

จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ทาง​แม่ไป๋​อย่าง​น่าสังเวช​ราวกับ​กำลัง​ถูก​ผู้อื่น​รังแก​

ทุกคน​ที่อยู่​ตรงนั้น​ยกเว้น​แม่ไป๋​ต่าง​ขมวดคิ้ว​ด้วย​ความ​ขยะแขยง​

มัน​น่าขยะแขยง​เหลือเกิน​ที่​ต้อง​มาเจอ​หน้า​คน​ตอแหล​แบบนี้​ทั้งวัน​!

หัวใจ​ของ​แม่ไป๋​เจ็บปวด​ หล่อน​กอด​ไป๋​ซวง​ไว้​แน่น​ใน​อ้อมแขน​ ก่อน​เงยหน้า​ขึ้น​และ​พูด​กับ​สามีด้วย​ความไม่พอใจ​ “ซวงเอ๋อร์​ไม่ได้​พูด​อะไร​ผิด​ ทำไม​คุณ​ต้อง​อารมณ์เสีย​ขนาด​นั้น​? ระดับ​เศรษฐกิจ​ของ​แผ่นดินใหญ่​ของ​เรา​เป็น​ยังไง​? และ​ระดับ​เศรษฐกิจ​ของ​ฮ่องกง​เป็น​ยังไง​? เรา​ไป​ยัง​ฮ่องกง​ได้​หรือ​? พอ​ม่าย​จื่อ​ไป​ถึงฮ่องกง​ หล่อน​ก็​กิน​ดื่ม​อย่าง​ดี​ รวมถึง​ซื้อ​ของฟุ่มเฟือย​ ซึ่งมัน​สร้าง​แรงกดดัน​ให้​กับ​เสี่ยว​ฟางอย่าง​มาก​!”

เมื่อ​พูด​อย่างนั้น​ หล่อน​ก็​มอง​ไป​ยัง​หลิน​ม่าย​และ​พูด​อย่าง​จริงจัง​ “เธอ​ต้อง​ฟังสิ่งที่​ซวงเอ๋อร์​พูด​ ซวงเอ๋อร์​กำลัง​พูด​สิ่งที่​เป็นประโยชน์​แก่ตัว​เธอ​เอง​ เธอ​เป็น​คน​ฟุ่มเฟือย​เกินไป​แล้ว​ ไม่ว่า​เสี่ยว​ฟางจะหา​เงินได้​มาก​แค่​ไหน​ ก็​ไม่เพียงพอ​สำหรับ​เธอ​ที่จะ​ใช้จ่าย​ เมื่อ​นาน​ไป​จะมีปัญหา​ใน​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​คน​ทั้งสอง​ ดังนั้น​เธอ​ควร​ประหยัด​ไว้​บ้าง​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​วาง​ตะเกียบ​ลง​ หยิบ​ทิช​ชู่ขึ้น​เช็ด​ปาก​ “คำพูด​ของ​ไป๋​ซวง​คือ​ความหวังดี​อย่าง​งั้น​เหรอ​? ทำไม​ผม​ไม่คิด​อย่างนั้น​ล่ะ​ครับ​? หาก​หล่อน​หวังดี​ต่อ​ม่าย​จื่อ​จริง ๆ​ หล่อน​ก็​ควร​เตือน​ม่าย​จื่อ​ลับหลัง​ทุกคน​สิ จริง​ไหม​ครับ​? การ​พูด​อะไร​แบบนี้​ต่อหน้า​คน​เต็มโต๊ะ​ เห็นได้ชัด​ว่า​พยายาม​ยั่วยุ​และ​สร้าง​ความเกลียดชัง​ต่อ​ม่าย​จื่อ​ หาก​หวังดี​ต่อ​ม่าย​จื่อ​จริง​ หล่อน​ก็​คง​ไม่พูด​ต่อหน้า​คุณ​น้า​ไป๋​ หรือ​จริง ๆ​ แล้ว​หล่อน​ไม่หวังดี​ต่อ​ม่าย​จื่อ​กัน​? คุณ​น้า​ไป๋​มองไม่เห็น​แผนการ​ของ​ไป๋​ซวง​จริง ๆ​ หรือว่า​จงใจตามใจ​ลูกสาว​บุญธรรม​เพื่อ​กลั่นแกล้ง​ลูกสาว​แท้ ๆ​ ของ​ตัวเอง​กัน​แน่​ครับ​? เพียง​เพราะ​คุณ​น้า​ผูกพัน​กับ​ลูกสาว​บุญธรรม​ก็​เลย​ไม่สนใจ​ความรู้สึก​ของ​ลูกสาว​ตัวเอง​งั้น​เหรอ​? หาก​เป็น​แบบ​นั้น​ก็​อย่า​รู้จัก​ม่าย​จื่อ​เลย​ครับ​!”

แม่ไป๋​พลัน​ออก​อาการ​เก้อเขิน​และ​รีบ​อธิบาย​ “น้า​ไม่ได้​หมายความว่า​อย่างนั้น​—”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ไม่ให้โอกาส​หล่อน​อธิบาย​ “ผม​ไม่สนใจ​สิ่งที่​คุณ​กำลัง​หมายถึง​หรอก​ครับ​”

เขา​จ้องมอง​แม่ไป๋​สลับ​กับ​ไป๋​ซวง​สอง​สามครั้ง​ และ​ในที่สุด​ก็​มาหยุด​อยู่​ตรงหน้า​ไป๋​ซวง​

“คุณ​กำลังจะ​บอ​กว่า​หาก​คุณ​เป็น​ม่าย​จื่อ​ คุณ​จะไม่มีวัน​ใช้เงิน​ของ​ผม​อย่าง​ฟุ่มเฟือย​สินะ​ครับ​ ก่อนอื่น​ สิ่งที่​ผม​อยาก​จะบอก​คุณ​ก็​คือ​ ด้วย​ลักษณะนิสัย​และ​รูปลักษณ์​ของ​คุณ​แล้ว​ คุณ​จะไม่มีวัน​ได้โอกาส​นั้น​ใน​ชีวิต​! ไม่เพียง​คุณ​จะไม่ได้รับ​โอกาส​จาก​ผม​เท่านั้น​ แต่​คุณ​จะไม่ได้รับ​โอกาส​จาก​ผู้ชาย​ร่ำรวย​คน​ไหน​เลย​! ดังนั้น​คุณ​ไม่มีวัน​เป็น​อย่าง​ม่าย​จื่อ​ได้​ แล้ว​ผม​ก็​ไม่มีวัน​มอบ​เงิน​ให้​ผู้หญิง​อย่าง​คุณ​ได้​! เลิก​ฝันเฟื่อง​สักที​”

ไป๋​ซวง​หน้าแดง​กับ​สิ่งที่​เขา​พูด​จน​ไม่อาจ​เงย​ศีรษะ​ขึ้น​ได้​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หัน​มอง​และ​จ้อง​ไป​ยัง​หน้า​ของ​แม่ไป๋​ “คุณ​น้า​ไป๋​ครับ​ ผม​ขอ​บอก​กับ​คุณ​น้า​อย่าง​จริงจัง​ว่า​ม่าย​จื่อ​เป็น​เด็กดี​ และ​หล่อน​ก็​ไม่เคย​ใช้เงิน​ของ​ผม​สุรุ่ยสุร่าย​ เป็น​ผม​เอง​ที่​ยืนกราน​จะซื้อ​อาหาร​อร่อย​ ๆ ให้​หล่อน​กิน​ และ​ก็​เป็น​ผม​เอง​ที่​ยืนยัน​จะซื้อ​ของฟุ่มเฟือย​ให้​หล่อน​ใช้ ผม​รัก​หล่อน​ และ​อยาก​ให้​สิ่งที่​ดี​ที่สุด​ใน​โลก​แก่​หล่อน​ ผม​จะไม่เลิก​กับ​หล่อน​แน่​ ดังนั้น​อย่า​พยายาม​ทำให้​เรา​เลิกกัน​เลย​ครับ​!”

ในที่สุด​บรรยากาศ​ก็​ดีขึ้น​ บางส่วน​ใน​พวกเขา​ต่าง​ตกตะลึง​จน​ตัว​แข็งทื่อ​

แต่​ผู้คน​ที่​นิ่ง​ค้าง​ไป​มีเพียง​พ่อ​ไป๋​ แม่ไป๋​ และ​ไป๋​ซวง​เท่านั้น​

คนอื่น​ ๆ ต่าง​กิน​ดื่ม​ พูดคุย​ และ​หัวเราะ​อย่าง​สนุกสนาน​

แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ขุ่นเคือง​มาก​จน​มีสีหน้า​หม่น​ลง​

แม่ไป๋​ชำเลือง​มอง​หลิน​ม่าย​หลายครั้ง​ โดย​หวัง​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​ให้​หล่อน​และ​ไป๋​ซวง​ผ่อนคลาย​บ้าง​

หลิน​ม่าย​ไม่แม้แต่​จะชายตามอง​พวก​หล่อน​ แต่​พูดคุย​กับ​ไป๋​ลู่​เป็น​อย่าง​ดี​

พ่อ​ไป๋​รู้สึก​ว่าที่​บรรยากาศ​ไม่ดี​ไม่ใช่เพราะ​ทั้ง​สามคน​ที่​พยายาม​ห้ามปราม​พวก​หล่อน​ แต่​เป็น​เพราะ​ภรรยา​และ​ลูกสาว​บุญธรรม​ที่​ทำให้​เขา​อับอาย​และ​โกรธ​มาก​

หลังจาก​รับประทาน​อาหาร​เสร็จ​ หลิน​ม่าย​ก็​ขอให้​บริกร​จัด​จาน​พิเศษ​และ​อาหาร​อีก​สามจาน​ เตรียม​นำ​กลับ​ไป​ให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​และ​โต้​ว​โต้​ว​กิน​

จากนั้น​คน​ทั้ง​กลุ่ม​ก็​ออก​ไป​ด้วยกัน​

เมื่อ​ลง​ไป​ชั้นล่าง​ พ่อ​ไป๋​และ​หลิน​ม่าย​ก็​เดิน​นำหน้า​เคียงข้าง​กัน​

พ่อ​ไป๋​พูด​กับ​หลิน​ม่าย​ด้วย​ความเสียใจ​ “ถ้าลูก​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ปักกิ่ง​หรือ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ได้​ และ​ไม่อยาก​กลับบ้าน​จริง ๆ​ พ่อ​ พี่​สาวใหญ่​ พี่สาว​รอง​กับ​พี่ชาย​ของ​ลูก​จะไป​เยี่ยมเยียน​ลูก​ที่​มหาวิทยาลัย​เอง​”

แม่ไป๋​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เร่งฝีเท้า​ไล่ตาม​จาก​ด้านหลัง​พร้อม​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ “กว่า​จะพบ​ลูกสาว​ของ​เรา​ได้​ก็​ยากลำบาก​เหลือแสน​ คุณ​จะห้ามไม่ให้​หล่อน​มาที่​บ้าน​ของ​เรา​ได้​อย่างไร​? หาก​เพื่อนบ้าน​รู้​เขา​จะมอง​เรา​ยังไง​คะ​?”

ในขณะที่​พ่อ​ไป๋​กำลังจะ​พูด​ หลิน​ม่าย​ก็​เดินโซเซ​ทำ​ท่าจะ​ล้มคะมำ​ลง​ไป​ยัง​ชั้นล่าง​

เมื่อ​เห็น​ว่า​เธอ​กำลังจะ​เสีย​การทรงตัว​และ​ล้ม​ลง​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็ตาม​เธอ​ไป​และ​คว้า​เธอ​ไว้​ได้​ทัน​ท่ามกลาง​เสียงอุทาน​ของ​ผู้คน​

แม่ไป๋​ขมวดคิ้ว​ “เดินลง​บันได​ยังไง​ให้​เกือบจะ​หน้า​คะมำ​เนี่ย​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​หัน​กลับมา​ทันที​ด้วย​ใบหน้า​เย็นชา​ “หาก​ลูกสาว​บุญธรรม​ของ​คุณ​กำลังจะ​ล้ม​ คุณ​เอง​ก็​คง​ทำ​แบบ​เดียว​กับ​ที่​ผม​ทำ​สินะ​ครับ​ ทำไม​คุณ​ถึงจงเกลียดจงชัง​ม่าย​จื่อ​ของ​ผม​นัก​ล่ะ​ครับ​?”

พ่อ​ไป๋​หันหน้า​ไป​มอง​ภรรยา​ของ​เขา​ หล่อน​ดู​ไม่มีความสุข​ราวกับว่า​หลิน​ม่าย​ทำ​ผิดพลาด​อย่าง​ไม่น่า​ให้อภัย​

ใบหน้า​ของ​พ่อ​ไป๋​หม่น​ลง​ทันที​ หาก​เขา​ไม่คิด​ที่จะ​รักษา​หน้าตา​ทางสังคม​ของ​แม่ไป๋​ เขา​คง​ตำหนิ​หล่อน​อย่าง​รุนแรง​ไป​แล้ว​

หลิน​ม่าย​ดึง​ฟางจั๋ว​หรา​น​ด้วย​สีหน้า​ไม่สู้ดี​นัก​และ​พูด​โดย​ไม่โกรธ​หรือ​รำคาญ​ “พอ​เถอะ​ค่ะ​ คุณ​ยัง​เด็ก​กว่า​ท่าน​มาก​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้ชาย​ด้วย​ อย่า​พูด​อะไร​มาก​ไป​กว่า​นี้​เลย​ค่ะ​ หาก​แม่ของ​ฉัน​คิด​ว่า​คุณ​พยายาม​ยั่วยุ​ให้​ท่าน​ขุ่นเคือง​ทั้งที่​คุณ​ยัง​เด็ก​กว่า​มาก​ ใน​ฐานะ​ผู้น้อย​แล้ว​ คน​อาจ​มอง​คุณ​ไม่ดี​เอา​ได้​ แม่ของ​ฉัน​ไม่ชอบ​ฉัน​เพราะ​ท่าน​ไม่มีความผูกพัน​กับ​ฉัน​ หาก​ท่าน​มีความรู้สึก​กับ​ฉัน​เหมือน​ที่​มีต่อ​ไป๋​ซวง​ ท่าน​คง​ไม่ปฏิบัติ​กับ​ฉัน​แบบนี้​ หาก​เป็นไปได้​ก็​พยายาม​อย่า​ตอบโต้​ท่าน​ คุณ​ไม่จำเป็นต้อง​บังคับ​ให้​แม่ของ​ฉัน​ทำดี​กับ​ฉัน​ อย่า​พยายาม​เปลี่ยน​ทัศนคติ​ของ​ท่าน​เลย​ค่ะ​”

เมื่อ​ไป๋​ซวง​เห็น​หลิน​ม่าย​พูดถึง​แม่ไป๋​แบบ​นั้น​ หล่อน​ก็​มีความสุข​มาก​

ถ้าหลิน​ม่าย​ไม่พยายาม​ทำให้​แม่ไป๋​รัก​ แม่ไป๋​จะต้อง​เกลียด​หลิน​ม่าย​มากขึ้น​ ตำแหน่ง​ของหล่อน​ใน​ตระกูล​ไป๋​ก็​จะมั่นคง​มากขึ้น​ด้วย​

หล่อน​มองดู​แม่ไป๋​ พบ​ว่า​แม่ไป๋​กำลัง​มีสีหน้า​น่าเกลียด​อย่างยิ่ง​

ไป๋​ซวง​จึงยก​ยิ้มมุมปาก​อย่าง​ภาคภูมิใจ​

ไป๋​เซี่ย​ที่อยู่​ด้านหลัง​กล่าว​ขึ้น​ทันที​ “แม่ ที่​ม่าย​จื่อ​เกือบจะ​ล้ม​ลง​ไป​แบบ​นั้น​ก็​เป็น​เพราะ​ลูกสาว​บุญธรรม​สุดที่รัก​แม่ผลัก​หล่อน​จาก​ด้านหลัง​ต่างหาก​!”

แม่ไป๋​มอง​ไป​ยัง​ไป๋​ลู่​อย่าง​สงสัย​ “พี่ชาย​ของ​ลูก​พูด​จริง​หรือ​?”

แม่ไป๋​ไม่ค่อย​เชื่อ​คำพูด​ของ​ไป๋​เซี่ย​ แต่​โดย​พื้นฐาน​แล้ว​เชื่อ​คำพูด​ของ​ไป๋​ลู่​

เพราะ​ไป๋​ลู่​ไม่เคย​โกหก​ตั้งแต่​ยัง​เด็ก​

ไป๋​ลู่​พยักหน้า​ “พี่ชาย​พูดความจริง​ หนู​เห็น​ไป๋​ซวง​ผลัก​ม่าย​จื่อ​ด้วย​ตา​ของ​หนู​เอง​ด้วย​”

แม่ไป๋​เบิกตา​กว้าง​ มอง​ไป​ยัง​ไป๋​ซวง​ด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​พร้อมกับ​ตำหนิ​ “ซวงเอ๋อร์!​ ลูก​ทำ​เรื่อง​แบบนี้​ได้​ยังไง​? หาก​ม่าย​จื่อ​ล้ม​จน​หัว​ร้าง​ข้าง​แตก​และ​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ลูก​จะรับผิดชอบ​ยังไง​?

ไป๋​ซวง​น้ำตาไหล​ทันที​ “แม่ หนู​ไม่ได้​ผลัก​ม่าย​จื่อ​ พวกเขา​ใส่ร้าย​หนู​!”

คุณปู่​ฟางกล่าว​อย่าง​ดูถูก​ “หาก​พี่น้อง​ของ​เธอ​รวมหัว​ใส่ร้าย​เธอ​จริง​ คิดดู​เอาเถอะ​ว่า​พวกเขา​เกลียด​เธอ​แค่​ไหน​? เธอ​ต้อง​พิจารณา​ตัวเอง​แล้ว​!”

ไป๋​ซวง​ไม่สามารถ​โต้เถียง​ได้​ ทำได้​เพียง​หลั่ง​น้ำตา​ออกมา​

แม่ไป๋​มอง​คน​สอง​สามคน​ข้างหลัง​อย่าง​สงสัย​

แม้ว่า​ไป๋​ซวง​จะร้องไห้​อย่าง​ขมขื่น​ แต่​แม่ไป๋​ก็​ไม่ได้​ปลอบโยน​หล่อน​ ซึ่งทำให้​ไป๋​ซวง​รู้สึก​ผิด​มากขึ้น​และ​ร้องไห้​หนัก​กว่า​เดิม​

หล่อน​ไม่ได้​ผลัก​หลิน​ม่าย​จริง ๆ​ หลิน​ม่าย​จงใจแสร้ง​ทำเป็น​ว่า​มีคน​ผลัก​เพียง​เพื่อให้​หล่อน​ถูก​ตำหนิ​

ไม่ว่า​หล่อน​จะอธิบาย​อย่างไร​ ทั้ง​ไป๋​เซี่ย​และ​ไป๋​ลู่​ก็​ยืนยัน​อย่าง​หนักแน่น​ว่า​หล่อน​ผลัก​หลิน​ม่าย​

นอกจากนี้​ คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางก็​บอ​กว่า​พวกเขา​เห็น​หล่อน​ผลัก​หลิน​ม่าย​เช่นกัน​ โดยที่​ไป๋​ซวง​ไม่อาจ​แก้ตัว​หรือ​หา​หลักฐาน​ใด​มาปกป้อง​ตัวเอง​ได้​เลย​

ตั้งแต่​หล่อน​ยัง​เด็ก​ หล่อน​เป็น​คนเดียว​ที่​ทำผิด​ต่อ​ผู้อื่น​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​ตอนนี้​ตน​ถูก​ทำร้าย​ ไป๋​ซวง​จึงร้องไห้​ตลอดทาง​กลับ​ไป​ยัง​เกสต์เฮาส์​

ทันทีที่​มาถึงเกสต์เฮาส์​ พ่อ​ไป๋​ก็​ตำหนิ​ไป๋​ซวง​อย่าง​รุนแรง​ที่​ผลัก​หลิน​ม่าย​

เขา​ไม่ได้​วิจารณ์​ไป๋​ซวงใน​ตอนนี้​เพราะ​เกรงใจ​คุณปู่​ฟางและ​ภรรยา​ของ​เขา​

ไม่ควร​วิพากษ์วิจารณ์​คนใน​ครอบครัว​หรือ​สาวไส้ให้กากิน​ใน​ที่สาธารณะ​ เพียงเท่านี้​ครอบครัว​ของ​เขา​ก็​เป็นที่​รังเกียจ​มาก​พอแล้ว​สำหรับ​คุณปู่​และ​คุณย่า​ฟาง

พ่อ​ไป๋​ไม่ได้​ไร้ยางอาย​พอที่จะ​ตำหนิ​ไป๋​ซวง​ต่อหน้า​คุณปู่​ฟางและ​ภรรยา​ของ​เขา​ เขา​จึงอดทน​จนกว่า​จะกลับ​ไป​ยัง​เกสต์เฮาส์​

พ่อ​ไป๋​ขณะ​โกรธ​ดู​โมโห​ร้าย​เป็นอย่างมาก​ จน​ไป๋​ซวง​กลัว​และ​ไม่กล้า​เถียง​กับ​เขา​

หล่อน​หันไป​ร้องไห้​กับ​แม่ไป๋​ “แม่! หนู​ไม่ได้​ผลัก​ม่าย​จื่อ​จริง ๆ​ นะคะ​ แม่ต้อง​เชื่อ​หนู​! ไม่ว่า​หนู​จะเกลียด​ม่าย​จื่อ​มาก​แค่​ไหน​ หนู​ก็​ไม่สามารถ​ทำร้าย​หล่อน​ทั้ง ๆ ที่​มีผู้คน​มากมาย​อยู่​รอบตัว​ได้​!”

เมื่อ​แม่ไป๋​ได้ยิน​ก็​รู้สึก​ว่า​ว่า​เรื่อง​นี้​สมเหตุสมผล​ เธอ​มอง​ไป​ยัง​สอง​พี่น้อง​ไป๋​ด้วย​ความสงสัย​

ไป๋​เซี่ย​ตะคอก​อย่าง​เย็นชา​ “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว​สินะ​ เธอ​ไม่เพียง​ทำร้าย​ม่าย​จื่อ​เท่านั้น​ แต่​ยัง​พยายาม​ใส่ร้าย​เรา​สอง​คน​ว่า​รวมหัว​กัน​กลั่นแกล้ง​เธอ​ หาก​แม่รู้​ว่า​พวกเรา​สอง​คน​รวมหัว​กัน​กลั่นแกล้ง​เธอ​ แม่ก็​คง​โกรธ​จน​หัวใจ​แทบ​สลาย​ แล้วก็​จะลำเอียง​ไป​ทาง​เธอ​มากขึ้น​ จากนั้น​เธอ​ก็​จะกลายเป็น​ที่รัก​ยิ่งกว่า​ใคร​ ฉัน​ว่าการ​วิเคราะห์​ของ​ฉัน​ไม่ผิดเพี้ยน​แน่​”

ไป๋​ซวง​โกรธ​จน​ตัว​แทบ​ระเบิด​ หล่อน​ตะโกน​กราดเกรี้ยว​พร้อม​ดวงตา​แดงก่ำ​ “พี่​กำลัง​พูด​เรื่องไร้สาระ​!”

ไป๋​ลู่​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “พี่ชาย​ของ​ฉัน​ไม่ได้​พูด​ไร้สาระ​ ก็​เธอ​เอง​ไม่ใช่เหรอ​เป็น​คน​ที่​เปลี่ยน​ตัวอย่าง​เลือด​ของ​ม่าย​จื่อ​ เพราะ​ไม่ต้องการ​ให้​หล่อน​ก้าว​เข้ามา​ใน​ครอบครัว​ของ​พวกเรา​?”

ไป๋​ซวง​พูดไม่ออก​ แม้ว่า​หล่อน​จะเอาแต่​ร้องไห้​ด้วย​ความคับแค้นใจ​ แต่​แม่ไป๋​ก็​ไม่เชื่อ​คำพูด​ของหล่อน​

พ่อ​ไป๋​ไม่เพียง​ไม่เชื่อ​คำพูด​หล่อน​เท่านั้น​ แต่​ยัง​มั่นใจ​ว่า​หล่อน​โกหก​ ดังนั้น​เขา​จึงสั่งสอน​หล่อน​ด้วย​การขู่​ว่า​หาก​หล่อน​วางแผน​ต่อต้าน​หลิน​ม่าย​อีก​ หล่อน​จะถูก​ส่งกลับ​ไป​ยัง​ตระกูล​หลิน​

ไป๋​ซวง​กลัว​มาก​จน​ตัวสั่น​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​พ่อ​ไป๋​บอ​กว่า​จะส่งหล่อน​กลับ​ไป​ยัง​ตระกูล​หลิน​

หล่อน​นอน​ร้องไห้​อย่าง​เงียบงัน​บน​เตียง​ตลอดคืน​

ท้ายที่สุด​ หล่อน​ก็​ไม่ใช่ลูกสาว​โดยกำเนิด​ของ​ตระกูล​ไป๋​ พ่อ​ไป๋​และ​แม่ไป๋​ไม่ใช่พ่อแม่​ที่​แท้จริง​ของหล่อน​ ดังนั้น​แล้ว​พวกเขา​จะรัก​ลูกสาว​บุญธรรม​มากกว่า​ลูกสาว​แท้ ๆ​ ได้​อย่างไร​

หล่อน​จะปล่อย​ให้​เรื่องราว​ดำเนินต่อไป​แบบนี้​ไม่ได้​!

ใน​ห้อง​ถัดไป​ ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​ต่าง​ปรบมือ​เพื่อ​เฉลิมฉลอง​

เมื่อ​ทำให้​ไป๋​ซวง​ถูก​ตำหนิ​ได้​ ทั้งสอง​พี่น้อง​ก็​มีความสุข​มาก​

คน​เจ้าเล่ห์​อย่าง​ไป๋​ซวง​ควร​ได้​ลิ้มรส​สักที​ว่าการ​ถูก​ข่มเหง​เป็น​อย่างไร​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ขอบคุณ​นะคะ​คุณแม่​ที่​กล้า​สอน​หนู​ /ม่าย​จื่อ​ไม่ได้​กล่าว​/

ฝีปาก​มีด​ผ่าตัด​ของ​พี่​หมอ​ทำงาน​แล้ว​ เชือดเฉือน​เยอะ​ๆ เลย​ค่ะ​ เอา​ให้​ยัย​แม่ไป๋​ตาสว่าง​เสียที​ วงจร​สมอง​ของ​ป้า​แก​ดูจะ​มีปัญหา​ไม่น้อย​นะคะ​

กรรมตามสนอง​แล้ว​ล่ะ​ยัย​ไป๋​ซวง​ ทำ​อะไร​เขา​ไว้​ก็​โดน​กลับ​แบบ​นั้นแหละ​ ๕๕๕

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แสดงความคิดเห็น

  1. khunnaaypang พูดว่า:

    กว่าแม่ไป๋จะตาสว่าง ม่ายจื่อก็หมดใจไปนานแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท