รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 610 ซี ‘น่าจะใช่ที่นี่!’

บทที่ 610 ซี 'น่าจะใช่ที่นี่!'

บท​ที่​ 610 ซี ‘น่าจะ​ใช่ที่นี่​!’

ความ​พิศวง​ซัดสาด​ ลางร้าย​คืบคลาน​ อย่างไร​เสีย​ที่นี่​ก็​ต่าง​จาก​นคร​พิศวง​ มีสสาร​พิศวง​ความบริสุทธิ์​สูงโลดแล่น​ ปกคลุม​ผืนดิน​ทุ​กระเบียด​นิ้ว​ ทรงพลัง​กว่า​นคร​พิศวง​เป็น​หนักหนา​ ที่นั่น​ไม่อาจ​แผ่​ปกคลุม​ได้​ครบถ้วน​ อย่าง​มาก​ก็​ปกคลุม​ได้​เพียง​สอง​ใน​สามส่วน​

ไม่แปลกที่​สามารถ​ระบาด​กัน​ไป​ทั้ง​ระบบ​ดวงดาว​ จน​มีขน​งอก​กัน​ถ้วนหน้า​ สสาร​พิศวง​ที่นี่​มีมวล​หนาแน่น​ซ้ำยัง​บริสุทธิ์​กว่า​ ไม่ธรรมดา​อย่างยิ่ง​

ขน​สีแดง​ ขน​สีขาว​ ขน​สีเขียว​…

สีของ​ขน​นั้น​บ่งบอกถึง​ความบริสุทธิ์​ของ​สสาร​พิศวง​ ขน​สีแดง​มีความบริสุทธิ์​น้อยที่สุด​ พลัง​พิศวง​ลางร้าย​ที่​รับได้​ก็​อ่อนแรง​ที่สุด​

นคร​พิศวง​แห่ง​นั้น​มีแต่​สิ่งมีชีวิต​ขน​แดง​เป็นส่วนใหญ่​

แต่​ที่นี่​ แทบ​ไม่เห็น​สิ่งมีชีวิต​ขน​แดง​ด้วยซ้ำ​ อย่าง​ต่ำ​ที่สุด​คือ​สิ่งมีชีวิต​ขน​ขาว​ ที่​มีมาก​ที่สุด​เห็นจะ​เป็น​สิ่งมีชีวิต​ขน​เขียว​ต่าง ๆ​

เจ้าหลวง​คือ​หนึ่ง​ใน​ผู้​ที่​มีขน​สีเขียว​ตามตัว​ ใน​ฐานะ​ผู้​กุม​บังเหียน​แห่ง​นคร​พิศวง​ เมื่อ​อยู่​ที่นี่​ เขา​กลับ​ไม่มีความสำคัญ​แต่อย่างใด​ สิ่งมีชีวิต​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​มีอยู่​ถมเถ มัน​เป็น​เพียง​พวก​สามัญเท่านั้น​

“ข้า​ไม่เก่ง​หรอก​ เพียงแต่​โอบกอด​ความ​พิศวง​และ​ลางร้าย​ก่อน​เจ้าไป​หนึ่ง​ก้าว​เท่านั้น​ หาก​มิใช่เช่นนั้น​ ข้า​ไม่มีทาง​สู้เจ้าได้​”

ข้าง​กาย​เจ้าหลวง​ มีสัตว์ประหลาด​ตัว​มโหฬาร​ หน้าตา​พิลึกพิลั่น​ ร่าง​จระเข้​ มีใบหน้า​สามหน้า​ แผ่น​หลัง​มีหนาม​กระดูก​เน่าเปื่อย​ ทั้งเนื้อทั้งตัว​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ขน​ยา​วสี​ดำ​พิศวง​

ร่าง​จระเข้​สามใบหน้า​ ทั้ง​สามใบหน้า​นั้น​ล้วน​มิใช่ใบหน้า​ปกติ​ หาก​แต่​เป็นหนึ่ง​ใบหน้า​มนุษย์​ที่​แยก​ออก​เป็น​สามหน้า​ ดวงตา​และ​หู​สอง​ข้าง​ยึดครอง​ซ้าย​ขวา​กัน​ข้าง​ละ​หนึ่ง​ ปาก​และ​จมูก​ยึดครอง​ใบหน้า​ตรงกลาง​

ส่วน​ร่าง​จระเข้​นั้น​ก็​มิใช่ร่าง​จระเข้​ปกติ​ ปราศจาก​เกล็ด​ ปราศจาก​ผิวหนัง​ ขน​สีดำ​พิศวง​นี้​งอก​ออกจาก​เลือดเนื้อ​โดยตรง​ ชวน​ให้​ขวัญ​ผวา​เป็น​ที่สุด​

นี่​คือ​ ‘อาการ​ข้างเคียง​’ ที่​หลงเหลือ​จาก​การ​โอบกอด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ เดิม​มัน​เป็น​มนุษย์​หล่อเหลา​สง่างาม หลัง​ได้​โอบกอด​ความ​พิศวง​แล้ว​ ถึงกลายเป็น​สภาพ​เช่นนี้​

ผู้​ที่​ถูก​ความ​พิศวง​ลางร้าย​กัดกร่อน​ จัก​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ไป​อย่าง​หลีกเลี่ยง​มิได้​ ไม่มีทาง​รักษา​ความ​ปกติ​ไว้​ต่อไป​

ขน​สีดำ​ สสาร​พิศวง​ลางร้าย​นี้​สะท้อน​ให้​เห็น​ถึงความบริสุทธิ์​ที่​เหนือกว่า​ขน​สีเขียว​ถึงสอง​ขั้น​ พลัง​พิศวง​ลางร้าย​ที่​มีนั้น​ก็​เป็น​สองเท่า​ของ​ขน​สีเขียว​

มัน​เรียกขาน​ตน​ว่า​จ้าว​ตะเข้​

“อย่า​พูด​เช่นนั้น​ ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ล้วน​ไม่มีคำ​ว่า​ถ้า เจ้านั่นแหละ​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​!”

เจ้าหลวง​ส่ายหน้า​ “ความลังเล​ใน​อดีต​ ขีด​ชะตา​ผลลัพธ์​ เจ้าถูก​กำหนดให้​แข็งแกร่ง​กว่า​ข้า​ ข้า​ต้อง​ถูก​ทิ้ง​ไว้​ด้านหลัง​”

“อย่า​พูด​เช่นนั้น​ เจ้ายัง​มีโอกาส​ ยัง​พุ่ง​ทะยาน​ได้​สูงกว่า​นี้​!”

จ้าว​ตะเข้​หัน​มอง​เจ้าหลวง​ สายตา​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​นึก​เสียดาย​ มัน​เอ่ย​ท่าทาง​ขึงขัง​ “ยัง​ไม่ถึงเวลา​ ข้า​จะช่วย​เจ้าเอง​!”

เจ้าหลวง​ยิ้ม​ร่า​ “ต้อง​หวัง​พึ่ง​เจ้าจริง ๆ​ หาก​มิใช่เรา​เคย​มีสายใย​มาก่อน​ น่ากลัว​ว่า​ตอนนี้​ข้า​คง​ไม่มีโอกาส​ได้​พบ​เจ้าด้วยซ้ำ​…”

ก่อน​กาลเวลา​อัน​แสน​ยาวนาน​เริ่มต้น​ คราว​พวก​มัน​ยัง​มิได้​โอบกอด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ เคย​เป็น​สหาย​รู้ใจ​ที่​ร่วมเป็นร่วมตาย​กัน​มาก่อน​ เคย​เคียงคู่​ฝ่าฟัน​ผ่าน​อันตราย​มานานัปการ​

หาก​มิใช่เช่นนั้น​ ด้วย​ความสำเร็จ​ระดับ​จ้าว​ตะเข้​ใน​ยาม​นี้​ มัน​ไม่มีทางได้​คลุกคลี​ด้วย​

“มัว​พูดมาก​อะไร​ ข้า​ช่วย​ระดมกำลัง​พล​ให้​เจ้า ช่วย​ให้​เจ้าได้​พิชิต​ระบบ​ดวงดาว​สัก​แห่ง​ ให้​เจ้าได้​บ่ม​เพาะ​ ‘ทาส​’ ขึ้น​มาใหม่​!”

จ้าว​ตะเข้​กล่าว​ “เรา​สอง​ผนึก​กำลัง​ วันหน้า​ย่อม​ประสบผลสำเร็จ​ ถึงคราว​นั้น​ ‘ต้า​เห​ริน​’ ย่อม​ต้อง​จุติ​ลงมา​เพื่อ​ตกรางวัล​ให้​ หลัง​เจ้าผ่าน​พิธี​บรรพชา​แล้ว​ ย่อม​ต้อง​ก้าวหน้า​รุ่งโรจน์​ขึ้น​แน่​!”

มัน​นึก​เสียดาย​แทน​เจ้าหลวง​จาก​ใจจริง​

เจ้าหลวง​มีพรสวรรค์​สูงกว่า​เขา​มาก​นัก​ ก่อน​โอบกอด​ความ​พิศวง​และ​ลางร้าย​ เคย​มีความสำเร็จ​เหนือชั้นกว่า​เขา​ไป​มาก​ หาก​มิใช่ว่า​คราว​ที่​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ปะทุ​ เจ้าหลวง​เกิด​ความลังเล​ มิได้​เข้า​โอบกอด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ในทันที​ ไม่มีทาง​ที่​เจ้าหลวง​จะอยู่​ใน​สภาพ​ยับเยิน​เช่นนี้​ คง​ต้อง​แข็งแกร่ง​กว่า​เขา​สัก​หนึ่ง​ถึงสอง​ระดับ​

ครานั้น​ มัน​มิได้​ลังเล​ พุ่ง​เข้า​โอบกอด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ใน​บัดดล​ แม้น​ไม่ได้รับ​สสาร​พิศวง​ลางร้าย​บริสุทธิ์​สูงสุด​ กระนั้น​ก็​ได้รับ​สสาร​พิศวง​ลางร้าย​บริสุทธิ์​ระดับ​กลาง​ จน​สำเร็จ​ได้​อย่าง​ทุกวันนี้​

ยิ่ง​โอบกอด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ช้า ความบริสุทธิ์​ของ​สสาร​พิศวง​ลางร้าย​ที่​ได้รับ​ก็​ยิ่ง​ต่ำ​

เจ้าหลวง​ถูก​ทิ้งท้าย​เพราะเหตุนี้​

หลัง​ได้ยิน​คำกล่าว​ของ​จ้าว​ตะเข้​ เจ้าหลวง​ดวง​ตาลุ​กวาว​ มัน​เอ่ย​ขึ้น​ “เจ้าเคย​พบ​ ‘ต้า​เห​ริน​’ หรือยัง​”

‘ต้า​เห​ริน​’ คือ​สรรพนาม​ที่​พวก​มัน​ใช้กล่าวขาน​ถึงสิ่งนั้น​ ส่วน​ ‘ต้า​เห​ริน​’ มีรูปลักษณ์​อย่างไร​ มีภูมิหลัง​ที่มา​ที่​ไป​อย่างไร​ เจ้าหลวง​ไม่ทราบ​เลย​สักนิด​

มัน​รู้​เพียง​ว่า​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​ถูก​แพร่สะพัด​ออกมา​โดย​ ‘ต้า​เห​ริน​’ และ​ ‘ต้า​เห​ริน​’ นี้​มิได้​มีเพียงผู้เดียว​ หาก​แต่​มีอยู่​มาก​ล้น​

“ไม่เคย​”

จ้าว​ตะเข้​ส่าย​หัว​ “ไฉน​เลย​จะได้​พบ​ง่าย ๆ​ หาก​ข้า​ได้​พบ​ ข้า​คง​ไม่มีขน​สีดำ​เช่นนี้​หรอก​”

หาก​ได้​พบ​จริง ๆ​ ความบริสุทธิ์​ของ​สสาร​พิศวง​และ​ลางร้าย​ที่​ได้รับ​ย่อม​สูงส่ง มัน​อาจ​ได้​มีขน​เจ็ด​สีซึ่งเป็นตัวแทน​ของ​ความบริสุทธิ์​สูงสุด​ก็ได้​

“ก็​จริง​”

เจ้าหลวง​พยักหน้า​ ผู้​ได้​พบ​ ‘ต้า​เห​ริน​’ คง​ยืน​อยู่​บน​ยอด​สูงสุด​ของ​พวก​มัน​แล้ว​กระมัง​

“ลงมือ​เถิด​ รีบเร่ง​ลงมือ​ จะได้​บ่ม​เพาะ​ ‘ทาส​’ ออกมา​เยอะ​ ๆ ได้​เร็ว​ขึ้น​ และ​พิชิต​ระบบ​ดวงดาว​ได้​ใน​เวลา​อัน​สั้น​ที่สุด​!”

จ้าว​ตะเข้​เอ่ย​ “เวลา​นั้น​ จะว่า​มาก​แท้จริง​ก็​ไม่มาก​ สงคราม​ใหญ่​ใกล้​ปะทุ​เต็มแก่​ แดน​บรรพ​โกลาหล​จะกลายเป็น​สมรภูมิ​ ศึก​นี้​คง​อันตราย​เหลือแสน​ มีเพียง​มี ‘ทาส​’ มาก​พอ​ พวกเรา​จึงจะแสดง​ผลงาน​ได้​ดีขึ้น​”

“ได้​”

เจ้าหลวง​กล่าว​ “ที่​ข้า​มาหา​เจ้า แท้จริง​ได้​วางแผน​ไว้​แล้ว​ ต่อให้​เจ้าไม่ช่วย​ข้า​ ข้า​ก็​จะหน้าด้าน​ตื๊อ​ให้​เจ้าช่วย​ข้า​ ข้า​ตั้งใจ​พิชิต​อาณาจักร​อวี้ซ​วี​ ที่นั่น​เป็น​อาณาจักร​ระดับ​ค่อนข้าง​สูงใน​อาณาจักร​ทั้งปวง​ แม้ว่า​ยึดครอง​ทั้ง​อาณาจักร​นั้น​มีความลำบาก​อยู่​บ้าง​ ทว่า​ข้า​ในเวลานี้​หมดสิ้น​แล้ว​ทุกสิ่ง​ จะเล่น​ก็​ต้อง​เดิมพัน​ให้​ใหญ่​”

“เจ้ามีแผน​ก็​ดีแล้ว​”

จ้าว​ตะเข้​พยักหน้า​ “อาณาจักร​อวี้ซ​วี​แบ่งแยก​ดินแดน​ออกจาก​อาณาจักร​นั้น​ เคย​เป็น​อวี้ซ​วี​โจว​มาก่อน​ มีของ​ติดตัว​ออกจาก​อาณาจักร​นั้น​มาบ้าง​ไม่มาก​ก็​น้อย​ ข้า​ยัง​สงสัย​อีก​ด้วยว่า​ อาจ​มีพวก​ตา​เฒ่าที่​ยัง​ไม่ตาย​ แม้น​ไม่มีสสาร​นิรันดร์​ ไม่อาจ​อยู่ยงคงกระพัน​ กระนั้น​ตา​เฒ่าพวก​นี้​ย่อม​สามารถ​คิด​หา​วิธี​อื่น​ที่​ยืด​อายุขัย​ออก​ไป​ได้​ มิได้​ตาย​ง่าย ๆ​ เยี่ยง​นั้น​”

มัน​กล่าว​ต่อ​ “ทว่า​มิใช่เรื่องใหญ่​ มีข้า​คอย​ช่วย​เจ้า ยึดครอง​อาณา​จัก​รอ​วี้ซ​วี​ไม่มีปัญหา​แน่​”

“ฮ่า ๆ รู้​อยู่แล้ว​ว่า​ไม่ใช่ปัญหา​สำหรับ​เจ้า ข้า​ถึงได้​มาหา​เจ้าอย่างไรเล่า​” เจ้าหลวง​หัวเราะ​

“ข้า​จะไป​ระดม​ไพร่พล​ให้​เจ้าเดี๋ยวนี้​ รับรอง​ว่า​เจ้าไป​แล้ว​ สามารถ​พิชิต​อาณา​จัก​รอ​วี้ซ​วี​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​!”

จ้าว​ตะเข้​บอก​ พร้อม​สนับสนุน​เจ้าหลวง​ด้วย​กำลัง​ทั้งหมด​

ณ ดินแดน​ฮวง​

ภายใน​เมือง​บางแห่ง​

บน​ธาร​น้ำแข็ง​มองไม่เห็น​ที่​สิ้นสุด​ หิมะ​คลี่​ปกคลุม​ทุกสิ่ง​ ที่นี่​หนาว​เสียด​กระดูก​ แม้กระทั่ง​ระดับ​นักบุญ​ มหา​จักรพรรดิ​มาที่นี่​ ก็​ทน​ความ​เหน็บ​หนาว​ขนาด​นี้​ไม่ไหว​ ต้อง​แข็ง​ตาย​ใน​พริบตา​!

กระทั่ง​เทียน​ตี้​ยัง​ไม่อาจ​อยู่​ที่นี่​ได้​นาน​ หาก​อยู่​นาน​เกินไป​ต้อง​ตาย​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

ที่นี่​คือ​แดน​ร้าง​เหมันต์​ เป็น​ดินแดน​รกร้าง​ว่างเปล่า​อย่าง​แท้จริง​ ภายใน​ดินแดน​แห่ง​นี้​ ไร้​ซึ่งสิ่งมีชีวิต​และ​พืชพรรณ​ใด​ ๆ ไม่ว่า​จะเป็น​สิ่งมีชีวิต​ หรือ​พืชพรรณ​ชนิด​ใด​ ล้วน​ดำรงชีพ​ใน​ดินแดน​แห่ง​นี้​ได้​ยาก​

ทว่า​ดินแดน​รกร้าง​เช่นนี้​ กลับ​มีหญิงสาว​โฉมสะคราญ​นาง​หนึ่ง​ก้าวเดิน​อยู่​ภายใน​ ซ้ำยัง​เดิน​ลึก​เข้าไป​เรื่อย ๆ​ ทิ้ง​รอยเท้า​ของ​นาง​ไว้​บน​กอง​หิมะ​ชั้น​หนา​

หาก​ผู้อื่น​ได้​เห็นภาพ​นี้​ คง​ต้อง​อึ้ง​จน​กราม​ค้าง​ หญิงสาว​ผู้​นี้​คือ​ใคร​ เหตุใด​ถึงน่ากลัว​ปานนี้​

ดินแดน​รกร้าง​ที่​แม้แต่​เทียน​ตี้​ยัง​มิอาจ​อยู่​ได้​นาน​ หญิงสาว​กลับ​ไม่ได้รับ​ผลกระทบ​ใด​ ๆ ความ​หนาวเย็น​ไม่อาจ​ทำอันตราย​หญิงสาว​ได้​เลย​!

“น่าจะ​ใช่ที่นี่​…”

หญิงสาว​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​เสียง​เบา​ นาง​คือ​ซีนั่นเอง​

นาง​พอ​ทราบ​สถานการณ์​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​มาบ้าง​ หาก​ประสงค์​เข้าไป​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ จำต้อง​มาเสี่ยงโชค​ดู​ที่นี่​

มิฉะนั้น​ คง​ได้​แต่​รอ​ให้​แดน​บรรพ​โกลาหล​ปรากฏ​ออกมา​ด้วย​ตนเอง​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท