ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 636 ต่างฝ่ายต่างยืนกราน (ต้น)

ตอนที่ 636 ต่างฝ่ายต่างยืนกราน (ต้น)

ดวงตา​ของ​เซิน​เกอ​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​จริง​สิ​!​ ​ไปหา​ท่าน​ย่า​ได้​นี่​นา​ ​ท่าน​ย่า​คง​ไม่ยอม​ให้ท่า​นลุง​สี่​ตี​ท่าน​อย่างแน่นอน​”

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เวลา​นั้น​เอง​ ​ชิว​อวี​่​ก็​วิ่ง​มาหา​เขา​ด้วย​ความรีบร้อน​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ ฮู​หยิน​ให้ท่า​นรีบ​เข้าไป​หา​เจ้าค่ะ​!​”

เซิน​เกอ​ส่งสายตา​เห็นใจ​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​กลับ​เรือน​ก่อน​ก็แล้วกัน​”​ ​จากนั้น​ก็​โบกมือ​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​แล้วจึง​กลับ​เรือน​ไป

เหอ​เซียง​บ่าว​รับใช้​คนสนิท​ของฮู​หยิน​ห้า​กำลัง​ยืน​รอ​เซิน​เกอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​เรือน​ ​เมื่อ​เห็น​เซิน​เกอ​กลับมา​แล้วก็​รีบ​เข้าไป​หา​เขา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ ​เหตุใด​ท่าน​ถึง​กลับมา​เอา​ป่านนี้​ ฮู​หยิน​ห้า​ถามหา​ท่าน​ตั้ง​หลาย​รอบ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​พลาง​นำทาง​เซิน​เกอ​เข้าไป​ใน​เรือน

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เซิน​เกอ​วิ่ง​เข้าไป​ใน​เรือน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​แต่​พอ​เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​เจอ​กับ​ใบหน้า​ที่​กำลัง​โกรธจัด​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​“​คุกเข่า​ลง​ประเดี๋ยวนี้​!​”

เซิน​เกอ​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​เงยหน้า​มอง​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ด้วย​ความโกรธ​ของ​มารดา

“​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​!​”​ ​ป้า​สือ​รีบ​ส่งสายตา​ให้​กับ​เซิน​เกอ​ ​“​ท่าน​ยัง​ไม่​รีบ​คุกเข่า​อีก​!​”

เซิน​เกอ​เป็น​เด็ก​ที่​ฉลาด​ ​จึง​รีบ​คุกเข่า​ลง​ในทันที​ ​แต่​สีหน้า​ก็​ยังคง​เต็มไปด้วย​ความไม่พอใจ

ฮู​หยิน​ห้า​โกรธ​จน​เนื้อตัว​สั่นเทา​ไป​หมด​ ​“​ข้า​ให้​เจ้า​ไป​ฝึกฝน​วิชา​ ​แต่​เจ้า​กลับ​แอบ​ใส่ยา​ระบาย​ลง​ไป​ใน​ถ้วย​น้ำชา​ของ​อาจารย์​ผัง​…​หาก​วันนี้​ข้า​ไม่​สั่งสอน​เจ้า​ให้​รู้แจ้ง​ ​เจ้า​ก็​คงจะ​ไม่รู้​ว่า​ฟ้า​สูง​แผ่นดิน​ต่ำ​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​ป้า​สือ​ว่า​ ​“​ไป​เอา​ไม้เรียว​มา​ ​หาก​วันนี้​ข้า​ไม่​ตีสั​่ง​สอน​เขา​ ​เขา​ก็​จะ​ไม่รู้​จัก​หลาบจำ​!​”

เซิน​เกอ​เห็น​ว่า​สถานการณ์​ไม่​ค่อย​ดี​ ​ก็​เลย​รีบ​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ต่อไป​ข้า​จะ​ไม่​ทำ​อีกแล้ว​ขอรับ​!​”​ ​เขา​หันไป​มอง​ป้า​สือ​ด้วย​แววตา​ที่​อ้อนวอน

ป้า​สือ​พยักหน้า​ให้​เขา​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​สาวใช้​น้อย​ให้​ไป​นำ​ไม้เรียว​มา​พลาง​ประคองฮู​หยิน​ห้า​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ใหญ่​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​ตั้งแต่​ที่​ท่าน​ทราบ​เรื่อง​ว่า​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​จะ​ถูก​อาจารย์​ผัง​ตี​ ฮู​หยิน​ก็​โมโห​จนถึง​ตอนนี้​ ​ระวัง​จะ​โกรธ​จน​เสีย​สุขภาพ​ได้​นะ​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​นั่ง​พัก​ให้​คลาย​ความโมโห​ก่อน​ดีกว่า​กระมัง​!​ ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​อายุ​ยังน้อย​ ​ไม่รู้​ความ​ ฮู​หยิน​ควร​ค่อยๆ​ ​พูดจา​กับ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​จะ​เป็นการ​ดีกว่า​ ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ของ​เรา​ใช่​ว่า​จะ​เป็น​คน​คุย​ด้วย​ไม่รู้​เรื่อง​เสียหน่อย​ ​ท่าน​ฉุนเฉียว​เช่นนี้​ ​มี​แต่​จะ​ทำให้​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ตกใจกลัว​เอา​ได้​เจ้าค่ะ​!​”

คำพูด​ประโยค​นี้​พุ่งตรง​เข้าไป​ใน​ใจ​ของฮู​หยิน​ห้า

หาก​ไม่ใช่​เพราะ​จิ​่น​เกอ​ริเริ่ม​นำพา​ ​เด็กดี​เช่น​บุตรชาย​ของ​ตน​จะ​ใส่ยา​ระบาย​ลง​ไป​ใน​ถ้วย​น้ำชา​ของ​อาจารย์​ผัง​ได้​อย่างไร​กัน

ท่าน​พ่อ​เอง​ก็​เคย​พูด​ไว้​ ​ว่า​สวี​ลิ่ง​ควน​นั้น​มีนิ​สัย​เกียจคร้าน​เฉื่อยชา​ ​ทน​ความยากลำบาก​ไม่ได้​ ​วันข้างหน้า​ก็​คงจะ​อาศัย​บารมี​ของ​ฮองเฮา​กับ​ไท่​จื่อ​ใน​การ​เข้า​เป็น​ขุนนาง​ฝ่าย​การทหาร​ระดับ​สาม​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่ใช่​ยศ​ใหญ่โต​อะไร​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​และ​ก็​คงจะ​ไม่​สามารถ​ปกครอง​ผู้อื่น​หรือ​สามารถ​คลี่คลาย​สถานการณ์​ต่างๆ​ ​ได้​เหมือน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สู้​ให้​เขา​ใช้ชีวิต​เอ้อระเหย​ลอยชาย​เช่นนี้​ไป​วัน​ๆ​ ​เสีย​ยังดี​กว่า​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​หรือ​เรื่อง​การทหาร​ ​ก็​อย่า​จับ​เขา​เข้าไป​จะ​เป็นการ​ดีกว่า​ ​ในเมื่อ​เซิน​เกอ​เป็น​เด็ก​ที่รัก​ใน​ความก้าวหน้า​ ​ก็​ควรจะ​ทุ่มเท​และ​ใส่ใจ​แต่​เรื่อง​ของ​เซิน​เกอ​จึง​จะ​ถูก​ ​เซิน​เกอ​เป็น​บุตรชายคนโต​ ​หาก​เขา​มี​อนาคต​ที่​ดี​ก็​จะ​สามารถ​ค้ำจุน​ครอบครัว​ให้​เชิดหน้าชูตา​ขึ้น​มา​ได้

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ห้า​ก็​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น

เซิน​เกอ​ฉลาด​และ​หัวไว​เป็นอย่างมาก​ ​เมื่อ​เห็น​ป้า​สือ​ส่งสายตา​ให้​กับ​เขา​ ​เขา​ก็​รีบ​ขาน​เรียก​มารดา​ทันที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ต่อไป​ข้า​จะ​เชื่อฟัง​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​โน้มน้าว​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไม่​ทำ​อีกแล้ว​”​ ​สาวใช้​น้อย​ที่​ไป​นำ​ไม้เรียว​มา​ไม่ได้​เข้าไป​ใน​เรือน​ ​นาง​ยืน​หลบ​อยู่​หลัง​ม่าน​ประตู​รอดู​สถานการณ์

ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​สีหน้า​ดีขึ้น​ไม่น้อย

เซิน​เกอ​เห็น​แล้วก็​รีบ​คลาน​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​มารดา​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ต่อไป​ข้า​จะ​ไม่​ทำ​อีกแล้ว​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ใจอ่อน​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​คำพูด​ของ​บิดา​ขึ้น​มา​ ​ก็​ยืนหยัด​ใน​การตัดสินใจ​อีกครั้ง

“​ป้า​สือ​ ​ไป​เอา​ไม้เรียว​มา​!​”​ ​สีหน้า​ท่าที​หนักแน่น​เป็นอย่างมาก

ป้า​สือ​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ต่อ​ ​เดิน​ออก​ไป​นำ​ไม้เรียว​จาก​สาวใช้​เข้ามา

ฮู​หยิน​ห้า​ไม่สน​ใจ​ว่า​บุตรชาย​ของ​นาง​จะ​ร้องไห้​วิงวอน​แค่ไหน​ ​นาง​ตี​มือ​ของ​เขา​ไป​สิบ​ครั้ง​ ​พลาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​คอย​ดู​ว่า​เจ้า​จะ​จำขึ้นใจ​หรือไม่​”​ ​หวด​จน​ไม้​สุดท้าย​ ​น้ำตา​ของ​นาง​ก็​รื้น​ขึ้น​มา​เต็ม​สอง​ขอบตา

ป้า​สือ​รีบ​เข้าไป​อุ้ม​เซิน​เกอ​ที่​ร้องไห้​จน​ตาแดง​กลับ​เรือน​ไป​ ​นาง​ช่วย​เขา​เช็ดน้ำ​ตา​ ​พูดจา​ปลอบโยน​และ​ทายา​ให้​กับ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​กล่อม​เขา​เข้านอน​ ​วุ่น​อยู่​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​จึง​ค่อย​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​ห้า

“​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ฮู​หยิน​ห้า​รีบ​ปรี่​เข้าไป​ถาม​ป้า​สือ​ด้วย​ความรีบร้อน​ ​ว่า​ตน​นั้น​ตี​แรง​เกินไป​หรือไม่

“​ไม่เป็นไร​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​สือ​รีบ​ปลอบใจฮู​หยิน​ห้า​ ​“​ทายา​สัก​เจ็ด​แปด​วัน​ก็​หาย​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​จึง​เช็ด​คราบ​น้ำตา​พลาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ช่วงนี้​เจ้า​ต้อง​ดูแล​เขา​อย่างใกล้ชิด​ ​อย่า​ให้​มือ​ของ​เขา​ไป​โดน​น้ำ​!​”​ ​น้ำเสียง​ห่วงใย​เป็นอย่างมาก

“ฮู​หยิน​วางใจ​เถิด​ ​บ่าว​จะ​ดูแล​คุณชาย​น้อย​หก​เป็น​อย่างดี​เจ้าค่ะ​”​ ​หวด​ไม้​ลง​กาย​ลูก​ ​แต่​เจ็บปวด​ที่​ใจ​แม่​ ​ถึงแม้ว่า​ป้า​สือ​จะ​ไม่รู้​ว่าฮู​หยิน​ห้า​จะ​ตัดสินใจ​เช่นนี้​ ​แต่​ก็​สามารถ​เข้าใจ​ใน​ความรัก​ของฮู​หยิน​ห้า​ที่​มีต​่อ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​เป็น​อย่างดี​ ​นาง​ไม่​อยาก​ให้ฮู​หยิน​ห้า​เสียใจ​ ​ก็​เลย​เปลี่ยน​เรื่อง​ไป​คุย​อย่าง​อื่น​แทน​ ​“ฮู​หยิน​ ​ทาง​ฝั่ง​อาจารย์​ผัง​ ​นอกจาก​เงิน​สามสิบ​ตำลึง​และ​ยาหม้อ​แล้ว​ ​จะ​เพิ่ม​ผ้าไหม​อีก​หรือไม่​ ​ส่ง​ไป​ตอนนี้​ ​อาจารย์​ผัง​สามารถ​นำ​ไป​ตัดเย็บ​เป็น​เสื้อผ้า​มาสวม​ใส่​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ได้​พอดี​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​ชื่อ​อาจารย์​ผัง​ก็​อารมณ์ไม่ดี​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เขา​ ​บุตรชาย​ของ​นาง​ก็​คงจะ​ไม่ต้อง​ถูก​ตี​!

“​ไม่ต้อง​แล้ว​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่พอใจ​ ​“​เขา​ไม่รู้​จัก​สำเหนียก​ว่า​ตัวเอง​นั้น​เป็น​ใคร​ ​บุตรชาย​ของ​ข้า​ ​ข้า​สอนสั่ง​เอง​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ให้​คน​เช่น​เขา​เข้ามา​ยุ่มย่าม​และ​บงการ​”

สำหรับฮู​หยิน​ห้า​ ​นี่​ถือเป็น​การ​อ่อนข้อ​ให้​แล้ว​!

ป้า​สือ​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ต่อ​ ​นาง​รีบ​ขานรับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​จากนั้น​ก็​ไป​เตรียม​ของ​ที่จะ​มอบให้​กับ​อาจารย์​ผัง

*****

สือ​อี​เหนียง​หันไป​สั่ง​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​มอบ​ของ​ด้วยตัวเอง​ ​นอกจาก​ยาหม้อ​แล้ว​ ​ก็​นำ​ยาสมุนไพร​ติด​ไป​ด้วย​ ​อย่า​ลืม​กล่าว​ขอโทษ​เขา​แทน​ข้า​”

หู่​พั่ว​ย่อ​ตัว​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​ออกจาก​เรือน​ไป

สือ​อี​เหนียง​ยก​ถ้วย​น้ำชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​จากนั้น​ก็​ตะโกนเรียก​ให้​ชิว​อวี​่​เข้ามา​ ​“​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ตัก​น้ำ​เข้ามา​!​”​ ​ไม่ได้​เหลือบมอง​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​ยืน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ละห้อย​แม้แต่​นิดเดียว

ชิว​อวี​่​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​ออก​ไป​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ตัก​น้ำ​มา

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​ลุกขึ้น​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​ห้อง​ชำระ

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ทน​ต่อไป​ไม่ไหว​ ​รีบ​เข้าไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้

สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​จิ​่น​เกอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​รีบ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​พรุ่งนี้​ต้อง​ตื่น​มา​ฝึก​ย่อเข่า​แต่เช้า​ตรู่​!​”

“​เช่นนั้น​ ​เช่นนั้น​ข้า​…​”​ ​จิ​่น​เกอ​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​และ​แววตา​ที่​ขลาดกลัว

“​ข้า​กับ​พ่อ​ของ​เจ้า​คิด​เหมือนกัน​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ผ่อนปรน​แต่อย่างใด​ ​“​สาม​วันนี้​เจ้า​จะ​ต้อง​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ​ห้าม​ไป​ไหน​ทั้งนั้น​ ​พิจารณา​ไตร่ตรอง​ตัวเอง​ให้​ดี​ ​หนังสือ​ตำรา​ไม่ว่า​จะ​เรียน​มามาก​มาย​แค่ไหน​ ​แต่​หาก​ไม่เข้าใจ​ใน​หลักการ​ที่แท้​จริง​ก็​เปล่าประโยชน์​ ​รอ​ให้​เจ้า​เข้าใจ​อย่างถ่องแท้​แล้ว​ ​ค่อย​กลับ​ไป​เรียน​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”

ไม่เพียงแต่​หักล้าง​คำพูด​ของ​จิ​่น​เกอ​เท่านั้น​ ​แต่​น้ำเสียง​ยัง​หนักแน่น​กว่า​เมื่อครู่นี้​เป็นอย่างมาก

จิ​่น​เกอ​รู้ดี​ว่าการ​ขอร้อง​บิดา​และ​มารดา​นั้น​ไม่​เป็นผล​ ​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คอตก​ด้วย​ความสิ้นหวัง​ ​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​หง​เหวิ​นก​ลับ​เรือน​ไป

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ก่อน​จะ​หมุนตัว​กลับ​เข้า​ห้อง​ชั้นใน​ไป

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​นอน​อ่านหนังสือ​ที่​หัว​เตียง​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​เดิน​เข้ามา​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​นั่ง​ทันที​ ​“​จิ​่น​เกอ​กลับ​ไป​แล้ว​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​“​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ไม่​ทำ​อีก​!​”​ ​แต่​ก็​ยัง​อด​เป็นห่วง​บุตรชาย​ไม่ได้​ ​“​ช่วงนี้​เจ้า​อย่า​ไป​ไหน​ ​คอย​อยู่​เฝ้าดู​จิ​่น​เกอ​ให้​ดี​ ​ปกติ​แล้ว​เขา​ได้​ออก​ไป​ทำตาม​อำเภอใจ​จน​เคยตัว​ ​ถูก​กักบริเวณ​อยู่​แต่​ใน​เรือน​เช่นนี้​ ​ย่อม​ไม่​คุ้นชิน​อย่างแน่นอน​ ​เขา​เป็น​คนฉลาด​หัวไว​ ​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ต่าง​ก็​ไม่กล้า​แตะ​เขา​ ​หาก​เขา​หนี​ออก​ไป​เพราะ​ทน​ไม่ได้​ขึ้น​มา​…​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​ความจน​ใจ​ ​“​ปล่อยทิ้ง​ไว้​แบบนี้​ไม่ได้​ ​ข้า​จะ​ต้อง​ลงโทษ​ด้วย​การ​ตี​เขา​หรือ​อย่างไร​กัน​”

“​ท่าน​โหว​คิด​เหมือนกับ​ข้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​จะ​ถือโอกาส​นี้​ไป​คุย​กับ​เขา​ดี​ๆ​ ​เจ้าค่ะ​…​”

สอง​สามีภรรยา​คุย​เรื่อง​บุตรชาย​ไป​ครึ่ง​ค่อนคืน​ ​จึง​ค่อย​พากัน​เข้านอน

วัน​ถัดมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​วางมือ​จาก​งาน​ทั้งหมด​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​จิ​่น​เกอ​ที่​เรือน​ของ​เขา

ถึงแม้ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ไม่​สามารถ​ออกจาก​เรือน​ ​แต่​การ​มีมา​รดา​อยู่​ข้าง​กาย​ ​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​เหงา​แต่อย่างใด​ ​เขา​ตั้งหน้าตั้งตา​ฝึก​ย่อเข่า​ ​จากนั้น​ก็​อ่าน​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​ที่​อาจารย์​จ้าว​สอน

เขา​เป็น​เด็กดี​เช่นนี้​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​ตอน​นอน​พักผ่อน​ช่วง​กลางวัน​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​กอด​เขา​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ ​พลาง​พูดถึง​เรื่อง​อาจารย์​ผัง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​…​เมื่อก่อน​อาจารย์​ผัง​ก็​ไม่รู้​จัก​เจ้า​ ​เจ้า​เอง​ก็​ไม่รู้​จัก​อาจารย์​ผัง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​พี่เขย​ใหญ่​ของ​เจ้า​ฝากฝัง​ไหว้วาน​ ​เขา​จะ​มาสอ​นวิ​ชา​เจ้าที่​จวน​ของ​เรา​ได้​อย่างไร​กัน​…​หาก​เป็น​ผู้อื่น​ ​เขา​ก็​คงจะ​ไม่สน​ใจ​แล้ว​ ​การ​ที่​เขา​เข้มงวด​กับ​เจ้า​ ​ถือเป็น​ผลดี​กับ​ตัว​เจ้า​เอง​ ​มิเช่นนั้น​เจ้า​จะ​เรียนรู้​ถึงแก่น​แท้​ของ​วิชา​ได้​อย่างไร​กัน​ ​พวก​เจ้า​ทำ​เช่นนี้​ ​เขา​จะ​เสียใจ​แค่ไหน​…​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​ควร​ทำ​อย่างยิ่ง​!​”

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ซุก​หน้า​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​ผิด​ไป​แล้ว​ขอรับ​!​”

ถึงแม้ว่า​จะ​ดู​เขินอาย​ไป​บ้าง​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ไม่น้อย​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​กว่า​เดิม​ ​“​หลังจากที่​กักบริเวณ​เสร็จ​แล้ว​ ​แม่​จะ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​เป็นเพื่อน​เจ้า​ ​เรา​ไป​แสดง​ความรู้สึกผิด​ต่อ​อาจารย์​ผัง​ ​และ​ให้สัญญา​กับ​อาจารย์​ผัง​ว่า​ต่อไป​เจ้า​จะ​ไม่​ทำ​อีก​…​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​“​แสดง​ความรู้สึกผิด​ต่อ​ท่าน​อาจารย์​ผัง​หรือ​”​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความแปลกใจ

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​เจ้า​ทำผิด​ ​ก็​ย่อม​ต้อง​ไป​กล่าว​ขอโทษ​เป็นธรรมดา​…​”

ยัง​ไม่ทัน​ที่​สือ​อี​เหนียง​จะ​พูด​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​ปฏิเสธ​ทันควัน​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่​ไป​!​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​งุนงง​เป็นอย่างมาก

นาง​พูด​มามาก​มาย​ขนาด​นี้​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ยัง​ไม่รู้​สึก​สำนึกผิด

“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไม่ยอม​ไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พยายาม​ข่มอารมณ์​ของ​ตัวเอง​ ​“​เป็น​เพราะ​ไม่มี​หน้า​จะ​ไป​หรือ​ ​แม้แต่​ใน​ ​‘​บันทึก​จั่วจ​้​วน​’​ ​ก็​ยัง​บันทึก​ไว้​เลย​ว่า​ ​‘​ไม่มี​ผู้ใด​ไม่เคย​กระทำความผิด​ ​ผู้รู้​ผิด​ก็​จะ​สามารถ​แก้ไข​ความผิด​อัน​ใหญ่หลวง​ได้​!​’​ ​เรา​สู้​ไม่ได้​แม้กระทั่ง​คนใน​สมัยโบราณ​หรือ​ ​ผิด​แล้วก็​ไม่เป็นไร​ ​ขอ​เพียงแค่​เรา​แก้ไข​มัน​ ​เรา​ก็​จะ​กลายเป็น​เด็กดี​…​”

น้ำเสียง​และ​ท่าที​ของ​มารดา​พลอย​ทำให้​จิ​่น​เกอ​รู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​เป็นอย่างมาก

เขา​ลุกขึ้น​นั่ง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่​ไป​!​”

เขา​ยังคง​เน้นย้ำ​ประโยค​เดิม​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา

สือ​อี​เหนียง​พลัน​รู้สึก​โมโห​ขึ้น​มา

อายุ​น้อย​แค่นี้​ ​แต่กลับ​มี​จิตใจ​ที่​เย่อหยิ่ง​ทะนง​ตน​ขนาด​นี้​ ​แล้ว​วันข้างหน้า​เติบโต​ไป​จะ​ขนาด​ไหน​!

“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไม่​ไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ลุกขึ้น​มานั​่ง

สอง​แม่​ลูก​สบตา​กัน​ ​ความอบอุ่น​และ​ความอ่อนโยน​เมื่อครู่นี้​หาย​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​กลายเป็น​บรรยากาศ​ที่​ตึงเครียด​แทน

“​ท่าน​พ่อ​สั่ง​กักบริเวณ​ข้า​แล้ว​ ​เหตุใด​ข้า​ถึง​ยัง​ต้อง​ไป​กล่าว​ขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​อีก​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​มี​ความคิด​เช่นนี้

สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​ยึดมั่น​ใน​ความคิด​ที่จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​“​ที่​พ่อ​ของ​เจ้า​สั่ง​กักบริเวณ​เจ้า​ ​เพราะ​ต้องการ​ลงโทษ​ที่​เจ้า​ทำผิด​ ​และ​ที่​แม่​ให้​เจ้า​ไป​กล่าว​ขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​ ​ก็​เพราะ​สิ่ง​ที่​เจ้า​ทำ​ลง​ไป​นั้น​ไม่​ถูกต้อง​ ​จึง​ต้อง​ไปรับ​ผิด​ ​เพื่อ​แสดงให้เห็น​ว่า​เจ้า​นั้น​สำนึกผิด​แล้ว​ ​มิเช่นนั้น​ ​หาก​ทำผิด​แล้วก็​มารับ​โทษ​ ​รับโทษ​เสร็จ​ก็​ทำ​ใหม่​ ​แล้ว​ลงโทษ​ไป​จะ​มีประโยชน์​อัน​ใด​ ​สอง​เรื่อง​นี้​มัน​คนละเรื่อง​กัน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เจ้า​ก็​จะ​ต้อง​ไป​กล่าว​คำขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​!​”

“​ข้า​ไม่​ไป​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ตอบกลับ​เสียงดัง​ลั่น​ ​“​วันข้างหน้า​ข้า​ก็​แค่​ไม่​ทำ​มัน​อีก​ก็​พอ​!​”

คำพูด​ของ​จิ​่น​เกอ​ดัง​ขึ้น​พร้อม​ๆ​ ​กับ​เสียง​ฟ้าร้อง​ที่​ดัง​มาจาก​ขอบฟ้า​อัน​ไกลโพ้น

บรรยากาศ​ยิ่ง​อึมครึม​เพิ่มมากขึ้น​กว่า​เดิม

“​วันข้างหน้า​เจ้า​จะ​ไม่​ทำ​มัน​อีก​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ควรจะ​ไป​บอก​กับ​อาจารย์​ผัง​สัก​คำ​”​ ​ความคิด​ของ​จิ​่น​เกอ​พลอย​ทำให้​คิ้ว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ขมวด​แน่น​ ​“​เจ้า​ทำผิด​ต่อ​อาจารย์​ผัง​!​ ​แต่กลับ​พูด​มัน​อยู่​ใน​ใจ​ ​แล้ว​อาจารย์​ผัง​จะ​รับรู้​ได้​อย่างไร​กัน​ ​หาก​อาจารย์​ผัง​ไม่​รับรู้​ ​จะ​เรียกว่า​เป็นการ​ขอโทษ​หรือ​”

ไม่ว่า​ยุคสมัย​ไหน​ ​ก็​ยังคง​ต้อง​ใช้การ​สนทนา​มาสื​่​อสา​รอยู​่​ดี​ ​จิ​่น​เกอ​จะ​ต้อง​รับรู้​และ​เข้าใจ​ถึง​ความสำคัญ​ของ​หลักการ​ใน​ข้อนี​้

“​ไป​กล่าว​ขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​สีหน้า​และ​แววตา​ที่​เคร่งขรึม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท