องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 626 องค์ชายสูญเสียการควบคุมหรือ

บทที่ 626 องค์ชายสูญเสียการควบคุมหรือ

อันที่จริง​ ​ปฏิกิริยา​ของ​เขา​ก็​ไม่ได้​รุนแรง​เกินไป​นัก

มัน​เพียงแค่​ดูกะ​ทัน​หัน​เพราะ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ลุกขึ้น​โดย​ไม่มี​ปี่​มี​ขลุ่ย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​ไป​ทาง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยด​้ว​ยสี​หน้า​งุนงง​ ​คิ้ว​ได้รูป​ของ​นาง​เลิก​ขึ้น​เล็กน้อย

“​เจ้า​ดื่ม​สิ่ง​ที่​มีกลิ่น​ไม่น่า​อภิรมย์​เช่นนั้น​เข้าไป​ได้​อย่างไร​”​ ​เด็กหนุ่ม​ไม่ได้​มอง​นาง​ ​แต่กลับ​เอ่ย​กับ​หนา​นกง​เลี่ย​อย่าง​เย็นชา

หนา​นกง​เลี่ย​ทำ​จมูก​ฟุดฟิด​ ​“​กลิ่น​มัน​แย่มาก​เลย​หรือ​ ​ข้า​กลับ​คิด​ว่า​มัน​อร่อย​ดี​เสียอีก​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ ​กิน​ขิง​เยอะ​ๆ​ ​ช่วง​หน้าหนาว​ก็ดี​ต่อ​สุขภาพ​ด้วย​”

“​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​เด็กหนุ่ม​เยาะ​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

หนา​นกง​เลี่ย​คิด​ว่า​เขา​เพียงแค่​ทน​กลิ่น​ขิง​ไม่ได้​ ​แต่​พอ​เขา​ตื่นขึ้น​ใน​วัน​ถัดมา​ ​เขา​ก็​ค้นพบ​ว่า​อาหาร​ทุก​จาน​ใน​วิหาร​บวงสรวง​ถูก​เปลี่ยนเป็น​ขิง​สด​ทั้งหมด

เงา​ทมิฬ​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​และ​แจ้ง​เขา​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​ว่า​ ​“​นาย​น้อย​เลี่ย​ ​ฝ่า​บาท​ตรัส​ว่า​ในเมื่อ​ท่าน​คิด​ว่าการ​บริโภค​ขิง​ดี​ต่อ​สุขภาพ​ ​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​ควร​กิน​ขิง​ให้​มาก​ๆ​ ​ขอรับ​”

หนา​นกง​เลี่ย​ ​:​ ​…

เดี๋ยวก่อน​!

ก่อน​จะ​กลับ​ไป​ ​เจ้า​พูด​กับ​ข้ามา​ให้​ชัดเจน​ดีกว่า​!

ถ้า​เขา​ไม่ได้​โกรธ​ข้า​ ​แล้ว​เรื่อง​บ้านี​่​มัน​อะไร​กัน​!

ข้า​จะ​กินข้าว​ได้​อย่างไร​ในเมื่อ​เวลานี้​ทุกอย่าง​ล้วน​กลายเป็น​ขิง​ไป​หมด​แล้ว

ทำไม​ไม่​วางยา​ข้า​ไป​เลย​ล่ะ​ ​มัน​คง​เร็ว​กว่านี​้​มาก​นัก​!

หนา​นกง​เลี่ย​แทบ​ทรุด​ ​เขา​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​และ​ตัดสินใจ​พัก​เรื่อง​พวก​นี้​เอาไว้​ก่อน​ ​แล้ว​พา​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ออก​ไป​ข้างนอก​เพื่อ​ส่งดอก​ไม้​ให้​ใคร​บางคน

“​นาง​ออกมา​หรือยัง​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​รู้สึก​ขัดเขิน​บ้าง​ใน​บางครั้ง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ชำเลือง​มอง​เขา​ ​“​เจ้า​รีบร้อน​อะไร​ ​แน่นอน​ว่า​ชิง​จ้าน​จำเป็นต้อง​ไปรา​ยงาน​ตัว​กับ​เจ้านาย​ของ​ตน​เป็นอัน​ดับ​แรก​ทันทีที่​นาง​เข้า​วัง​”

“​ข้า​รู้​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ลูบ​คาง​ ​“​แต่​ข้า​รู้สึก​ว่า​ช่วง​สอง​วันนี้​อา​เจ​วี​๋ย​ทำตัว​แปลก​ๆ​ ​เจ้า​ว่า​เขา​จะ​ว่าร้าย​ข้า​ต่อหน้า​ชิง​จ้าน​หรือเปล่า​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่สน​ใจ​เขา​ ​“​เขา​ไม่​พูด​หรอก​ ​ทำไม​เขา​จะ​ต้อง​ว่าร้าย​เจ้า​ต่อหน้า​ชิง​จ้าน​ด้วย​ ​เขา​ไม่ได้​ว่าง​ขนาด​นั้น​เสียหน่อย​”

“​พูด​อีก​ก็​ถูก​อีก​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ออก​เดิน​ ​เขา​คง​คิดมาก​เกินไป​ ​อา​เจ​วี​๋ย​ค่อนข้าง​หัว​ช้า​เรื่อง​ความรัก​ ​แม้กระทั่ง​กับ​คุณหนู​ใหญ่​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​ ​เขา​ก็​ยัง​รักษา​ระยะห่าง​กับ​นาง​เอาไว้​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​เขา​อาจ​บอก​ไม่ได้​ว่า​หนา​นกง​เลี่ย​ตกหลุมรัก​ชิง​จ้าน​ ​ไม่​สิ​ ​เขา​ไม่ได้​ตกหลุมรัก​ชิง​จ้าน​ ​เขา​เพียงแค่​คิด​ว่า​เด็กสาว​คน​นี้​น่าสนใจ​ต่างหาก​ ​ใช่​ ​เขา​เพียงแค่​คิด​ว่านาง​น่าสนใจ​เท่านั้น​…

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ ​“​เจ้า​มัว​แต่​บ่นพึมพำ​อะไร​อยู่​ ​รีบ​เอา​ดอกกุหลาบ​ออกมา​ได้​แล้ว​”

หนา​นกง​เลี่ย​เป็น​นาย​น้อย​ที่​เข้าใจ​หัวใจ​สตรี​ ​เขา​ดีดนิ้ว​ด้วย​ท่าทาง​ชั่วร้าย

กุหลาบ​ดอก​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​มือ​เขา​ ​กุหลาบ​ดอก​นั้น​เบ่งบาน​อย่าง​งดงาม

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ ​“​ข้า​ประเมิน​เจ้า​ต่ำ​เกินไป​จริงๆ​”​ ​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​โต​ไป​จะ​ร้ายกาจ​ถึง​เพียงนั้น​ ​อายุ​แค่นี้​แต่กลับ​ลงทุน​ศึกษา​มายากล​พวก​นี้​มา​เพื่อ​เล่น​กับ​สาว​ๆ​ ​เชียว​หรือ

“​ทุกวันนี้​ข้า​ตื่น​เช้า​มาก​็​เจอ​แต่​หน้าตา​อัน​หล่อเหลา​ของ​ตัวเอง​ ​เรื่อง​นี้​สร้าง​ความ​กลุ้มใจ​ให้​กับ​ข้ามาก​ทีเดียว​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​กระตุก​ริมฝีปาก​บาง​ขึ้น​เหมือน​เพิ่ง​นึก​อะไร​ออก​ ​“​กุหลาบ​ดอก​นี้​ข้า​ให้​เจ้า​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้จัก​นิสัย​ของ​เขา​ดี​ ​นาง​จึง​รับ​มัน​มานิ​่ง​ๆ​ ​โดย​ไม่​ปฏิเสธ​เขา​ ​จากนั้น​จึง​ถาม​ว่า​ ​“​มี​อะไร​อยาก​ถาม​ข้า​อีก​หรือเปล่า​”

“​ก็​ไม่​มาก​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ยิ้ม​อย่าง​ชั่วร้าย​ ​“​ไม่มี​อะไร​นอกจาก​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​เจ้า​กับ​อา​เจ​วี​๋ย​”​ ​แม้​เขา​จะ​ต้องตาย​ ​แต่​อย่างน้อย​เขา​ก็​อยาก​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​อา​เจ​วี​๋ย​ถึง​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​เช่นนี้​ ​อา​เจ​วี​๋ย​เริ่ม​ทำให้​ชีวิต​เขา​ตกระกำลำบาก​ทันที​หลังจาก​ผู้หญิง​คน​นี้​มาที​่​นี่

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อ้า​ปาก​และ​กำลังจะ​พูด​บางอย่าง​ออกมา​ ​แต่​นาง​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​มี​คน​อยู่​ข้างหลัง​ ​และ​คน​คน​นั้น​ทำให้​นาง​รู้สึก​เสียว​สันหลัง​วาบ

นาง​หันกลับ​ไป​และ​พบ​กับ​ดวงตา​อัน​ยาก​จะ​หยั่งถึง​ของ​เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง

เขา​มาตอน​ไหน​ ​ทำไม​ถึง​ไม่ได้​ยิน​เสียง​เลย​ล่ะ

หนา​นกง​เลี่ย​เห็น​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​แล้ว​เช่นกัน​ ​แต่​สมาธิ​ของ​เขา​กลับ​ไม่ได้​อยู่​ที่​อีก​ฝ่าย​ ​แทนที่จะ​เป็น​เช่นนั้น​เขา​กลับ​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​ชิง​จ้าน​อยู่​แทน

เมื่อ​นึกถึง​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​ทำ​ลง​ไป​เมื่อครู่นี้​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ได้​ถึง​ความหงุดหงิด​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ใจ

เด็กสาว​คน​นั้น​เห็น​เขามอ​บด​อก​ไม้​ให้​เด็กสาว​อีก​คน​ ​นาง​จะ​มิทำ​เหมือน​เขา​เป็นหนึ่ง​ใน​ชาย​เจ้าชู้​พวก​นั้น​หรือ

ไม่ได้​การ​!​ ​เขา​ต้อง​อธิบาย​ให้​นาง​เข้าใจ​!

“​ชิง​จ้าน​ ​รายงาน​ต่อ​”​ ​เด็กหนุ่ม​ละสายตา​กลับมา​ ​มือ​ของ​เขา​กำ​เข้าหา​กัน​แน่น​จน​ทิ้ง​รอย​รูป​พระจันทร์​เสี้ยว​ไว้​ใน​ฝ่ามือ​ ​เขา​เดิน​ตรง​ไป​ที่​ห้อง​พร้อมกับ​แผ่​บรรยากาศ​เย็นชา​ไม่แยแส​ออกมา​ ​และ​ไม่ยอม​ให้​ใคร​เข้าใกล้

หนา​นกง​เลี่ย​อยาก​ตาม​พวกเขา​ไป​ ​แต่​เขา​ก็​ถูก​องครักษ์​เงา​ขวางทาง​ไว้​เสียก่อน

“​หลีก​ไป​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​เอ่ย​เสียงต่ำ

เงา​ทมิฬ​หลุบ​ตาลง​ ​แต่​ไม่ได้​หลีกทาง​ให้​เขา​ ​“​นาย​น้อย​เลี่ย​ขอรับ​ ​ช่วงนี้​ฝ่า​บาท​อารมณ์ไม่ดี​ ​อย่า​ไป​ที่นั่น​เลย​ขอรับ​”

“​อารมณ์ไม่ดี​หรือ​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​หรี่​ตา​ ​และ​หัวเราะ​ขึ้น​ ​“​เพราะ​คุณหนู​จาก​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​หายตัว​ไป​อีกแล้ว​หรือ​”

เงา​ทมิฬ​ยังคง​เงียบ​ ​แล้ว​ชำเลือง​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

อันที่จริง​ฝ่า​บาท​ดูท่าทาง​หดหู่​มาต​ลอด​สอง​วัน

เขา​มักจะ​จม​อยู่​ใน​ภวังค์​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​และ​ยัง​ไม่​แม้แต่​จะ​ตั้งใจฟัง​การ​รายงาน​อีกด้วย

ยิ่ง​ตอนที่​เขา​กลับมา​จาก​วิหาร​บวงสรวง​เมื่อคืน​ ​เขา​ก็​เอาแต่​ขัง​ตัวเอง​เอาไว้​ใน​ห้อง​ทรง​อักษร​ตลอดทั้ง​คืน

เขา​เพียงแค่​นั่ง​อยู่​ที่นั่น​เงียบๆ​ ​ถือ​เสื้อคลุม​ขนสัตว์​ไว้​ใน​มือ​ ​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่

เงา​ทมิฬ​เคย​เห็น​ฝ่า​บาท​ใน​สภาพ​นี้​เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น

มัน​คือ​เมื่อ​แปด​ปี​ที่แล้ว​สมัย​ฝ่า​บาท​ยัง​เป็น​เด็ก​ ​เขา​ป่วย​อยู่​ในเวลานั้น​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​พยายาม​ตามหา​ผู้หญิง​คน​นี้​ราวกับ​คน​เสียสติ​ ​แม้กระทั่ง​ตอนที่​เขา​ไข้​ขึ้น​สูง​จน​นอนซม​อยู่​บน​เตียง​ ​เขา​ก็​ยัง​ขอร้อง​ ​ขอร้อง​ให้​นาง​อยู่​ต่อ​…

แต่​แม้​จะ​ค้นหา​ทั่วทั้ง​วัง​หลวง​ ​พวกเขา​ก็​ไม่​เจอ​ร่องรอย​ของ​ผู้หญิง​คน​นี้​เลย​แม้แต่น้อย

หลังจากนั้น​ฝ่า​บาท​ก็​เปลี่ยนไป

ดวงตา​ของ​เขา​ไร้​วิญญาณ

ในเวลานั้น​องค์​ชาย​ใหญ่​สิ้นพระชนม์​ไป​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​รู้สึก​ไม่พอใจ​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​ลงโทษ​ตระกูล​มู่​หรง​ ​กลับมา​หาเรื่อง​ฝ่า​บาท​แทน

นอกจากนั้น​ ​ทุกครั้งที่​ฝ่า​บาท​เสียมารยาท​ต่อ​ฮองเฮา​ ​นาง​ก็​จะ​จับ​เขา​ขัง​เอาไว้​ใน​กระท่อม​ไม้​สาม​วัน​สาม​คืน​โดย​ไม่ยอม​ให้​จิบ​แม้แต่​น้ำ​สัก​อึก

ทั้ง​เขา​และ​ปี้ลั​่ว​ขอร้อง​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ไม่เคย​มีโอกาส​ได้​เห็น​ฝ่า​บาท​แม้แต่​นิดเดียว

โชคดี​ที่​อดีต​ฮ่องเต้​กลับมา​ก่อนเวลา​ ​และ​ต่อว่า​ฮองเฮา​และ​ฮ่องเต้​เรื่อง​นั้น

แต่​ภายใน​เวลา​ไม่​ถึง​ปี​ ​ก็​มี​เหตุ​เพลิงไหม้​เกิดขึ้น​ใน​วัง​หลวง

ตั้งแต่​เหตุ​เพลิงไหม้​ครั้งนั้น​ ​ฝ่า​บาท​ก็​ไม่เคย​ออกจาก​ตำหนัก​ของ​ตัวเอง​อีก​เลย

หลังจากนั้น​ฝ่า​บาท​ก็​ดัน​ไป​พบ​กับ​คุณหนู​จาก​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​เข้า​โดยบังเอิญ

เขา​ไม่​เหมือนเดิม​อีกต่อไป​ ​เขา​ไม่ได้​โหดร้าย​กับ​ทุกคน​อีก

เขา​กลับกลาย​เป็น​คนที​่​สูงส่ง​และสง่า​งาม​ราวกับ​หยก​ ​และ​ยัง​เป็นผู้ใหญ่​ขึ้นรา​วกับ​เกิด​ใหม่​เป็น​คนละ​คน

ดูเหมือนว่า​ไม่มี​สิ่งใด​ที่จะ​สามารถ​กระตุ้น​คลื่น​อารมณ์​ของ​เขา​ได้​อีก

เว้น​ก็​แต่​ตอนที่​คุณหนู​คน​นั้น​หายตัว​ไป

เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ฝ่า​บาท​จะ​ทำ​เพียงแค่​ขมวดคิ้ว​ ​และ​ยังคง​เย็นชา​อยู่​เช่นนั้น

จนถึง​ตอนนี้​…​ ​ฝ่า​บาท​ดูเหมือน​คนที​่​สูญเสีย​การควบ​คุม​ไป​อีกแล้ว

“​ฝ่า​บาท​?​”​ ​ชิง​จ้าน​เอียง​ศีรษะ​ ​นาง​ไม่ใช่​คน​สอดรู้​ ​แต่​นาง​รายงาน​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ให้​เขา​ฟัง​มา​ได้​ครู่ใหญ่​แล้ว​ ​กระนั้น​ผู้​เป็น​นายก​็​ยัง​ทำท่า​เหมือน​ไม่ได้​ฟัง​ที่นาง​พูด​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

อันที่จริง​ ​ตั้งแต่​พวกเขา​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​ลืม​ไป​แล้วด้วย​ซ้ำ​ว่านา​งอยู​่​ที่นี่​

สีหน้า​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ตอนที่​นาง​รับ​ดอกไม้​จาก​หนา​นกง​เลี่ย​ยังคง​ฉาย​ซ้ำไปซ้ำมา​อยู่​ใน​หัว​ของ​เขา

นาง​ดู​มีความสุข​อย่างมาก

เขา​ไม่เคย​เห็น​รอยยิ้ม​เช่นนั้น​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​มาก​่อน​ ​มุม​ปากของ​นาง​ยกขึ้น​เล็กน้อย​ ​แม้​จะ​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​แต่​นาง​ก็​ยิ้ม​ออกมา​เพราะ​ความยินดี​อย่างแท้จริง

เขา​รู้สึก​เหมือน​มีน​้ำ​เย็นเฉียบ​อัด​แน่น​อยู่​เต็ม​หัวใจ​ ​มัน​ทำให้​เขา​หนาว​จน​ไม่รู้​สึก​อยาก​พูดคุย​กับ​ใคร​ทั้งสิ้น

มือ​ที่​กำ​อยู่​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​คลาย​ออก

ท้ายที่สุด​ ​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​ข่ม​ความรู้สึก​ของ​ตัวเอง​ได้​อีกต่อไป​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ใช้​กำปั้น​ของ​ตัวเอง​ต่อย​เข้ากับ​ผนัง​อย่างแรง

เสียงดัง​ปัง​ก้อง​สะท้อน​อยู่​ใน​อากาศ​!

เงา​ทมิฬ​รีบ​วิ่ง​เข้ามา​ทันที​ ​เขา​สังเกตเห็น​ว่า​มือขวา​ของ​เด็กหนุ่ม​มี​เลือด​ออก​ ​เขา​จึง​ตะโกน​ไป​ทาง​ชิง​จ้าน​อย่าง​ร้อนใจ​ว่า​ ​“​ไป​ตาม​หมอ​หลวง​มา​เร็ว​เข้า​!​”

“​ไม่จำเป็น​”​ ​ร่าง​สูง​เพรียว​ของ​เด็กหนุ่ม​ยืน​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​ ​และ​ปล่อย​ให้​เลือด​หยด​ลงมา​ระหว่าง​นิ้ว​ ​“​ชิง​จ้าน​ ​ข้ามี​บางอย่าง​จะ​บอก​เจ้า​…​”

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท