ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 641 ประนีประนอม (ปลาย)

ตอนที่ 641 ประนีประนอม (ปลาย)

ทั้งๆ​ ​ที่​เขา​พูด​ออกมา​ว่า​กลัว​แล้ว​แท้ๆ​ ​แต่​เหตุใด​ท่าน​แม่​ยัง​จะ​ให้​เขา​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อีก

“​ท่าน​แม่​…​”​ ​จิ​่น​เกอ​เบิกตา​กว้าง​พลาง​เม้มปาก​แน่น

จู่ๆ​ ​ด้านนอก​ก็​ไม่มี​เสียง​เคลื่อนไหว​ใดๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​วางมือ​ลง​บน​ลาย​สลัก​น้ำแข็ง​ของ​ประตู​เก๋อ​ซ่าน

สอง​แม่​ลูก​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ด้านใน​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ด้านนอก​ ​ทั้งสอง​กำลัง​ยืน​อยู่​ตรงข้าม​กัน​โดยที่​ขั้น​กลาง​เพียง​บานประตู​เก๋อ​ซ่าน​เท่านั้น

ซ่า​ๆ​ ​สายฝน​ถูก​ลมพายุ​พัดกระหน่ำ​ลงมา​ ​ราวกับ​เสียง​เกลียวคลื่น​ทะเล​ที่​ซัด​เข้า​ฝั่ง​ลูก​แล้ว​ลูก​เล่า​ ​กิ่งไม้​ใน​สวน​โยกโคลง​ไปมา​ไม่​หยุด​ ​เสียง​ลม​หวีดหวิว​ท่ามกลาง​ความมืด​มิด​ยามค่ำคืน​ ​น่ากลัว​จับใจ

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​!​”​ ​ความกลัว​ที่​ปะทุ​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ ​พลอย​ทำให้​จิ​่น​เกอ​ไม่​สามารถ​ที่จะ​สนใจ​อะไร​ได้มา​กก​ว่านี​้​ ​เขา​ทุบ​บานประตู​อย่าง​สุดกำลัง​ ​“​ข้า​จะ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​ ​ข้า​จะ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​ขอรับ​…​”​ ​เขา​พูดโพล่ง​ออกมา​พร้อมกับ​ร้องไห้​เสียงดัง​ลั่น

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​เพิ่งจะ​สังเกตเห็น​ว่า​ทั้งตัว​ของ​นาง​เปียกชุ่ม​ไป​ด้วย​เหงื่อ​ ​เนื้อตัว​ปวดเมื่อย​ไป​หมด​ ​ราวกับว่า​ไป​เดิน​ขึ้น​เขา​มา

จากนั้น​นาง​ก็​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ ​เปิด​ประตูออก​มาด​้ว​ยสี​หน้า​ท่าที​ที่​สุขุม​และ​หนักแน่น

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เงา​เล็ก​ๆ​ ​ที่​คุ้นเคย​พุ่งตรง​เข้ามา​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​ ​“​ท่าน​แม่​…​”​ ​จิ​่น​เกอ​กอด​คอ​ของ​มารดา​แน่น​ ​ก่อน​จะ​ร้องไห้​เสียงดัง​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​กอด​ร่างกาย​น้อย​ๆ​ ​ของ​เขา​แนบแน่น

หู่​พั่ว​เห็น​แล้วก็​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​นาง​เช็ดน้ำ​ตา​พลาง​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ ​“​จุดไฟ​ ​รีบ​จุดไฟ​เร็ว​เข้า​!​”

ด้านนอก​มีเสียง​โห่ร้อง​ด้วย​ความดีใจ

โคมไฟ​ใหญ่​สีแดง​ค่อยๆ​ ​สว่าง​ขึ้น​ทีละ​ดวง​ ​ส่อง​ให้​เห็น​ใบหน้า​ที่​ดีใจ​ของ​เหล่า​บรรดา​บ่าว​รับใช้​ที่อยู่​ใน​เรือน

“​ต่อไป​เจ้า​อย่า​ทำ​เช่นนี้​อีก​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คลาย​อ้อมแขน​ออกจาก​จิ​่น​เกอ​ที่พึ่ง​จะ​หยุด​ร้องไห้​ไป

“​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​เม้มปาก​พลาง​พยักหน้า​ตอบ​ ​หยาดน้ำ​ตา​สะท้อน​กับ​แสงไฟ​เป็นประกาย​แวววาว

สือ​อี​เหนียง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ

หู่​พั่ว​ยก​ถาด​สีดำ​เงา​ลาย​ดอก​ไห่​ถัง​สีทอง​เข้ามา​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​น้ำ​ขิง​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ห้อง​ชำระ​เตรียม​น้ำร้อน​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​หันไป​พยักหน้า​ให้​กับ​หู่​พั่ว​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ป้อน​น้ำ​ขิง​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​“​อาบน้ำ​เสร็จ​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​เรา​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​กัน​”

จิ​่น​เกอ​หิว​จน​ท้องร้อง​ ​จ๊อก​ๆ​ ​แต่​เขา​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ออกมา​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​รีบ​พยักหน้า​ตอบกลับ​มารดา​อย่าง​เชื่อฟัง

สือ​อี​เหนียง​หันไป​เรียก​หง​เหวิ​นกั​บอา​จิน​เข้ามา​ปรนนิบัติ​จิ​่น​เกอ​อาบน้ำ

จู๋​เซียง​เดิน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​ส่ง​คน​ไป​เรียน​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​โหว​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​อาหารค่ำ​ก็​จัดเตรียม​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​สามารถ​ทาน​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​เตรียม​อาหารค่ำ​ให้ท่าน​โหวกับ​ไท่ฮู​หยิน​ทาน​ก่อน​ก็แล้วกัน​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​ข้า​และ​คุณชาย​น้อย​หก​จะ​ไป​กล่าว​คำขอโทษ​อาจารย์​ผัง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับมา​ทาน​”

จู๋​เซียง​รีบ​ไป​ที่​ห้อง​ตำรา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม

“​ข้าว​่า​แล้ว​เชียว​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​ใช่​ว่า​จะ​เป็น​คนที​่​คุย​ด้วย​ไม่รู้​เรื่อง​เสียหน่อย​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​เสียง​ฝนตก​ที่​น่ากลัว​เมื่อครู่นี้​พลัน​ฟัง​ดู​ไพเราะ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​พวกเรา​ก็​ไปดู​เสียหน่อย​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

ป้า​ตู้​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​แล้ว​มื้อ​ค่ำ​เล่า​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​ประคอง​แขน​อีก​ข้าง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ด้านนอก​ฝนตก​หนัก​จน​พื้น​ลื่น​ไป​หมด​ ​ระวัง​จะ​หกล้ม​เอา​ได้​ ​ให้​ข้า​ไปเป็นเพื่อน​ท่าน​แม่​ดีกว่า​ขอรับ​”

เขา​เอง​ก็​คงจะ​เป็นห่วง​ไม่น้อย​ไป​กว่า​ตน​กระมัง

ไท่ฮู​หยิน​จึง​ยิ้ม​พลาง​หันไป​สั่ง​กับ​ป้า​ตู้​ว่า​ ​“​อาหาร​มื้อ​ค่ำ​ก็​ไป​ตั้ง​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็แล้วกัน​ ​จะ​ได้​ทานพร​้​อม​กับ​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ ​เขา​ถูก​ลงโทษ​หนัก​ขนาด​นี้​ ​ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​จะ​เสียใจ​แค่ไหน​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​ก็​ปล่อย​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​ประคอง​ออก​นอก​เรือน​ไป

หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​กำลัง​พากัน​จัดระเบียบ​ข้าวของ​ใน​เรือน​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​เคลื่อนไหว​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ ​ก็​พากั​นรี​บอ​อก​มาต​้อ​นรั​บทั​นที​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​พา​คุณชาย​น้อย​หก​ไป​ที่​เรือน​ของ​อาจารย์​ผัง​เจ้าค่ะ​”

ทั้งสอง​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็​หันมา​สบตา​กัน​ด้วย​ความแปลกใจ

“​ไม่จำเป็น​ต้อง​รีบร้อน​ขนาด​นั้น​กระมัง​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ทอดสายตา​มอง​ไป​ยัง​สายฝน​ที่​ยังคง​โปรยปราย​อยู่​นอก​หน้าต่าง

สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​เหตุการณ์​ระหว่าง​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ที่เกิด​ขึ้น​เมื่อครู่นี้​ขึ้น​มา​ ​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรื่อง​วันนี้​ ​ก็​จัดการ​ให้​เสร็จ​เสียวั​นนี​้​ ​จะ​ได้​จบเรื่อง​เร็ว​ๆ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​เลย​ไม่​ถามถึง​เรื่อง​นี้​ต่อ​ ​จากนั้น​ก็​ให้​หู่​พั่ว​ประคอง​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​ ​แล้วจึง​ถามถึง​สถานการณ์​ของ​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​…​เมื่อครู่นี้​เขา​จาม​หรือไม่​ ​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือเปล่า​”

“​เปล่า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ยก​ถ้วย​น้ำชา​มา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“ฮู​หยิน​เอง​ก็​กลัว​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​จะ​เป็นหวัด​ ​ก็​เลย​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​แช่น้ำ​ร้อน​ก่อน​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

ทั้งสอง​พูดคุย​กันต​่อ​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​คอย​เงี่ยหู​ฟัง​อยู่​ข้างๆ​ ​ตลอด​การ​สนทนา

*****

“ฮู​หยิน​!​”​ ​อาจารย์​ผัง​จ้องมอง​สตรีที​่​ยืน​อยู่​เบื้องหน้า​ที่​ทั้ง​สวย​สง่างาม​และ​ดู​มี​ความมั่นใจ​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​แดงก่ำ​ขึ้น​มา​ ​“​ไม่เป็นไร​ขอรับ​ ​คุณชาย​น้อย​หก​เอง​ก็​ไม่ได้ตั้งใจ​!​”​ ​ท่าที​ของ​เขา​ดู​ลนลาน​และ​ทำตัว​ไม่​ถูก​อย่างเห็นได้ชัด​ ​“​อีก​อย่าง​ท่าน​โหว​ ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า​ต่าง​ก็ได้​มอบ​ค่ายา​รักษา​ให้​ข้า​เรียบร้อย​แล้ว​”

“​ค่ายา​รักษา​ก็​ส่วน​ค่ายา​รักษา​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไพเราะ​น่าฟัง​ ​น้ำเสียง​ไม่​สูง​ ​ไม่​ต่ำ​ ​ไม่​ช้า​และ​ไม่​เร็ว​จน​เกินไป​ ​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​สบายใจ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​“​เขา​เอง​ได้​กระทำความผิด​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ควรจะ​ต้อง​มาก​ล่าว​ขอโทษ​กับ​อาจารย์​ผัง​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันไป​ส่งสายตา​ให้กำลังใจ​จิ​่น​เกอ

จิ​่น​เกอ​หันไป​มอง​ใบหน้า​ที่​ค่อนข้าง​หยาบกร้าน​ของ​อาจารย์​ผัง​ ​มือ​ทั้งสอง​ของ​เขา​กำ​แน่น​ ​มุม​ปาก​เม้ม​เป็น​เส้นตรง​ ​ผ่าน​ไป​นานสองนาน​ก็​ยัง​ไม่ยอม​เปิดปาก​พูด

ลูกศิษย์​ที่​เป็น​ทายาท​ตระกูล​สูงศักดิ์​เช่น​เขา​ ​เคย​ก้มหัว​ให้​ผู้อื่น​เสียที​่​ไหน​กัน​ ​ผู้หลักผู้ใหญ่​ใน​บ้าน​ยอม​ลด​ศักดิ์ศรี​พา​เด็ก​มาก​ล่าว​ขอโทษ​ ​ถือเป็น​การ​ให้เกียรติ​เขา​มาก​พอแล้ว​ ​เขา​ควรจะ​ต้อง​รู้ดี​ชั่ว​และ​การประมาณ​ตน​ ​รู้จัก​ความ​ตื้นลึกหนาบาง​ถึง​จะ​ถูก​!

ภายใต้​ความหยาบ​ของ​อาจารย์​ผัง​มี​ความละเอียดอ่อน​ซ่อน​อยู่​ ​เขา​รีบ​เดิน​เข้าไป​โอบ​ไหล่​ของ​จิ​่น​เกอ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​เจตนา​ของ​เจ้า​อาจารย์​รับ​ไว้​แล้ว​ ​ทำผิด​แล้ว​รู้จัก​แก้ไข​คือ​บุรุษ​ที่​กล้าหาญ​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​คิด​อยาก​จะ​ให้​คำพูด​ที่​พูด​ออกมา​นั้น​ฟัง​ดู​มีชีวิตชีวา​มากขึ้น​ ​ก็​เลย​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ขอ​เพียงแค่​พรุ่งนี้​เจ้า​มาที​่​เรือน​ซิ่ว​มู่​ให้​เร็ว​หน่อย​ก็​พอ​!​ ​วันนี้​เจ้า​ไม่อยู่​ ​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่​ดู​เงียบเหงา​ไป​หมด​!​”​ ​อาจารย์​ผัง​ช่วย​จิ​่น​เกอ​คลี่คลาย​สถานการณ์

จิ​่น​เกอ​จึง​ค่อย​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​กลับ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​อาจารย์​ผัง​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ถูก​บิดา​ของ​เขา​ลงโทษ​กักบริเวณ​ ​อีก​สอง​วัน​จึง​จะ​มาเรียน​ได้​!​”

อาจารย์​ผัง​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

ทั้ง​ชดเชย​ค่ายา​รักษา​ ​ทั้ง​ลงโทษ​กักบริเวณ​และ​ยัง​มาก​ล่าว​ขอโทษ​อีก​…​ดูท่า​แล้ว​ ​ลูกหลาน​จวน​สกุล​สวี​คงจะ​ถูก​อบรมสั่งสอน​และ​เลี้ยงดู​อย่างเข้มงวด​เป็น​แน​้​แท้​!

“​เช่นนี้​ก็​แสดงว่า​อีก​สอง​วัน​พวก​ข้า​ถึง​จะ​ได้​เจอ​หน้า​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ

จิ​่น​เกอ​ไม่กล้า​ชักช้า​อีกต่อไป​ ​เขา​ฝืน​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​อาจารย์​ ​สิ่ง​ที่​ข้า​ทำ​ไป​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​ถูกต้อง​ ​ต่อไป​ข้า​จะ​ไม่​ทำ​อีกแล้ว​ขอรับ​!​”​ ​น้ำเสียง​แผ่วเบา​ ​แต่​ท้ายที่สุด​ก็ได้​พูด​มัน​ออก​ไป

“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​!​”​ ​อาจารย์​ผัง​รีบ​โบกมือ​ให้​กับ​เขา​ ​“​ข้า​ไม่ได้​เป็น​อะไร​เสียหน่อย​ ​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​!​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​เอง​ก็​เป็น​คน​ชัดเจน​และ​ตรงไปตรงมา​ ​เรา​คุย​กัน​เข้าใจ​แล้ว​ ​ต่อไป​ภายภาคหน้า​ก็​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​ ​มิเช่นนั้น​ข้า​จะ​โกรธ​จริงๆ​ ​ด้วย​!​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​ทำ​สีหน้า​ท่าที​โมโห​ขึ้น​มา

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​สีหน้า​ดีขึ้น​ไม่น้อย

สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ต่อไป​ภายภาคหน้า​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​ก็​รบกวน​ท่าน​อาจารย์​ผัง​แล้ว​ ​หาก​เขา​ยัง​กล้า​เกเร​อีก​ ​ท่าน​ก็​ให้​บ่าว​รับใช้​มาแจ้ง​เรื่อง​ให้​ข้า​ทราบ​ก็​พอ​”​ ​จากนั้น​ก็​จูงมือ​ของ​จิ​่น​เกอ​กลับ​เรือน​ไป

สายฝน​เบา​ลง​กว่า​เมื่อครู่นี้​มาก​ ​น้ำฝน​ชะล้าง​พื้น​หิน​กรวด​จน​สะอาดหมดจด​ ​เมื่อ​แสง​ของ​โคมไฟ​ใหญ่​สีแดง​สาด​กระทบ​ลง​บน​แผ่นหิน​ ​พลอย​ทำให้​พื้น​หิน​กรวด​เป็นเงา​แวววาว​อย่างเห็นได้ชัด

สือ​อี​เหนียง​และ​จิ​่น​เกอ​กำลัง​เดิน​ไป​ตาม​ระเบียง​ทางเดิน​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ชั้นใน

“​ได้​กล่าว​คำขอโทษ​ออก​ไป​แล้ว​ ​ไม่ได้​ยาก​อย่างที่​คิด​เอาไว้​ใช่​หรือไม่​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​หันไป​ถาม​จิ​่น​เกอ​ ​“​อาจารย์​ผัง​เอง​ก็​ไม่ได้​โกรธ​เจ้า​เลย​”

เขา​นึกถึง​ความรู้สึก​ทรมาน​ตอนที่​คำพูด​ติด​อยู่​ที่​คอ​ ​และ​ความ​โล่งใจ​ตอนที่​ได้​พูด​มัน​ออก​ไป​แล้ว​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​ค่อนข้าง​รู้สึก​เก้อเขิน​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ​พร้อมกับ​ขานรับ​เบา​ๆ​ ​“​ขอรับ​”

หลังจากที่​เขา​ได้​ยอมจำนน​ต่อ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ ​ก็​เอาแต่​ขลาดกลัว​อยู่​ตลอดเวลา

สือ​อี​เหนียง​จึง​รู้สึก​ว่า​ไม่​ควร​ที่จะ​เข้มงวด​กับ​เขา​มากเกินไป

นาง​จึง​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​กอด​บุตรชาย​ด้วย​ความ​สนิทสนม​เหมือน​อย่างเช่น​เคย​ ​“​การกระทำ​ของ​เจ้า​เมื่อครู่นี้​ ​แม่​รู้สึก​ภูมิใจ​ใน​ตัว​เจ้า​เป็นอย่างมาก​!​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​ไม่​มั่นใจ

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ให้​เขา​เบา​ๆ​ ​ด้วย​รอยยิ้ม

จิ​่น​เกอ​เห็น​แล้วก็​ค่อยๆ​ ​ฉีก​ยิ้ม​ขึ้น​ที่​มุม​ปาก​ ​แววตา​ของ​เขา​กลับมา​มีชีวิตชีวา​อีกครั้ง

“​ทุกคน​ต่าง​ก็​เคย​กระทำความผิด​ทั้งนั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จูงมือ​ของ​เขา​แล้ว​เดิน​ต่อ​ ​“​หาก​เรา​กระทำความผิด​ ​ก็​แค่​ต้อง​แก้ไข​มัน​ก็​เท่านั้น​…​”

แสงไฟ​ยาม​พลบค่ำ​ส่อง​กระทบ​ลง​บน​ร่างกาย​ของ​ทั้งสอง​ ​ทำให้เกิด​เป็นเงา​ที่​ยาวเหยียด

เหล่า​บรรดา​สาวใช้​คอย​เดินตาม​ด้านหลัง​อยู่ห่างๆ​ ​ราวกับว่า​กลัว​จะ​เหยียบ​โดน​เงา​ของ​ทั้งสอง​คน

*****

วัน​ถัดมา​ ​เรื่อง​ที่​จิ​่น​เกอ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​ก็​แพร่กระจาย​ไป​ทั้ง​จวน​สกุล​สวี

สวนป่า​เพิ่งจะ​โดน​ฝน​ไป​ ​ต้นไม้ใบหญ้า​จึง​เปียกชื้น​ไป​หมด

เซิน​เกอ​กำลัง​เหยียบ​หลัง​ของ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ซุ่ม​ตัว​อยู่​หลัง​พุ่มไม้​ข้าง​ฉลุ​บานหน้าต่าง​ของ​จิ​่น​เกอ​พลาง​โยน​ก้อนหิน​ไป​ที่​หน้าต่าง​เบา​ๆ

ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ไม่มี​อะไร​เคลื่อนไหว​แม้แต่​นิดเดียว

“​น่าแปลก​!​”​ ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ของ​เซิน​เกอ​ช่วย​ประคอง​เขา​ลงมา​จาก​หลัง​ ​“​หรือว่า​พี่​หก​จะ​โดน​ตี​จน​กลัว​ไป​แล้ว​”

บ่าว​รับใช้​ชาย​ที่​กำลัง​ช่วย​ประคอง​เขา​อยู่​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ถูก​ลงโทษ​กักบริเวณ​มิใช่​หรือ​ ​ไม่แน่​บางที​ใน​เรือน​ของ​เขา​อาจจะ​มี​คนอื่น​อยู่​ด้วย​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​เลย​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ตอบกลับ​กระมัง​ขอรับ​!​”

จู่ๆ​ ​เซิน​เกอ​ก็​เหมือน​จะ​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ ​“​หรือ​ท่าน​ลุง​สี่​จะ​อยู่​ใน​เรือน​ของ​เขา​ด้วย​ ​ไม่​สิ​ ​ท่าน​ลุง​สี่​กับ​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ไป​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ที่อยู่​ข้าง​จวน​เรา​แล้ว​นี่​นา​…​หรือว่า​จะ​เป็น​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สี่​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​“​ไป​กัน​ ​เรา​ไป​เล่น​ที่​เรือน​ของ​พี่​หก​กัน​เถิด​…​”

“​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​…​”​ ​บ่าว​รับใช้​ทั้งสอง​รีบ​ห้าม​เขา​ทันที​ ​“​หากว่าฮู​หยิน​สี่​ไป​บอก​เรื่อง​นี้​กับฮู​หยิน​ห้า​แล้ว​ล่ะ​ก็​…​”

พวกเขา​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​หนี​ออกมา​จาก​เรือน​ทั้งนั้น

“​ไม่​หรอก​!​”​ ​เซิน​เกอ​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สี่​ไม่ใช่​คน​แบบ​นั้น​เสียหน่อย​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​พลาง​เดิน​เข้าไป​ที่​เรือน​ชั้นใน​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สี่​เป็น​คนดี​ที่สุด​แล้ว​ ​ใน​เรือน​ก็​มี​ของกิน​อร่อย​มากมาย​!​ ​หาก​พวกเรา​ไป​แล้ว​จะ​ต้อง​มี​ขนม​วัว​ซือ​ถัง​กับ​ขนม​กุหลาบ​อย่างแน่นอน​…​”

บ่าว​รับใช้​ชาย​ทั้งสอง​ไม่กล้า​ชักช้า​ ​รีบ​ขานรับ​พร้อมกับ​วิ่ง​ตาม​ไป​ทันที

บรรยากาศ​ลาน​สวน​หลัง​ฝนตก​ ​ต้นไม้ใบหญ้า​เขียวชอุ่ม​ชุ่มชื่น​ ​ใบไม้​และ​ต้น​หญ้า​มันวาว​สะอาดสะอ้าน​ ​อากาศ​ฟุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่น​หญ้า​อ่อน​ๆ

“​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​!​”​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​เจอ​เขา​ต่าง​ก็​พากัน​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​หลีกทาง​ให้​เขา​ทันที

เซิน​เกอ​ไม่ได้​ชายตามอง​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เขา​มุ่ง​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ปีก​ของ​จิ​่น​เกอ

อาจิน​เห็น​แล้วก็​รีบ​ส่งสายตา​ให้​เขา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สี่​กำลัง​เฝ้า​คุณชาย​น้อย​หก​อยู่​ใน​เรือน​เจ้าค่ะ​!​”

เป็น​เพราะ​นาง​ไม่ใช่​ท่าน​ลุง​สี่​ ​เซิน​เกอ​จึง​ไม่รู้​สึก​กลัว​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เขา​ยิ้ม​ก่อน​จะ​บุกเข้าไป​ใน​เรือน​ทันที

บรรยากาศ​ใน​เรือน​เงียบสงบ​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​นั่ง​ปัก​ผ้า​อยู่​ริม​เตียง​เตา​ใหญ่​ ​ส่วน​จิ​่น​เกอ​กำลัง​คัด​อักษร​อยู่​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา

เมื่อ​เจอ​หน้า​เซิน​เกอ​ ​ใบหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ก็​ปรากฏ​สีหน้า​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที

“​น้อง​เจ็ด​!​”​ ​จู่ๆ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​อุทาน​ออกมา​เสียงดัง​ ​แต่​พึ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​มือ​ทั้งสอง​ของ​เซิน​เกอ​ถูก​พัน​ไป​ด้วย​ผ้าพันแผล​สีขาว​อย่าง​แน่นหนา​ ​เขา​จึง​รีบ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​นี่​มัน​…​”

“​อ้อ​!​”​ ​เซิน​เกอ​ยิ้ม​แล้ว​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ข้า​ถูก​ท่าน​แม่​ตี​!​”

เซิน​เกอ​เอง​ก็​ถูก​ตี​เพราะ​อาจารย์​ผัง​หรือ

จิ​่น​เกอ​ฉีก​ยิ้ม​อยาก​จะ​หัวเราะ​ ​แต่​เมื่อ​เหลือบ​ไป​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​ตัดสินใจ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ตามเดิม​ ​“​ข้า​…​ข้า​ยัง​มีตั​วอั​กษร​ที่​ต้อง​คัด​อีก​สองหน้า​ ​เจ้า​รอ​ข้า​ประเดี๋ยว​!​”

ท่าน​แม่​เคย​บอก​ไว้​ ​ไม่ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ก็​จะ​ต้อง​มี​ความตั้งใจ​และ​ความมุ่งมั่น​มานะ​ ​เวลาเริ่ม​ต้น​ทำ​อะไร​แล้วก็​ไม่​ควร​ละทิ้ง​กลางทาง​ง่ายๆ​ ​หาก​เป็น​เมื่อก่อน​เวลา​ที่​เซิน​เกอ​มาหา​ ​ตน​ก็​จะ​ไป​เล่น​กับ​เซิน​เกอ​ก่อน​ ​พอ​เล่น​จน​เหนื่อย​แล้วก็​ค่อย​กลับมา​คัดตัว​อักษร​ต่อ​ ​แต่​ตอนนี้​…​เขา​กลับ​ไม่กล้า​ออก​ไป​เล่น​เลย​แม้แต่น้อย

สือ​อี​เหนียง​รู้เรื่อง​ที่​เซิน​เกอ​ถูก​ตี​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ ​ยัง​ไป​เยี่ยม​เขา​ด้วยตัวเอง​เสียด​้วย​ซ้ำ

“​เซิน​เกอ​มา​แล้ว​หรือ​!​”​ ​นาง​ทักทาย​เขา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​ไป​นั่ง​ทาน​ขนม​และ​ผลไม้​ที่​ห้องโถง​ก่อน​ ​รอ​พี่​หก​คัดตัว​อักษร​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ค่อย​ไป​เล่น​กับ​เจ้า​ดี​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​พึงพอใจ​กับ​การแสดงออก​ของ​จิ​่น​เกอ​เป็นอย่างมาก

ที่ผ่านมา​นาง​มักจะ​ให้​เขา​เขียน​การบ้าน​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​ไป​เล่น​เสมอ​ ​และ​นาง​ต้อง​เป็น​คน​เฝ้า​เอง​ถึง​จะ​เอาอยู่​ ​ตอนนี้​เขา​สามารถ​ควบคุม​อารมณ์​จิตใจ​ของ​ตัวเอง​ได้​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​ด้วย​เหตุผล​ใด​ก็ตาม​ ​ถือว่า​ก้าวหน้า​ไม่น้อย​เลย​ทีเดียว​!

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท