บทที่ 617 ไม่หลั่งเลือดเสียบ้าง ผู้คนไฉนเลยจะตระหนักถึงความดีของข้า?
พระพุทธรูปเปล่งแสง เจิดจ้าดุจดวงอาทิตย์ ส่องสะท้อนไปทั่วดินแดนฝอ
พระพุทธรูปทองคำของพระอมิตาภะพุทธเจ้าตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างฟ้าดิน รัศมีพระพุทธทรงกลดมากมายปกคลุมอยู่ด้านหลัง ประหนึ่งว่ามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่ปาน ไม่เหมือนเป็นเพียงพระพุทธรูปทองคำสักนิด มองเห็นกันทั่วทั้งดินแดนฝอ
“อามิตาพุทธ!”
“ข้าพระพุทธมีเมตตา!”
หลังสิ่งมีชีวิตดินแดนฝอได้เห็นพระพุทธรูปทองคำของพระอมิตาภะพุทธเจ้า ต่างประนมมือโดยไม่ลังเล ปากบริกรรมอามิตาพุทธ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ใดล้วนอยู่ในท่าทางเช่นนั้น
ความศรัทธาที่มีต่อพระอมิตาภะพุทธเจ้าในดินแดนฝอนั้นมิอาจสั่นคลอน สิ่งมีชีวิตทั้งปวงในดินแดนฝอล้วนศรัทธาต่อพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ในสถานการณ์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พลังหลายสายทะยานขึ้นจากทั่วทุกสารทิศในดินแดนฝอ หลอมรวมเข้าด้วยกันประดุจมหาสมุทร แล้วหลั่งไหลเข้าไปในพระพุทธรูปทองคำของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ทันใดนั้น ประกายจากพระพุทธรูปทองคำของพระอมิตาภะพุทธเจ้าก็สว่างไสวขึ้นอีกหลายเท่า รัศมีพระพุทธทรงกลดที่ปกคลุมอยู่ด้านหลังก็ขยายตัวอีกหลายเท่า ใหญ่คับจนท้องฟ้าแทบแตก!
พลังที่ทะยานหลอมรวมจากทั่วทุกสารทิศนี้ คือพลังความศรัทธาที่สิ่งมีชีวิตในดินแดนฝอมีต่อพระอมิตาภะพุทธเจ้า
“เก่งพอตัวจริง ๆ สมกับเป็นผู้สรรค์สร้างพลังความศรัทธา ทั้งที่เป็นเพียงพระพุทธรูปทองคำ กลับมีบารมีเทียบเท่าเทียนตี้!”
เซียวฮุ่ยเอ่ยเสียงเบา ชื่นชมต่อพลังที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าแสดงให้เห็น นี่เป็นเพียงพระพุทธรูปทองคำเท่านั้น หลังได้รับการเสริมพลังด้วยพลังความศรัทธา กลับมีบารมีเทียบเท่าเทียนตี้ ซ้ำยังอาจต่อสู้กับเทียนตี้สูงสุดได้ด้วย
นับว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ล้ำเลิศอย่างมาก
ต้องรู้ว่า สภาพแวดล้อมในยุคสมัยนี้เลวร้ายเพียงใด สสารฝึกฝนชั้นสูงแทบไม่มีอยู่ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการก่อกำเนิดกำลังรบระดับเทียนตี้สูงสุด กระทั่งกำลังรบมหาจักรพรรดิยังถือกำเนิดได้ยากมาก แทบเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
พระพุทธรูปทองคำรูปหนึ่งกลับมีกำลังรบที่สามารถต่อสู้กับเทียนตี้สูงสุดได้ พระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ
“น่าเสียดาย เจ้ายังไม่พ้นจากความโง่เขลา”
นางสั่นศีรษะ มิได้ชื่นชมสิ่งที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าแสดงให้เห็นอีกต่อไป หากแต่แฝงไว้ด้วยความดูแคลน
หลักธรรมความศรัทธาเช่นนี้ สมควรเผยแผ่ออกไปในวงกว้างถึงจะถูก พระอมิตาภะพุทธเจ้ากลับปิดกั้นตนเอง ห้ามมิให้สาวกพุทธศาสนาออกเผยแผ่พระธรรมนอกดินแดนฝอ พร้อมเอ่ยว่าสามพันวิถี สมควรเบ่งบานไปด้วยกัน กึกก้องกันถ้วนหน้า มิควรโดดเด่นแต่เพียงผู้เดียว
โง่เขลานัก!
ในสายตาของนาง การแข็งแกร่งขึ้นต่างหากคือความถูกต้อง เผยแผ่พลังความศรัทธาให้เจริญรุ่งเรือง เป็นที่ศรัทธาของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในใต้หล้าถึงจะถูก!
หากว่าพุทธศาสนาไม่ปิดกั้นตนเอง พลังความศรัทธาของพระอมิตาภะพุทธเจ้าคงขยายวงกว้างไปทั่วทั้งอาณาจักร พลังความศรัทธานี้ทรงอำนาจยิ่งนัก ได้รับประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย มีศักยภาพให้พัฒนามหาศาล ท่ามกลางอารยธรรมฝึกตนที่ตกต่ำลงนี้ ต้องบดขยี้วิชาฝึกฝนอื่นได้แน่นอน
พระอมิตาภะพุทธเจ้ามีโอกาสบรรลุขอบเขตได้สูงกว่านี้!
“อามิตาพุทธ!”
มีเสียงดังออกจากพระพุทธรูป ‘ญาณ’ ภายในตื่นขึ้น มันก่อกำเนิดจิตสำนึกออกมาได้นานแล้ว ทว่ามันมิเคยออกมากระทำการใด พระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่อยู่แล้ว มันจึงรับภาระหน้าที่หล่อเลี้ยงคืน ช่วยให้สิ่งมีชีวิตอันเป็นสาวกของพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้รับผลประโยชน์
หากมิใช่ว่ามีมันอยู่ ความสัมพันธ์ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์เช่นนี้คงขาดไปนานแล้ว
นี่ก็เป็นบ่วงกรรมอย่างหนึ่ง
พลังความศรัทธาจากทุกคนช่วยให้มันถือกำเนิด และมันก็คืนการหล่อเลี้ยงสู่ปวงชน!
“ข้าต้องการให้เจ้าเจิดจรัส ปฏิบัติหน้าที่สุดท้ายให้ดี”
เซียวฮุ่ยปริปาก “ข้าอยากให้เจ้าระเบิดพลังความศรัทธา ให้ดินแดนฝอต้องหลั่งเลือดกันบ้าง เปิดเผย ‘ความชั่วร้าย’ ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า”
นี่คือแผนของนาง
นางต้องการให้สิ่งมีชีวิตในดินแดนฝอได้เห็น ‘ความชั่วร้าย’ ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า แล้วนางค่อยลงมือ ปราบปรามพระอมิตาภะพุทธเจ้า เช่นนี้ นางก็จะกลายเป็น ‘ผู้กอบกู้’ ในสายตาสิ่งมีชีวิตดินแดนฝอทั้งหลาย ถึงครานั้น ความศรัทธาที่ปวงชนมีต่อพระอมิตาภะพุทธเจ้าก็จะพังทลาย จากนั้น นางเข้าแทนที่ และทุกคนก็จะหันมาศรัทธาในตัวนางแทน
“อามิตาพุทธ สีกาโปรดหยุดเพียงเท่านี้เถิด ข้าไม่มีทางทำเช่นนั้น”
พระพุทธรูปทองคำท่องพระนาม ปฏิเสธทันควัน
“เรื่องนั้นเจ้าไม่มีสิทธิ์ตัดสิน!”
เซียวฮุ่ยลงมือทันที ลำแสงนับล้านซึ่งเจิดจ้าแยงตายิ่งกว่าแสงพุทธะจากพระพุทธรูปทองคำพวยพุ่ง!
พระพุทธรูปทองคำฟาดฝ่ามือออกไป พลังความศรัทธานับคณาหลั่งไหล ถล่มใส่เซียวฮุ่ย
ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวฮุ่ย ทั้งหมดนี้ไร้ซึ่งประโยชน์!
เซียวฮุ่ยเป็นตัวตนเหนือเซียน ซ้ำยังเหนือกว่ามากด้วย เซียนสมบูรณ์เมื่ออยู่ต่อหน้านางยังสู้มิได้ นางคือจ้าวแห่งเซียนตนหนึ่ง!
ต่อให้นางในตอนนี้ยังมิได้ฟื้นขอบเขตพลังกลับมาเต็มที่ อยู่แค่ขั้นเทียนตี้ กระนั้นก็ไม่อาจสบประมาทพลังฝีมือของนางได้ นางทรงพลังเกินว่าที่พระพุทธรูปทองคำจะต้านทานได้ไหว!
นางสำแดงวิชาจ้าวแห่งเซียน แสงเซียนห้อมล้อม ระเบิดรัวในห้วงอากาศ คลื่นแสงซัดสาดระลอกแล้วระลอกเล่า แฝงไว้ด้วยพลังล้นฟ้า เข้ากำราบพระพุทธรูปทองคำทันที!
พุทธสาวกในเขาญาณทั้งหมดตกตะลึง หวาดผวาอยู่เต็มหัวใจ ซ้ำยังแทบไม่อยากเชื่อ
นี่มันมหาวิชาระดับไหนกัน พวกเขารู้สึกถึงความต้อยต่ำ ระดับของปรมัตถ์วิชาที่แสดงออกมานั้น มิใช่ระดับที่พวกเขาเข้าใจได้!
พระพุทธรูปทองคำปะทุแสงพุทธะที่รุนแรงยิ่งขึ้น หมายจะทลายสถานการณ์ที่ถูกปราบปราม ทว่าทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์ แสงพุทธะที่เพิ่งสว่างวาบถูกกำราบลงในพริบตา นั่นมิใช่พลังที่ต่อกรด้วยไหว!
สุดท้ายแล้ว มันเป็นเพียง ‘ญาณ’ ดวงหนึ่ง มิเคยฝึกฝนวิชาอาคมยิ่งใหญ่อันใด พลังที่เปล่งออกมาได้นั้นจึงมีจำกัด
หากมิใช่เช่นนั้น มันคงไม่พ่ายแพ้ย่อยยับปานนี้ อย่างน้อยก็ต้องดวลกับเซียวฮุ่ยได้สักสามสี่ยก
“สิ่งมีชีวิตนับล้านในดินแดนฝอมองอยู่ เริ่มการแสดงของเจ้าได้”
เซียวฮุ่ยเอ่ยปากเบา ๆ จิ้มนิ้วไปที่พระพุทธรูปทองคำของพระอมิตาภะพุทธเจ้า ลำแสงลำหนึ่งพวยพุ่งออกจากนิ้วของนาง เร็วทะลุขีดจำกัด!
พรวด!
พลังทั้งหมดของพระพุทธรูปทองคำถูกกำราบลง ลำแสงนั้นทิ่มแทงเข้าไปในหน้าผากพระพุทธรูปทองคำได้อย่างง่ายดาย
ชั่วพริบตานั้น พระพุทธรูปทองคำไม่มีแสงพุทธะสาดส่องออกมาอีก
‘ญาณ’ ด้านในอยู่ในการควบคุมของเซียวฮุ่ย!
ผ่านไปไม่นาน แสงพุทธะเอ่อล้นออกจากพระพุทธรูปทองคำอีกครั้ง ทว่าหนนี้ปราศจากความน่าเกรงขาม แต่แฝงไว้ด้วยความชั่วร้าย!
‘ญาณ’ ถูกควบคุม พลังความศรัทธาในเวลานี้มิได้หล่อเลี้ยงคืนอีกต่อไป เซียวฮุ่ยควบคุม ‘ญาณ’ ของพระพุทธรูปทองคำ และเริ่มดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง!
“อ๊าก ๆๆ!”
“อย่านะ!”
เสียงโหยหวนดังระงมไปทั่วดินแดนฝอ ปราณเลือนและขุมปราณชีวิตในตัวพวกเขาล้วนถูกพระพุทธรูปทองคำดูดกลืนไปอย่างรวดเร็ว!
หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาต้องตายกันหมด ไม่มีทางรอดได้เลย!
“หยุดเดี๋ยวนี้! พวกเจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่!?”
“พวกเจ้าต้องการยึดครองเขาญาณ ปกครองพุทธศาสนาหรือ อาตมายกให้พวกเจ้า ยกให้พวกเจ้าทั้งหมด พวกเจ้าอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกเลย!”
พระสังฆราช พระเวทโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์องค์อื่น ๆ ต่างน้ำตาไหลอาบ หวังให้เซียวฮุ่ยหยุดการกระทำ ไม่อาจทนเห็นสิ่งมีชีวิตมากมายในดินแดนฝอต้องจบชีวิตลงเพราะเหตุนี้
เซียวฮุ่ยยิ้มเย็น สีหน้าราบเรียบ “ไม่หลั่งเลือดบ้าง ย่อมไม่ประสบเคราะห์ภัยบ้าง ผู้คนไฉนเลยจะมองเห็น ‘ความเลว’ ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า แล้วไฉนเลยจะเห็นความดีของข้า นี่คือขั้นตอนที่จำเป็นต้องเกิดขึ้น”
นางเร่งความเร็ว ต้องการลงมืออย่างอดรนทนไม่ไหว
“ไสหัวไปเสียไอ้เวรตะไล!”
เวลานั้นเอง เสียงก่นด่าเสียงหนึ่งดังออกจากห้วงอากาศ มิติบิดเบี้ยว
ต้าเต๋อกลับมาแล้ว!