ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 646 ใกล้ชิดและห่างเหิน (กลาง)

ตอนที่ 646 ใกล้ชิดและห่างเหิน (กลาง)

“​ถาม​ท่าน​อา​ห้า​?​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยสี​หน้า​พลัน​กระอักกระอ่วน​ใจ​ ​“​แต่​เรา​แอบ​สืบ​เรื่อง​ใน​อดีต​ลับหลัง​ท่าน​พ่อ​เช่นนี้​…​เกรง​ว่า​ท่าน​อา​ห้า​คงจะ​ไม่​ช่วย​พวกเรา​!​”

ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​ ​ท่าน​อา​ห้า​ท่าที​เย็นชา​กับ​เขา​มาต​ลอด​ ​เขา​ไม่​มั่นใจ​ว่า​ท่าน​อา​ห้า​จะ​ช่วย​พวกเขา​ ​แต่​ท่าน​อา​ห้า​ใจดี​กับ​พี่​สี่​ ​หาก​พี่​สี่​เป็น​คน​ถาม​ ​มัน​อาจจะ​ไม่​เหมือนกัน​…

ในขณะที่​เขา​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แต่ว่า​เรา​จะ​ไป​ถาม​ตรงๆ​ ​ไม่ได้​ ​เรา​ต้องหา​ข้อง​อ้าง​ ​บอกว่า​เรา​บังเอิญ​ได้ยิน​เรื่อง​ของ​หลิ่ว​ฮุ่ย​ฟัง​และ​หลิ่ว​ขุย​สอง​พ่อ​ลูก​ ​ให้ท่า​นอา​ห้า​เล่าเรื่อง​ตอนนั้น​ให้​เรา​ฟัง​!​”​ ​เขา​ยิ่ง​พูด​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่าความ​คิด​ของ​ตัวเอง​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​”​ ​ท่าน​อา​ห้า​ชอบ​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​อยู่​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​เรา​ค่อยๆ​ ​ถาม​ ​ต้อง​ได้​เบาะแส​อะไร​แน่นอน​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ลาก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​“​เชื่อใจ​ข้า​เถิด​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดินตาม​หลัง​สวี​ซื่อ​จุน​ไป​ด้วย​ความลังเล​

สวี​ลิ่ง​ควน​ไม่อยู่​ที่​เรือน

“​พวก​เจ้า​มาหา​เขา​ทำไม​หรือ​”​ ฮู​หยิน​ห้า​บอก​ให้​สาวใช้​นำ​ลูก​พลับ​และ​ส้ม​เข้ามา​ต้อนรับ​พวกเขา​ ​“​เขา​จะ​กลับมา​ยาม​โหย​่ว​”

พวกเขา​สอง​คน​ผิดหวัง​

“​ได้ยิน​ว่า​พวกเรา​มี​หลานสาว​แล้ว​ ​ท่าน​ลุง​สาม​เชิญ​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ไปร​้​อง​งิ้ว​ ​เรา​เลย​มาถา​มท​่า​นอา​ห้าว​่า​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ขับร้อง​เพลง​อะไร​บ้าง​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูดคุย​กับฮู​หยิน​ห้า​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลา​

เดินผ่าน​ประตู​หลัง​ของ​เรือน​หลัก​ ​ก็​เห็น​สาวใช้​น้อย​สอง​คน​นั่งเล่น​พัน​ด้าย​อยู่​บน​บันได

“​หรือว่า​ ​เรา​ไปหา​ท่าน​แม่​ดี​?​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ ​“​รอ​ให้​ถึง​ยาม​โหย​่ว​แล้ว​ค่อย​ไป​ที่​เรือน​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​อีกครั้ง​”

แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

เขามอ​งดู​กิ่งไม้​สีเขียว​ที่​ยื่น​ออกมา​จาก​กำแพง​ ​ภาพ​สือ​อี​เหนียง​ที่​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ลอย​เข้ามา​ใน​หัว​ของ​เขา​ ​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​ที่​อ่อนโยน​ของ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​พูดว่า​ ​‘​เจี​้ย​เกอ​ ​ช้าๆ​ ​หน่อย​…​’

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ลัน​น้ำตา​คลอ​เบ้า

เขา​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูด​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​เรา​กลับ​ไปรอ​ที่​เรือน​ดีกว่า​ขอรับ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​เดินผ่าน​ประตู​หลัง​เรือน​หลัก​ไป

สาวใช้​น้อย​สอง​คน​รีบ​ลุกขึ้น​แล้ว​ตะโกน​เอ่ย​ทักทาย​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ใจลอย​

แต่​สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ให้​พวก​นาง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​เดินตาม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป

“​ข้า​คิด​ว่า​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​สนใจ​เรื่อง​นี้​”​ ​ช่วงนี้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​สังเกตเห็น​ความเจ็บปวด​และ​ทรมาน​ใจ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตลอด​ ​เขา​สงสาร​น้องชาย​คน​นี้​ของ​ตัวเอง​ ​“​ใน​สายตา​ของ​ทุกคน​ ​เจ้า​คือ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ไม่ว่า​อะไร​ ​แล้ว​ใคร​จะ​มีสิทธิ์​ว่า​อะไร​ ​สิ่ง​ที่​คนอื่น​พูด​ล้วนแต่​เป็น​แค่​ข่าวลือ​…​”

“​ข้า​รู้​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ขัดจังหวะ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​เศร้าโศก​ ​“​แต่​ข้า​ไม่สบายใจ​…​ยิ่ง​พวก​ท่าน​ดี​กับ​ข้ามาก​เท่าไร​ ​ข้า​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​มาก​เท่านั้น​…​”

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​ดังนั้น​สีหน้า​ก็​เปลี่ยนไป​ ​เขา​หยุด​เดิน​แล้ว​ยืน​เหม่อลอย​อยู่​ตรงนั้น

จู่ๆ​ ​คน​ข้างๆ​ ​ก็​หาย​ไป​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หันกลับ​มา​ ​“​เป็น​อะไร​ไป​…​”​ ​แต่กลับ​เห็น​ใบหน้า​ซีดเซียว​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​

เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​เพราะ​ตน​เสียมารยาท​ขัดจังหวะ​พี่​สี่​ ​พี่​สี่​เลย​โกรธ​ตน​อย่างนั้น​หรือ​ ​หรือว่า​ตน​เผลอ​พูด​อะไร​ที่​ทำให้​พี่​สี่​ไม่สบายใจ​?

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​รีบ​ปฏิเสธ​การคาด​เดา​ของ​ตัวเอง​ทันที

พี่​สี่​ไม่ใช่​คน​ใจแคบ​แบบ​นั้น​ ​แต่กลับ​เป็น​เขา​ที่ตั้ง​แต่​สงสัย​ตัวตน​ของ​ตัวเอง​ ​ก็​มักจะ​ชอบ​คิด​ฟุ้งซ่าน​…

“​พี่​สี่​ขอรับ​!​”​ ​เขา​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​สีหน้า​ที่​รู้สึก​ผิด

ราวกับ​ถูก​ฟ้าผ่า​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ตัวสั่น​เทา​ ​จากนั้น​ก็​คว้า​มือ​สวี​ซื่อ​เจี้ยวิ​่​งอ​อก​ไป​ยัง​ลาน​นอก

“​พี่​สี่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตกใจ

“​เจ้า​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ทั้งนั้น​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ตะโกน​เสียงดัง​ ​หน้าผาก​ของ​เขา​มี​เหงื่อ​ไหล​ซึม​ ​“​รีบ​กลับ​ไป​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​กัน​เถิด​”

พฤติกรรม​ที่​แปลก​ไป​ของ​เขา​ทำให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่กล้า​ถาม​อะไร​อีก​ ​รีบ​วิ่ง​ตาม​สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่สน​ใจ​บ่าว​รับใช้​ที่​ย่อเข่า​คำนับ​ตัวเอง​ ​เขา​ตะโกนเรียก​หวัง​ซู่​ ​จากนั้น​ก็​กระซิบกระซาบ​อะไร​กับ​หวัง​ซู่​แล้ว​ปิดประตู​เสียงดัง​

“​พี่​สี่​เป็น​อะไร​ไป​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยถา​มด​้วย​ความแปลกใจ

“​ไม่เป็นอะไร​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​นึกถึง​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ ​สายตา​ของ​เขา​มี​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“​เรา​อยู่​ใน​ห้อง​สักประเดี๋ยว​”​ ​จากนั้น​ก็​หา​หนังสือ​ยื่น​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เล่ม​หนึ่ง​ ​“​เจ้า​อ่านหนังสือ​รอสั​กป​ระ​เดี๋ยว​”​ ​แต่​ตัวเอง​กลับ​เดินไปเดินมา​รอบ​ห้อง​ด้วย​ท่าที​เป็นกังวล

ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะ​ทน​มอง​อยู่​ได้​เช่นไร​ ​เขา​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​สอง​สาม​ครั้ง​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​บอก​แค่​ให้​เขา​รอ​ ​เขา​จึง​ยกมือ​ขึ้น​มา​เท้าคาง​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​เดินไปเดินมา​รอบ​ห้อง​

เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​ก้านธูป​ ​หวัง​ซู่​ก็​มา​เคาะ​ประตู

สวี​ซื่อ​จุน​เดิน​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​เขา​ก็​กลับมา

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยลุก​ขึ้น​แล้ว​ถาม​เขา​ ​“​เกิด​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ขอรับ​…​”​ ​เขา​มี​ลางสังหรณ์​ที่​ไม่ดี

“​น้อง​ห้า​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ขยับ​ริมฝีปาก​ ​“​แม้แต่​เรา​ยัง​สืบ​ได้​…​ตอนนั้น​ท่าน​พ่อ​สู้รบ​อยู่​ที่​ซี​เป่ย​…​ท่าน​พ่อ​จะ​ไม่รู้​ได้​เช่นไร​…​ท่าน​พ่อ​คือ​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ใคร​จะ​กล้ามา​เอาเปรียบ​หรือ​หลอกลวง​…​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ ​ท่าน​พ่อ​ยัง​ไม่สน​ใจ​…​ท่าน​พ่อ​ก็​คงจะ​สมัครใจ​…​ว่า​กัน​ว่า​ ​ตอนนั้น​ท่าน​อา​ห้า​เลี้ยงดู​คณะ​งิ้ว​อยู่​ข้างนอก​ ​เคย​เรียน​ร้องเพลง​กับ​คนอื่น​…​ต่อมา​ ​คนที​่​รู้เรื่อง​ครอบครัว​หลิ่ว​ก็​หายตัว​ไป​กัน​หมด​…​”

เมื่อ​ครู่​เขา​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ท่าน​ย่า​เคย​โมโห​ท่าน​อา​ห้า​ ​เรื่อง​ที่​ท่าน​อา​ห้า​แอบ​เลี้ยง​คณะ​งิ้ว​เมื่อ​ตอนที่​เขา​ยัง​เด็ก​ ​ดูเหมือนว่า​ตัวเอก​ของ​คณะ​ก็​แซ่หลิ่ว​เหมือนกัน​ ​เขา​บอก​ให้​หวัง​ซู่​ไป​ถาม​คน​เฒ่า​คนแก่​ใน​จวน​ ​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​ตัวเอก​คน​นั้น​ก็​คือ​หลิ่ว​ฮุ่ย​ฟัง

น้ำเสียง​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​สั่นเทา​ ​พูด​อย่าง​ตะกุกตะกัก​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​ฟัง​เข้าใจ​เป็น​อย่างดี

สีหน้า​ของ​เขา​หม่นหมอง​ลง​เหมือน​สวี​ซื่อ​จุน

พวกเขา​สอง​คน​มองออก​ไป​ทางเรือ​นข​องฮู​หยิน​ห้า​พร้อมกัน

เป็นไปได้​อย่างไร

ไม่มีทาง​!

ตัวเอง​จะ​เป็น​บุตรชาย​ของ​ท่าน​อา​ห้า​ได้​เช่นไร

ไม่มีทาง​…

หาก​เขา​ไม่ใช่​ลูก​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​ก็​ต้อง​เป็น​บุตรบุญธรรม​ของถ​งอี​๋​เหนียง​ ​จะ​กลายเป็น​บุตรชาย​ของ​ท่าน​อา​ห้า​ได้​อย่างไร

เขา​นึกถึง​ความอ่อนโยน​ที่​ตน​เคย​เห็น​ใน​สายตา​ของ​ท่าน​พ่อ​ตอนที่​ท่าน​พ่อ​เช็ด​มุม​ปาก​ให้​ตน​ ​นึกถึง​ความพอใจ​ที่​ท่าน​พ่อ​เห็น​เขา​เขียน​ตัวอักษร​…​แล้ว​นึกถึง​คนที​่​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ตัวเอง​ใน​ห้อง​ที่​ครึกครื้น​ช่วง​เทศกาล​ต่างๆ​ ​นึกถึง​ความ​เย็นชา​ของ​คน​คน​นั้น​ตอนที่​บังเอิญ​เจอ​กับ​ตน​…

“​มี​อะไร​ผิดพลาด​หรือไม่​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จับ​แขน​สวี​ซื่อ​จุน​แน่น​ ​“​ท่าน​ให้​หวัง​ซู่​ไป​ถาม​อีกครั้ง​ ​มันต​้​อง​มี​อะไร​ผิดพลาด​แน่นอน​!​ ​ต้อง​มี​อะไร​ผิดพลาด​แน่นอน​…​”

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่พูดไม่จา​ ​มองดู​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เงียบๆ​ ​ด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความเห็นอกเห็นใจ

ราวกับ​มี​ไฟ​แผดเผา​อยู่​ใน​ใจ

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หน้าแดง​ก่ำ​ ​เขา​ผลัก​ทุกคน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ออก​แล้ว​วิ่ง​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ถาม​ ​ข้า​จะ​ไป​ถาม​…​”

สาวใช้​ไม่ทัน​ได้​ตั้งตัว​ ​ถูก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ผลัก​ล้ม​ลง​บน​พื้น​ ​ฝีเท้า​ของ​เขา​ช่าง​รวดเร็ว

แย่​แล้ว​!

เขา​ทำ​เช่นนี้​ ​มันต​้​อง​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​แน่นอน

หาก​ท่าน​พ่อ​ถาม​ ​เขา​จะ​ตอบ​อย่างไร

“​น้อง​ห้า​!​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​เปลี่ยนไป​ ​ไม่กล้า​รอช​้า​ ​รีบ​วิ่ง​ตาม​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอ​อก​ไป​แล้ว​เรียก​หวัง​ซู่​ที่​เฝ้า​อยู่​นอก​ประตู​ ​“​เร็ว​เข้า​ ​จับตัว​น้อง​ห้า​เอาไว้​!​”

หวัง​ซู่​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​แล้ว​รีบ​วิ่ง​ตาม​ออก​ไป​ทันที

สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็​ไม่ได้​อยู่​เฉยๆ​ ​วิ่ง​ตาม​ออก​ไป​ด้วย​ลมหายใจ​ที่​หอบ​ถี่​ ​“​น้อง​ห้า​ ​รอ​ข้า​ด้วย​!​”

อิฐ​ทรง​สี่เหลี่ยม​ที่อยู่​ใต้เท้า​ ​เสา​ที่สูง​จรด​เพดาน​ดู​เงียบสงัด​ ​ต้นไม้​สีเขียว​ที่สูง​ชะลูด​…​ภาพ​ที่​เคย​ทำให้​เขา​รู้สึก​ว่า​มัน​สวยงาม​ ​ตอนนี้​กลับ​รู้สึก​ไม่​คุ้นเคย​เหมือนเดิม​

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยน​้ำ​ตา​ไหลริน

เขา​จะ​ไป​ถาม​…​พี่​สี่​ต้อง​ทำ​อะไร​ผิดพลาด​อย่างแน่นอน​ ​เขา​จะ​ไป​ถาม​เอง​…

ทันใดนั้น​ก็​มี​คน​จับ​แขน​เขา​เอาไว้

เขา​ดิ้น​อย่างแรง​ ​สะบัด​คน​คน​นั้น​ไป​ข้างหลัง

“​คุณชาย​น้อย​ห้า​ขอรับ​!​”​ ​หวัง​ซู่​คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะ​สะบัด​มือ​เขา​หลุด​ ​จากนั้น​ก็​วิ่ง​ตาม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​อย่างรวดเร็ว​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​ครั้งนี้​เขา​ได้รับ​บทเรียน​แล้ว​ ​เลย​พุ่ง​เข้าไป​ข้างหลัง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​กอด​เอว​ของ​เขา​เอาไว้

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ราวกับ​ปลา​ที่​ติด​อยู่​ใน​แห​ ​ไม่ว่า​จะ​ดิ้น​เท่าไร​ก็​ดิ้น​ไม่​หลุด

“​ปล่อย​ข้า​ ​ปล่อย​ข้า​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตะโกน​ ​คอ​ของ​เขา​แดง​ไป​หมด​ ​“​พวก​เจ้า​โกหก​ข้า​ ​พวก​เจ้า​โกหก​ข้า​…​”

ป้า​รับใช้​ที่​เดินผ่าน​มายืน​ชี้​อยู่​ไกลๆ

สวี​ซื่อ​จุน​ที่​วิ่ง​ตามมา​ด้วย​สีหน้า​ซีดเซียว​ ​เขา​วิ่ง​เข้าไป​จับมือ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​อยาก​ให้​ทุกคน​ทั้ง​จวน​รู้​เช่นนั้น​หรือ​ ​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​แม่​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​เจ้า​จะ​ให้ท่าน​แม่​ขอโทษ​เจ้า​หรือ​ให้ท่าน​แม่​ไป​ขอร้อง​ท่าน​ย่า​ให้​เจ้า​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตัว​แข็งทื่อ​ด้วย​ความ​ตะลึงงัน

น้อง​ห้า​เคารพ​ท่าน​แม่​มาก​ที่สุด

สวี​ซื่อ​จุน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​ลาก​เขา​กลับ​ไป​!​ ​อย่า​ให้​ใคร​เห็น​!​”

หั​่​วชิง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ช่วย​หวัง​ซู่​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​ไป​ยัง​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ

ปี้​หลัว​เดิน​ออกมา​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​สีหน้า​ตื่นตระหนก

“​น้อง​ห้า​ทะเลาะ​กับ​ข้า​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​หอบ​หายใจ​ ​“​บอก​ให้​ทุกคน​ออก​ไป​ ​หาก​ใคร​กล้า​พูด​อะไร​เหลวไหล​ ​ไล่ออก​ไป​จาก​จวน​ทันที​!​”

ที่ผ่านมา​เขา​ใจกว้าง​กับ​คนอื่น​เสมอ​ ​น้ำเสียง​ที่​เข้มงวด​เช่นนี้​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ปี้​หลัว​ ​แม้แต่​สาวใช้​ที่​ดู​ความสนุก​เมื่อ​ครู่​ก็​ยัง​ตกใจ​ ​ไม่​รอ​ให้​ปี้​หลัว​พูด​ ​พวก​นาง​รีบ​ถอย​ออก​ไป​จาก​ลาน​อย่างไร​้​ร่องรอย​

สวี​ซื่อ​จุน​ปิดประตู

“​น้อง​ห้า​ ​เจ้า​อย่า​ทำ​เช่นนี้​!​”​ ​เขามอ​งดู​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​กำลัง​เบิกตา​กว้าง​ ​พลัน​รู้สึก​เห็นใจ​ขึ้น​มา​ ​“​บางที​เรา​อาจ​ทำ​อะไร​ผิดพลาด​ก็ได้​ ​ท่าน​อา​ห้า​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​ถึง​ตอนนั้น​เรา​ค่อย​ไป​ถาม​เขา​ก็ได้​…​”​ ​เขา​เอ่ย​ปลอบใจ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

“​ก็ได้​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ฝืนยิ้ม​ ​“​ท่าน​ไป​ช่วย​ข้า​สืบ​ ​ท่าน​ต้อง​ช่วย​ข้า​สืบ​ ​มันต​้​อง​มี​อะไร​ผิดพลาด​แน่นอน​”

เขา​รู้สึก​เสียใจ​ขึ้น​มา

เหตุใด​ตอนนั้น​ถึง​ต้อง​ไป​ตามหา​สตรีที​่​ให้กำเนิด​ตัวเอง​ด้วย

เขา​ยอม​เป็น​บุตรบุญธรรม​ของ​สกุล​สวี​ ​เพราะ​อย่างน้อย​ๆ​ ​เขา​ก็​จะ​ถือเป็น​บุตรชาย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ตลอดไป​!

“​ท่าน​อา​ห้า​กลับมา​ข้า​จะ​ไป​ถาม​ทันที​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​ปลอบใจ​เขา​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ข้า​จะ​ช่วย​เจ้า​ถาม​ให้​ชัดเจน​!​”

แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​รู้สึก​หวาดกลัว

เขา​นึกถึง​สตรีที​่​กอด​เขา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ด้วย​ความรักใคร่​เอ็นดู​ ​สตรีที​่​ทำ​ขนม​อร่อย​ๆ​ ​ให้​เขา​ทาน​ ​สตรีที​่​ฟัง​เขา​เป่าขลุ่ย​ ​สตรีที​่​จูงมือ​เขา​ไป​ส่ง​เรียน​ ​สตรีที​่​คอย​เฝ้าดู​เขา​ฝึก​คัดตัว​อักษร​ ​คอย​ตรวจการ​บ้าน​ให้​เขา​ภายใต้​แสงไฟ​…

หาก​ท่าน​อา​ห้า​ตอบ​ว่า​ ​‘​ใช่​’​…​แล้ว​เขา​จะ​ทำ​เช่นไร

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกำ​มือ​แน่น​ ​ปล่อย​ให้​เล็บ​กด​ลง​บน​ฝ่ามือ​ด้วย​ความกังวล

“​ไม่​ ​ไม่​ ​ไม่​”​ ​เขา​เหงื่อ​ตก​ ​“​ท่าน​ไม่ต้อง​ไป​ถาม​ ​ไม่ต้อง​ไป​ถาม​ใคร​ทั้งนั้น​…​”​ ​เขา​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​ไม่​สิ​…​ท่าน​ไป​ช่วย​ข้า​ถาม​ดีกว่า​…​”​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ถาม​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ไม่​ถาม​ ​เขา​มีสี​หน้า​สับสน​และ​ย้อน​แย้ง​กัน​ไป​หมด

สวี​ซื่อ​จุน​นึกถึง​ภาพ​ที่​พวกเขา​ไป​เรียน​ด้วยกัน​ ​ไป​เตะ​ลูก​หนัง​ด้วยกัน​ ​ไป​กระโดด​เชือก​ด้วยกัน​ ​ก็​รู้สึก​เศร้าใจ

“​น้อง​ห้า​”​ ​เขา​จับจ้อง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​ไม่ว่า​บิดา​ผู้ให้กำเนิด​เจ้า​จะ​เป็น​ใคร​ ​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​เจ้า​จะ​เป็น​ใคร​ ​แต่​ตอนนี้​เจ้า​คือ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ของ​สกุล​สวี​ ​ความดี​ที่​เจ้า​มีต​่อ​ข้า​คือ​เรื่องจริง​ ​มิตรภาพ​ที่​ข้ามี​ต่อ​เจ้า​ก็​คือ​เรื่องจริง​ ​เจ้า​คือ​น้องชาย​ของ​ข้า​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท