ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 650 เตรียมตัวล่วงหน้า (ปลาย)

ตอนที่ 650 เตรียมตัวล่วงหน้า (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​เห็น​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​กลับมา​ร่าเริง​เหมือนเดิม​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ ​จากนั้น​จึง​เริ่ม​ลงมือ​จัดการ​เรื่อง​ปีใหม่

เซ่นไหว้​เทพ​แห่ง​เตาไฟ​ ​ปัดกวาด​ฝุ่น​ ​เปลี่ยน​แผ่น​กระดาน​ยันต์​ไม้​ท้อ​ ​เซ่นไหว้​บูชา​บรรพบุรุษ​ ​จุด​ประทัด​ใน​วัน​ส่งท้าย​ปี​เก่า​ ​ทานอาหาร​ส่งท้าย​ปี​เก่า​ ​นาง​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ ​จนกระทั่ง​ถึง​วันที่​สิบสอง​เดือน​หนึ่ง​ถึง​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​

ทายาท​ของ​สือ​เหนียง​ ​หวัง​เฉิง​จู่​ ​เม่ากั​๋​วก​งมา​คารวะ​นาง

สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ

ปี​ที่สอง​หลังจากที่​นาย​หญิง​ใหญ่​เสียชีวิต​ ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​หวัง​ก็​ล้ม​ป่วย​ ​สือ​เหนียง​ให้​ผู้ติดตาม​คน​หนึ่ง​ของ​หวัง​ไท่ฮู​หยิน​ช่วยตัวเอง​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​ ​ดูแล​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ระหว่าง​สกุล​ญาติ​ ​แต่​นาง​กลับ​ปิดประตู​เรือน​ ​พา​หวัง​เฉิง​จู่​ใช้ชีวิต​ตัดขาด​จาก​โลก​ใบ​นี้​ ​นอกจาก​ให้​ผู้ดูแล​คน​นั้น​พา​หวัง​เฉิง​จู่​ไป​คารวะ​บรรดา​สกุล​ญาติ​ช่วง​ปีใหม่​แล้ว​ ​ปกติ​ก็​มักจะ​ขัง​หวัง​เฉิง​จู่​เอาไว้​ ​ให้​เอาแต่​เรียนหนังสือ​ ​เขียน​ตัวอักษร​อยู่​ที่​จวน​ ​ว่า​กัน​ว่า​เพราะ​แบบนี้​ ​บิดา​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​หวัง​เฉิง​จู่​เลย​ฟ้องร้อง​สือ​เหนียง​ตั้ง​หลายครั้ง​หลาย​ครา​ ​บอกว่า​สือ​เหนียง​เลี้ยงเด็ก​ดี​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​ให้​กลายเป็น​เด็ก​ซื่อบื้อ​ ​แม้แต่​สกุล​ญาติ​ก็​ไม่รู้​จัก​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​หลัก​ครอง​ตน​ใน​สังคม​ ​แล้วยัง​บอกว่า​สือ​เหนียง​ทำ​เช่นนี้​ไม่ใช่​การ​เลี้ยงดู​เด็ก​ ​แต่​เป็นการ​เลี้ยง​หุ่นเชิด

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​นาง​บอก​ให้​บ่าว​รับใช้​เชิญ​พวกเขา​ออก​ไป​ ​ให้​หวัง​เฉิง​จู่​กลับ​ไป​อยู่​ใน​เรือน​ตัวเอง​เหมือนเดิม

ปีใหม่​นี้​ยัง​ไม่​สิ้นสุด​ ​หวัง​เฉิง​จู่​มาที​่​นี่​ทำไม​กัน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ปีก่อน​ๆ​ ​ที่หวัง​เฉิง​จู่​มา​ ​เขา​ก็​แค่​คารวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลาน​นอก​ ​ไม่เคย​เข้ามา​ขอ​พบ​นางแบบ​นี้

“​ให้​เขา​เข้ามา​เถิด​!​”

ในขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​ก็​มี​ภาพ​ของ​เด็กน้อย​ที่​หน้าตา​หล่อเหลา​ของ​หวัง​เฉิง​จู่​ใน​วัยเด็ก​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​นาง

เขา​อายุ​เท่า​จุน​เกอ​ ​เจ็ด​ปี​ผ่าน​ไป​แล้วก็​น่าจะ​เติบโต​เป็น​หนุ่ม​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​หน้าตา​ของ​เขา​เปลี่ยนไป​หรือไม่

ในขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​ก็​เห็น​หู่​พั่ว​พา​เด็กผู้ชาย​รูปร่าง​สูงโปร่ง​สวม​ชุด​คลุม​เผา​จื่อ​สีแดง​เดิน​เข้ามา

ดวงตา​ที่​สุกใส​ ​ผิวพรรณ​ขาวผ่อง​ ​เข้ามา​ซ้อนทับ​กับ​เงา​ของ​เด็กน้อย​ใน​ความทรงจำ​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่างรวดเร็ว

“​เม่ากั​๋​วกง​?​”

“​ท่าน​น้า​หญิง​อย่า​เรียก​ข้า​เช่นนี้​เลย​ขอรับ​”​ ​หวัง​เฉิง​จู่​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​อย่างนอบน้อม​ ​“​ควรจะ​มาคา​รวะ​ท่าน​น้า​หญิง​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​แต่ว่า​ท่าน​แม่​เป็น​ม่าย​ ​เลย​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ออก​ไป​ไหน​ ​โปรด​ท่าน​น้า​หญิง​อย่า​ได้​ถือสา​”

นี่​คือ​คนซื่อ​บื้อ​ ​ไม่รู้​จัก​หลัก​ครอง​ตน​ใน​สังคม​อย่างนั้น​หรือ

จาก​ที่นาง​เห็น​ ​หวัง​เฉิง​จู่​คน​นี้​ยัง​พูดจา​เป็น​กว่า​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​มี​คน​คอย​อบรมสั่งสอน​เสียอีก​

“​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​สบายดี​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ยก​เก้าอี้​ไท่​ซือ​มา​ให้​หวัง​เฉิง​จู่​นั่ง​

“​ท่าน​แม่​ป่วย​ออด​ๆ​ ​แอด​ๆ​ ​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ขอรับ​”​ ​ใบหน้า​ที่​อ่อนโยน​ของ​หวัง​เฉิง​จู่​ปรากฏ​ความ​โศกเศร้า​ที่​ไม่​สอดคล้อง​กับ​อายุ​ของ​เขา​ ​แต่​สายตา​ของ​เขา​กลับ​มี​ความตื่นเต้น​ ​ทำให้​ความ​โศกเศร้า​ของ​เขา​ดู​ไม่​ค่อย​มี​ความจริงใจ​สัก​เท่าไร​ ​“​ข้า​ยัง​เด็ก​ ​ช่วย​อะไร​ท่าน​แม่​ไม่ได้​ ​จึง​ช่วย​จุด​ธูป​ต่อหน้า​พระโพธิสัตว์​ใน​วันที่​หนึ่ง​และ​วันที่​สิบห้า​ของ​ทุก​เดือน​ให้ท่าน​แม่​ ​ขอให้​พระโพธิสัตว์​ปกป้อง​คุ้มครอง​ท่าน​แม่​ ​ให้ท่าน​แม่​กลับมา​มีชีวิต​ที่​สงบสุข​ใน​เร็ว​วัน​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ถามถึง​จิ​่น​เกอ​ ​“​ข้า​เคย​เห็น​เขา​ตอนที่​มาคา​รวะ​ท่าน​น้าชาย​ที่​ห้องโถง​เมื่อ​ปีใหม่​ปี​ที่แล้ว​ ​น้อง​หก​คงจะ​สูง​ขึ้น​แล้ว​กระมัง​ ​ปีใหม่​ยัง​ไม่​สิ้นสุด​ ​อาจารย์​ของ​เขา​คง​ยัง​ไม่​กลับมา​ใช่​หรือไม่​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​น้อง​หก​เล่า​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่​ชอบ​หวัง​เฉิง​จู่​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​เด็ก​คน​นี้​ฉลาด​เกินไป​ ​ไม่มี​ความจริงใจ

“​น้อง​หก​ของ​เจ้า​กำลัง​ฝึกฝน​ศิลปะ​การต่อสู้​อยู่​ที่​โถง​ศิลปะ​การต่อสู้​!​”​ ​นาง​ตอบกลับ​ไป​อย่าง​เรียบง่าย​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​เจ้า​มา​ใน​วันนี้​ ​มีเรื่อง​สำคัญ​อัน​ใด​หรือไม่​”

“​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​อัน​ใด​ขอรับ​!​”​ ​หวัง​เฉิง​จู่​พลัน​หน้าแดง​ ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​กำหนด​วัน​แต่งงาน​ให้​ข้าวั​นที​่​ยี่สิบ​แปด​เดือน​หนึ่ง​ ​ข้า​จึง​นำ​เทียบ​เชิญ​มา​ให้ท่า​นน​้า​หญิง​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ตกใจ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ถึง​ได้สติ​กลับมา​

มาม​อบ​เทียบ​เชิญ​งานแต่ง​ของ​ตัวเอง​ด้วยตัวเอง​ได้​อย่างไร​กัน​!

แล้วยัง​นำมา​มอบให้​นาง​ตรงๆ​ ​แบบนี้

ไม่ว่า​จวน​เม่ากั​๋​วกง​จะ​ยากจน​แค่ไหน​ ​แต่​อูฐ​ที่​ผอม​ตาย​ยัง​ตัว​ใหญ่​กว่า​ม้า​ ​กฎเกณฑ์​ที่​ควร​มี​ก็​ควรจะ​มี​…

“​ท่าน​น้า​หญิง​ ​ข้า​รู้​ว่า​ทำ​เช่นนี้​นั้น​เสียมารยาท​ ​แต่​ข้า​ไม่ได้​มาหา​ท่าน​น้า​หญิง​หลาย​ปี​แล้ว​ ​กลัว​ท่าน​น้า​หญิง​จะ​ห่างเหิน​กับ​ข้า​ ​ข้า​จึง​ต้อง​หน้าด้าน​มาหา​ท่าน​น้า​หญิง​เอง​ขอรับ​”​ ​หวัง​เฉิง​จู่​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​ไม่สบายใจ​ ​“​เรื่อง​นี้​ ​เดิมที​ท่าน​แม่​จะ​ให้​ผู้ดูแล​ส่ง​เทียบ​เชิญ​มา​ให้​ ​แต่​ข้า​คิด​ว่า​ ​ท่าน​แม่​ไม่​ค่อย​ไปมาหาสู่​กับ​ท่าน​น้า​หญิง​ ​แล้วยัง​กำหนด​งานแต่ง​ไว้​เดือน​หนึ่ง​ ​เป็นช่วง​ที่​ทุก​สกุล​กำลัง​ยุ่ง​วุ่นวาย​ ​หาก​ท่าน​น้า​หญิง​มีเรื่อง​สำคัญ​ ​ไปร​่ว​มดื​่ม​สุรา​มงคล​ของ​ข้า​ไม่ได้​ ​ท่าน​แม่​คงจะ​เสียใจ​อย่างมาก​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ตาแดง​ก่ำ​ ​“​เดิมที​ข้า​ไม่​อยาก​พูดถึง​เรื่อง​นี้​…​ท่าน​แม่​…​เข้าสู่​ฤดูใบไม้ร่วง​ท่าน​แม่​ก็​เริ่ม​ไอ​เป็น​เลือด​…​ไม่เช่นนั้น​ ​ท่าน​แม่​คงจะ​ไม่​กำหนด​วัน​แต่งงาน​ให้​ข้า​เร็ว​ถึง​เพียงนี้​…​”

สือ​อี​เหนียง​ตกอกตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ไอ​เป็น​เลือด​?​ ​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาดู​แล้ว​หรือยัง​ ​ท่าน​หมอ​ว่า​เช่า​ไร​ ​ตอนนี้​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

หวัง​เฉิง​จู่​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เยอะ​แบบนี้​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาตร​วจ​ดูแล​้ว​ขอรับ​ ​ท่าน​หมอบ​อก​ว่า​ ​ท่าน​แม่​เป็นโรค​เดิม​ ​ต้อง​ค่อยๆ​ ​รักษา​ ​ตอนนี้​อาการ​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​ ​สอง​สาม​วันที่​ผ่าน​มา​อากาศ​หนาว​ ​ท่าน​แม่​ไอ​จน​นอนไม่หลับ​ทั้งคืน​ ​สอง​สาม​วันนี้​อากาศ​อบอุ่น​ขึ้น​มา​หน่อย​ ​อาการ​ของ​ท่าน​แม่​จึง​ดีขึ้น​ไม่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​บอก​ให้​หู่​พั่ว​นำ​ยาน้ำ​เชื่อม​แก้​ไอ​สอง​ขวด​มา​ให้​หวัง​เฉิง​จู่​ ​“​นำ​กลับ​ไป​ให้ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ ​ยานี​้​ช่วย​ทำให้​ชุ่ม​คอ​!​”

หวัง​เฉิง​จู่​เอ่ย​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​ ​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​อีก​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​เขา​ฟัง​ทันที​ ​“​ท่าน​ได้รับ​เทียบ​เชิญ​ของ​จวน​เม่ากั​๋​วกง​หรือยัง​เจ้า​คะ​ ​บอกว่า​ขัง​เขา​ให้​เรียนหนังสือ​ ​ฝึก​เขียน​ตัวอักษร​อยู่​ใน​จวน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ข้า​ถึง​รู้สึก​ว่า​เด็ก​คน​นี้​เฉลียวฉลาด​กว่า​ผู้ดูแล​หลาย​คน​เสียอีก​!​”

“​ไม่ใช่​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​เด็ก​คน​นี้​ฉลาด​มาต​ลอด​ ​แล้วยัง​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​เขา​เคย​ก่อเรื่อง​ข้างนอก​ ​น่าจะเป็น​พรสวรรค์​มาตั​้ง​แต่​เกิด​!​”​ ​เขา​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​เขา​แต่ง​กับ​บุตรสาว​สกุล​ใด​”

เอาแต่​คิดถึง​เรื่อง​ของ​สือ​เหนียง​ ​เลย​ลืม​นี้​ไป​เสีย​สนิท

แต่​อาจ​เป็นเพราะว่า​ตน​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้​อยู่​แล้ว​!

“​ข้า​ไม่ได้​ถาม​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​อีก​สอง​วัน​ป้า​ซ่ง​จะ​นำ​ของขวัญ​ไป​มอบให้​เขา​ ​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​ให้​นาง​ไป​ถาม​ก็ได้​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​แค่​ถาม​เฉยๆ​ ​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​นอนหลับ​พักผ่อน​

สอง​สาม​วัน​ต่อมา​ ​ป้า​ซ่ง​ก็​นำ​ของขวัญ​ไป​มอบให้​ที่​จวน​เม่ากั​๋​วกง​

“​ได้ยิน​มา​ว่า​เจ้าสาว​คือ​สกุล​ญาติ​ของ​มารดา​ที่​ให้กำเนิด​เม่ากั​๋​วกง​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​ซ่ง​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​คุณหนู​สิบ​อยาก​ให้​เม่ากั​๋​วกง​แต่งงาน​ ​ทาง​ฝั่ง​นั้น​จึง​รีบ​เสนอตัว​เด็ก​คน​นั้น​ทันที​ ​คุณหนู​สิบ​เอง​ก็​ตอบ​ตกลง​อย่างรวดเร็ว​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​ ​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​บิดา​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​เม่ากั​๋​วก​งดู​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​ไม่น้อย​เจ้าค่ะ​!​”

ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​บิดา​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​ของ​หวัง​เฉิง​จู่​คิดร้าย​กับ​นาง​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ ​ถือเป็น​ความกล้าหาญ​ของ​นาง​ ​หรือ​คือ​ความตรง​ไป​ตรง​มาที​่​โง่เขลา​กัน​แน่​?

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​ดี

“​อาการป่วย​ของ​นาง​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“​บ่าว​มอง​ไม่​ออก​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​ซ่ง​พูดตาม​ความจริง​ ​“​ตอนที่​บ่าว​เข้าไป​คารวะ​คุณหนู​สิบ​ ​คุณหนู​สิบ​กำลัง​นั่ง​คัดลอก​คัมภีร์​ ​‘​กษิ​ติคร​รภ​โพธิสัตว์​มูล​ปณิธาน​สูตร​’​ ​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​บรรยากาศ​เงียบสงัด​ ​ไม่เห็น​มี​อะไร​ผิดปกติ​เลย​สักนิด​”​

สือ​เหนียง​เป็น​คน​ชอบ​เอาชนะ​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ไม่สบาย​จริงๆ​ ​ก็​ไม่มีทาง​ให้​คนอื่น​มองออก

“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ

แต่​ป้า​ซ่ง​กลับ​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​บ่าว​ได้ยิน​มา​ว่า​ทาง​ฝั่ง​ของ​คุณหนู​สี่​ ​เม่ากั​๋​วก​งก​็​ไป​ส่ง​เทียบ​เชิญ​งานแต่ง​ด้วยตัวเอง​”​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ออก​ไป

สือ​เหนียง​ไม่​อยาก​รบกวน​ใคร​ ​แต่​หวัง​เฉิง​จู่​กลับ​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มีใคร​ไปร​่ว​มงา​น.​..​จวน​เม่ากั​๋​วก​งอยู​่​เงียบๆ​ ​มาตั​้ง​หลาย​ปี​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มี​การเคลื่อนไหว​!

แต่ว่า​…​นี่​คือ​ชีวิต​ของ​สือ​เหนียง​ ​คนอื่น​ล้วน​พูด​อะไร​ไม่ได้

เมื่อถึง​วันที่​ยี่สิบ​แปด​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไป​ดื่ม​สุรา​มงคล​แสดงความยินดี​ที่​จวน​เม่ากั​๋​วกง

แขก​ที่มา​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​นอกจาก​ญาติ​ๆ​ ​ทาง​ฝั่ง​สกุล​หวัง​แล้ว​ ​ก็​ล้วน​เป็น​ญาติ​ๆ​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​สือ​เหนียง​ ​หวัง​หลิน​ส่ง​แค่​ของขวัญ​มา​ ​แต่​ไม่​ส่ง​คน​มา​ ​สือ​เหนียง​อ้างว่า​เป็น​ม่าย​ ​ไม่​ออกมา​ต้อนรับ​แขก​ ​ให้​อิ​๋น​ผิง​เป็น​ดูแล​เรื่อง​ทุกอย่าง​แทน

เมื่อ​อิ​๋น​ผิง​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ก็​ตาแดง​ ​เชิญ​สือ​อี​เหนียง​ไป​นั่ง​ใน​ห้องโถง

อู่​เหนียง​พาลูก​ๆ​ ​ไป​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​เติ้ง​โจว​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​ซื่อ​เหนียง​กับ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​มาตั​้ง​แต่เช้า​แล้ว​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​มีท​่า​ทีป​กติ​ ​แต่​เมื่อ​ซื่อ​เหนียง​เจอ​กับ​อิ​๋น​ผิง​กลับ​มีสี​หน้า​กระอักกระอ่วน​ ​ทุกคน​ทักทาย​กัน​ ​หวัง​เฉิง​จู่​ที่​รู้​ข่าว​ก็​รีบ​เข้ามา​ทันที

“​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ ​ท่าน​มา​แล้ว​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​บ่น​อิ​๋น​ผิง​ ​“​เหตุใด​ให้ท่า​นน​้า​หญิง​สิบเอ็ด​มานั​่ง​ที่นี่​ ​ยัง​ไม่​ไปรา​ยงาน​ท่าน​แม่​อีก​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​ทำท่า​จะ​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ไปหา​สือ​เหนียง

อิ​๋น​ผิง​มีสี​หน้า​ลำบากใจ​ ​“​ท่านกั​๋​วกง​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​บอกว่า​ไม่​อยาก​พบ​แขก​…​ ​“

“​ท้าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​เป็น​แขก​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​อิ​๋น​ผิง​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ประโยค​ ​หวัง​เฉิง​จู่​ก็​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ ​“​ท่าน​แม่​ไม่​อยาก​พบ​คนอื่น​ ​หรือว่า​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ก็​ไม่​อยาก​พบ​หรอก​หรือ​ ​เจ้า​ไปรา​ยงาน​ท่าน​แม่​เถิด​…​”

“​ท่านกั​๋​วกง​เจ้า​คะ​…​”​ ​อิ​๋น​ผิง​ยืน​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​ท่าที​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก

“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ทำให้​ตัวเอง​ลำบากใจ​ ​“​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ชอบ​ความเงียบสงบ​ ​ข้า​นั่ง​อยู่​ที่นี่​ก็ได้​”

หวัง​เฉิง​จู่​ก็​ไม่​บังคับ​นาง​ ​เขา​นั่ง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ถาม​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​จะ​แต่งงาน​เมื่อไร​ ​ถาม​ว่า​อวี​๋​ลี่​ ​บุตรชาย​คนที​่​สอง​ของ​ซื่อ​เหนียง​จะ​ลงสนาม​สอบ​ปีนี​้​หรือไม่​ ​ถามถึง​กิจการ​ของ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​กับ​คุณชาย​สาม​สกุล​หลัว​ ​คุณชาย​สาม​สกุล​หลัว​ลงสนาม​สอบ​ติดต่อกัน​สอง​สาม​ครั้ง​ ​ครั้งสุดท้าย​กลับเป็น​ลม​กลาง​สนาม​สอบ​ ​นายท่าน​สอง​กับ​นาย​หญิง​สอง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ไม่สบายใจ​ ​จึง​ต้อง​เลิกล้ม​ความคิด​ที่จะ​ให้​เขา​ลงสนาม​สอบ​อีกครั้ง​ ​พวกเขา​ช่วย​ซื้อ​ร้านค้า​ให้​คุณชาย​สาม​ทำ​กิจการ​

หวัง​เฉิง​จู่​ราวกับ​สนใจ​เรื่อง​ของ​ทุกคน​ ​ท่าที​กระตือรือร้น​ ​ทำให้​สกุล​ญาติ​ของ​สกุล​หวัง​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​หัวเราะ​พลาง​พูดว่า​ ​“​ไม่มี​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ ​ก็​ยัง​มีท​่า​นลุง​ ​แต่​เจ้า​มีท​่า​นน​้า​แล้ว​กลับ​ไม่สน​ใจ​ท่าน​ป้า​!​ ​“

หวัง​เฉิง​จู่​ได้ยิน​แล้วก็​ไม่​โกรธ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่เลี้ยง​ข้ามา​ตั้งแต่​เด็ก​ ​แน่นอน​ว่า​ข้า​ต้อง​รัก​ท่าน​แม่​ที่สุด​!​”

ดูเหมือน​เขา​พยายาม​ทำให้​ความสัมพันธ์​ของ​สือ​เหนียง​กับ​คนใน​สกุล​หลัว​ดีขึ้น​ ​ซื่อ​เหนียกั​บสื​ออี​เหนียง​พูดคุย​ด้วย​ง่าย​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ก็​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​เมื่อ​เจ้าสาว​เข้ามา​ ​นาง​อยู่​เล่นไพ่​กับ​สกุล​ญาติ​ของ​สกุล​หวัง​ที่​จวน​สกุล​หวัง​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​และ​ซื่อ​เหนียง​กลับ​ไป​ที่​จวน​ของ​ตัวเอง​ ​วันที่​สอง​ก็​นำ​ของขวัญ​ไป​มอบให้​อีกครั้ง​

หวัง​เฉิง​จู่​เริ่ม​สนิทสนม​กับ​คุณชาย​สาม​สกุล​หลัว

สอง​สาม​วัน​ต่อมา​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​นำ​กล่อง​หมึก​มาม​อบ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ล้วนแต่​เป็น​สิ่งของ​ใน​ร้าน​ ​โปรด​คุณหนู​สิบเอ็ด​อย่า​ได้​รังเกียจ​”

“​ข้า​จะ​รังเกียจ​ได้​อย่างไร​กัน​ ​ข้า​อยากได้​อยู่​พอดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​รับ​มา​ ​เชิญ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​ห้องรับแขก​ ​“​เหตุใด​วันนี้​พี่สะใภ้​สาม​ถึง​มี​เวลา​มาหา​ข้าเจ้า​คะ​ ​กิจการ​ใน​ร้าน​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”

“​ไม่เลว​!​”​ ​คุณชาย​สาม​สกุล​หลัว​ไม่เคย​มีหน้ามีตา​ใน​ครอบครัว​ ​จึง​ทำให้​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ดู​ซื่อบื้อ​ไป​ด้วย​ ​นาง​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ที่​ข้ามา​ใน​วันนี้​ ​เพราะ​คุณชาย​สาม​บอกว่า​มีเรื่อง​อยาก​จะ​ปรึกษา​กับ​คุณหนู​สิบเอ็ด​”

สือ​อี​เหนียง​ทำท่า​ที​ตั้งใจฟัง​

คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​สาม​บอกว่า​ ​ตอนนี้​เม่ากั​๋​วกง​แต่งงาน​แล้ว​ ​คุณหนู​สิบ​ก็​เป็น​ม่าย​ ​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ดูแล​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​ ​ไม่​สู้​ให้​เม่ากั​๋​วกง​เป็น​คนดู​แล​ดีกว่า​!​ ​เช่นนี้​คุณหนู​สิบ​ก็​จะ​ได้​เก็บตัว​สวดมนต์​ไหว้พระ​อย่างสบายใจ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท