ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 654 หนอนจำศีล (ต้น)

ตอนที่ 654 หนอนจำศีล (ต้น)

เมื่อ​ออกมา​จาก​ประตู​ฉุยฮ​วา​ของ​ตรอก​เหล่าจ​วิน​ถัง​ ​ซื่อ​เหนียง​ก็​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ก็​ไม่ได้​มี​เจตนาร้าย​อะไร​ ​หาก​เจี​้ย​เกอ​มีชื่อเสียง​ ​เมื่อถึง​เวลา​ต้อง​หมั้น​หมาย​หรือ​ทำงาน​ก็​จะ​ง่าย​ขึ้น​”

“​ข้า​เอง​ก็​รู้ดี​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เพียงแต่ว่า​เรื่อง​แบบนี้​ไม่​สามารถ​ฝืน​โชคชะตา​ได้​ ​คง​ทำได้​เพียง​ทำให้​ดีที​่​สุด​!​”

ถึงอย่างไร​เรื่อง​นี้​ก็​เป็นเรื่อง​ครอบครัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ซื่อ​เหนียง​ไม่​อาจ​พูด​อะไร​มาก​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ได้

นาง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​หันไป​มองหา​บุตรชาย​คน​รอง​อวี​๋​ลี่​ ​และ​บุตรชาย​คนที​่​สาม​อวี​๋​ฉี่

อวี​๋​ลี่​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ยืน​กระซิบกระซาบ​กัน​อยู่​บน​บันได​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​ส่วน​อวี​๋​ฉี่​กำลัง​หยอกล้อ​เล่น​กับ​จิ​่น​เกอ​อยู่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​มี​เพียง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​ยืน​ทำท่า​ทาง​ครุ่นคิด​อยู่​ใต้​ชายคา​ประตู​ฉุยฮ​วา

เมื่อ​รู้สึก​ถึง​สายตา​ของ​ซื่อ​เหนียง​ ​เขา​ก็​ดู​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​ยิ้ม​ให้​ซื่อ​เหนียง​อย่าง​เก้​ๆ​ ​กัง​ๆ​ ​แล้ว​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​สอง​ก้าว​ ​ไป​ยืน​อยู่​ข้าง​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​อวี​๋​ลี่

“​พี่​สอง​!​”​ ​เขา​เรียก​อวี​๋​ลี่​ ​“​ท่าน​ป้า​สี่​มองหา​ท่าน​!​”

อวี​๋​ลี่​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​เหลือบมอง​มารดา​ ​รีบ​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​เจ้า​เขียนจดหมาย​มาหา​ข้า​ด้วย​”​ ​ยกมือ​คำนับ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​แล้ว​รีบ​เดิน​ไป​ยืน​อยู่​ข้าง​มารดา

“​ล่วงเลย​เวลา​มามาก​แล้ว​ ​บอกลา​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ของ​เจ้า​เถิด​ ​พวกเรา​เอง​ก็​ควรจะ​กลับ​ได้​แล้ว​”​ ​ซื่อ​เหนียง​พูด​พลาง​ละสายตา​จาก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ลัน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

******

รถม้า​ค่อยๆ​ ​เคลื่อนตัว​ออกจาก​ตรอก​เหล่าจ​วิน​ถัง

จิ​่น​เกอ​ที่​เล่น​จน​เหนื่อย​ผล็อย​หลับ​ไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​มารดา​อย่างรวดเร็ว

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​คิด​เรื่อง​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​พูดคุย​กับ​เขา​แล้ว

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่​เหมือนกับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เป็น​บุตรชาย​อนุ​คนโต​ ​ฉลาด​และ​มี​ความสามารถ​ ​อายุ​ไม่​ห่าง​กัน​มาก​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​เพื่อให้​สวี​ซื่อ​จุน​มีตำ​แหน่ง​ที่มั่น​คง​ใน​จวน​นี้​ ​ในอนาคต​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ให้​เขา​แยก​จวน​ออก​ไป​อยู่​คนเดียว​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เป็น​บุตรชาย​คน​รอง​ ​และ​เป็น​บุตร​อนุ​ ​ดังนั้น​เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะ​คุกคาม​สิทธิ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​ยิ่ง​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​แยก​พวกเขา​ออกจากัน​ ​ตราบใดที่​เขา​เต็มใจ​ ​เขา​สามารถ​พึ่งพาอาศัย​สกุล​นี้​ได้​เสมอ​ ​ใน​สายตา​ของ​คน​ส่วนใหญ่​ ​นี่​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​เลวร้าย​

แต่​จาก​มุมมอง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​การถู​กบั​งคับ​ให้​พึ่งพา​สกุล​นี้​กับ​การ​เลือก​ที่จะ​พึ่งพา​สกุล​นี้​นั้น​มี​ความแตกต่าง​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง

หาก​ต้องการ​อิสระ​ใน​การ​เลือก​ ​ก็​ต้อง​มี​ความสามารถ​ใน​การ​ยืนหยัด​ได้​ด้วยตัวเอง

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ใช้ชีวิต​อยู่​จวน​นอก​มาส​อง​ปี​แล้ว​ ​เข้าใจ​โลก​บ้าง​ไม่​มาก​ก็​น้อย​ ​ตอนนี้​เป็นเวลา​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​ที่จะ​คุย​กับ​เขา​เรื่อง​นี้​ ​หาก​เขา​ไม่เคย​คิด​เกี่ยวกับ​อนาคต​ของ​ตัวเอง​เลย​ ​ก็​จะ​ได้​ใช้​ช่วงเวลา​สอง​สาม​ปีก่อน​จะ​แต่งงาน​เพื่อ​ลอง​พยายาม​ค้นหา​หนทาง​สำหรับ​เขา​ ​เมื่อ​แต่งงาน​แล้ว​ ​มีครอบครัว​แล้ว​ ​ก็​มีสิ​่ง​ที่​ต้อง​รับผิดชอบ​ ​จะ​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​ตามใจ​ตัวเอง​ได้​อีกต่อไป​ ​จะ​ต้อง​ยึดมั่น​ใน​เส้นทาง​ที่​ปลอดภัย​ ​แต่​หาก​เขา​ได้​พิจารณา​อนาคต​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ ​ก็​จะ​ได้​ถือโอกาส​นี้​หารือ​ว่าความ​คิด​ของ​เขา​นั้น​เป็นไปได้​หรือไม่

ขณะที่​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​รถม้า​ก็​หยุด​ลง

ป้า​ซ่ง​เปิด​ผ้าม่าน​รถม้า​ ​“ฮู​หยิน​ ​พวกเรา​ถึง​จวน​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หู่​พั่ว​ลง​จาก​รถ​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​รับ​จิ​่น​เกอ​มา​อย่างระมัดระวัง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อยๆ​ ​ออกมา​จาก​รถม้า

ชิว​อวี​่​และ​คนอื่นๆ​ ​กำลัง​ยืน​รอ​อยู่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา

“ฮู​หยิน​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​เดิน​เข้ามา​ย่อเข่า​คำนับ​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​จาก​ชัง​โจว​ส่ง​ผู้ดูแล​หญิง​สอง​คน​มาม​อบ​ของขวัญ​วันเกิด​ให้ท่าน​ ​ตอนนี้​กำลัง​รอท่า​นอยู​่​ที่​ห้องโถง​เจ้าค่ะ​!​”

“​อ้อ​!​”​ ​เมื่อ​นึกถึง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ที่​มีความสุข​ ​นาง​เหลือบมอง​โคมไฟ​สีแดง​ที่​แขวน​อยู่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​“​ป่านนี้​แล้ว​ ​ได้​จัดเตรียม​สำรับ​ให้​ผู้ดูแล​หญิง​ทั้งสอง​ทาน​หรือยัง​”

“​จัดเตรียม​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ชิว​อวี​่​พยุง​สือ​อี​เหนียง​ขึ้นรถ​ลาก​ ​“​แต่​ผู้ดูแล​หญิง​ทั้งสอง​บอกว่า​ต้องการ​มาคา​รวะ​ท่าน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​ทานข้าว​ ​พวก​บ่าว​ไม่​อาจ​โน้มน้าว​พวก​นาง​ได้​ ​พี่​ฟัง​ซีจึง​นั่ง​พูดคุย​เป็นเพื่อน​ผู้ดูแล​หญิง​ทั้งสอง​อยู่​ที่​ห้องโถง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​หลังจาก​กลับมา​ที่​เรือน​ก็​ไป​ทักทาย​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้วไป​ที่​ห้องโถง

ผู้ดูแล​หญิง​ทั้งสอง​เป็นตัวแทน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​โขลก​ศีรษะ​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​สาม​ครั้ง​ด้วย​ความเคารพ​ ​จากนั้น​ก็​มอบ​ของขวัญ​วันเกิด

สือ​อี​เหนียง​ถามถึง​สถานการณ์​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เมื่อ​รู้​ว่า​ตอนนี้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนดู​แล​เรือน​ ​และ​เข้ากันได้ดี​กับ​สะใภ้​โอว​หยาง​ซื่อ​ ​ค่อนข้าง​มีชื่อเสียง​ใน​สกุล​เซ่า​ ​และ​พึ่ง​จะ​ตั้งครรภ์​ ​ปลายปี​นี้​ก็​จะ​คลอด​บุตร​อีกครั้ง​ ​รอยยิ้ม​ของ​นาง​ก็​ยิ่ง​อิ่มอกอิ่มใจ​มากกว่า​เดิม​ ​ให้รางวัล​ผู้ดูแล​หญิง​ทั้งสอง​เป็น​เงิน​สิบ​ตำลึง​ ​เมื่อ​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​ก็​เปิด​ถุง​ผ้า​ใส่​ของขวัญ​ภายใต้​โคมไฟ

ด้านใน​มี​เสื้อผ้า​สอง​ชุด​ ​ถุงเท้า​สอง​คู่​ ​เครื่องประดับ​ผมทอง​คำ​หนึ่ง​คู่​และ​ปิ่นปักผม​หยก​น้ำเต้า​เหอ​เถี​ยน

สือ​อี​เหนียง​หยิบ​ถุงเท้า​ที่​ทำ​จาก​ผ้า​ซง​เจียง​ขึ้น​มา

ด้านล่าง​ของ​ถุงเท้า​ปัก​ลาย​สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน​คู่​ด้วย​สี​เดียวกัน​ ​ขอบ​ถุงเท้า​ปัก​ลาย​คลื่น​น้ำ​ด้วย​สี​เดียวกัน​ ​เมื่อ​ปัก​แบบ​เก็บ​ด้าย​ ​ด้าย​จะ​ถูก​ปัก​ใน​ทิศทาง​ตรงกันข้าม

นี่​เป็นความ​เคยชิน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

สือ​อี​เหนียง​ทั้ง​ดีใจ​ทั้ง​ปวดใจ

เด็ก​คน​นี้​ตอนนี้​เป็น​ผู้ดูแล​จวน​แล้ว​ ​ก็​ยัง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ให้​นาง​ด้วยตัวเอง

นาง​มองดู​ลาย​ปัก​บน​เสื้อผ้า

ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​ลวดลาย​ที่​ซับซ้อน​อย่างมาก

ลวดลาย​เช่นนี้​ต้อง​ใช้​ความพยายาม​มาก​ขนาด​ไหน​กัน​!

“​เป็น​อะไร​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​พอสื​ออี​เหนียง​เข้ามา​ใน​ห้อง​ก็​นั่ง​บน​เตียง​เตา​แล้ว​เปิด​ดู​เสื้อผ้า​ใน​ถุง​ผ้า​ทันที​ ​“​ปัก​ได้​ไม่ดี​หรือ​”

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​พึมพำ​พลาง​เก็บ​ถุงเท้า​ ​“​ปัก​ได้ดี​เลย​ทีเดียว​!​ ​เลือก​สี​อย่างพิถีพิถัน​ ​ข้าว​่า​จะ​เก็บ​เอาไว้​ใส่​ตอน​เทศกาล​วัน​ไหว้​บะจ่าง​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม

ภายใต้​แสงสว่าง​ ​ดวงตา​เปล่งประกาย​สดใส

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย

“​อีก​ไม่​กี่​วัน​เจ้า​ก็​จะ​อายุ​ยี่สิบ​สาม​ปี​แล้ว​…​”​ ​ทันใดนั้น​ก็​เอื้อมมือ​ไป​ลูบ​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​“​ยัง​ไม่เคย​จัดงาน​วันเกิด​ดี​ๆ​ ​ให้​เจ้า​เลย​…​”​ ​ท่าทาง​ทอดถอนใจ​เป็นอย่างมาก

จัดงาน​วันเกิด​ดี​ๆ​ ​อย่างนั้น​หรือ

แบบ​ไหน​ถึง​จะ​เรียกว่า​ดี

พวกเขา​ต่าง​ก็​มี​ผู้อาวุโส​อยู่​เบื้องบน​ ​ยัง​จะ​สามารถ​จัดงาน​วันเกิด​อย่าง​ใหญ่โต​ได้​อย่างนั้น​หรือ

“​พูด​อะไร​กัน​เล่า​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ว่า​ ​“​ได้รับ​ของขวัญ​เช่นนี้​ ​ยัง​ไม่​นับว่า​เป็น​งาน​วันเกิด​ที่​ดี​หรือ​”​ ​นาง​พูด​พลาง​ยก​ถุง​ผ้า​ใน​มือขึ้น​มา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​เพียงแต่​จับมือ​นาง​อย่าง​แนบแน่น

*****

วันรุ่งขึ้น​หลังจาก​ทานอาหาร​กลางวัน​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​พากั​นมา​หา

สวี​ซื่อ​จุน​มอบ​ผ้าไหม​สู่​จิ​่น​ทรง​สี่เหลี่ยมจัตุรัส​ที่​ทอ​ลาย​แตง​เทียน​หลัว​เป็น​ของขวัญ​วันเกิด​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​เจี้ยม​อบ​กล่อง​ใส่​พู่กัน​ลาย​ดอก​เหมย​ที่​แกะสลัก​จาก​ไม้​ไผ่​เซียง​เฟย​ให้​เป็น​ของขวัญ

ผ้าไหม​สู่​จิ​่น​ทอ​ลวดลาย​สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน​คู่​เป็นพื้น​หลัง​ ​ปัก​สีน้ำตาล​เถาแตง​และ​สีเขียว​แตง​เทียน​หลัว​ ​มี​ลาย​ลูก​ไก่​สีเหลือง​สอง​ตัว​กำลัง​จิก​ข้าวสาร​ ​ดู​ละเอียด​โดดเด่น​และ​ราวกับ​มีชีวิต

กล่อง​ใส่​พู่กัน​ใช้​สีม่วง​แกะสลัก​ลวดลาย​ดอก​เหมย​บน​ไม้​ไผ่​เซียง​เฟย​ ​ดู​มี​เอกลักษณ์​มาก​เช่นกัน

สือ​อี​เหนียง​มองดู​ขนาด​ของ​ผ้าไหม​สู่​จิ​่น​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรา​เอา​ผ้าไหม​สู่​จิ​่น​ไป​แขวน​ไว้​บน​ผนังห้อง​หนังสือ​ของ​ข้า​ดี​หรือไม่​”

“​จะ​ดี​หรือ​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​คนอื่น​มักจะ​เอา​มัน​ไป​วาง​รอง​โต๊ะเครื่องแป้ง​”

“​เหตุใด​จะ​ไม่ดี​เล่า​!​”

สือ​อี​เหนียง​พาทั​้ง​สอง​คน​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ ​นำ​กล่อง​ใส่​พู่กัน​เครื่องปั้นดินเผา​สีคราม​อัน​เก่า​มา​เปลี่ยนเป็น​กล่อง​ใส่​พู่กัน​ไม้​ไผ่​ที่​สวี​ซื่อ​เจี้ยม​อบ​ให้​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​ป้า​รับใช้​ให้​ถอด​ภาพ​บน​ผนัง​ลงมา​แล้ว​เอา​ผ้าไหม​สู่​จิ​่น​ไป​แขวน​แทน

ขณะที่​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​ ​จิ​่น​เกอ​ที่​ตื่น​จาก​นอน​กลางวัน​ก็​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง

“​ท่าน​แม่​ ​สอง​วันก่อน​ท่าน​พึ่ง​ติด​กระจก​หน้าต่าง​ใหม่​ไป​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​เขา​เอียง​คอม​อง​ดู​ทั้ง​สาม​คนที​่​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​ ​“​เหตุใด​วันนี้​ถึง​ได้​จัด​ห้อง​ใหม่​อีกแล้ว​เล่า​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​หัวเราะ​เช่นกัน

ทั้งสอง​คน​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ทางขวา​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ทางซ้าย​เพื่อ​ช่วย​ปรับ​ความสูง​ ​หันมา​ถาม​เขา​ว่า​ ​“​ดูดี​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​ยืน​มอง​อยู่​ที่​เดิม​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​วิ่ง​ไปดู​ด้านหน้า​ผ้าไหม​สู่​จิ​่น​ ​แล้ว​วิ่ง​หันกลับ​ไป​ยืน​ดู​อยู่​ที่​ประตู​ห้อง​หนังสือ​เป็นเวลา​นาน​ ​พูด​อย่างจริงใจ​ว่า​ ​“​สวย​กว่า​พัด​ขนนก​ยูง​ที่​แขวน​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​ท่าน​พ่อ​เยอะ​เลย​!​”

หลังจาก​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ก็​มีเสียง​ ​“​หึๆ​”​ ​ดัง​ขึ้น​ใน​ห้อง

“​ข้า​พูด​เรื่องจริง​นะ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​มอง​บรรดา​พี่ชาย​ที่​ทำ​หน้า​อยาก​จะ​หัวเราะ​แต่​ก็​ไม่กล้า​หัวเราะ​ ​เขา​เลย​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง

คราวนี้​ทุกคน​กลั้น​หัวเราะ​ไว้​ไม่ได้​แล้ว​ ​พากัน​หัวเราะ​ออกมา​ดังลั่น

เซี่ยง​ซื่อ​ก้าว​เท้า​เข้ามา​พอดี

นาง​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เผย​ให้​เห็น​ความ​อึดอัด​เล็กน้อย

“​ท่าน​แม่​ ​คุณชาย​น้อย​ทั้งหลาย​กำลัง​ช่วย​ท่าน​ตกแต่ง​ห้อง​อยู่​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

คำพูด​ของ​นาง​ทำให้​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หัวเราะ​อีกครั้ง

สีหน้า​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​ยิ่ง​อึดอัด​มากขึ้น​กว่า​เดิม

“​เจ้า​ไม่ต้อง​ไป​สนใจ​พวกเขา​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เหลือบมอง​ทั้งสอง​คน​ด้วย​ท่าทาง​ตำหนิ​ ​พูด​กับ​เซี่ยง​ซื่อ​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​สอง​คน​นี้​ซุกซน​จะ​ตาย​ไป​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​ผ้าไหม​สู่​จิ​่​นที​่​แขวน​อยู่​บน​กำแพง​ ​“​ดูดี​หรือไม่​”

เซี่ยง​ซื่อ​มองดู​อย่างละเอียด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​พูด​อย่างจริงจัง​ว่า​ ​“​โดดเด่น​เป็นอย่างมาก​!​”

ราวกับ​กำลัง​ชื่นชม​เด็กผู้หญิง​ว่าน​่า​รัก​มาก​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

สีหน้า​เซี่ยง​ซื่อ​ดู​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​รีบ​เอา​กล่อง​ไม้​จื่อ​ถาน​แกะสลัก​ลาย​ดอก​เบญจมาศ​ใบ​เล็ก​จาก​มือ​สาวใช้​ ​ใช้​สอง​มือ​มอบให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​นี่​เป็น​ของขวัญ​วันเกิด​ที่​ท่าน​พี่​กับ​ข้าม​อบ​ให้ท่าน​ ​ไม่ว่า​กี่​ปีก​็​ขอให้​ท่าน​งดงาม​เฉกเช่น​วันนี้​ตลอดไป​”

โชคดี​ที่​ใน​วันเกิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ทุกคน​ต้อง​พูดว่า​ ​‘​ขอให้​ท่าน​ร่ำรวย​ ​มีโชค​ลาภ​วาสนา​ดั่ง​มหาสมุทร​ ​อายุ​ยืน​ดุจ​ขุนเขา​’​ ​ไม่เช่นนั้น​ประโยค​นี้​ก็​คง​กลายเป็น​ของ​นาง​ไป​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​อด​กระแอม​เบา​ๆ​ ​ไม่ได้

หู่​พั่ว​เดิน​เข้าไป​รับ​กล่อง​มา

สาวใช้​ยก​ชา​เข้ามา

สือ​อี​เหนียง​เรียก​ให้​เด็ก​ๆ​ ​มาดื​่ม​ชา

“​…​ตอนบ่าย​ข้า​ยัง​มี​เรียน​อีก​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่กล้า​อยู่นาน​ ​เมื่อ​นึกถึง​บรรยากาศ​สนุกสนาน​เมื่อ​ครู่​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ไม่​อยาก​ไป​เล็กน้อย

“​ส่วน​ข้า​จะ​ทบทวน​บทเรียน​อยู่​ที่นี่​กับ​ท่าน​แม่​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เลือก​อยู่​ต่อ

ส่วน​จิ​่น​เกอ​ก็​กอด​ถุง​ผ้า​ใส่​หนังสือ​ของ​ตัวเอง​เดิน​เข้ามา​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​จะ​คัด​อักษร​อยู่​กับ​ท่าน​ที่นี่​ขอรับ​!​”

“​ได้​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศรีษะ​บุตรชาย​ ​“​แต่ว่า​ห้าม​รบกวน​พี่​ห้า​ทบทวน​บทเรียน​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​รีบ​พยักหน้า​

เซี่ยง​ซื่อ​เห็น​ดังนั้น​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

สือ​อี​เหนียง​ให้​หู่​พั่ว​ไป​ส่ง​นาง​ ​เมื่อ​หันกลับ​มาก​็​เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยืน​ด้วย​ท่าทาง​ลังเล​อยู่​ตรงนั้น

“​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยลัง​เลอ​ยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​แล้ว​จับ​แขน​สือ​อี​เหนียง​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ว่า​ข้า​ไป​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​ดี​หรือไม่​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ดังนั้น​ก็​หน้าแดง​ก่ำ

“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​รู้​ว่า​ข้า​เรียน​ไม่เก่ง​เท่า​พี่​สอง​”​ ​เขา​พูด​พึมพำ​ ​“​แต่ว่า​ข้า​จะ​พยายาม​อย่างหนัก​…​”

เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​จะ​เป็น​เหมือนกับ​พี่​สอง​ ​เมื่อมี​ข่าวดี​ส่ง​มา​ ​ท่าน​แม่​ก็​จะ​มีความสุข​มาก​ใช่​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ที่​เหล่าจ​วิน​ถัง​เมื่อวาน​นี้​ทันที

“​เป็น​เพราะ​คำพูด​ของ​ท่าน​ย่า​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​นาง​ถาม​เขา​อย่าง​อ่อนโยน

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ยัก​หน้า​ ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​ไม่​อยาก​ให้ท่าน​แม่​ลำบากใจ​…​แล้วก็​รู้สึก​อยาก​ไป​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​อยู่​บ้าง​…​เช่นนี้​ ​ต่อไป​ข้า​ก็​จะ​สามารถ​เลี้ยงดู​ท่าน​แม่​ได้​แล้ว​…​หาก​ครอบครัว​อยู่​ใน​สถานการณ์​คับขัน​ ​ซ้ำ​ยัง​ไม่​สามารถ​ปล่อย​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ที่สูง​อายุ​แล้ว​ออก​ไป​ทำมาหากิน​ได้​ ​ก็​นับว่า​อกตัญญู​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​รีบ​อธิบาย​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​จะ​บอกว่า​ไม่มี​คนเลี้ยง​ดูท่าน​แม่​ ​พี่​สอง​ ​พี่​สี่​ ​แล้วก็​น้อง​หก​ต่าง​ก็ดี​กัน​ทั้งนั้น​ ​ข้า​เพียง​จะ​บอกว่า​ข้า​อยาก​เลี้ยงดู​ท่าน​แม่​…​”​ ​ขณะที่​พูด​เขา​ก็​มีสี​หน้า​โศกเศร้า​เล็กน้อย​ ​“​ไม่ใช่​ ​ข้า​หมายความว่า​ ​ข้า​ก็​ควรจะ​ดูแล​ท่าน​แม่​จึง​จะ​ถูก​…​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เล็กน้อย

นาง​เหลือบมอง​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​หมอบ​เขียน​ตัวอักษร​อยู่​บน​โต๊ะ​อย่างตั้งใจ​ ​ก่อน​จะ​จับมือ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​มากับ​ข้า​!​”

ไป​ที่​ห้องรับแขก​ตรงข้าม​กับ​ห้อง​หนังสือ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท