ทันใดนั้นเฮ่อเหลียนเวยเวยก็นึกถึงสิ่งที่เขาเคยพูดกับนางก่อนที่นางจะกลับมาได้ ”หลังจากข้าตามเจ้ากลับไป ข้าอาจจะเกลียดเจ้าก็ได้ เจ้ายังอยากให้ข้ากลับไปพร้อมเจ้าอีกหรือ”
นางลืมไปได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนรักษาคำพูดตัวเองเสมอ!
เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองนางเลยด้วยซ้ำ
นิ้วของนางเริ่มเย็น เฮ่อเหลียนเวยเวยขยับขาและพยายามที่จะลุกขึ้น แต่แล้วนางก็พบว่านางไม่เหลือเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย นางแทบจะยืนไม่ไหว และนั่นทำให้นางบ่นในกระแสจิตว่า ”หยวนเสี่ยวหมิง เจ้าว่าองค์ชายใจแคบเกินไปหรือเปล่า เขาไม่ได้แค่เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่การง้อเขาก็ยังเป็นเรื่องที่เสียแรงเปล่า ไหนบอกข้าสิว่าข้าทำอะไรได้อีกหรือนอกจากกลับมา แล้วตอนนี้เขาก็ยังตั้งใจทำเป็นไม่สนใจข้า คนรวยนี่ช่างไร้มนุษยธรรมจริงๆ”
ตอนแรกเฮ่อเหลียนเวยเวยตั้งใจจะระบายความชอกช้ำของตัวเองร่วมกับหยวนหมิง
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หยวนหมิงยังคงไม่ตอบนาง
แปลกชะมัด
หยวนหมิงเคยไม่ชอบหน้าองค์ชาย และคิดว่าเขาค่อนข้างน่ารำคาญเสียด้วยซ้ำ
ทำไมคราวนี้เขาถึงเอาแต่เงียบล่ะ
ตรงกันข้ามกลับเป็นไป๋หลี่เจียเจวี๋ยต่างหากที่ชะงักไป สายตาสูงส่งของเขามองผ่านชิงหลงมาหยุดอยู่ที่เฮ่อเหลียนเวยเวย
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่เข้าใจความหมายของสายตานั้น สีหน้าของเขาดูห่างเหินราวกับกำลังบอกนางว่ารอดูก็แล้วกัน
เขาคงไม่รู้ใช่ไหมว่านางนินทาเขาอยู่
ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ใช่หยวนหมิง ดังนั้นเขาย่อมไม่สามารถรับกระแสจิตของนางได้
เดาว่าเขาคงเกลียดนางอย่างมาก และคงกำลังสรรหาวิธีทรมานนางอยู่ต่างหาก
“ไร้มนุษยธรรมเสียไม่มี” เฮ่อเหลียนเวยเวยเสริมพร้อมกับชูกำปั้นขึ้น ดวงตาของนางวาววับด้วยความโกรธ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เจือไปด้วยความโศกเศร้าอันไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
หน้าอกของนางบีบรัดแน่น มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดอย่างมาก
คนจากวิหารบวงสรวงเพิ่งมาถึงก็ในตอนนี้นี่เอง หนานกงเลี่ยพาคนเข้ามาจัดการกับทหารรักษาพระองค์ที่ฮ่องเต้สั่งให้คุ้มกันตำหนักเฉียนชิงไว้ เขาทำหน้าประหลาดใจออกมาทันทีที่เห็นเฮ่อเหลียนเวยเวย สีหน้านั้นแตกต่างจากในอดีตอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าท่าทางของเขาย่อมแตกต่างไปจากเดิมเพราะความทรงจำที่ถูกปรับใหม่
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหนานกงเลี่ยที่จะยอมรับความทรงจำใหม่นี้ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นผู้บวงสรวงที่รู้ทุกอย่างดี ดังนั้นเรื่องที่มีใครบางคนย้อนอดีตกลับไปเปลี่ยนความทรงจำของพวกเขาจึงไม่ได้กวนใจเขาเท่าใดนัก
แต่สิ่งที่เป็นราวกับหนามยอกอกสำหรับหนานกงเลี่ยกลับเป็นความคิดที่ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมีต่อเฮ่อเหลียนเวยเวย
ในเวลานั้น หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้จากไป อาเจวี๋ยก็เดือดดาลราวกับเขาหมดหวังกับทุกสิ่ง ทุกครั้งที่เขาลงมือสังหารผู้คน สายตาของเขาจะเย็นชาอย่างสุดแสนประหนึ่งว่าเขาไม่สนใจคนที่สิ้นใจอยู่ตรงหน้าเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาขังตัวเองอยู่ในวังหลวง และตัดทุกการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก เขาปฏิเสธการติดต่อกับผู้คนและปฏิเสธทุกอย่าง รวมถึงจดหมายเชิญจากคนคนนั้นที่อยู่ในตระกูลเฮ่อเหลียนอีกด้วย
ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีใครอยู่ข้างกายอาเจวี๋ยอีก หนานกงเลี่ยสัมผัสถึงความเกลียดชังที่แผ่ออกมาจากตัวเขาได้อย่างชัดเจน มันเย็นชาราวกับเพชรเจียระไน สมบูรณ์แบบแต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ในฐานะอดีตพันธมิตร หนานกงเลี่ยรู้สึกว่าเขาต้องคุยเรื่องเฮ่อเหลียนเวยเวย เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเดินเข้าไปขวางทางไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ”อาเจวี๋ย เจ้าจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับพี่ใหญ่เวยจริงๆ หรือ พูดตามตรงว่าข้าไม่คิดว่านางทำผิดแต่อย่างใด” จนกระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังงุนงงกับการตัดสินใจย้อนอดีตและการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเฮ่อเหลียนเวยเวย แต่ดูจากนิสัยของนางเวลาทำอะไรสักอย่างแล้ว เขาสามารถบอกได้ว่านางทำเรื่องนี้เพื่อส่วนรวม
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองข้ามเขาไปโดยสิ้นเชิง เขาเดินผ่านร่างของเขาไปและพูดออกมาคำหนึ่งโดยไม่คิดแม้แต่จะหันหน้ากลับมา ”หุบปาก”
เขาเดินตรงเข้าไปหาเฮ่อเหลียนเวยเวยทันทีที่พูดจบ ร่างของเขาเปล่งประกายยามเมื่อเดินผ่านฝูงชน และเรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ตาคู่สวยและลึกล้ำนั้นแสดงให้เห็นถึงความงดงามทรงเสน่ห์ของเขา รอยยิ้มจางค้างอยู่ที่มุมปากของเขา แต่สายตาที่เขามองเฮ่อเหลียนเวยเวยกลับเย็นชามากเสียจนนางสามารถสัมผัสได้ว่ามันกำลังทิ่มแทงเข้าไปถึงกระดูก
สรุปว่าตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะเมินข้า และทำเหมือนข้าเป็นคนแปลกหน้าหรือ
นิ้วของเฮ่อเหลียนเวยเวยปัดผ่านขนนกสีดำที่อยู่บนพื้น เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง นางก็เห็นขาเรียวยาวคู่หนึ่ง
นางเงยหน้ามองตามขาคู่นั้นขึ้นไป จนกระทั่งเห็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสง่างามและดูดีอย่างยิ่ง แต่สายตาของเขากลับเย็นชาราวกับคมมีดเย็นเฉียบ เสื้อคลุมขนสัตว์ที่อยู่บนไหล่ของเขาทำให้บรรยากาศสูงศักดิ์ของเขาเด่นชัดขึ้น
ไปหลี่เจียเจวี๋ยโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้สายตาของเขาอยู่ในระดับเดียวกับนาง สีหน้าของเขาว่างเปล่ามีแต่เพียงความเย็นชา เมื่อนางพยายามที่จะลุกขึ้น เขาก็ใช้สองมือรวบขาของนางเอาไว้ด้วยพละกำลังที่สามารถกักขังทุกสิ่งในสายตาได้อย่างแน่นหนา
หนานกงเลี่ยผงะขณะมองภาพนั้นอย่างหวั่นใจ อาเจวี๋ยจะสอนบทเรียนนางที่นี่หรือ
เฮ่อเหลียนเวยเวยมุ่นหัวคิ้วเข้าหากัน แล้วสบตากับเขา
นิ้วเรียวยาวของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยังอยู่บนข้อเท้าของเฮ่อเหลียนเวยเวย รอยยิ้มอันแสนคุ้นเคยที่ทำให้นางใจเต้นรัวยังคงอยู่บนริมฝีปากของเขา แต่สายตาเย็นชาที่จับจ้องมานั้นกลับทำให้เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกอยากหนีไป
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระซิบข้างหูนาง น้ำเสียงของเขาทั้งลึกล้ำและเย้ายวน ”ไร้มนุษยธรรมหรือ ใจแคบหรือ เจ้าคิดเจ้าแค้น ง้อเขาไปก็เสียแรงเปล่าหรือ หืม”
ดวงตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยเบิกกว้างทันทีที่นางได้ยินคำคุณศัพท์เหล่านี้ ไม่มีทาง เขารู้สิ่งที่อยู่ในใจนางได้อย่างไร!
“หยวนเสี่ยวหมิง เขา…” เฮ่อเหลียนเวยเวยยังพยายามใช้กระแสจิตสื่อสารกับเขา
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยบีบคางของนางในทันใด ลมหายใจเย็นๆ ของเขารินรดลงบนริมฝีปากของนาง ”เลิกเรียกเขาสักที เจ้าไม่เห็นความเชื่อมโยงระหว่างเจ้ากับข้าหรือ”
“ความเชื่อมโยงหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยลดสายตาลง และสังเกตเห็นสัญลักษณ์บางอย่างที่อยู่รอบข้อมือของพวกเขา นั่นเป็นสัญลักษ์ของพันธสัญญานิรันดร์ และมันจะปรากฏขึ้นทันทีที่ผู้เป็นนายขายวิญญาณของตนให้กับปีศาจ
อย่างแรก สัญลักษณ์นั้นทำให้ผู้เป็นนายสามารถอัญเชิญปีศาจออกมาได้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
อย่างที่สอง มันทำให้ปีศาจสามารถควบคุมผู้เป็นนายได้ง่ายขึ้น ตราบใดที่มีสัญลักษณ์นี้อยู่ ปีศาจตนนั้นก็จะสามารถหาตัวผู้เป็นนายได้เสมอไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน และมันยังสามารถกลืนกินวิญญาณของผู้เป็นนายได้ทุกเมื่อหากมันต้องการ
แต่ทำไมสัญลักษณ์นี้ถึงปรากฏขึ้นบนมือของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยได้ล่ะ ปีศาจที่นางทำพันธสัญญาด้วยคือหยวนหมิงต่างหาก เป็นไปได้หรือไม่ว่า…
ท่ามกลางความสับสนนั้น จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็พลันแล่นเข้ามาในใจนาง ”เจ้ากับหยวนหมิง? หรือว่าพวกเจ้าสองคนก็คือ?”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ แต่ในน้ำเสียงของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยนั้นกลับไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย ”หยวนหมิงก็เป็นหนึ่งในเศษชิ้นส่วนวิญญาณของข้าเหมือนกัน ตอนที่ผนึกขับไล่วิญญาณร้ายลงมาบนโลก และตัวข้าได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์ ส่วนที่เป็นปีศาจของข้าได้กลายร่างไปเป็นหยวนหมิง เขาสูญเสียความทรงจำและพลังปีศาจของตัวเองไปหลังจากถูกผนึกเอาไว้ในหนังสือโบราณเล่มนั้น พันธสัญญานิรันดร์จะต้องทำกับวิญญาณดั้งเดิมของปีศาจตนนั้นเท่านั้น และข้าคือวิญญาณดั้งเดิมของหยวนหมิง”
เฮ่อเหลียนเวยเวย : …หมายความว่าอาคมอัญเชิญที่นางท่องออกมาเมื่อครู่นี้อัญเชิญวิญญาณดั้งเดิมของเขาออกมาอย่างนั้นหรือ และวิญญาณดั้งเดิมดวงนั้นก็หลอมรวมกับเศษชิ้นส่วนวิญญาณของมันแล้วจึงกลายมาเป็นปีศาจในพันธสัญญาของนาง หรือถ้าจะพูดอีกอย่างก็คือคนที่รับเสียงก่นด่าก่อนหน้านี้ของนางไปเต็มๆ ก็คือองค์ชาย…?