ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 657 ฤดูร้อน (ต้น)

ตอนที่ 657 ฤดูร้อน (ต้น)

หลังจาก​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​จู่​เห​ริน​แซ่​ฉัง​ผู้​หนึ่ง​มา​เป็น​แขก​ที่​สกุล​สวี​ ​หลังจากที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดคุย​กับ​ฉัง​จู่​เห​ริน​เป็นเวลา​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ก็ได้​กำชับ​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​เก็บกวาด​เรือน​ทิง​เทา​ที่อยู่​ไม่​ห่าง​จาก​เรือน​ซวงฝู​ ​“​ต่อไป​คุณชาย​น้อย​ห้า​ก็​จะ​เรียน​กับ​อาจารย์​ฉัง​ที่​เรือน​ทิง​เทา​”

ข่าวลือ​ที่ว่า​ ​‘​คุณชาย​น้อย​ห้า​จะ​ต้อง​ไป​เรียน​ที่​เล่อ​อาน​เหมือน​คุณชาย​น้อย​สอง​’​ ​ในที่สุด​ก็​จบ​ลง​ ​คนที​่​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ก็​คือ​สวี​ซื่อ​จุน

“​พอ​ข้า​บอก​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นั้น​ ​ท่าน​แม่​ก็​ไปหา​ท่าน​ลุง​ทันที​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี้ยม​อง​พี่ชาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​ลุง​จะ​ช่วย​หา​อาจารย์​ให้​ข้า​ ​ข้า​ไม่​ไป​เล่อ​อาน​หรอก​ขอรับ​”​ ​เขา​มั่นใจ​ใน​ตัว​สือ​อี​เหนียง​เป็นอย่างมาก

“​ก็​ข้า​กลัว​ว่า​ท่าน​ลุง​จะ​หา​คนที​่​เหมาะสม​ให้​ไม่ได้​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​อย่างลำบาก​ใจ​ว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​หาก​ท่าน​แม่​เห็น​ว่า​พี่​สอง​ศึกษา​เล่าเรียน​ที่​เล่อ​อาน​ได้ดี​ ​ก็​เลย​ตัดใจ​ส่ง​เจ้า​ไป​ที่​เล่อ​อาน​เช่นกัน​…​เช่นนั้น​ก็​จะ​เหลือ​ข้า​แค่​คนเดียว​แล้ว​!​”​ ​สุดท้าย​แล้วก็​ยัง​รู้สึก​กังวล​อยู่เล็ก​น้อย

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รู้สึก​อบอุ่น​หัวใจ​ ​“​ไม่มีทาง​!​ ​ที่​จวน​ก็​ยัง​มีน​้​อง​หก​อยู่​ไม่ใช่​หรือ​ ​ต่อให้​ข้า​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​เล่อ​อาน​ ​ใน​วัน​เทศกาล​ของ​ทุกปี​ข้า​ก็​จะ​ได้​กลับมา​อยู่ดี​!​”

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​ดูเหมือนว่า​คำพูด​ของ​เขา​จะ​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ

สวี​ซื่อ​จุน​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย

ไม่ใช่​ว่าน​้​อง​หก​ไม่ดี​ ​เพียงแต่ว่า​เขา​อายุ​ยังน้อย​ ​รู้สึก​ว่า​ไม่​ค่อย​เข้าขา​กับ​เขา​เท่าไร​…​หรือ​จะ​บอก​ได้​ว่า​ตน​ไม่ได้​คิด​ว่าน​้​อง​หก​เป็นเพื่อน​!

“​ข้าว​่า​พวกเรา​ไม่ต้อง​พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​”​ ​เขา​โบกมือ​ไปมา​ ​รีบ​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​อย่างรวดเร็ว​ ​“​ตอนนี้​เจ้า​ไม่ต้อง​ไป​เล่อ​อาน​แล้ว​ ​สถานที่​เรียนหนังสือ​ก็​อยู่​ข้าง​เรือน​ซวงฝู​ ​เมื่อถึง​เวลา​พวกเรา​ก็​จะ​ได้​เรียน​ด้วยกัน​อีก​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ทิง​เทา​อย่างเป็นทางการ​เมื่อไร​ ​ในเมื่อ​อาจารย์​ฉัง​เป็น​อาจารย์​ของ​เจ้า​ ​เช่นนั้น​ให้​ข้า​ไป​คำนับ​ด้วยดี​หรือไม่​”

“​ข้า​ก็​ไม่รู้​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ ​พวกเรา​ไป​ถาม​ท่าน​แม่​ดี​หรือไม่​”

ทั้งสอง​คน​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เรือน​หลัก

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​พูดคุย​เรื่อง​ของ​เด็ก​ๆ​ ​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​ทาง​ด้าน​ของ​จุน​เกอ​ ​อาจารย์​จ้าว​รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ ​จิ​่น​เกอ​มาคัด​ตัวอักษร​อยู่​ที่​เรือน​ข้า​ ​ข้า​ก็​จะ​คอย​ดูแล​การเรียน​ของ​เขา​ ​ส่วน​เจี​้ย​เกอ​ ​ข้าว​่า​อาจารย์​ฉัง​เป็น​คนที​่​เข้มงวด​เป็นอย่างมาก​ ​ก่อนหน้านี้​เขา​เรียนหนังสือ​กับ​อาจารย์​จ้าว​ ​ทำตัว​ตามสบาย​จน​เคยชิน​ ​หาก​เปลี่ยน​อาจารย์​เกรง​ว่า​จะ​ไม่​ค่อย​ชิน​เท่าไร​ ​อีกทั้ง​เขา​ยัง​มีนิ​สัย​ขี้อาย​อีกด้วย​ ​เจ้า​ต้อง​คอย​ถาม​เขา​ให้​มาก​ๆ​ ​ส่วน​ค่าตอบแทน​ของ​อาจารย์​ฉัง​ ​ข้า​เตรียม​จะ​จัดการ​เหมือนกับ​ตอนที่​อาจารย์​จ้าว​พึ่ง​เข้ามา​สอน​ ​หนึ่ง​ปี​ต่อ​สามสิบ​ตำลึง​ ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​หนึ่ง​คน​ ​เสื้อผ้า​สี่​ฤดู​ ​ฤดู​ละ​สอง​ชุด​ ​หาก​สอน​ได้ดี​ ​ปลายปี​ก็​จะ​ให้เงิน​รางวัล​เพิ่ม​ ​หาก​เจี​้ย​เกอ​สามารถ​สอบ​ติด​ซิ่ว​ไฉ​ได้​ ​ข้า​ก็​จะ​ให้รางวัล​อีก​”

ค่าตอบแทน​ของ​อาจารย์​ใน​เยี​่​ยน​จิง​จะ​อยู่​ระหว่าง​ยี่สิบ​ถึง​สามสิบ​ตำลึง​ ​นอกจากนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ให้​บ่าว​รับใช้​ ​เสื้อผ้า​สี่​ฤดู​ ​และอั​่ง​เปา​ ​ค่าตอบแทน​เช่นนี้​นับว่า​ไม่น้อย​เลย

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย

“​ท่าน​โหว​วางใจ​ได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​อากาศ​เริ่ม​อุ่น​ขึ้น​แล้ว​ ​และ​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​ใช้​น้ำแข็ง​ ​นาง​หยิบ​พัด​กลม​มาช​่ว​ยพัด​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่พึ่ง​เข้ามา​ ​“​ข้า​จะ​ใส่ใจ​เจี​้ย​เกอ​ให้​มาก​ ​เพียงแต่ว่า​จิ​่น​เกอ​ไป​อยู่​กับ​ท่าน​ ​ท่าน​จะ​ตามใจเขา​ไม่ได้​เด็ดขาด​ ​อีก​อย่าง​ ​ห้าม​พา​เขา​ไป​ขี่ม้า​ที่​สนามม้า​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​รอ​ให้​เขา​อายุ​สิบ​ปีก่อน​ ​ถ้าหาก​จำเป็นต้อง​ไป​จริงๆ​ ​ท่าน​ก็​ต้อง​ดูแล​เขา​ด้วยตัวเอง​…​”

นาง​ยืน​อยู่​ข้าง​เขา​ ​ถือ​พัดโบก​ไปมา

“​ตกลง​เจ้า​จะ​ให้​ข้า​พา​เขา​ไป​ขี่ม้า​ ​หรือไม่​ให้​ข้า​พา​เขา​ไป​ขี่ม้า​กัน​แน่​”​

สายตา​ของ​เขา​ไป​หยุด​อยู่​ที่นาง​โดยไม่ตั้งใจ

เสื้อ​สีขาว​เงิน​ปกปิด​ร่างกาย​นาง​อย่าง​หลวม​ๆ​ ​ขยับ​ตาม​จังหวะ​การ​พัด​ของ​นาง​ที่​ดั่ง​สายน้ำ​ไหล​ ​ทำให้​ส่วน​ที่​อวบ​อิ่ม​ของ​นาง​เห็นชัด​เจน​ขึ้น​ ​เอว​ดู​เรียว​บาง​มากขึ้น​ ​ดึงดูด​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

เขา​แย่ง​พัดมา​จาก​มือ​นาง​ ​เอา​มา​พัด​เอง​แรง​ๆ​

“​ประเดี๋ยว​บอก​ไม่ได้​ ​ประเดี๋ยว​ก็​บอกว่า​ได้​ ​หาก​เจ้า​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​ลูก​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดี​แล้ว​…​”

สือ​อี​เหนียง​ถลึงตา​ใส่​เขา

แล้ว​ใคร​กันที่​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ขี่ม้า​ ​ทำให้​ลูก​เอาแต่​คิด​เรื่อง​นี้​อยู่​ทุกวัน​ ​พอ​เห็น​ว่า​เขา​กลับมา​ก็​รีบ​ยก​ชายก​น้ำ​มาริน​ให้​เขา​อย่างกระตือรือร้น​ ​ราวกับ​ลูก​สุนัข​ที่​เดิน​วน​ไป​วน​มา​อยู่​รอบตัว​เขา​ก็​มิ​ปาน​…

“​หาก​ข้า​ไม่​ให้​ ​ท่าน​โหว​จะ​ฟัง​ข้า​หรือ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความโกรธ​เล็กน้อย​ ​“​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​เด็กผู้ชาย​ไม่​ควร​อยู่​กับ​สาวใช้​ ​หรือ​บรรดา​ป้า​รับใช้​ทั้งวัน​ ​ไม่เพียงแต่​หู​ตา​คับแคบ​ ​ซ้ำ​ยัง​เอาแต่​นินทา​เรื่อง​ของ​ผู้อื่น​ทั้งวัน​…​”

มีสาว​ใช้​น้อย​รายงาน​ผ่าน​ผ้าม่าน​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​กับ​คุณชาย​น้อย​ห้ามา​พบ​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​หยุด​บทสนทนา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านา​งมี​สีหน้า​โกรธเคือง​เล็กน้อย​ ​ก็​รู้สึก​เสียใจ​ที่​ตัวเอง​พูดจา​รุนแรง​เกินไป​ ​ยัด​พัด​กลม​ใส่​มือ​นาง​เหมือนเดิม​ ​อาศัย​โอกาส​นี้​จับมือ​นาง​ไว้​ ​“​เอาล่ะ​ ​เด็ก​ๆ​ ​มากัน​แล้ว​!​”​ ​น้ำเสียง​เบา​ลง​เล็กน้อย​ ​แฝง​ไว้​ด้วย​ความนุ่มนวล​ ​ราวกับว่า​กำลัง​ปลอบโยน​นาง

ไม่ใช่​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่เห็นด้วย​กับ​ความคิด​ของ​เขา​ ​เพียงแต่ว่า​นาง​แค่​ไม่เชื่อใจ​อาจารย์​สอน​ขี่ม้า​ที่​ไม่เคย​ได้​พบ​เจอ​มาก​่อน​ ​จึง​ยอมให้​จิ​่น​เกอ​ไป​กับ​เขา​มากกว่า​ ​ทั้ง​ยัง​หงุดหงิด​น้ำเสียง​ที่​ฟัง​ดู​ไม่พอใจ​ของ​เขา​ ​เมื่อ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีท​่า​ทาง​โอนอ่อน​ลง​ ​ความโกรธ​ที่อยู่​ใน​ใจ​ก็​หาย​ไป​โดยปริยาย​ ​แต่​ก็​ยัง​หยิก​ไหล่เขา​เบา​ๆ​ ​ก่อน​จะ​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น

นับวัน​ยิ่ง​เหมือน​เด็ก​ขึ้น​เรื่อยๆ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า

สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดิน​เข้ามา

“​พวก​เจ้า​มากั​นพ​อดี​เลย​!​”​ ​เมื่อ​คำนับ​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ให้​สาวใช้​น้อย​ยก​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​มา​ให้​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​นั่ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​มา​โดย​ไม่​รอ​ให้​ทั้งสอง​คน​เอ่ยปาก​ ​“​อาจารย์​ฉัง​จะ​มาป​ระ​จำ​ตำแหน่ง​ที่​จวน​หลัง​วันที่​สิบห้า​เดือน​ห้า​”​ ​เขามอง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​ช่วงนี้​เจ้า​เก็บของ​ให้​เรียบร้อย​ ​ต่อไป​ต้อง​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ทิง​เทา​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​หลังจากที่​เจี​้ย​เกอ​ไป​เรือน​ทิง​เทา​แล้ว​ ​ตอนเช้า​อาจารย์​จ้าว​จะ​สอน​จิ​่น​เกอ​ ​และ​จะ​สอน​เจ้า​ใน​ตอนบ่าย​ ​ต่อไปนี้​เจ้า​จะ​ต้อง​ไป​เรียน​การ​ดูแล​จัดการ​กิจการ​ใน​เรือน​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​กับ​ข้า​”

เด็ก​ทั้งสอง​คน​ลุกขึ้น​ขานรับ​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​กำชับ​อีก​สอง​สาม​ประโยค​ ​“​ต้อง​เชื่อฟัง​อาจารย์​ ​ตั้งใจ​เรียนหนังสือ​ ​ฟัง​ให้​มาก​ ​ดู​ให้​มาก​ ​หาก​ไม่เข้าใจ​ก็​ให้​ถาม​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​อย่า​ตัดสินใจ​โดยพลการ​”​ ​จากนั้น​ก็​ให้​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ไป​เตรียมตัว

สวี​ซื่อ​จุน​ส่งสายตา​ให้​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ท่าทาง​สงบนิ่ง​ ​ส่ง​เด็ก​ทั้งสอง​ออก​ไป

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​อยาก​เชิญ​อาจารย์​ฉั​งมา​ทานข้าว​ ​ท่าน​เห็นด้วย​หรือไม่​ขอรับ​”

“​เอา​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่มีทาง​ไป​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​ ​ไม่มี​มาตรฐาน​อะไร​สามารถ​พิสูจน์​ได้​ว่า​อาจารย์​จ้าว​สอน​ได้ดี​ ​ตอนที่​ใน​จวน​มี​อาจารย์​เพียง​คนเดียว​ก็​ยัง​ไม่มี​อะไร​ ​ตอนนี้​มี​อาจารย์​มาดำ​รง​ตำแหน่ง​ถึง​สอง​คน​ ​นาง​เชื่อมั่น​ใน​คุณธรรม​ของ​อาจารย์​จ้าว​ ​แต่​ยัง​ไม่เคย​ได้​พบ​เจอ​กับ​อาจารย์​ฉัง​ ​ถ้าหาก​ระหว่าง​อาจารย์​ทั้งสอง​เกิดเรื่อง​ไม่​พึงพอใจ​กัน​ขึ้น​มา​ ​คนที​่​ได้รับ​ผลกระทบ​ก็​คือ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​นาง​กำชับ​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​เป็น​อาจารย์​ของ​เจ้า​ ​แล้วยัง​เคย​สอน​น้อง​ห้า​ของ​เจ้า​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ปฏิบัติ​ต่อ​เจ้า​ราวกับ​ลูก​แท้ๆ​ ​พวก​เจ้า​ห้าม​ละเลย​อาจารย์​จ้าว​เป็นอันขาด​ ​ในเมื่อ​จะ​เชิญ​อาจารย์​ฉัง​ ​คง​เป็นการ​ดีกว่า​หาก​จะ​เชิญ​อาจารย์​จ้าว​มาด​้วย​ ​ให้​อาจารย์​จ้าว​ช่วย​พวก​เจ้า​ต้อนรับ​อาจารย์​ฉัง​ ​อาจารย์​ทั้งสอง​ก็​จะ​ได้​ใช้​โอกาส​นี้​ทำความรู้จัก​กัน​”​ ​การ​เริ่มต้น​ที่​ดีย​่​อม​ดีกว่า​เสมอ​ ​และ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​ใกล้​จะ​ต้อง​รับมือ​ดูแล​กิจการ​ใน​จวน​อย่างเป็นทางการ​แล้ว​ ​เลย​กำชับ​เขา​อีกว่า​ ​“​เจ้า​อยู่​เรือน​นอก​ ​ก็​ต้อง​สุภาพ​กับ​ผู้ดูแล​ใน​จวน​ ​พวกเขา​จะ​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​เจ้า​ใน​ภายภาคหน้า​”

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พยักหน้า

พอ​อาจารย์​ฉัง​ย้าย​เข้ามา​อย่างเป็นทางการ​แล้ว​ ​เขา​ก็​ทำตาม​ที่​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​ ​เชิญ​อาจารย์​จ้าว​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ต้อนรับ​อาจารย์​ฉัง​ที่​เรือน​ตัวเอง​ ​ก่อนหน้านี้​อาจารย์​ฉัง​รู้ดี​ว่า​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​ได้รับ​การอบรม​สั่งสอน​จาก​อาจารย์​จ้าว​ ​แต่​อาจารย์​จ้าว​สอน​เพียง​บทเรียน​เกี่ยวกับ​การ​ประพฤติตน​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่มี​ข้อกำหนด​ที่​เข้มงวด​ ​แต่​เขา​กลับ​ต้องการ​สอน​ความเรียง​แปด​ขา​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ซึ่ง​ต้อง​มี​การควบคุมดูแล​อย่างเข้มงวด​ ​กังวล​เล็กน้อย​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะ​กลัว​ความยากลำบาก​ ​ไม่ยอมรับ​มุมมอง​ความคิด​ที่​แตกต่าง​ ​เอา​เขา​ไป​เปรียบเทียบ​กับ​อาจารย์​จ้าว​ ​และ​ไม่เชื่อฟัง​เขา​ ​ตอนนี้​เมื่อ​เห็น​ว่า​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ต่าง​ก็​ให้​ความเคารพ​เขา​เป็นอย่างมาก​ ​ปฏิบัติ​อย่าง​อ่อนโยน​และ​มีมา​รยาท​ ​เลย​รู้สึก​ว่า​อาจารย์​จ้าว​อบรมสั่งสอน​ได้ดี​ ​หิน​ก้อน​ใหญ่​ที่อยู่​ใน​ใจ​พลัน​สลาย​หาย​ไป​ ​และ​ยัง​รู้สึก​ละอาย​เล็กน้อย​ที่​คาดเดา​ไป​เอง​ว่า​อาจารย์​จ้าว​กำลัง​มี​ความคิด​หลอก​เอา​เงิน​สกุล​สวี​ ​จึง​ให้​ความเคารพ​อาจารย์​จ้าว​เป็น​อย่า​มาก​ ​เดิมที​อาจารย์​จ้าว​ก็​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​ยัง​กลัว​ว่า​คน​อย่าง​อาจารย์​ฉัง​ที่​ยกย่อง​ความเรียง​แปด​ขารา​วกั​บบท​สวด​ศาสนาพุทธ​จะ​ดูหมิ่น​บทกวี​และ​บทเพลง​ของ​เขา​เหล่านั้น​ ​ในเมื่อ​อาจารย์​ฉัง​เริ่ม​ที่จะ​ผูกมิตร​กับ​เขา​ก่อน​ ​เขา​ก็​จะ​ปฏิบัติ​ต่อ​อาจารย์​ฉัง​เหมือน​สหาย​ ​เวลาพักผ่อน​ก็​จะ​ออก​ไป​เดินเล่น​กับ​อาจารย์​ฉั​งบ​่อย​ๆ​ ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ทั้งสอง​คน​ก็​กลายเป็น​สหาย​สนิท​กัน

เมื่อ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​อาจารย์​ดี​แล้ว​ ​บรรยากาศ​การเรียนรู้​ของ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​จะ​ดี​ตาม​ไป​ด้วย

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยป​ฏิ​บัติ​ตาม​ข้อกำหนด​ของ​อาจารย์​ฉั​งอย​่าง​เคร่งครัด​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ติดตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​เพื่อ​เรียนรู้​การ​จัดการ​เรื่อง​ทั่วไป​ทุก​เช้า​ ​เขา​ไม่กล้า​ที่จะ​ประมาท​ ​ค่อยๆ​ ​รวบรวม​สมาธิ​จดจ่อ​อยู่​กับ​กิจการ​ของ​เรือน​นอก​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​เริ่มต้น​ได้​ช้า​ ​แต่​เขา​ก็​มี​ความอ่อนโยน​ต่อ​ผู้อื่น​ ​และ​เต็มใจ​ที่จะ​เรียนรู้​จาก​ผู้ดูแล​เหล่านั้น​ ​การปฏิบัติ​ตน​เช่นนี้​ต่อ​คน​ทั่วไป​ ​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​เข้า​ก็​จะ​กลายเป็น​ที่​ชื่นชอบ​ของ​ทุกคน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​เป็น​ถึง​หย่ง​ผิง​โหว​ซื่อ​จื่อ​ ​มีส​ถานะ​สูงส่ง​ ​ทำให้​มีความรู้สึก​ที่​แตกต่าง​ ​บรรดา​ผู้ดูแล​เหล่านั้น​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ด้วย​ความเคารพ​อย่างจริงใจ​ ​ชื่อเสียง​ใน​ด้าน​ความใจกว้าง​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ค่อยๆ​ ​แพร่กระจาย​ออก​ไป

ตอนนี้​สิ่ง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​มองหา​คือ​คำ​ว่า​ ​‘​มั่นคง​’​ ​การแสดงออก​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ทำให้​เขา​พอใจ​มาก​ ​วางมือ​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​ ​ส่วน​เขา​ก็​จะ​ไป​เรือน​ซิ่ว​มู่​กับ​จิ​่น​เกอ​ทุก​เช้า​หลัง​ตื่นนอน​ ​คอย​ดูแล​จิ​่น​เกอ​ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​ ​ตอนบ่าย​ก็​ตรวจการ​บ้าน​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ตราบใดที่​จิ​่น​เกอ​ทำการบ้าน​ได้ดี​ ​เขา​ก็​จะ​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​ ​หรือ​เล่าเรื่อง​การสู้​รบ​ครั้งก่อน​ๆ​ ​ของ​เขา​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง​ ​มีอยู่​ครั้งหนึ่ง​ที่​อารมณ์ดี​ ​พา​จิ​่น​เกอ​ทำ​แผนที่​จิ​่ว​โจว​บน​โต๊ะ​ทราย​ใน​เรือน​เสียด​้วย​ซ้ำ

จิ​่น​เกอ​รู้สึก​ว่าการ​ได้​อยู่​กับ​บิดา​เป็นเรื่อง​ที่​สนุกสนาน​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่​ไป​ป้อน​อาหาร​นก​ ​ไม่​พาสุนัข​ไป​เดินเล่น​ ​แล้วก็​ไม่​ไป​โต้เถียง​กับ​เซิน​เกอ​อีก​ ​ทุกวัน​คิด​แต่​จะ​ทำการบ้าน​ให้​เสร็จ​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​ก็​ไป​เล่น​กับ​บิดา​ ​ฟัง​บิดา​เล่าเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ที่​ทำให้​เขา​รู้สึก​ใจเต้น​แรง

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​กังวล​เล็กน้อย​เมื่อ​เห็น​การเปลี่ยนแปลง​ของ​บุตรชาย​ ​ลอง​ตรวจการ​บ้าน​ของ​เขา​หลายครั้ง​ก็​พบ​ว่า​เขา​ทำได้​ดี​และ​รวดเร็ว​กว่า​เมื่อก่อน​ ​บางครั้ง​ก็​ไป​ปรากฏตัว​อย่างกะทันหัน​ที่​เรือน​นอก​ ​เห็น​เพียง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​เล่าเรื่อง​ให้​เขา​ฟัง​ ​พา​เขา​สร้าง​แบบจำลอง​ภูมิทัศน์​ ​เขา​ก็​ฟัง​อย่าง​ตั้งอกตั้งใจ​ ​เล่น​อย่างสนุกสนาน​ ​เมื่อ​เห็น​ดังนั้น​ก็​อด​รู้สึก​ทอดถอนใจ​ไม่ได้​ ​เมื่อ​เด็กผู้ชาย​โต​แล้วก็​จะ​ชอบ​อยู่​กับ​บิดา​มากกว่า

แต่​ความรู้สึก​ทอดถอนใจ​จาก​การ​สูญเสีย​ที่เกิด​ขึ้น​ก็​อยู่​ได้​ไม่นาน

สวี​ซื่อ​เจี้ยมัก​จะ​ชอบ​มาทา​นอา​หาร​ที่​เรือน​นาง​บ่อย​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​บางครั้ง​หลังจาก​ทานอาหาร​เสร็จ​แล้วก็​ยังอยู่​คุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ต่อ​ ​ดู​ติด​สือ​อี​เหนียง​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​คุย​กับ​เขา​เกี่ยวกับ​การบ้าน​และ​เรื่อง​ใน​ใจ​ของ​เขา

ที่แท้​เวลา​ที่​เขา​เข้าเรียน​กับ​อาจารย์​จ้าว​ ​หาก​ทำได้​ไม่ดี​ก็​จะ​ถูก​อาจารย์​ตำหนิ​ ​หาก​ทำได้​ดี​อาจารย์​จ้าว​ก็​จะ​ชื่นชม​เขา​อย่างเต็มที่​เช่นกัน​ ​แต่​ตอนนี้​ต้อง​ติดตาม​อาจารย์​ฉัง​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​พยายาม​อย่างมาก​ ​แต่กลับ​ได้รับ​คำชม​จาก​อาจารย์​ฉัง​น้อยมาก​ ​เขา​ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​มีคุณ​สมบัติ​ตรง​ตาม​ข้อกำหนด​ของ​อาจารย์​ฉัง​หรือไม่

“​เช่นนั้น​อาจารย์​ฉัง​ตำหนิ​เจ้า​หรือไม่​”

“​ไม่เลย​ขอรับ​!​”

“​ก็ดี​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​เจ้า​ทำได้​ไม่ดี​ ​อาจารย์​ฉัง​จะ​ต้อง​ตำหนิ​เจ้า​อย่างแน่นอน​ ​ในเมื่อ​ไม่ได้​ตำหนิ​เจ้า​ ​เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​เจ้า​ก็​ไม่ได้​แย่​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เชื่อ​คำพูด​สือ​อี​เหนียง​มาก​ที่สุด​เสมอ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​เขา​ก็​โล่งใจ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​เรียน​กับ​อาจารย์​ฉั​งอย​่า​งมี​ความสุข

ตอนนี้​เด็ก​ๆ​ ​เดิน​มาถูก​ทาง​แล้ว​ ​เดือน​ที่​ร้อน​ที่สุด​ของ​ปีก​็​มาถึง​แล้ว

สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​เดินทาง​กลับมา​จาก​เล่อ​อาน​แล้ว​เช่นกัน​!

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท