ตอนที่ 648 พ่อไป๋ยอมรับผิด
พ่อไป๋ตกใจกับความตรงไปตรงมาของหลินม่ายอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากผ่านไปสักพักถึงพูด “ลูกสมควรเกลียดไป๋ซวง แต่ลูก….ไม่ควรเอาเรื่องของไป๋ซวงไปโพนทะนาแบบนี้ ลูกรู้หรือไม่ว่าแบบนี้จะทำร้ายชื่อเสียงของเด็กผู้หญิงมากแค่ไหน?”
หลินม่ายพยักหน้า “เพราะว่ารู้ไงล่ะคะ ฉันถึงได้จงใจพูดออกมาดัง ๆ”
เธอมองสีหน้าไม่อยากจะเชื่อของพ่อไป๋แล้วยิ้มน้อย ๆ “ฉันก็เป็นคนร้ายกาจแบบนี้แหละค่ะ คนอื่นทำกับฉันแบบไหน ฉันจะต้องตอบแทนเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน ไม่มีวันยอมออมมือ ดันนั้นเชิญคุณคิดให้ดีก่อน อยากให้คนแบบฉันที่โหดร้ายคนนี้เป็นลูกสาวหรือไม่”
เธอลุกขึ้น “คุณคิดว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อไป๋ซวง
แต่คุณเคยคิดไหมว่า ตอนที่หล่อนอายุสิบสองปี เพื่อที่จะให้หัวหน้าห้องปฏิบัติการยอมให้ผลทดสอบปลอมกับหล่อน วินาทีที่หล่อนถอดกระโปรงเล็ก ๆ นั้นลงก็ฆ่าคนตายได้ล่ะค่ะ คุณคิดว่าฉันเอาเรื่องอื้อฉาวของหล่อนไปป่าวประกาศ ถามหน่อยว่าหล่อนบริสุทธิ์ไร้เดียงสานักหรือคะ? นอกจากนี้ เป็นคุณนายไป๋เองที่ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฉันถูกไป๋ซวงลอบกัดมากมายหลายครั้ง กระทั่งนับว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตได้ ยังขอให้ฉันยอมรับหล่อน นี่ก็เป็นการยั่วยุอย่างหนึ่ง ฉันไม่ควรสู้กลับอย่างนั้นหรือ!”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและจากไปโดยไม่เสียใจ
แม่ไป๋และไป๋ซวงที่ซ่อนตัวอยู่ข้างนอกแอบฟังก็มองหน้ากันแล้วยิ้ม นับว่าบีบให้หลินม่ายออกจากบ้านไป๋ไปด้วยความสมัครใจได้สำเร็จแล้ว
ขอแค่เธอไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวไป๋อีก ครอบครัวของพวกเขาก็จะมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
ไป๋เซี่ยและไป๋ลู่ลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วออกไปพร้อมเธอ
ไป๋เซี่ยพูดขึ้น “เสวี่ยเป่า ไม่ต้องเศร้าไปนะ พี่ชายอยู่ข้างเธอเสมอ!”
ไป๋ลู่รีบเสริม “ฉันก็เหมือนกัน!”
พ่อไป๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เรียกหลินม่ายที่เดินนำออกไป “เจ้าลูกคนนี้ ทำไมบอกว่าจะไปก็ไปเลย? ในฐานะพ่อแก่ ๆ ของลูก คิดว่าสิ่งที่ลูกทำไม่ถูกต้อง อบรมเจ้าสักคำสองคำไม่ได้เลยหรือ?”
หลินม่ายหยุดฝีเท้า แผ่นหลังเหยียดยืดตรง “ฉันทำผิดตรงไหนคะ? หรือแก้มซ้ายของฉันถูกคนตบ แล้วฉันต้องยื่นแก้มขวาให้คนที่ทำผิดตบอีกครั้งคะ?”
เธอหัวเราะเบา ๆ “ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ!”
ไป๋เซี่ยและไป๋ลู่ที่ยืนขนาบเธอคอยปกป้องจากทั้งสองข้าง “พวกเราไม่คิดว่าน้องสาวผิด เป็นพ่อที่อยากปกป้องไป๋ซวง! ทำไมไป๋ซวงถึงถูกผู้ชายกลุ่มหนึ่งย่ำยี ไม่ใช่เพราะหล่อนอยากทำร้ายหลินเพ่ยที่เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของหล่อนก่อนหรือไง! ถึงหล่อนจะถูกเสวี่ยเป่าเปิดโปงเรื่องของหล่อนแล้วยังไง? พวกเรายังต้องมาคอยห่วงงูพิษอีกหรือ? ถ้าอย่างนั้นที่แม่ตำหนิน้องแบบไร้เหตุผล? น้องควรถูกรังแกงั้นหรือ?”
พ่อไป๋ถูกลูกชายและลูกสาวสองคนช่วยกันรุมต่อว่า เขาจึงรู้สึกตัวขึ้นมา
บ่ายวันนี้ ทันทีที่เขาเลิกงาน แม่ไป๋ก็ร้องห่มร้องไห้จนฟ้าแทบถล่มลงมา
บอกเขาว่า หลินม่ายเอาเรื่องที่ไป๋ซวงถูกผู้ชายทั้งกลุ่มย่ำยีไปโพนทะนา
จากนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกให้พ่อไป๋ต้องสั่งสอนหลินม่ายบ้าง
ในตอนนั้นพ่อไป๋ถูกแม่ไป๋ชักจูง บวกกับยังรักไป๋ซวงอยู่ จึงทำให้เขารู้สึกว่าหลินม่ายทำเกินไปหน่อย
เรื่องแบบนี้จะเอาไปประกาศได้อย่างไร?
แบบนี้อนาคตไป๋ซวงจะเป็นอย่างไร?
นี่จึงเป็นเหตุผลให้เขาอยากตำหนิติเตียนหลินม่าย
แต่สิ่งที่ไป๋เซี่ยกับไป๋ลู่พูดมีเหตุผล เขาจะเป็นห่วงชื่อเสียงของงูพิษไปทำไม?
สิ่งที่หลินม่ายพูดก็ถูก ตอนที่ไป๋ซวงอายุสิบสองปี แค่ถอดกระโปรงเล็ก ๆ ของหล่อนออกก็สามารถฆ่าคนได้แล้ว
ในเมื่อหล่อนฆ่าแกงคนอื่นได้ ทำไมคนอื่นจะเปิดเผยเรื่องแย่ ๆ ของหล่อนไม่ได้?
อย่างที่หลินม่ายบอก ผู้อื่นทำไม่ดีกับเธอ เธอก็ต้องสู้กลับอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องปกติหรือที่จะใช้วิธีการไร้ยางอายตอบโต้กลับ ตอนที่ไป๋ซวงลอบกัดเธอ ก็ไม่ใช่ว่าหล่อนใช้วิธีไร้ยางอายเหมือนกันหรืออย่างไร?
ตอนที่แม่ไป๋ตำหนิเธอ หล่อนก็ตำหนิเธอโดยไม่รีรอเหมือนกัน!
ทำไมหลินม่ายต้องทนกับเรื่องเหล่านี้?
ที่เธอโต้กลับล้วนแล้วแต่เป็นความผิดของไป๋ซวงกับแม่ไป๋!
ถ้าหลินม่ายไม่โหดเหี้ยมไม่เลวร้าย อีกหน่อยจะต้องถูกไป๋ซวงฆ่าตายแน่ ๆ
พ่อไป๋ที่หน้าแดงก่ำพูดขึ้น “เป็นพ่อเองที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ พ่อผิดไปแล้ว ครั้งต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว”
เท่านั้นเองสีหน้าของหลินม่ายไป๋ลู่และไป๋เซี่ยจึงอ่อนลง
แม่ไป๋และไป๋ซวงที่ซ่อนตัวแอบฟังอยู่ข้างนอกเห็นว่าแผนของพวกเธอล้มเหลว ก็ขุ่นเคืองขึ้นมา
หลินม่าย พ่อไป๋ ไป๋เซี่ยและไป๋ลู่เดินออกมาจากห้อง เตรียมไปรับของขวัญที่จะมาส่งที่บ้านของเพื่อนบ้าน จากนั้นพวกเขาก็ไปเยี่ยมปู่ไป๋กับย่าไป๋ด้วยกัน
แม่ไป๋เห็นพ่อไป๋ ไปเซี่ยและไป๋ลู่เดินล้อมหน้าล้อมหลังหลินม่ายพูดคุยหัวเราะกัน หน้าของหล่อนก็บิดเบี้ยวจนไม่น่าดู
หล่อนปรี่ไปขวางหน้าพ่อไป๋แล้วถามด้วยเสียงเฉียบคม “คุณจะปล่อยหลินม่ายไปอย่างนี้หรือคะ?”
พ่อไป๋ตอบอย่างเย็นชา “ไป๋ซวงทำเรื่องผิดพลาดมากมายขนาดนั้น ทำไมคุณถึงปล่อยหล่อนไปได้ล่ะ? เสวี่ยเป่าไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่เรื่องเดียว เธอแค่สู้กลับเท่านั้น ทำไมผมต้องสร้างความลำบากใจให้หล่อนด้วย? ลูกสาวแท้ ๆ ของเราไม่ใช่คนที่รังแกใครก่อน ลูกบุญธรรมของคุณไม่ใช่เจ้าหญิงนะ ที่ทำร้ายคนอื่นได้แต่คนอื่นทำร้ายตัวเองไม่ได้น่ะ!”
ไป๋เซี่ยพึมพำด้วยเสียงปานกลาง “เจ้าหญิงขี้หมาน่ะสิ! ก็แค่ไก่ฟ้าที่แสร้งทำตัวเป็นหงส์ไฟ!”
ไป๋ซวงโมโหจนกรีดร้องออกมาเสียงดัง แม่ไป๋ก็โกรธเช่นกัน ติดที่ว่าหล่อนยังต้องปลอบประโลมไป๋ซวง
หลินม่ายและคนอื่น ๆ เมินพวกเขา แล้วออกไปข้างนอกด้วยกัน
พ่อไป๋บอกปู่ไป๋และย่าไป๋ไว้ก่อนแล้ว
สองสามีภรรยาเฒ่าเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะ รอให้พ่อไป๋พาพวกหลินม่ายมารับประทานอาหารด้วยกัน
ทันทีที่ทุกคนมาถึง ปู่ไป๋และย่าไป๋ก็จับมือของหลินม่ายถามด้วยความปิติยินดี “นี่เป็นหลานสาวแท้ ๆ ของพวกเราที่พรากจากกันไปหลายปีหรือ?”
พ่อไป๋พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ให้หลินม่ายทักทายผู้ใหญ่ทั้งสอง
หลินม่ายเรียกคุณปู่คุณย่าอย่างอ่อนหวาน ทำให้สองสามีภรรยาเฒ่ามีความสุขมาก กอดเธอไว้แล้วเรียกเธอว่าหลานรัก
ระหว่างที่รับประทานอาหาร ทั้งสองคนก็ผลักกันตักอาหารให้หลินม่าย กลัวว่าเธอจะกินไม่อิ่ม
จนรับประทานอาหารเกือบจะหมดแล้ว ย่าไป๋จึงพบว่าลูกสะใภ้กับไป๋ซวงไม่ได้มา
ย่าไป๋ถามพ่อไป๋อย่างไม่พอใจ “ภรรยาแกอยู่ที่บ้านดูแลไป๋ซวงตัวปลอมคนนั้นหรือ?”
ตั้งแต่รู้ว่าไป๋ซวงเป็นตัวปลอม ทั้งยังทำเรื่องร้าย ๆ มากมายเพื่อขัดขวางไม่ให้หลินม่ายรู้จักพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเอง ย่าไป๋ก็เกลียดหล่อนมาก
นางอยากให้ลูกชายของตนส่งไป๋ซวงกลับไปยังครอบครัวหลิน แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะแม่ไป๋ยืนกรานอย่างแข็งขัน
เพราะเหตุนี้ย่าไป๋จึงพลอยเกลียดแม่ไป๋ไปด้วย
ในโลกนี้มีแม่ที่เลอะเลือนขนาดนี้ได้อย่างไร ลูกบุญธรรมทำเรื่องร้าย ๆ มากมาย กลับยืนกรานที่จะปกป้องหล่อน หล่อนมันคนโง่เง่าเต่าตุนชัด ๆ!
พ่อไป๋พยักหน้า
ย่าไป๋ฉุนเฉียวยิ่งกว่าเดิม “ถึงพรุ่งนี้แกจะต้องลางาน ก็ต้องส่งยัยสวะผุพังนั่นกลับไปครอบครัวหลินให้ได้!”
พ่อไป๋เกลี้ยกล่อม “ลืมมันเถอะแม่ แค่เพิ่มถ้วยและตะเกียบคู่หนึ่งเท่านั้นเอง บ้านเราก็ไม่ใช่จะเลี้ยงไม่ไหว”
ตอนนี้พวกเขาสามีภรรยากำลังทะเลาะเบาะแว้งกันใหญ่โตเพราะไป๋ซวงมาสามวันแล้ว จิตใจของพ่อไป๋เหนื่อยล้ามากแล้ว
เขาก็อยากส่งไป๋ซวงกลับไปที่ครอบครัวหลินเหมือนกัน
แต่ไป๋ลู่บอกว่าหลินม่ายรู้สึกว่าไป๋ซวงกำลังจะทำเรื่องผิดมหันต์ รอกระทั่งไป๋ซวงทำความผิดร้ายแรงก่อนค่อยไล่หล่อนไป ตอนนี้จึงต้องอดทนไปก่อน
ย่าไป๋อารมณ์เสียและพูดว่า “ถึงครอบครัวจะสามารถเลี้ยงได้ แต่แกอยากเก็บงูพิษไว้ในบ้านหรือไง?”
พ่อไป๋ตักเนื้อตุ๋นที่ต้มจนเปื่อยสองชิ้นใส่ชามของหญิงชรา
แล้วอธิบาย “พวกเราสามีภรรยาตกลงกันไว้แล้ว ว่าจะให้โอกาสไป๋ซวงครั้งสุดท้าย ถ้าหล่อนทำผิดอีก พวกเราจะไล่หล่อนออกจากบ้านแน่นอน ตอนนี้หล่อนยังไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงอีก ผมก็พูดอะไรได้ยาก”
ย่าไป๋พูดด้วยสีหน้าอึมครึม “ถ้าหล่อนไม่ทำผิดตลอดทั้งชีวิต หล่อนจะไม่ต้องพึ่งครอบครัวไป๋ของเราไปตลอดหรือ?”
ปู่ไป๋เอ่ยอย่างเข้าใจโลกถ่องแท้ “สุนัขไม่สามารถเปลี่ยนไปกินขี้ได้ ไป๋ซวงมีนิสัยใจคอที่เลวร้ายแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะหยุดรังควานเสวี่ยเป่า ตราบใดที่หล่อนกล้าทำอะไรเสวี่ยเป่าอีก ก็จะกลายเป็นความผิดร้ายแรง ลูกชายเราก็จะมีเหตุผลในการไล่ไป๋ซวงออกไป ทีนี้ลูกสะใภ้ก็พูดอะไรไม่ได้ ภรรยา คุณวางใจเถอะ ไป๋ซวงอย่างมากอยู่บ้านลูกชายเราได้แค่หนึ่งปีก็จะถูกไล่ออกไปแล้ว”
หลินม่ายกินข้าวเงียบ ๆ พลางคิดในใจว่าหนึ่งปีนานเกินไป จะดีที่สุดถ้าไป๋ซวงออกจากบ้านไป๋ภายในหนึ่งเดือน
ย่าไป๋ถึงได้ยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจนัก
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เกือบไปแล้วพ่อไป๋ ดีที่ลูกอีกสองคนช่วยเตือนสติ
อย่าได้มาที่บ้านแม่สามีเด็ดขาดนะยัยแม่ไป๋ยัยไป๋ซวง ย่าไป๋นี่ดูร่ำๆ จะลับมีดรอเชือดแล้ว
ไหหม่า(海馬)