ตอนที่ 583 วิญญาณระบบ ความลับทั้งหมด
[ติ๊ง]
เสียงเย็นเยือกที่คุ้นเคยดังขึ้นในจิตใจ เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นทันใดพร้อมกับหันมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว
“หืม? ที่นี่ที่ไหนกัน?”
หนิงฝานยังคงสับสน
รอบกายมีเพียงสีขาวโพลนกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ไม่มีสีสัน หรือสิ่งของใด ๆ สัมผัสได้แต่เพียงความว่างเปล่า
[ที่นี่คือช่องว่างแห่งนิรันดร์]
ทันใดนั้น น้ำเสียงยิ่งใหญ่ก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
“หืม?”
เสียงนั้นทำให้หนิงฝานเริ่มเคลื่อนไหว เขาเอ่ยปากถามอย่างไม่แน่ใจ “เจ้าคือ… จิตวิญญาณของระบบงั้นหรือ?”
[ใช่] น้ำเสียงยิ่งใหญ่เยือกเย็นดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวต่อว่า [เจ้าสามารถเรียกข้าว่าพลังอุตรภาพ กฎเกณฑ์สูงสุดเบิกสรวงสวรรค์…]
เสียงดังก้องนี้ทำให้หนิงฝานรู้สึกหนวกหูเล็กน้อย
หนิงฝานยกยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า “ข้าจะเรียกเจ้าว่าวิญญาณระบบ เอาล่ะ ออกมาพูดคุยกันได้หรือไม่? หรือเจ้าเป็นตัวตนลึกลับที่ไม่มีร่างกาย?”
[ได้ แต่ไม่ดีกว่า] เสียงนั้นตอบกลับ
หนิงฝานตกตะลึงก่อนจะถามว่า “ทำไม?”
เสียงนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าว [เพราะเกรงว่าข้าจะไม่สามารถอดกลั้นไม่ให้ทุบตีเจ้าจนตายได้]
“ฮะ?” หนิงฝานตกตะลึง
แต่ก่อนหนิงฝานจะทันได้พูดอะไรต่อ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง [ไม่ ยิ่งคิดเท่าไหร่ข้าก็ยิ่งโกรธ ข้าทนไม่ไหวแล้ว!]
พรึ่บ!
ฉับพลันนั้น ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา เป็นชายร่างใหญ่กำยำไม่อาจมองเห็นใบหน้าชัดเจน กล้ามเนื้อปูดโปนราวจะแตกออก อีกอย่างกำปั้นยิ่งใหญ่นั้นอวบอ้วนกว่ากระสอบทราย ราวกับมันถูกสร้างมาเพื่อทุบตีผู้คนโดยเฉพาะ
เห็นอย่างนั้น สีหน้าของหนิงฝานพลันแปรเปลี่ยน เปิดปากพูดว่า “เอ่อ? ระบบ… มีอะไรเราควรพูดคุยกัน…”
[คุยกับลุงเจ้าน่ะสิ!]
ก่อนหนิงฝานจะพูดจบ กำปั้นใหญ่เท่ากระสอบทรายก็กระทุ้งกับจิตใต้สำนึกของเขาอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดนี้แทรกซึมไปทั่วทุกร่างกายราวกับมีใครกำลังขยี้กล่องดวงใจของเขาอย่างบ้าคลั่ง
“มันจะมากเกินไปแล้ว ข้าคือเจ้าของร่าง เป็นเจ้านาย แต่เจ้าเป็นเพียงระบบ… อั่ก!”
ขณะหนิงฝานกำลังตะโกน ระบบก็ต่อยเขาอีกครั้ง และเขาต้องแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดไว้อย่างกะทันหัน
ปังปังปัง! ปังปังปัง!
เวลานี้ ชายกล้ามโตที่ออกมาจากระบบกำลังทุบตีหนิงฝานอย่างหนักมือ
อีกทั้งยังคงสาปแช่งอย่างต่อเนื่อง
[ไอ้ตัวบัดซบ! ข้าสั่งสมทุกสิ่งอย่างมาเนิ่นนานหลายปี แต่จู่ ๆ ก็ถูกเจ้าทำลายหมดสิ้น แม้แต่กางเกงในก็ไม่เหลือ!]
[โลกที่เจ้ายืนอยู่ยกย่องความเป็นอมตะไม่ใช่หรือ? ด้วยเหตุผลนี้ข้าจึงสร้างระบบลงชื่อเข้าใช้ให้กับเจ้าโดยเฉพาะ เช่นนั้นนอกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน และราชวงศ์เทพขนนก เจ้าไปที่ใดมาบ้าง?]
[แล้วเรื่องใหญ่ที่สุดคือหลังจากเจ้าก้าวเข้าสู่เก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ ไม่ต้องพูดถึงการเป็นสุนัขจนตรอก เจ้าบินไปทั่วสารทิศแล้วทุบตีหอเซียน ทำลายยมโลก เส้นทางราชันจักรพรรดิต้องวุ่นวายปั่นป่วน… ข้าจะทุบตีเจ้า ชายผู้ไม่เคยทำสิ่งใดแต่กลับอาศัยคลื่นลมทำลายล้างทุกสิ่ง]
“…”
“อ๊าก! โอ๊ย! ข้าเจ็บ…ระบบเวรเอ๊ย เจ้าทำมากเกินไปแล้ว!”
หนิงฝานกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด นับตั้งแต่เขาครอบครองระบบ เขาเคยถูกทุบตีรุนแรงเช่นนี้เมื่อใดกัน?
แต่สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือนี่เป็นระบบของเขาเอง และเขาไม่สามารถป้องกันได้
ตุบ! ตับ! ตุบ!
หลังจากออกแรงอยู่สักครู่ ชายกล้ามบึกบึนก็เริ่มหยุดมือ เขาถอนหายใจเสียงดังก่อนจะพูดว่า [อืม ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย]
หนิงฝานถึงกับพูดไม่ออก
“นี่ระบบ… เจ้าทุบตีข้าและสาปแช่งจนพอใจแล้ว ถึงเวลาที่ควรบอกกล่าวกับข้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับพลังอันน่าสะพรึงพวกนั้น” หนิงฝานถามออกไปจริงจัง
[อืม]
ระบบถอนหายใจยาว ก่อนจะถามขึ้นว่า [หนิงฝาน เจ้ารู้หรือไม่ว่าอะไรยิ่งใหญ่กว่าสวรรค์และโลก?]
“เหนือสวรรค์และโลกงั้นเหรอ?”
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะสวรรค์และโลกนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต แม้แต่ราชันจักรพรรดิเซียนก็ไม่สามารถสำรวจทุกตารางพื้นที่ได้ เช่นนี้จึงไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าสวรรค์และโลกเลย
ระบบเริ่มอธิบายช้า ๆ [เหนือสวรรค์และโลกคือทะเลแห่งนิรันดร์ ในความคิดของมนุษย์เช่นเจ้าสามารถเรียกมันว่า ห้วงความว่างเปล่า และข้ามาจากทะเลแห่งนิรันดร์เหล่านั้น ข้าคือสิ่งมีชีวิตชนิดแรกสุดของโลก เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง หรือที่เรียกว่าผานกู่]
“โอ้” หนิงฝานอุทานด้วยความตกตะลึง
ผานกู่คือเทพเจ้าในตำนานผู้สร้างโลก และระบบนี้เรียกตัวเองว่าผานกู่
เวลานั้น ระบบก็เริ่มอธิบายต้นกำเนิดของตัวมันเองอย่างช้า ๆ และเริ่มเล่าถึงความน่าสะพรึงกลัวสูงสุดด้วย [ข้าคือวิญญาณต้นกำเนิดที่เกิดขึ้นจากทะเลแห่งนิรันดร์ และเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการสร้างทุกสรรพสิ่งขั้นสูงสุด ตอนที่ข้าเกิดมา ข้าแทบจะทนไม่ไหวที่จะใช้พลังส่วนใหญ่ที่มีสร้างสิ่งมีชีวิตในทะเลแห่งนิรันดร์ และตอนนั้นข้าก็ตั้งชื่อมันว่า..อันติมะ (อสูรสุดยอด) แต่หลังจากนั้นข้าก็ค้นพบว่าอสูรอันติมะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในทะเลแห่งนิรันดร์ได้ ข้าก็เลยละทิ้งมันไป ไม่ต่างจากเด็กในโลก หากของเล่นพังหรือไม่ได้ดั่งใจ ก็แค่โยนทิ้งแล้วหาของเล่นใหม่ หลังจากนั้นข้าก็ใช้ความสามารถที่มีสร้างสวรรค์และโลกมากมายขึ้น แล้วก็ค่อย ๆ สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นทีละตน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในสวรรค์และโลกที่ข้าสร้างเอาไว้ และพวกมันจะพัฒนาการได้มากตราบเท่าที่ต้องการเลยล่ะ]
[เวลานั้นข้าไม่ต่างจากคนที่ปลูกดอกไม้ และข้าไม่ได้ปลูกมันท่ามกลางพายุฝน ข้าสร้างเรือนกระจกมากมายแล้วปลูกมันอย่างระมัดระวัง]
[แต่ข้าก็ยังไม่มีความสุข]
อย่างที่กล่าว ชายกล้ามโตผู้นี้ถือกำเนิดขึ้นโดยระบบ เขากำลังค้นหาความสำเร็จ
หนิงฝานไม่ได้ถามต่อ เพราะเขาพอจะคาดเดาได้ว่าอะไรที่กำลังจะเกิดขึ้น
ต่อมา ระบบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเล่าต่อว่า [ขณะที่ข้ากำลังมีความสุขกับดอกไม้ที่ข้าเป็นคนปลูก สิ่งที่ข้าไม่คิดฝันก็เกิดขึ้น สิ่งมีชีวิตตนแรกที่ถูกข้าละทิ้งตั้งแต่ต้นจนจบ เขาสามารถรอดชีวิตในทะเลแห่งนิรันดร์ได้ คราแรกที่ข้าได้ทราบเรื่องนี้ ข้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง แต่ไม่นานข้าก็ได้ทราบว่าพลังของอันติมะอยู่เหนือกว่าข้าไปเสียแล้ว เขากลายเป็นคนบ้าที่ทรงพลัง ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เชื่อว่าข้าคือผู้ให้กำเนิดเขา แต่เขายังวางแผนจะกลืนกินข้าและตั้งตัวเป็นผู้ปกครองทุกสิ่ง]
[ข้าต่อสู้กับเขาในทะเลแห่งนิรันดร์ แต่ถึงข้าจะมีความสามารถในการสร้างทุกสิ่งก็ไม่อาจเอาชนะมันได้ พลังต้นกำเนิดส่วนใหญ่ของข้าถูกมันกลืนกินไปบางส่วน เวลานั้นข้าทำอะไรไม่ได้นอกจากหลบหนีมายังสวรรค์และโลกที่ข้าสร้างเอาไว้ เพราะไม่อาจต่อสู้จึงต้องหลบหนีเพื่อไม่ให้มันพบและกลืนกินพลังที่เหลือไป ข้าจึงทำได้เพียงหลบซ่อนอยู่ที่นี่อย่างมิดชิด]
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หนิงฝานพลันขมวดคิ้วแล้วถามต่อว่า “ไม่จริง ข้าเห็นความสยดสยองของอันติมะแล้วหลังจากได้เจอกับกระบี่ตี้ลั่วในยุคตี้ลั่ว กระบี่เพียงหนึ่งกระบวนท่าสามารถกลบฝังทั้งยุคสมัยอย่างง่ายดาย และเพราะเขามีพลังมากมายเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงไม่ทำลายสวรรค์และโลกเพื่อค้นหาเจ้า?”
ศีรษะใหญ่โตของระบบส่ายไปมา ก่อนจะตอบว่า [เขาไม่กล้าทำ และจะไม่ทำเด็ดขาด แม้ข้าจะไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ แต่การหลบซ่อนของข้ายอดเยี่ยมกว่าผู้ใด หากเขาคิดทำลายสวรรค์และโลกหล้าทั้งหมดก่อนที่จะตามหาข้าพบ มันจะยิ่งยากสำหรับเขามากขึ้นไปอีกขั้น]
“อ้อ เป็นเช่นนี้”
หนิงฝานเข้าใจได้ในทันที
ระหว่างระบบกับอันติมะนั้นเปรียบกับสวรรค์และโลก มันเหมือนคนที่พยายามจะจับปลาตัวหนึ่งที่หลบซ่อนอยู่ในตะกร้าที่เต็มไปด้วยปลา อีกฝ่ายเพียงต้องการเหยียดมือออกเพื่อจับปลาตัวนั้น ไม่ใช่การทำลายตะกร้าปลา
ขณะนั้น ระบบพูดต่อ และเสียงของเขายิ่งโกรธเกรี้ยว [เพราะเขาไม่คิดปรองดองกับข้า และข้าก็ไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ ข้าจึงฝากความหวังไว้กับเหล่าสิ่งมีชีวิตในสวรรค์และโลก ข้าฝึกฝนพวกมันและให้พวกมันเติบโตขึ้นเพื่อหวังที่จะให้ทั้งหมดนี้เป็นคนจัดการกับอันติมะ]
[ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าฝึกฝนมหาอำนาจไร้ผู้ใดเทียบมามากมาย อย่างจักรพรรดิจุน และเมื่อสามสิบล้านปีก่อนก็คือ จักรพรรดิสวรรค์ในยุคตี้ลั่ว หรือจะเป็นราชาแห่งกฎเกณฑ์ หรือราชันจักรพรรดิโบราณที่เก่าแก่กว่านั้นเป็นมหาเทพหรืออสูร]
[เฮ้อ แต่ก็ช่วยไม่ได้เลย ไม่มีใครสามารถต่อกรกับอันติมะได้ เพราะอันติมะคือสิ่งมีชีวิตที่ข้าสร้างขึ้นเองด้วยพลังต้นกำเนิดส่วนใหญ่ของข้า และอีกอย่างเขาสามารถเอาชีวิตรอดในทะเลแห่งนิรันดร์ได้ เขาจึงมีพลังยิ่งใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น แข็งแกร่งกว่าทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ แน่นอนว่าดอกไม้ป่าย่อมแข็งแกร่งยิ่งกว่าดอกไม้ในเรือนกระจก]
[ในช่วงเวลาอันยาวนาน ข้าไม่รู้เลยว่าตัวเองล้มเหลวไปแล้วกี่ครั้ง จนข้าเกือบจะสิ้นหวังแล้ว]
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ศีรษะขนาดใหญ่ของระบบหันมองหนิงฝาน [จนกระทั่งข้าได้พบเจ้า วิญญาณจากต่างโลก]