ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 660 ผิดหวัง (ต้น)

ตอนที่ 660 ผิดหวัง (ต้น)

เถา​เฉิง​รีบ​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

สวี​ซื่อ​จุน​กำชับ​ให้​หวัง​ซู่​ไป​ส่ง​เขา

เมื่อ​เดิน​มาถึง​ประตู​ ​เถา​เฉิง​ก็​รีบ​หยิบ​เงินก้อน​เล็ก​ๆ​ ​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​แล้ว​ยัด​ใส่​มือ​หวัง​ซู่​ ​“​สหาย​หวัง​ ​นี่​เป็น​ค่า​ขนม​ของ​เจ้า​!​ต่อไปนี้​ขอให้​สหาย​หวัง​ช่วย​พูด​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​เกี่ยวกับ​ข้า​ต่อหน้า​ซื่อ​จื่อ​สักหน่อย​เถิด​”

เงินอยู่​ใน​มือ​ของ​หวัง​ซู่​ ​เขา​วัด​น้ำหนัก​มันตาม​สัญชาตญาณ

ดู​ไม่​ออก​เลย​ว่า​ผู้ดูแล​ที่ดิน​ตำแหน่ง​เล็ก​ๆ​ ​อย่าง​เขา​จะ​กล้า​ออก​เงิน​ถึง​ห้า​ตำลึง​ ​ช่าง​ใจกว้าง​เสีย​จริง​!

แต่ว่า​หวัง​ซู่​ไม่กล้า​รับ​ไว้

ตอนที่​เขา​เข้ามา​ใน​จวน​ ​บิดา​ของ​เขา​เตือน​เขา​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ว่า​ ​‘​รับ​ของ​ของ​เขา​ ​กิน​ของ​ของ​เขา​แล้วก็​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​คำขอ​ของ​เขา​ได้​ ​ห้าม​หลงกล​การเอารัดเอาเปรียบ​ของ​ผู้อื่น​เด็ดขาด​ ​รอ​วันนั้น​ที่​เจ้า​ต้อง​ชดใช้​หนี้​ ​เจ้า​จะ​รู้​เอง​ว่า​มัน​ร้ายแรง​แค่ไหน​ ​อย่า​ว่าแต่​อนาคต​เลย​ ​ไม่แน่​อาจจะ​ต้อง​ชดใช้​ด้วย​ชีวิต​’

“​คนกันเอง​ ​ผู้ดูแล​เถา​ไม่เห็น​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​เลย​!​”

เขา​ยัด​เงิน​คืนให้​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​กำลัง​รอ​ให้​ข้า​ไป​ปรนนิบัติ​ ​ผู้ดูแล​เถา​ค่อยๆ​ ​เดิน​เถิด​ ​ข้า​ไม่​ขอ​ไป​ส่ง​ก็แล้วกัน​!​”​ ​พูด​พลาง​หันหลัง​แล้ว​เดิน​เข้า​เรือน​ไป

“​รอเดี๋ยว​ก่อน​ ​สหาย​หวัง​…​”​ ​ถึงแม้ว่า​เถา​เฉิง​จะ​ตะโกนเรียก​ ​แต่​หวัง​ซู่​ก็​ไม่​แม้แต่​จะ​ตอบกลับ​ ​มุม​ปาก​ขยับ​เล็กน้อย​ ​ด่าทอ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​นี่​มัน​เรื่อง​บ้า​อะไร​กัน​เนี่ย​”​ ​ขณะที่​หันหลัง​กำลังจะ​เดิน​ออก​ไป​ ​ก็​เห็น​ผู้ดูแล​หลี​่​ซึ่ง​เป็น​คนที​่​อยู่​ห้อง​ซือ​ฝัง​เรือน​นอก​ของ​จวน​สกุล​สวี​กำลัง​เดิน​มา

“​ผู้ดูแล​หลี​่​!​”​ ​เขา​รีบ​เปลี่ยนเป็น​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​แล้ว​เข้าไป​ทักทาย​ ​“​ไม่ได้​เจอกัน​นาน​ ​ท่าน​สบายดี​หรือไม่​ ​ครั้ง​ที่แล้ว​ที่​ข้า​เอา​กระต่ายป่า​มา​ให้ท่าน​ทาน​หมด​แล้ว​หรือยัง​ ​หาก​ทาน​หมด​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ส่ง​มา​ให้​อีก​สอง​ตัว​”​ ​จากนั้น​ก็​ยัด​ก้อนเงิน​ที่​ถูก​ส่งกลับ​คืน​มา​เมื่อ​ครู่​ใส่​มือ​ผู้ดูแล​หลี​่​ ​“​จู่ๆ​ ​ซื่อ​จื่อ​ก็​เรียก​ข้า​เข้า​จวน​มา​ ​ข้า​รีบ​มา​จึง​ไม่ได้​เอา​อะไร​ติดตัว​มาด​้วย​ ​ถือว่า​ข้า​ให้เกียรติ​ท่าน​ด้วย​สุรา​สอง​ไห​…​”

เถา​เฉิง​ผู้​นี้​ช่าง​อยู่​เป็น​เสีย​จริง​

เพื่อ​เห็นแก่หน้า​ของ​ซื่อ​จื่อ​ ​บางครั้ง​ก็​มอบหมาย​ให้​เขา​เป็น​คนซื้อ​สินค้า​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ใน​จวน

ผู้ดูแล​หลี​่​หัวเราะ​ ​เอา​เงิน​ใส่​เข้าไป​ใน​แขน​เสื้อ​อย่างเป็นธรรม​ชาติ​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​เรียก​เจ้า​เข้า​จวน​มา​พูดคุย​อีกแล้ว​หรือ​!​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​คุณชาย​น้อย​สี่​ของ​พวกเรา​นับว่า​เป็น​คนที​่​นึกถึง​สหาย​เก่า​เสมอ​…​”​ ​ทั้งสอง​คน​เดิน​เคียง​บ่า​กัน​ออก​ไป​ด้วย​ท่าทาง​สนิทสนม​เป็นอย่างมาก​ ​แน่นอน​ว่าไม่ได้​สังเกตเห็น​การก​ลับ​มา​อย่างกะทันหัน​ของ​หวัง​ซู่​และ​ใบหน้า​ที่​ไม่พอใจ​ของ​เขา

******

จิ​่น​เกอ​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​เงียบๆ​ ​เห็น​บิดา​ที่นอน​อยู่​บน​เก้าอี้​จุ้ย​เวิง​ยังคง​อ่านหนังสือ​อยู่​ ​เขา​บุ้ยปาก​ด้วย​ความผิดหวัง​เล็กน้อย​ ​หันกลับ​มาม​อง​กระดาษ​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ​สอง​วัน​มานี​้​เขา​ได้​เลิก​คัดตัว​อักษร​ตาม​เส้น​สีแดง​และ​ได้​เริ่ม​เขียน​ตัวอักษร​บน​กระดาษ​เปล่า​แล้ว

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​อ่านหนังสือ​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​เล็กน้อย

เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ ​จิตใจ​ไม่อยู่​กับ​ร่อง​กับ​รอย​มาส​อง​วัน​แล้ว

หรือว่า​มีเรื่อง​อัน​ใด​แปลก​ๆ​ ​เกิดขึ้น

หาก​ไม่ได้​สัมผัส​กับ​เด็ก​ ​ก็​จะ​ไม่มีทาง​รู้​ว่า​เด็ก​ๆ​ ​นั้น​น่าสนใจ​แค่ไหน​

โดยเฉพาะ​จิ​่น​เกอ

เขา​มีชีวิตชีวา​อยู่​ตลอดเวลา​ ​แค่​เห็น​ก็​สามารถ​ทำให้​รู้สึก​มีพลัง​งาน​เต็มเปี่ยม

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​ ​จ้องมอง​บุตรชาย​อย่าง​เงียบๆ​

เขา​เหมือนกับ​เด็ก​ใน​สกุล​สวี​ ​ตัว​สูง​กว่า​เด็ก​ใน​วัย​เดียวกัน​ ​ผม​สีดำ​ขลับ​ ​แต่​ผิวขาว​อม​ชมพู​เหมือนกับ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​นั่ง​ตัวตรง​ ​จ้อง​ไป​ยัง​กระดาษ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เขา​ ​ขยับ​ข้อมือ​ที่จับ​พู่กัน​เขียน​ลง​บน​กระดาษ​อย่าง​ตั้งอกตั้งใจ​ ​เม้ม​ริมฝีปาก​สีแดง​แน่น​ ​มี​หยาดเหงื่อ​ที่​ปลายจมูก​ได้รูป​ของ​เขา​เล็กน้อย​ ​ท่าทาง​จริงจัง​ทำให้​สีหน้า​ของ​เขา​ดู​เคร่งขรึม​และสง่า​งาม

สวี​ลิ่ง​อี๋​แอบ​รู้สึก​ภาคภูมิใจ

เมื่อ​รู้สึก​ว่า​มี​คน​กำลัง​เฝ้าดู​อยู่​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​เงยหน้า​ขึ้น​มา

สอง​พ่อ​ลูก​สบตา​กัน

“​จิ​่น​เกอ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​กวักมือ​เรียก​บุตรชาย​ให้​มาหา​ตัวเอง

จิ​่น​เกอ​วาง​พู่กัน​ลง​ ​วิ่ง​มาหา​บิดา​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​ยืน​ด้วย​ท่าทาง​นอบน้อม​เหมือน​สวี​ซื่อ​จุน​หรือ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ซ้ำ​ยัง​กอด​แขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ใจอ่อน​ ​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​“​เจ้า​มี​อะไร​จะ​พูด​กับ​ข้า​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​คิกคัก​ ​“​ท่าน​พ่อ​รู้​แล้ว​หรือ​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เลิก​คิ้ว​ ​ท่าทาง​เหมือน​จะ​บอกว่า​เจ้า​อย่า​ได้คิด​ปิดบัง​ข้า​เด็ดขาด

“​พวกเขา​ต่าง​ก็​บอกว่า​พี่​สี่​จะ​แต่งงาน​แล้ว​…​”​ ​ท่าทาง​ของ​จิ​่น​เกอ​เหมือน​กำลัง​หยั่งเชิง​อยู่เล็ก​น้อย​ ​“​จากนั้น​ก็​จะ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​หลัง​เรือน​ของ​พวกเรา​ ​เช่นนั้น​เรือน​ที่​เขา​เคย​อยู่​ก็​จะ​ว่าง​…​ข้า​ย้าย​ไป​อยู่​เรือน​ของ​พี่​สี่​ได้​หรือไม่​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ได้คิด​ที่จะ​ย้าย​ไป​อยู่​เรือน​ของ​พี่​สี่​”

เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​ที่​อ่อนโยน​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เปล่งเสียง​ดัง​ขึ้น​ ​“​ข้า​ไม่​อยาก​อยู่​ที่​เรือน​หลัก​ ​ข้า​อยาก​ไป​อยู่​เรือน​นอก​เหมือน​พี่​สี่​กับ​พี่​ห้า​ ​อย่างไร​เสีย​เรือน​ของ​พี่​สี่​ก็​ว่าง​อยู่​แล้ว​…​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​“​พวก​นาง​มักจะ​ทำท่า​ทาง​ตกอกตกใจ​เวลา​เห็น​ข้า​กระโดด​ลง​จาก​ระเบียง​ทางเดิน​แล้วก็​ไป​ฟ้อง​ท่าน​แม่​ ​เวลา​เห็น​เสื้อกั๊ก​ของ​ข้ามี​เหงื่อ​ก็​วิ่ง​ไป​บอก​ท่าน​แม่​ ​เวลา​เห็น​ข้า​กับ​ฉั​งอาน​ฝึก​ต่อสู้​กัน​ก็​วิ่ง​ไป​บอก​ท่าน​แม่​…​แล้ว​ท่าน​แม่​ก็​ดุ​ข้า​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​เขา​ก็​แอบ​เสียใจ​เล็กน้อย​ ​ท่าน​พ่อ​รู้​ว่า​ท่าน​แม่​เคย​ดุ​เขา​ ​ไม่แน่​ท่าน​พ่อ​ก็​อาจจะ​ดุ​เขา​ด้วย​ ​เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​เบา​ลง​ ​“​ข้า​ ​ข้า​ก็​ไม่ได้ตั้งใจ​ขอรับ​”​ ​เขา​แอบ​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​หาง​ตา​ ​“​บางครั้ง​เวลา​รีบ​ก็​จะ​กระโดด​ลง​จาก​ระเบียง​ทางเดิน​ไป​ที่​ลาน​แล้ว​ออก​ไป​ตรง​ทางเดิน​กลางแจ้ง​…​ทางตรง​นั้น​เดิน​ใกล้​กว่า​ทางอ้อม​มาก​ ​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​ท่าน​บอก​ข้า​เอง​!​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​พูดเสี​ยง​ดัง​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​ซ้ำ​ยัง​พูดจา​ฉะฉาน​อย่าง​มีเหตุผล​ ​“​ตอนนี้​ข้า​กำลัง​เรียน​มวย​กับ​อาจารย์​ผัง​ ​เรียน​มวย​จะ​ไม่​ให้​มี​เหงื่อ​ได้​อย่างไร​ ​ส่วน​เรื่อง​ที่​ฝึก​ต่อสู้​กับ​ฉั​งอาน​ ​สาวใช้​น้อย​เหล่านั้น​ไม่รู้​ ​หรือว่า​ท่าน​ก็​ไม่รู้​ด้วย​เช่นกัน​ ​หาก​ไม่​ฝึก​ต่อสู้​กัน​ ​เกิด​เจอ​ศัตรู​ขึ้น​มา​ ​การ​ตอบสนอง​จะ​รวดเร็ว​ได้​อย่างไร​…​”

“​เจ้า​อย่า​มา​พูดจา​ไร้สาระ​กับ​ข้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​บีบ​จมูก​บุตรชาย​เบา​ๆ​ ​“​หาก​เจ้า​แค่​ฝึก​ต่อสู้​กับ​ฉั​งอาน​ ​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​จะ​ดุ​เจ้า​ได้​อย่างไร​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ ​“​หาก​เจ้า​อยาก​ย้ายออก​มาก​็​บอกว่า​อยาก​ย้ายออก​มา​ ​ไม่ต้อง​หา​ข้ออ้าง​ให้​ตัวเอง​ ​ยิ่ง​ไม่​ควร​โยนความผิด​ให้ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ ​ข้า​จะ​บอก​เจ้า​ให้​ว่า​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ไม่ใช่​สตรี​ไร้​การศึกษา​ ​ในเมื่อ​นาง​ดุ​เจ้า​ ​เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​เจ้า​มีความผิด​”

จิ​่น​เกอ​หน้าแดง​ก่ำ

มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหว​ ​หวัง​ซู่​มา​ขอ​พบ​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​สั่งสอน​จิ​่น​เกอ​ต่อหน้า​บ่าว​รับใช้​เหล่านี้

เขา​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​ให้​เขา​เข้ามา​!​”

******

เว​่ย​จื่อ​กับ​ป้า​หัง​กำลัง​คุย​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​เรื่อง​ย้าย​เรือน​ ​“​…​ของ​ทั้งหมด​ได้​เก็บ​ไว้​ที่​เรือน​แถว​ด้านหลัง​แล้ว​ ​นี่​คือ​สมุดบัญชี​ ​ท่าน​ให้​คน​เอา​ไป​ตรวจดู​แล้วก็​ประทับตรา​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”

เพราะ​นี่​เป็น​งานแต่ง​ตัวเอง​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เลย​รู้สึก​เขิน​เล็กน้อย​ ​เขา​ตะโกนเรียก​ปี้​หลัว​ ​“​เจ้า​กับ​หวัง​ซู่​ไป​ประทับตรา​กับ​ผู้ดูแล​หญิง​ทั้งสอง​ท่าน​!​”

ปี้​หลัว​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ ​ย่อเข่า​รับคำ​ ​แล้วไป​ที่​เรือน​แถว​ด้านหลัง​กับ​ทั้งสอง​คน

“​หวัง​ซู่​ไป​ไหน​เสีย​แล้ว​”​ ​ปี้​หลัว​รอ​อยู่​ตั้ง​นาน​แต่​ก็​ไม่เห็น​เขา

หั​่​วชิง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​ให้​เขา​ไป​ส่ง​ผู้ดูแล​เถา​แล้ว​…​ไม่แน่​อาจจะ​ถูก​ผู้ดูแล​เถา​ลาก​ไป​ดื่ม​สุรา​แล้ว​!​”

ทุกครั้งที่​ผู้ดูแล​เถา​มาก​็​จะ​ตีสนิท​คน​โน้น​คน​นี้​ไป​ทั่ว

“​จริงๆ​ ​เลย​ ​เจ้า​กล้า​นินทา​ข้า​ลับหลัง​อย่างนั้น​หรือ​”​ หั​่​วชิง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​จบ​ ​หวัง​ซู่​ก็​ยิ้ม​พลาง​เดิน​เข้ามา​ ​“​คราวนี้​ถูก​ข้า​จับได้​เสีย​แล้ว​!​”

“​คุณชาย​น้อย​กำลัง​ตามหา​เจ้า​อยู่​!​”​ หั​่​วชิง​รีบ​เบน​ความสนใจ​ของ​หวัง​ซู่​ ​“​เจ้า​ไป​ไหน​มา​ ​เร็ว​ ​มาช​่ว​ยพ​วก​เรา​นับ​ของ​ที่​ย้าย​มาจาก​เรือน​ของฮู​หยิน​คน​ก่อน​ ​อีกสักครู่​จะ​ได้​รีบ​ไปรา​ยงา​นคุณ​ชายน้อย​!​”

หวัง​ซู่​ก็​คิด​เช่นนั้น​เหมือนกัน​ ​ยิ้ม​พลาง​รับ​สมุดบัญชี​มาจาก​ปี้​หลัว​ ​“​พวก​เจ้า​นับ​กัน​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​…​”

******

ไท่ฮู​หยิน​วาง​สร้อย​ลูกประคำ​ไม้​กฤษณา​ลง​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​เคลือบ​สีดำ​ลาย​วิหค​ชม​บุปผา​ ​จน​เกิด​เสียง​ลูกประคำ​กระทบ​กัน

“​สือ​อี​เหนียง​มี​จิตใจ​กว้างขวาง​”​ ​เขา​รับ​ถ้วย​ชา​จาก​ป้า​ตู้​ ​ค่อยๆ​ ​จิบ​หนึ่ง​อึก​ ​“​หลาย​ปี​มานี​้​ก็​ให้​คน​มาทำ​ความสะอาด​สิ่งของ​ใน​เรือน​หยวน​เหนียง​อยู่​ตลอด​ ​ทุกวัน​ตรุษจีน​และ​วัน​ครบรอบ​การ​จากไป​ของ​หยวน​เหนียง​ก็​จะ​พา​จุน​เกอ​ไป​จุด​ธูปบูชา​ ​จุน​เกอ​ก็​ใกล้​จะ​แต่งงาน​แล้ว​ ​หาก​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​เห็น​คงจะ​คิด​ว่า​พวกเรา​ไม่พอใจ​อะไร​สือ​อี​เหนียง​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​จะ​แย่​เอา​ได้​ ​อาศัย​โอกาส​นี้​ซ่อมแซม​เรือน​นั้น​สักหน่อย​ก็ดี​”​ ​พูด​จบ​ก็​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยืน​ขึ้น​ในทันที​ ​“​ข้าว​่า​ข้า​ควร​ไปหา​จุน​เกอ​ด้วยตัวเอง​ ​บอก​คำพูด​เหล่านี้​กับ​เขา​ ​เขา​จะ​ได้​ไม่ต้อง​มี​ปม​ใน​ใจ​”

ป้า​ตู้​ไม่กล้า​พูด​อะไร​มาก​ ​ยิ้ม​พลาง​พยุง​ไท่ฮู​หยิน​ ​แล้วไป​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​ด้วยกัน

“​…​ท่าน​แม่​จากไป​หลาย​ปี​แล้ว​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่ได้​รู้สึก​เศร้าใจ​กับ​เรื่อง​นี้​อย่างที่​ไท่ฮู​หยิน​คิด​ ​“​ข้า​เอง​ก็​โต​แล้ว​ ​ไม่ใช่​เด็ก​ไม่รู้​จัก​ความ​ ​ไม่มีทาง​คิด​ว่า​ทุกคน​จะ​ลืม​ท่าน​แม่​เพียง​เพราะ​ที่อยู่​เก่า​ของ​ท่าน​แม่​ถูกปรับ​ปรุง​ใหม่​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​เขา​ก็​หัวเราะ​ ​“​อีก​อย่าง​คนที​่​ไป​อาศัย​ก็​เป็น​ข้า​ไม่ใช่​ใคร​อื่น​ ​หาก​ท่าน​แม่​ยังอยู่​ ​ก็​จะ​ต้อง​มีความสุข​อย่างแน่นอน​ขอรับ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​จับมือ​สวี​ซื่อ​จุน​พลาง​ถอนหายใจ​ ​“​จุน​เกอ​ของ​พวกเรา​โต​ขึ้น​แล้ว​จริงๆ​!​”

ย่า​หลาน​พูด​ความในใจ​กันต​ลอด​ทั้ง​บ่าย​ ​จากนั้น​ไท่ฮู​หยิน​ก็​กลับ​เรือน​ไป

เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ ​ขณะที่​เขา​กำลัง​ทานอาหาร​เช้า​อยู่​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ให้​เติงหั​่ว​บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​มาเรียก​เขา​ไป

สวี​ซื่อ​จุน​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

ทุก​เช้า​เขา​จะ​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ด้านหลัง​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​แค่​มาเรีย​ก.​..​เหตุใด​ไม่​รอ​ให้​เขา​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​แต่กลับ​ส่ง​คน​มาเรียก​ถึง​เรือน​!

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่สน​ใจ​ทานอาหาร​เช้า​แล้ว​ ​วาง​ตะเกียบ​ลง​แล้ว​เร่ง​ให้​ปี้​หลัว​มาช​่วย​เขา​เปลี่ยน​ชุด​พลาง​คาดเดา​ว่า​บิดา​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ ​‘​หรือว่า​จะ​เรียก​เขา​ไป​คุย​เรื่อง​ย้าย​เรือน​’

เขา​รีบ​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืน​เอา​มือ​ไขว้หลัง​อยู่​บน​บันได​ห้อง​หนังสือ​ ​จิ​่น​เกอ​ที่​สวม​เสื้อคลุม​ผ้าไหม​สีแดง​กำลัง​ดึง​ชาย​เสื้อ​ของ​บิดา​ ​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​ความสงสัย

สวี​ซื่อ​จุน​ยิ่ง​สงสัย​มากกว่า​เดิม

“​ท่าน​พ่อ​!​”​ ​เขา​พึ่ง​จะ​ยกมือ​คำนับ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดินลง​มาจาก​บันได​ ​“​พวกเรา​ออก​ไป​เดินเล่น​กัน​เถิด​!​”

จิ​่น​เกอ​วิ่ง​ตามหลัง​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ซื่อ​จุน​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​เดินตาม​ไป​ด้วย

ฟ้า​พึ่ง​จะ​สาง​ ​บน​ทางเดิน​เต็มไปด้วย​บรรดา​สาวใช้​ที่​ต้อง​มาก​วาด​ทางเดิน​ใน​ตอนเช้า

ทุกคน​ต่าง​ก็​หลีกทาง​ให้​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​พลาง​โค้ง​คำนับ

ประตู​ใหญ่​ของ​จวน​สวี​ถูก​เปิด​ไว้​นาน​แล้ว​ ​มี​รถม้า​หลังคา​แบน​สีดำ​ที่​ดู​ธรรมดา​จอด​อยู่​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขึ้นรถ​ม้า​แล้ว​กำชับ​คน​บังคับ​ม้า​ว่า​ ​“​ไป​ต้า​ซิ่ง​”

เมื่อ​เหวี่ยง​แส้​ ​รถม้า​ก็​วิ่ง​ออก​ไป​ทันที

สวี​ซื่อ​จุน​ประหลาดใจ​อย่างมาก​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​นั่ง​ตัวตรง​ ​มีสมาธิ​ไม่​วอกแวก​ ​มีท​่า​ทาง​สง่างาม​ของ​คุณชาย​ตระกูล​ขุนนาง

จิ​่น​เกอ​กลับ​หมอบ​อยู่​บน​ตัก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​เหตุใด​พวกเรา​ต้อง​ไป​ต้า​ซิ่ง​ด้วย​ ​ไป​ต้า​ซิ่ง​ต้อง​ใช้เวลา​เดินทาง​หนึ่ง​วัน​ ​พวกเรา​จะ​ไป​ทานอาหาร​กลางวัน​ที่​โรง​เตี้ยม​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​เขา​ก็​มีท​่า​ทาง​ตื่นเต้น​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​วันนี้​พวกเรา​จะ​กลับ​จวน​หรือไม่​ ​หรือว่า​ต้อง​นอน​ที่​โรง​เตี้ยม​ ​ข้า​ได้ยิน​อาจารย์​ผัง​บอกว่า​โรง​เตี้ยม​ใหญ่​มาก​ ​มี​คน​ให้อาหาร​ม้า​ ​แล้วก็​มี​ของกิน​ด้วย​ ​ระหว่างทาง​จาก​ชัง​โจว​ไป​เยี​่​ยน​จิง​ ​มี​โรง​เตี้ยม​ชื่อดัง​แห่งหนึ​่​งคือ​โรง​เตี้ยม​เกา​เซิง​ ​สุรา​เกาเหลียง​ของ​ที่นั่น​แรง​มาก​…​”

“​นั่งลง​ดี​ๆ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึง​คอเสื้อ​ของ​บุตรชาย​ ​“​ข้า​พา​เจ้า​ออกมา​ข้างนอก​ ​เจ้า​ก็​เอาแต่​พูด​ไม่​หยุด​…​”

“​ข้า​ไม่​พูด​แล้ว​ ​ข้า​ไม่​พูด​แล้ว​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​รีบ​เอา​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ปิดปาก​ ​มีเสียง​อู้อี้​ดัง​ออกมา​จาก​ฝ่ามือ​ของ​เขา​ ​“​ท่าน​พ่อ​ออกมา​คราวหน้า​ต้อง​พา​ข้ามา​ด้วย​นะ​ขอรับ​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ทน​ไม่ได้​อีกต่อไป​ ​ผุด​รอยยิ้ม​ขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​เอือมระอา​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท