ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 663 ครึกครื้น (ต้น)

ตอนที่ 663 ครึกครื้น (ต้น)

เรือน​ใหม่​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​พึ่ง​จะ​เก็บกวาด​เรียบร้อย​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​พา​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​พอดี

“​…​อี๋​เหนียง​สาม​อยู่​ที่​อวี​๋​หัง​เพื่อ​ดูแล​นายท่าน​ใหญ่​ ​คุณชาย​เจ็ด​ ​คุณนาย​สี่​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​อี๋​เหนียง​หก​ ​และ​บรรดา​คุณชาย​น้อย​กับ​คุณหนู​ต่าง​ก็​มากัน​ทั้งหมด​”

แน่นอน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ปิติยินดี​เป็นอย่างมาก

นาง​กับ​อี๋​เหนียง​ห้า​ไม่ได้​เจอ​หน้า​กัน​มา​เก้า​ปี​แล้ว​ ​ครั้งสุดท้าย​ที่​เจอ​หลัว​เจิ​้น​หง​ ​เขา​ยัง​ถูก​ห่อ​ตัว​อยู่​ใน​ผ้าอ้อม​อยู่​เลย

“​รีบ​นำ​ป้ายชื่อ​ของ​ข้า​ไป​ส่ง​ที่​ตรอก​กง​เสียน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​อย่าง​ตื่นเต้น​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​เยี่ยม​พวกเขา​”

หู่​พั่ว​รับคำ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​ประคอง​หน้า​จิ​่น​เกอ​แล้ว​หอม​สอง​ที​ ​“​ท่าน​ยาย​กับ​ท่าน​น้า​เล็ก​ของ​เจ้า​มาถึง​แล้ว​!​”

“​ถ้าอย่างนั้น​เรา​ก็​ไป​เล่น​ที่​จวน​ท่าน​ลุง​ได้​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​”​ ​จิ​่น​เกอ​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​“​ข้า​อยาก​ทาน​ขนมปัง​เนื้อ​แกะ​ของ​จวน​ท่าน​ลุง​”

“​ใช่​แล้ว​ ​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่มี​กะ​จิต​กะ​ใจมา​สอน​จิ​่น​เกอ​เรื่อง​ความ​ตะกละ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​พวกเรา​จะ​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​ท่าน​ลุง​ของ​เจ้า​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ขบขัน​ ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​กำชับ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​แผนก​รายงาน​ให้​จัดเตรียม​ของขวัญ​ส่ง​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน

เมื่อถึง​เวลา​จุด​โคมไฟ​หู่​พั่ว​ก็​กลับมา​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​กำลัง​เก็บของ​ใน​หีบ​ ​พอ​รู้​ว่า​พรุ่งนี้​ท่าน​จะ​ไปหา​ก็ดี​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​พรุ่งนี้​ให้ท่าน​ไป​แต่เช้า​ ​จะ​ให้​ห้องครัว​ทำปลา​จิ​่ว​ถัง​ของโปรด​ของ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ดึง​นาง​มาถาม​ว่า​ ​“​เจ้า​เห็น​อี๋​เหนียง​ห้า​กับ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​หรือไม่​”

“​เห็น​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​ชี้​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ให้​บ่าว​ดู​โดยเฉพาะ​เลย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​สดใส​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​“​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​หน้าตา​เหมือนฮู​หยิน​ห้า​อยู่​ห้า​หก​ส่วน​ ​สวม​ชุด​ผ้าไหม​สีขาว​นวลจันทร์​ ​ใส่​สร้อยทองคำ​ ​ราวกับ​เด็กชาย​ที่​คอย​ปรนนิบัติ​รับใช้​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ก็​ไม่​ปาน​ ​ไม่เพียงแต่​หน้าตา​ดูดี​ ​ซ้ำ​ยัง​มีสัมมาคารวะ​ ​แค่​เห็น​ก็​รู้​ว่า​เป็นคุณ​ชายน้อย​ที่​มีความรู้​จาก​ตระกูล​สูงศักดิ์​ ​พอคุณ​ชายน้อย​เจ็ด​รู้​ว่า​บ่าว​เป็น​คนที​่​ท่าน​ให้​นำ​ป้ายชื่อ​มา​ ​ก็​ยัง​ฝาก​บ่าว​มาถาม​ว่าฮู​หยิน​ว่า​สบายดี​หรือไม่​!​ ​ตอนที่​บ่าว​กำลังจะ​ออกจาก​จวน​ ​พอ​อี๋​เหนียง​ห้า​ได้ยิน​ข่าว​ก็​รีบ​มาหา​ ​ดึง​บ่าว​ไป​ซักถาม​เรื่อง​ของฮู​หยิน​อยู่นาน​ ​แล้วยัง​มอบ​เงิน​ประมาณ​หนึ่งร้อย​ตำลึง​ให้​บ่าว​อีกด้วย​”​ ​พูด​จบ​ก็​หยิบ​ก้อนเงิน​เล็ก​ๆ​ ​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ ​มองดู​แล้ว​จำนวน​น้อยที่สุด​อยู่​ที่หนึ่ง​ตำลึง​ ​“​พี่​ซาน​หู​แต่ง​กับ​ผู้ติดตาม​ของ​คุณนาย​ใหญ่​ ​ตอนนี้​ได้​เป็น​ผู้ดูแล​หญิง​ข้าง​กาย​ของ​คุณนาย​ใหญ่​แล้ว​ ​นาง​เป็น​คน​มาส​่​งบ​่าว​ ​บ่าว​ได้ยิน​นาง​บอกว่า​หลังจากที่​กลับ​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ก็ได้​รับ​การ​เลี้ยงดู​อยู่​ใน​เรือน​ของ​คุณนาย​ใหญ่​ ​คุณนาย​ใหญ่​ปฏิบัติ​ต่อ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ราวกับ​ที่​ปฏิบัติ​ต่อ​คุณชาย​น้อย​ซิว​ ​คุณชาย​น้อย​เกิง​ ​และ​คุณชาย​น้อย​คัง​ ​เริ่ม​เรียนหนังสือ​ตอน​อายุ​ห้า​ปี​ ​ตอนนี้​เรียน​ตำรา​ปฐมวัย​ใกล้​จบ​แล้ว​ ​ไม่เพียงแต่​สามารถ​แต่ง​บทกวี​ได้​ ​ซ้ำ​ยัง​สามารถ​แต่ง​บทประพันธ์​ได้​อีกด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

บุตรชาย​คนที​่​สอง​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​นาม​ว่า​หลัว​เจีย​เกิง​ ​บุตรชาย​คนที​่​สาม​จาก​หวัง​อี๋​เหนียง​นาม​ว่า​หลัว​เจีย​คัง​

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ทั้ง​ประหลาดใจ​และ​ดีใจ

ที่​ประหลาดใจ​ก็​เพราะ​คิดไม่ถึง​ว่า​คุณนาย​ใหญ่​จะ​เลี้ยง​หลัว​เจิ​้น​หง​ไว้​ที่​เรือน​ของ​นาง​ ​ที่​ดีใจ​ก็​เพราะ​อี๋​เหนียง​ห้า​กับ​น้องชาย​ของ​นาง​มีชีวิต​ความเป็นอยู่​ใน​สกุล​หลัว​ดีกว่า​ที่นา​งคิด

นาง​กำชับ​หู่​พั่ว​ ​“​ไป​เปิด​หีบ​ของ​ข้า​ ​ข้า​จะ​เลือก​ผ้าแพร​กง​ต้วน​ที่​ได้รับ​พระราชา​ทาน​จาก​ใน​วัง​เอา​มาทำ​เสื้อผ้า​ให้​บรรดา​หลานชาย​และ​หลานสาว​”​ ​พลัน​รู้สึก​ว่า​ของขวัญ​นั้น​ดู​เล็กน้อย​เกินไป​ ​“​นำ​กล่อง​เครื่องประดับ​มาด​้วย​ ​ข้า​จะ​เลือก​เครื่องประดับ​สัก​สอง​สาม​ชิ้น​ให้​พี่สะใภ้​ทั้งสอง​ท่าน​”​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​สวี​ลิ่ง​อี๋​เพื่อ​เลือก​จาน​ฝน​หมึกต​วน​เอี้ยน​และ​พู่กัน​หู​ปี่

“​โชคดี​ที่นาน​ๆ​ ​ที​จะ​มาค​รั้ง​หนึ่ง​”​ ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็นท่า​ทาง​ตื่นเต้น​ของ​นาง​ก็​พูด​หยอกล้อ​ว่า​ ​“​มิเช่นนั้น​สมบัติ​ใน​จวน​คงจะ​ถูก​แจกจ่าย​จน​หมด​”

สือ​อี​เหนียง​อารมณ์ดี​ ​จึง​พูด​หยอกล้อ​กับ​เขา

“​ทำไม​เล่า​ ​ท่าน​ทำใจไม่ได้​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​ดวงตา​สุกใส​ราวกับ​สายน้ำ​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​จับจ้อง​ไป​ที่​เขา​ ​“​หย่ง​ผิง​โหว​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ของ​พวกเรา​คงจะ​ไม่ใช่​คนที​่​กลัว​การ​ใช้จ่าย​อย่าง​ฟุ่มเฟือย​หรอก​กระมัง​”​ ​สีหน้า​ดู​มีชีวิตชีวา​เป็นอย่างมาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ดังนั้น​ก็​ใจเต้น​แรง​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​ ​เขา​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​นาง​ ​มือสอง​ข้าง​โอบ​เอว​เรียว​บาง​ของ​นาง​ ​สูดกลิ่น​หอม​ที่​ต้นคอ​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​รู้จัก​คำ​ว่า​ฟุ่มเฟือย​ด้วย​หรือ​ ​ใคร​ที่​เจอ​คนใช้​จ่าย​ฟุ่มเฟือย​ก็​ต้อง​ปวดใจ​อยู่​บ้าง​ ​อย่างไร​เสีย​เจ้า​ก็​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ทำให้​ข้า​รู้สึก​ดีขึ้น​หน่อย​กระมัง​!​”​ ​บรรยากาศ​คลุมเครือ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​หันกลับ​ไป​ ​แขน​เรียว​ยาว​วาง​อยู่​บน​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​ท่าน​โหว​”​ ​นาง​หรี่​ตาม​อง​เขา​ ​“​ท่าน​จะ​ให้​ข้า​ปลอบใจ​ท่าน​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”​ ​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ดั่ง​สายน้ำ​ ​แววตา​เป็นประกาย​ดู​เจ้าเล่ห์​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​แอบ​รู้สึก​ขบขัน

เป็น​สามีภรรยา​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ ​หาก​สือ​อี​เหนียง​กล้า​พลอดรัก​กับ​เขา​ใน​ห้อง​หนังสือ​ที่​เต็มไปด้วย​บ่าว​รับใช้​และ​สาวใช้​ที่​ยืน​กัน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​เก๋อ​ซ่าน​ ​เช่นนั้น​นาง​ก็​ไม่ใช่​สือ​อี​เหนียง​แล้ว

“​ข้า​อยาก​ดู​…​”​ ​เขา​พูด​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​เจ้า​ร้องเพลง​ ​หรือไม่ก็​…​”​ ​เขา​กวาดสายตา​ไป​ยัง​หน้าอก​ของ​นาง​ที่​ดู​มีน้ำมีนวล​เป็นพิเศษ​ในขณะที่​นาง​เอน​ตัว​ไป​ข้างหลัง​ ​“​เต้นระบำ​”

“​ข้า​ทำไม​่​เป็น​ทั้งสอง​อย่าง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ ​“​เช่นนั้น​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​เล่า​”

“​ข้า​จะ​สอน​เจ้า​ร้อง​เอง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฮัม​เพลง​ที่​ข้าง​หู​นาง​เบา​ๆ​ ​ทำเอา​สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ก่ำ​ ​“​ท่าน​โหว​ไป​เรียน​กับ​ใคร​มา​หรือ​”​ ​พ่ายแพ้​อย่าง​ราบคาบ

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านา​งดู​เขินอาย​ก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ลั่น

******

เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​แต่งตัว​แล้วไป​ลา​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน

ไม่ได้​เจอกัน​หลาย​ปี​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ดู​อวบอั๋น​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​ดู​มีอายุ​มากกว่า​เดิม​เล็กน้อย​ ​ส่วน​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ไม่ได้​ดูดี​เหมือน​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​ดู​มีอายุ​มากขึ้น​ ​ดูแล​้ว​ไม่​ต่าง​จาก​เดิม​มาก​นัก

ทั้ง​สาม​คน​ยืน​หัวเราะ​กัน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​เป็น​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ที่​กระแอม​เสียงดัง​หนึ่ง​ที​ ​ทุกคน​จึง​ได้​สงวนท่าที​มากขึ้น

“​นี่​คือ​น้อง​เจ็ด​!​”​ ​เขา​ดัน​เด็กผู้ชาย​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เขา​เบา​ๆ​ ​แนะนำ​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​หย่ง​ผิง​โหว​ ​นี่​คือ​คุณหนู​สิบเอ็ด​!​”

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​เด็กน้อย​ผู้​นั้น​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​อย่างนอบน้อม​ ​“​พี่​หญิง​สิบเอ็ด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​เขา​คล้าย​กับ​อี๋​เหนียง​ห้า​อยู่​เจ็ด​แปด​ส่วน​ ​นาง​ก็​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มองหา​อี๋​เหนียง​ห้า​ใน​บรรดา​ฝูงชน

“​อี๋​เหนียง​ห้า​กำลัง​พักผ่อน​อยู่​ที่​เรือน​แถว​ด้านหลัง​”​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​นาง​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​นาง​บอกว่า​รอ​ให้ท่าน​โหว​ไป​นั่ง​ร่วมโต๊ะ​อาหาร​ก่อน​แล้ว​นาง​ค่อย​มา​พบ​คุณหนู​”

เช่นนี้​ก็​จะ​สามารถ​ปลีกตัว​จาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​กลั้น​น้ำตา​เอาไว้​ไม่ได้​

ทำเอา​จิ​่น​เกอ​รู้สึก​หวาดกลัว​ใน​ใจ​ ​รีบ​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง

“​ไอ​๊​หยา​ ​ครอบครัว​อยู่​พร้อมหน้าพร้อมตา​กัน​แบบนี้​ ​เหตุใด​ถึง​ร้องไห้​เสีย​แล้ว​!​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​รีบ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ซับ​น้ำตา​ ​แต่​ตัวเอง​กลับ​กลั้น​น้ำตา​เอาไว้​ไม่อยู่​เช่นกัน

“​สตรี​เหล่านี้​จิตใจ​อ่อนไหว​ง่าย​เสีย​จริง​”​ ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​พูด​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​ว่าน​้ำ​เสียง​ของ​ตัวเอง​ก็​สั่นเครือ​อยู่เล็ก​น้อย

ทุกคน​ต่าง​พากัน​หัวเราะ

หลัว​เจีย​ซิว​โต​เป็น​หนุ่ม​แล้ว​ ​เขา​ได้​หมั้น​หมาย​กับ​บุตรสาว​ของ​อดีต​ข้าหลวง​หังโจว​หรือ​ใต้เท้า​โจว​ที่​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​กลับบ้าน​เกิด​ ​กำหนด​งานแต่ง​คือ​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​ ​แต่กลับ​เป็นครั้งแรก​ที่พึ่ง​จะ​ได้​พบ​กับ​หลัว​เจีย​เกิง​และ​หลัว​เจีย​คัง​ ​ทั้งคู่​สืบทอด​ผิวขาว​และ​รูปลักษณ์​ที่​งดงาม​ของ​สกุล​หลัว​ ​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​ที่​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​หลัว​เจีย​ซิว​ท่าทาง​สงบนิ่ง​ ​หลัว​เจีย​เกิ​งดู​เป็น​คนซื่อ​ตรง​ ​รู้สึก​ว่า​เขา​มีนิ​สัย​เปิดเผย​กว่า​หลัว​เจีย​คัง​กับ​หลัว​เจิ​้น​หง​เล็กน้อย​

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​สายตา​จับจ้อง​ไป​ที่​เด็กผู้หญิง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ที่​อิงแอบ​อยู่​ข้าง​กาย​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว

“​อิง​เหนียง​ใช่​หรือไม่​”

อิง​เหนียง​เอง​ก็​โต​เป็นสาว​แล้ว​ ​ค่อนข้าง​เหมือน​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่ได้​หน้าตา​สวยงาม​มาก​นัก​ ​แต่​ใบหน้า​กลับ​ดู​สดใส​และ​ซื่อสัตย์​ ​พลอย​ทำให้​คนที​่​พบเห็น​รู้สึก​สบายใจ

“​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​เข้าไป​คำนับ

“​อิง​เหนียง​ ​เจ้า​ยัง​จำ​ข้า​ได้​หรือไม่​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ถาม​นาง

“​จำได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​อิง​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​ร่าเริง​ ​“​เรือน​ที่​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​อาศัย​อยู่​มีต​้น​ทับทิม​ ​ตอนที่​ข้า​ยัง​เป็น​เด็ก​ ​ข้า​อยาก​จะ​เก็บ​ดอก​ทับทิม​แต่​เอื้อม​ไม่​ถึง​ ​ข้า​ยัง​จำได้​ว่า​ท่าน​โหว​เป็น​คน​อุ้ม​ข้า​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันมา​ยิ้ม​ให้​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ความจำ​ดี​เสีย​จริง​!​”​ ​ท่าทาง​พอใจ​เป็นอย่างมาก

เมื่อ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​และ​ภรรยา​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชื่นชอบ​อิง​เหนียง​ก็ดี​อก​ดีใจ​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ชี้​ไป​ที่​เด็กผู้หญิง​อายุ​ห้า​หก​ปี​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​อิง​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​ฮุ่ย​เหนียง​”​ ​แล้ว​ชี้​ไป​ยัง​เด็กชาย​ตัว​น้อย​อายุ​ประมาณ​หนึ่ง​ขวบ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​ ​“​ส่วน​นี่​คือ​ตู้​เกอ​!​”

หลังจากที่​นาง​ให้กำเนิด​อิง​เหนียง​กับ​ฮุ่ย​เหนียง​แล้วก็​ไม่มี​การเคลื่อนไหว​ใดๆ​ ​อีก​ ​ตู้​เกอ​เกิด​จาก​อนุภรรยา​ของ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​นาม​ว่า​อี๋​หลิ่ว

สือ​อี​เหนียง​แนะนำ​เด็ก​ๆ​ ​สกุล​สวี​ให้​รู้จัก​กับ​คนใน​สกุล​หลัว

ทุกคน​คุย​ไป​หัวเราะ​ไป​ ​จากนั้น​ก็​เข้าไป​นั่ง​ใน​เรือน

สือ​เอ้อร​์​เหนียง​กับ​หวัง​เจ๋อ​พา​เด็ก​ๆ​ ​มา​เยี่ยม

ใน​เรือน​ครึกครื้น​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​โดยเฉพาะ​อี๋​เหนียง​หก​ที่​กำลัง​ลูบ​ศีรษะ​บุตร​ทั้งสอง​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​นาง​ตื่นเต้น​จน​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร

“​น่าเสียดาย​ที่​พี่​หญิง​ห้า​กลับ​จวน​ฝั่ง​ของ​พี่เขย​ห้า​ ​มิเช่นนั้น​ก็​คงจะ​ครึกครื้น​ยิ่งกว่า​นี้​!​”​ ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​พูด​พลาง​ถอนหายใจ

“​พวกเรา​จะ​กลับ​อวี​๋​หัง​หลังจาก​ตรุษจีน​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​เขียนจดหมาย​ถึง​นาง​ ​ให้​นาง​กลับมา​ฉลอง​ตรุษจีน​ที่​เยี​่​ยน​จิง​”

“​เอา​สิ​ ​เอา​สิ​!​”​ ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ดีใจ​เป็นอย่างมาก

ทันใดนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ลุกขึ้น​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​อี๋​เหนียง​ห้า​เลย​”

เสียง​ต่างๆ​ ​ใน​ห้อง​เงียบ​ลง​อย่างกะทันหัน​ ​สายตา​ของ​ทุกคน​จับจ้อง​ไป​ที่​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง

“​อี๋​เหนียง​ห้า​ยัง​ปรับตัว​ไม่ได้​จึง​ไม่สบาย​นิดหน่อย​”​ ​เขา​กระแอม​เบา​ๆ​ ​“​กำลัง​พักผ่อน​อยู่​ที่​เรือน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​พูดเสี​ยง​เรียบ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​พวกเรา​ไป​คารวะ​อี๋​เหนียง​ห้า​กัน​เถิด​!​ ​จะ​ได้​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ให้​อี๋​เหนียง​ห้า​เห็น​หน้า​ค่า​ตา​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ตัน​จมูก​ ​จากนั้น​น้ำตา​ก็​ไหล​ออกมา

“​เอา​สิ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สายตา​ของ​นาง​พร่ามัว​เล็กน้อย​ ​เดินตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​พบ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​คำนับ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​เห็น​ว่า​อี๋​เหนียง​ห้า​ตื่นตระหนก​จน​ไม่รู้​ว่า​จะ​หลบ​ไป​ทาง​ไหน​ ​เห็น​จิ​่น​เกอ​เอ่ย​เรียก​ ​“​ท่าน​ยาย​”​ ​เห็น​ว่า​อี๋​เหนียง​ห้า​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​ปิดหน้า​เอาไว้​แล้ว​ร้องไห้​อย่าง​เงียบๆ​…

******

“​นี่​ ​นี่​ ​นี่​ ​เจ้า​อย่า​ร้องไห้​สิ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ ​“​หาก​เจ้า​ร้องไห้​ ​ดวงตา​ของ​เจ้า​ก็​จะ​บวม​เป่ง​เหมือน​ลูก​ท้อ​!​”

“​ข้า​ได้มา​เจอ​คนใน​สกุล​เดิม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​ซับ​หาง​ตา​ ​แต่​น้ำตา​ก็​ไหล​ออกมา​อีก​ ​ราวกับว่า​ซับ​เท่าไร​ก็​ไม่มีวัน​หมด​ ​“​ก็​เลย​ดีใจ​เจ้าค่ะ​!​”

น้อย​ครั้ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​จะ​ตื่นเต้น​เช่นนี้

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ถอนหายใจ​ ​โอบ​นาง​เอาไว้​ใน​อ้อมแขน

สือ​อี​เหนียง​ซบ​ไหล่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ใน​รถม้า​ที่​มีแสง​สลัว​ๆ​ ​นาง​จับมือ​เขา​ไว้​แน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​โอบ​ตัวนาง​เอาไว้​แน่น​ ​หอม​แก้ม​นาง​ด้วย​ความรักใคร่

บรรยากาศ​ใน​รถม้า​พลัน​สงบ​ไร้​ซึ่ง​เสียง​ใด

******

“​ไอ​๊​หยา​!​ ​อี๋​เหนียง​ก็​มาด​้วย​หรือ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​มอง​จิ​่น​เกอ

“​ใช่​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​สีหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​เต็มไปด้วย​ความตื่นเต้น​ ​“​ท่าน​ยาย​หน้าตา​เหมือน​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​อย่างมาก​!​ ​มีกลิ่น​ตัว​หอม​ ​เวลา​พูด​ก็​นุ่มนวล​อ่อนโยน​ ​ซ้ำ​ยัง​…​ซ้ำ​ยัง​ทำ​เสื้อผ้า​ให้​ข้ามา​กมาย​ ​ป้อน​แตงโม​ให้​ข้า​ทาน​ด้วย​…​”

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ในเมื่อ​อี๋​เหนียง​มา​แล้ว​ ​พวกเรา​จะ​เสียมารยาท​ไม่ได้​ ​ข้าว​่า​สอง​วัน​มานี​้​ดอกบัว​ใน​ทะเลสาบ​ปี้​อีกำ​ลัง​เบ่งบาน​พอดี​เลย​ ​ไม่​สู้​เลือก​วัน​แล้ว​เชิญ​คุณนาย​ใหญ่​มานั​่ง​เล่น​ที่​จวน​พวกเรา​ ​ท่าน​ว่า​อย่างไรบ้าง​ขอรับ​”

ไท่ฮู​หยิน​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​กลั้นหายใจ​โดยไม่รู้ตัว

“​เอา​สิ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้าว​่า​ไม่​สู้​พรุ่งนี้​พวกเรา​เตรียมตัว​กัน​แล้ว​วัน​มะรืน​ค่อย​เชิญ​นาง​มาดี​หรือไม่​”​ ​ประโยค​สุดท้าย​พูด​พลาง​จับจ้อง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​ดวงตา​ของ​นาง​พลัน​รื้น​ไป​ด้วย​น้ำตา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท