บทที่ 632 ข้ายังมีพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ควรจะช่วยเหลือข้า!
“เจ้ารังเกียจข้า ข้าจึงทิ้งเจ้าแล้ววิ่งหนีไป นี่สมเหตุสมผลแล้ว ไม่นับว่ามากเกินไป!”
เจ้าหลวงบ่นพึมพำ รู้สึกว่าจ้าวตะเข้มีโอกาสเกินครึ่งที่จะไม่รอดกลับมา เครื่องใช้เหล่านั้นชื่นชอบการทรมาน นอกจากนี้ยังมีต้นหลิวที่ไม่อาจทราบถึงความแข็งแกร่งว่าล้ำลึกเพียงใด จ้าวตะเข้มีโอกาสอย่างมากที่จะถูกจัดการลงที่นั่น
ภายในใจของมันรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย อย่างไรเสียจ้าวตะเข้ก็เป็นสหายที่ดีของมัน ที่ผ่านมาก็เคยช่วยมันเอา ทว่าเพียงไม่นานความเจ็บปวดภายในใจของมันก็หายไป
ไม่มีทางเลือก การมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปคือสิ่งที่สำคัญสุด
เหล่าผู้ที่เลือกจะโอบกอดความพิศวงเอาไว้ย่อมเข้าใจดีว่าการอยู่รอดนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อีกทั้งด้วยความแข็งแกร่งของมันตอนนี้ การรั้งอยู่ไปก็ไม่อาจช่วยเหลือสิ่งใดจ้าวตะเข้ได้
“สหายที่แสนดีน่าจะเข้าใจในจุดนี้!”
มันกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น
“สหายไปให้สบายเถิด นครของท่านข้าจะเป็นผู้ดูแลให้เอง!”
มันรำพึงกับตัวเอง หากจ้าวตะเข้ตายแล้ว นครของจ้าวตะเข้ก็ไม่อาจปล่อยให้ล่มสลายไปเช่นนี้ได้ ในฐานะสหายที่แสนดี มันย่อมต้องช่วยรับช่วงดูแลนครของจ้าวตะเข้
“ช่างมันเสียเถิด หากเครื่องใช้เหล่านั้นมาหาข้าอีกเล่า?”
มันรู้สึกอึดอัดกระอักกระอ่วนขึ้นมา ถ้าหากมีเรื่องยุ่งยากมาหาจริง ๆ มันก็คงจะต้องวิ่งหนีอีกครั้ง
ยิ่งถ้าจ้าวตะเข้ไม่ตายและกลับมาได้ เช่นนั้นมันก็จะยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
‘ใช่แล้ว ข้ายังมีพี่ใหญ่อีกหนึ่งคน แต่ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะลืมมันไปแล้วหรือยัง นครที่พี่ใหญ่สร้างนั้นยิ่งใหญ่มาก หากข้าไปหาพี่ใหญ่ก็น่าจะปลอดภัยกว่า!’
เจ้าหลวงครุ่นคิด ก่อนจะนึกถึงพี่ใหญ่ผู้หนึ่งขึ้นมา
พี่ใหญ่ผู้นี้เคยช่วยเหลือมันอยู่บ่อยครั้งในอดีต ระดับสสารพิศวงที่ได้รับอยู่เหนือยิ่งกว่ามันและจ้าวตะเข้
“ไปเถิด ไปหาพี่ใหญ่!”
เจ้าหลวงอดเอ่ยขึ้นมาด้วยความเกลียดชังไม่ได้ “เหล่าเครื่องใช้สมควรตาย เรื่องนี้จะปล่อยไปไว้เช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะต้องแก้แค้น! ไม่ใช่แค่เพื่อตนเอง แต่ยังเพื่อสหายจ้าวตะเข้ด้วย!”
มันรีบจากไปอย่างรวดเร็ว ทว่ามันไม่ได้ตรงไปหาพี่ใหญ่ทันที
มันต้องกลับไปเตรียมตัวที่นครของจ้าวตะเข้เสียก่อน
เวลาล่วงผ่านมานาน เป็นไปได้ว่าพี่ใหญ่จะลืมมันไปแล้ว มันจึงไม่สามารถไปหาพี่ใหญ่ด้วยมือเปล่าได้
มันต้องการจะหาขอขวัญไปให้พี่ใหญ่
หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้ว ของขวัญที่ว่ามันก็คงต้องไปหาเอาจากนครของจ้าวตะเข้ อย่างไรเสียมันก็ยากจนมีเพียงตัวเปล่า
“สหายวางใจได้ ข้าไม่ได้เอาไปโดยเปล่า หลังจากที่ข้าพบกับพี่ใหญ่แล้ว ข้าจะต้องขอร้องให้พี่ใหญ่ช่วยล้างแค้นให้ท่านกับข้าอย่างแน่นอน!”
มันเอ่ยขึ้นมาในใจ ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้น เรื่องนี้ยิ่งทำสำเร็จไวยิ่งดี ไม่อาจรีรอได้
…
อีกด้านหนึ่ง จ้าวตะเข้นั้นทั้งดุร้ายและทรงพลัง ด้วยการเกื้อหนุนจากพลังพิศวง เดือยกระดูกของมันมีพลังที่แผ่ออกมาเทียบเท่ากับขั้นจ้าวแห่งเซียน แผ่นหินปูพื้นกระโจนไปอีกด้านไม่กล้าปะทะด้วยโดยตรง
สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีดำตนอื่นก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน การลงมือของพวกเขาต่างสามารถบังคับให้เหล่าของวิเศษล่าถอย กล่าวได้ว่าทรงพลังสะท้านฟ้า!
“สหาย เจ้าเห็นหรือไม่? ดูเสียว่าพวกเราห้าวหาญเก่งกาจเพียงใด เพิ่งลงมือก็ได้เปรียบแล้ว!”
จ้าวตะเข้หัวเราะเสียงดัง
“…”
มัจฉาสัตมายาฟังแล้วก็บื้อใบ้ สหายอันใดกัน?
สหายของเจ้าวิ่งหนีไปนานแล้ว!
มันผู้นั้นไม่แม้แต่จะลังเล หลังจากตะโกนออกมาด้วยความเลือดร้อนว่า ‘ลุยเลย’ มันก็หันหลังวิ่งออกไปอย่างไม่มีรีรอ!
ทุกสิ่งเกิดขึ้นกะทันหันเกินไปอย่างไม่มีเค้าลางล่วงหน้า มันไม่ทันได้สนใจ เหล่าสมบัติเองก็เช่นเดียวกัน ทำให้เจ้าหลวงมีโอกาสได้หลบหนี
“เหตุใดสหายจึงไม่พูดอันใดเลย? เหตุใดจึงไม่ร้องให้กำลังใจให้พวกเราเลย?”
จ้าวตะเข้รู้สึกงงงวยเล็กน้อย ก่อนหน้าที่จะเริ่มต่อสู้ สหายของมันก็โห่ร้องให้กำลังใจกับพวกมันแล้ว
ทว่าตอนนี้พวกมันสำแดงความทรงพลังหน้าเกรงขาม เหตุใดสหายของมันจึงไม่มีเสียงใด?
แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
มันอดเหลียวหลังกลับไปมองไม่ได้ ก่อนใบหน้าจะเต็มไปด้วยความทึ่มทื่อ “สหายของข้าเล่า?”
ที่ตรงนั้นว่างเปล่า ไม่มีร่างของสหายที่แสนดี มันจึงงุนงงเล็กน้อย สหายที่แสนดีของมัน…หนีไปแล้ว?
“มันวิ่นหนีไปนานแล้ว!”
มัจฉาสัตมายากล่าวออกมา ตอนนี้มันขำจนจะตายแล้ว ยังจะตามหาสหายที่แสนดีอีก?
“มารดามันเถอะ…!”
จ้าวตะเข้สบถ มันโมโหจนแทบระเบิดออกมา ปากจมูกและหูราวกับพ่นลมร้อนออกมา
มันให้ความช่วยเหลือทุกอย่างกับเจ้าหลวง สนับสนุนให้เจ้าหลวงสร้างนครแห่งใหม่ นอกจากนี้เมื่อได้ยินข่าวว่าเจ้าหลวงประสบความพ่ายแพ้กำลังเผชิญวิกฤตในอาณาจักรอวี้ซวี มันก็เร่งเข้ามาช่วยเหลืออย่างไม่มีลังเล
ผลคือมันถูกเจ้าหลวงทิ้งเอาไว้ที่นี่ แล้ววิ่งหนีไปเพียงผู้เดียว?
ถึงกับใช้มันเป็นเครื่องมือเช่นนี้!
“ไม่เชื่อใจข้าหรือ?! ได้ บัญชีนี้จะต้องถูกสะสางในภายหลัง! มิตรภาพของพวกเราขาดกันเพียงเท่านี้!”
จ้าวตะเข้ตวาดอย่างเย็นชา เขาไม่เชื่อในเรื่องสหายอันใดอีกต่อไป มันเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก
“มาให้ข้าสังหารเสีย!”
มันเปลี่ยนความเศร้าเป็นความชิงชัง มุ่งเป้าหมายไปที่เหล่าของวิเศษ เปิดฉากการโจมตีอย่างดุเดือด
เหล่าของวิเศษนั้นไม่ธรรมดา มันจึงไม่เต็มใจจะจากไปเช่นนี้ ต้องการจัดการนำเหล่าของวิเศษไปด้วย
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ กฎเกณฑ์พลังทลาย สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีดำระเบิดพลังออกมาจากรอบด้าน ตอบสนองต่อคำสั่งของจ้าวตะเข้ เร่งพุ่งเข้ากำราบเหล่าของวิเศษอย่างรวดเร็ว
พวกมันแข็งแกร่งอย่างแท้จริง หลังจากปะทุพลังออกมาอย่างเต็มที่ ท้องฟ้าก็ระเบิดออก กลายเป็นหลุมสีดำขนาดใหญ่ ด้านในเต็มไปด้วยพลังอันสับสนวุ่นวายไหลออกมา
ความดุร้ายน่าหวาดกลัวของพลังขั้นจ้าวแห่งเซียนสำแดงออกมาอย่างไร้ข้อกังขา!
ทั่วทั้งอาณาจักรอวี้ซวีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ไม่สามารถทนรับการระเบิดพลังของมันได้ ดูคล้ายกำลังใกล้จะระเบิดออก
“มีมาเพิ่มอีกชุดหรือ?”
กิ่งของต้นหลิวแกว่งไกว ต้นหลิวที่กำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์เอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา พลังที่มองไม่เห็นสายหนึ่งแผ่ออกมา ทำให้อาณาจักรอวี้ซวีที่กำลังจะระเบิดออกกลับมามั่นคง
ในขณะนั้นเอง เพียงแค่หนึ่งความคิดของมัน พลังที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ ปกป้องสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของอาณาจักรอวี้ซวีเอาไว้ไม่ได้รับผลกระทบใด
“ดูเหมือนว่าเหล่าของวิเศษจะได้เล่นอย่างเต็มที่”
มันยิ้มบาง ๆ เพียงแค่พริบตาเดียวมันก็เข้าใจเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็เดินชมทิวทัศน์รอบด้านต่อ
อีกด้านหนึ่ง เหล่าสมบัติต่างก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของต้นหลิว พวกมันจึงรู้สึกวางใจอย่างแท้จริง
เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่ออาณาจักรอวี้ซวี และการบาดเจ็บล้มตายของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ พวกมันจึงได้ยับยั้งพลังส่วนหนึ่งของตนเองเอาไว้
ทว่าตอนนี้ต้นหลิวได้ลงมือปกป้องทั้งอาณาจักรอวี้ซวีเอาไว้แล้ว พวกมันก็สามารถลงมือได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด
พวกมันรู้ว่าต้นหลิวแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ภายใต้การคุ้มกันของต้นหลิว พวกเขาก็ไม่มีสิ่งใดต้องห่วงอีก
“ไว้หน้าพวกเจ้ามามากแล้ว! ตอนนี้การต่อสู้จริงจะเริ่มขึ้นแล้ว!”
“ลุย!”
เหล่าของวิเศษต่างปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา ไม่ต้องกล่าวเลยว่ารุนแรงถึงเพียงใด เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วแตกต่างกันอย่างลิบลับ!
จ้าวตะเข้ตกตะลึงไม่แปลกใจเลยที่เจ้าหลวงเลือกจะวิ่งหนีไป หลังจากที่ของวิเศษเหล่านี้สำแดงพลังอย่างเต็มที่ กระทั่งมันก็ไม่อาจต้านทานได้!
มันสำแดงพลังออกมาด้วยวิชาแล้ววิชาเล่า แต่ละวิชาล้วนเกี่ยวข้องกับพลังพิศวง นี่ล้วนเป็นเคล็ดวิชาที่ ‘นายท่าน’ มอบให้ ทำให้มันสำแดงพลังพิศวงออกมาได้อย่างเต็มที่และแข็งแกร่งที่สุด
แต่เมื่อมันสำแดงวิชาเหล่านี้ออกมา เพียงพริบตาเดียวก็หายลับไปในทันที หลังจากเหล่าของวิเศษปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ กระทั่งระดับสูงสุดของจ้าวแห่งเซียนก็สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่สิ่งที่มันจะต่อกรได้เลย!
มันและสิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีดำอีกหกตนถูกสยบอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นพวกมันก็กลายเป็น ‘ของเล่น’ ถูกของวิเศษ ‘เล่น’ ตามใจชอบ
“ข้าอยากตาย!”
จ้าวตะเข้ร้องไห้ออกมาเหมือนเจ้าหลวงตอนก่อนหน้านี้ มันต้องการตาย เพราะไม่อาจทนรับการทรมานเช่นนี้ต่อไปได้
มันตะโกนออกมานับร้อย ๆ ครั้ง ทว่าน่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ เหล่าของวิเศษไม่ได้ตั้งใจจะสังหารมันแต่โดยง่าย
สุดท้ายหลังจากเหล่าสมบัติได้เล่นกันจนพอใจแล้ว พวกมันจึงค่อยจัดการกวาดล้างพวกจ้าวตะเข้
“แม่สาวน้อยมาเถิด เวลาก็ผ่านมานานพอสมควรแล้ว”
ไม้ประดับพูดกับชางเหยาอย่างอารมณ์ดี เกิดแสงเจิดจ้าสาดออกมา รักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดของชางเหยาให้หายไปอย่างสมบูรณ์
“ขอบคุณพี่ชายพี่สาว!”
มัจฉาสัตมายารีบเอ่ยขอบคุณ ก่อนวางร่างของชางเหยาที่หายบาดเจ็บลงทันที และวิ่งไปอีกทางด้วยความกลัวว่าชางเหยาจะเกาะติดเขา
เขารู้จักชางเหยาดีเกินไป รู้ว่าชางเหยาจะเกาะตามติดเขาแน่หลังจากหายบาดเจ็บ
ผลก็เป็นดังคาด ชางเหยารีบไล่ตามเขาไปทันที
“พี่ชวนรอข้าด้วย!”
ชางเหยาตะโกนระหว่างไล่ตาม
นางไม่ได้พบมัจฉาสัตมายามาเป็นเวลานานแล้ว ครั้งนี้ได้พบแล้ว นางย่อมต้องการจะอยู่กับมัจฉาสัตมายาให้นานจนพอใจ!
…
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหลวงกลับไปยังนครของจ้าวตะเข้
กองกำลังระดับสูงทั้งหมดถูกจ้าวตะเข้พาออกไปแล้ว ดังนั้นมันจึงสามารถกำราบสิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่ในนครได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น มันก็ดูดซับสสารพิศวงจากที่แห่งนี้ไปจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้กระทั่งเส้นผม
กระทั่งเหล่าสิ่งมีชีวิตพิศวงที่เหลือมันก็ไม่ปล่อยเอาไว้ ต้องการจะมอบทุกสิ่งให้กับพี่ใหญ่
“พี่ใหญ่ ข้ามาแล้ว!”
มันเร่งออกเดินทางไปยังนครที่พี่ใหญ่อยู่ทันที