ตอนที่ 658 สองแม่ลูกใส่ร้ายพ่อไป๋
เมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า พ่อไป๋ก็ถามแม่ไป๋เกี่ยวกับสมุดทะเบียนบ้านของครอบครัว
เอกสารสำคัญเหล่านี้ถูกแม่ไป๋นำไปเก็บทั้งหมด
เวลานี้แม่ไป๋กำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก
เธอมองสามีจากภาพสะท้อนของกระจกและถามว่า “คุณถามหาสมุดทะเบียนบ้านไปทำไมคะ?”
“ผมต้องการโอนชื่อม่ายจื่อมาอยู่ที่เดียวกับเรา”
แม่ไป๋ไม่พอใจเมื่อได้ยินชื่อของหลินม่าย
พลางนึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ตนพยายามพาหลินม่ายกลับมา
เพราะเวลาที่เธอไม่อยู่ ครอบครัวของพวกเขามีชีวิตที่สงบสุขดีอยู่แล้ว
ซวงเอ๋อร์ยังคงเป็นแก้วตาดวงใจของหล่อน และหล่อนก็ไม่อยากทะเลาะกับสามีเรื่องของหลินม่าย
แต่เป็นเพราะหลินม่ายทำให้ซวงเอ๋อร์ต้องทนทุกข์ทรมานกับความคับข้องใจในทุกรูปแบบ และทำให้เกิดปัญหาขึ้นในความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของหล่อน
แม่ไป๋พูดด้วยความโกรธ “หล่อนกำลังจะแต่งงานในไม่ช้า แล้วจะโอนย้ายชื่อของหล่อนมาอีกทำไม? แต่งงานแล้วก็โอนชื่อเข้าทะเบียนบ้านสามีสิ! จะทำเรื่องน่ารำคาญไปทำไม!”
เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย พ่อไป๋ก็โกรธทันที “เอาสมุดทะเบียนบ้านมา!”
ยิ่งเห็นเขาตวาดใส่แบบนี้ แม่ไป๋ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
หล่อนโยนหวีลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง “ตั้งแต่เจอตัวลูกสาวที่หายสาบสูญไป คุณก็เถียงกับฉันทั้งวี่ทั้งวันเพราะหล่อนคนเดียว! หล่อนทำของอะไรให้คุณกินกันแน่ ถึงได้มาทำกับฉันแบบนี้!”
ขณะที่พูดแบบนั้น แม่ไป๋รู้สึกเสียใจมากจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา
แต่แทนที่พ่อไป๋จะสงสาร เขากลับอารมณ์เสียมากกว่าเดิม
เขาตะคอกกลับ “ใครจะไปอยากทะเลาะกับคุณทุกวัน? ถ้าคุณไม่พยายามบิดเบือนความจริงแบบนี้! ถ้าลูกสาวบุญธรรมย้ายเข้ามาในสมุดทะเบียนบ้านได้ แล้วทำไมลูกสาวทางสายเลือดของผมจะทำไม่ได้? คุณพูดว่าม่ายจื่อทำของใส่ผม ผมเองก็อยากถามคุณเหมือนกันว่าไป๋ซวงทำของต่ำอะไรใส่คุณบ้าง! ถึงได้ทำให้คุณกลายเป็นคนโง่เขลา เลี้ยงดูลูกสาวของตัวเองอย่างไม่ยุติธรรมแบบนี้!”
ก่อนจะตะคอกอีกครั้ง “เอาสมุดทะเบียนบ้านมาให้ผม!”
ท่าทางของพ่อไป๋เวลานี้น่ากลัวมาก แต่แม่ไป๋รู้ดีว่า ไม่ว่าพ่อไป๋จะโกรธสักแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันทุบตีหล่อนอย่างแน่นอน
หล่อนจึงกล้าตอบกลับไปว่า “ฉันไม่ให้!”
พ่อไป๋พลันมีสีหน้าเขียวคล้ำ สะบัดตัวหันหลังและเดินออกจากห้อง
แม่ไป๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อหล่อนหยิบหวีขึ้นมาสางผมต่อ ก็ได้ยินเสียงดังของไป๋ซวงตะโกนอยู่นอกประตู “พ่อคะ พ่อจะเอาขวานไปทำอะไร คงไม่ได้เอาไปฆ่าแม่ใช่ไหม?”
แม่ไป๋ตื่นตกใจจนทำหวีในมือหล่น
สามีที่เคยรักและเคารพในตัวหล่อนมาตลอด กลับจะเอาขวานมาสับหล่อน!
หล่อนรู้สึกเสียใจอย่างมากและรีบเปิดประตูออกไป
เมื่อเห็นพ่อไป๋ถือขวานที่สะท้อนแสงเย็นเยือกในมือ ไป๋ซวงก็พยายามรั้งเขาและตะโกนเสียงดัง “ช่วยด้วย! พ่อกำลังจะฆ่าแม่!”
ไป๋เซี่ยและไป๋ลู่กำลังจะไปโรงเรียนได้ยินเข้าก็ถามออกไปด้วยความงุนงง “พ่อ เอาขวานมาทำอะไร?”
ไม่มีใครแย่งขวานออกจากมือพ่อไป๋ เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าพ่อไป๋จะกล้าลงมือฆ่าแม่จริงๆ
แค่อยากรู้ว่าเขาเอาขวานมาทำอะไร
พ่อไป๋ผลักไป๋ซวงออก ส่งผลให้ไป๋ซวงล้มลงพื้น
พ่อไป๋อธิบายไปว่า “ก็แม่ของลูกไม่ยอมเอาสมุดทะเบียนบ้านมาให้พ่อเพิ่มชื่อเสวี่ยเป่าเข้ามาในบ้านนี้ พ่อเลยจะใช้ขวานสับตู้และเอาสมุดทะเบียนบ้านออกมา”
สีหน้าของสองพี่น้องมืดหม่นทันที พวกเขาถามแม่ไป๋อย่างพร้อมเพรียงกัน “ทำไมแม่ไม่ยอมให้พ่อโอนชื่อเสวี่ยเป่ามายังทะเบียนบ้านของเราล่ะ?”
แม่ไป๋อธิบายสองพี่น้องถึงเหตุผลที่หล่อนบอกพ่อไป๋ไปเมื่อครู่
สองพี่น้องยิ่งไม่พอใจ “เพราะม่ายจื่อกำลังจะแต่งงาน เลยไม่ยอมให้โอนชื่อมายังทะเบียนบ้านของพ่อ แล้วไป๋ซวงที่พบพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของหล่อนแล้วล่ะ ทำไมถึงยังคงมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของพ่อด้วย?”
ขณะที่แม่และสองพี่น้องกำลังโต้เถียงกัน เพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของไป๋ซวงก็รีบวิ่งตรงมา ทุบประตูบ้านตระกูลไป๋เสียงดังและถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ไปเซี่ยเดินไปเปิดประตูและปล่อยให้เพื่อนบ้านทั้งหมดเข้ามา
ยกมือชี้ไปที่ไป๋ซวงด้วยใบหน้าหมองหม่นและพูดว่า “เป็นเพราะพ่อไม่ยอมให้เงินค่าเทอมไป๋ซวง หล่อนเลยตั้งใจใส่ร้ายว่าพ่อจะฆ่าแม่ หล่อนพยายามทำลายอนาคตของพ่อเพื่อที่จะแก้แค้น!”
แม้จะเป็นการคาดเดา แต่คำพูดนั้นก็มีส่วนถูก
เพื่อนบ้านในละแวกนั้นได้รับฟังก็เกิดความโกลาหล
พ่อไป๋เป็นรองประธานสาขาของธนาคารแห่งรัฐขนาดใหญ่ ดำรงตำแหน่งบริหารระดับรองผู้อำนวยการ
หากมีข่าวลือไม่ดีแพร่งพรายออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม มันจะส่งผลกระทบต่ออาชีพเขาอย่างมาก ซึ่งอาจถูกพักงานหรือถูกลดตำแหน่ง
การกระทำของไป๋ซวงมันน่ารังเกียจเกินไป!
ป้าโหยวเพื่อนบ้านหันไปพูดกับไป๋ซวงอย่างจริงจัง “ไป๋ซวงเอ๊ย พ่อของเธอเลี้ยงดูมาอย่างดี ทำงานหนักเพื่อหาเงินมาให้ แล้วทำไมถึงทำตัวเป็นหมาป่าขี้ขลาดตาขาวแว้งกัดผู้มีพระคุณแบบนี้!”
ไป๋ซวงร่ำไห้ราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน “ป้าโหยว หนูไม่ได้ทำแบบนั้น พ่อกำลังจะฆ่าแม่ด้วยขวานจริงๆ ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามแม่ดูสิ”
จากนั้นทุกสายตาหันไปจับจ้องที่แม่ไป๋
พ่อไป๋เดินเข้าไปในห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานเสียงขวานสับลงตู้ไม้ก็ดังขึ้นจากในห้อง
หัวใจของแม่ไป๋บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ลังเลว่าจะพูดใส่ร้ายสามีของตัวเองดีหรือไม่
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่พ่อไป๋ปล่อยให้หล่อนถูกแม่ของตัวเองดูแคลน ในที่สุดหล่อนกัดฟันพูดออกไป “เมื่อกี้หมิงหยวนกำลังจะใช้ขวานทำร้ายฉันจริงๆ พอซวงเอ๋อร์พยายามไปหยุดเขา เขาก็แสร้งทำเป็นใช้ขวานสับตู้ไม้เพื่อเอาสมุดทะเบียนบ้านไป!”
สองพี่น้องไป๋ลู่และไป๋เซี่ยรู้สึกโกรธมากจนทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขาตะโกนใส่แม่ไป๋ “แม่! แม่กำลังฆ่าพ่อทั้งเป็นด้วยการใส่ร้ายเขาแบบนั้นนะ!”
แม่ไป๋ยกมือลูบลำคอตัวเองพลางกล่าวคำ “สิ่งที่ฉันพูดออกไปคือความจริงทั้งหมด พวกลูกก็เห็นด้วยตาตัวเอง แล้วยังจะปกป้องพ่ออยู่อีก!”
ไป๋ซวงรู้สึกสะใจอย่างมาก
ในเมื่อพ่อไป๋ไม่รักหล่อนแล้ว และไม่ต้องการแม้แต่จ่ายค่าเทอมให้หล่อน ดังนั้นหล่อนจึงอยากเห็นเขาทรมานให้มากที่สุด
หล่อนจับมือแม่ไป๋และพูดว่า “แม่ ไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความกันเถอะ!”
แม่ไป๋ค่อนข้างลังเล แต่ในที่สุดหล่อนก็ถูกไป๋ซวงลากตัวออกไป
เพื่อนบ้านรีบเตือนพี่น้องไป๋ลู่และไป๋เซี่ยที่ยังคงตกตะลึง “ทำไมไม่รีบไปบอกปู่ย่าตายายเพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับพ่อล่ะ?”
สองพี่น้องรีบไปยังห้องนั่งเล่น เพื่อโทรบอกเล่าให้ปู่ย่าตายายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านโดยสังเขป และเร่งให้พวกเขาตามมาโดยเร็ว
ปู่ย่าตายายรีบวิ่งตามแม่ไป๋ไปยังสถานีตำรวจ
ต่อมาตำรวจก็นำกำลังมารวบรวมหลักฐานจากเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พวกเขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของไป๋ซวงหรือไม่ หรือเรื่องที่พ่อไป๋มีท่าทางจะลงมือฆ่าภรรยาของตัวเองหรือเปล่า
เพื่อนบ้านต่างเคยได้เห็นนิสัยอันชั่วร้ายของไป๋ซวงแล้ว เด็กคนนี้เป็นอสรพิษที่แท้จริง
ส่วนแม่ไป๋นั้นโง่เขลา หล่อนช่วยเหลือลูกสาวบุญธรรมให้ใส่ร้ายสามีของตัวเอง
แม้ทุกคนจะไม่ได้เตรียมเรื่องราวที่จะพูดไว้ล่วงหน้า แต่พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่า แม่ไป๋และลูกสาวทำผิดต่อพ่อไป๋ และต้องการแก้แค้นพ่อไป๋
จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องราวความคับแค้นใจของครอบครัวทั้งหมดให้ตำรวจฟัง
เรื่องอื้อฉาวทั้งหมดเกี่ยวกับความพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าของไป๋ซวง เพื่อกีดขวางหลินม่ายได้พบกับตระกูลไป๋ แล้วยังมีเรื่องขโมยเครื่องประดับทองคำของแม่ไป๋ที่ได้รับการเปิดเผยอีกด้วย
เมื่อตำรวจได้รับฟังถึงนิสัยอันร้ายกาจของไป๋ซวง คำให้การของหล่อนจึงถูกระงับและไม่ได้รับการยอมรับในเวลาต่อมา
แม่ไป๋ปกป้องลูกสาวบุญธรรมอย่างไร้เหตุผล คำให้การของหล่อนจึงถูกปฏิเสธเช่นกัน
แม่เฒ่าหลัวกับพ่อเฒ่าหลัวตบตีแม่ไป๋ด้วยความโกรธทันทีที่พวกเขาตามมาถึงที่บ้าน
พวกเขาดุด่าว่าหล่อนไร้สมอง ถูกลูกสาวบุญธรรมจอมเจ้าเล่ห์ใช้เป็นเครื่องมือใส่ร้ายสามีของตัวเอง
หากตำรวจและเพื่อนบ้านสองถึงสามคนไม่ช่วยแยกพ่อเฒ่าหลัวและแม่เฒ่าหลัวออก แม่ไป๋อาจถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทำร้ายจนเสียชีวิต
เพื่อนบ้านยังให้การอีกว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่พ่อไป๋จะฆ่าภรรยาของเขา
สองพี่น้องไป๋ลู่และไป๋เซี่ยยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่าพ่อไป๋ไม่มีทางลงมือทำร้ายภรรยาตัวเอง และทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไปซวงและแม่ไป๋ใส่ร้ายเท่านั้น
นอกจากนี้ครอบครัวฝ่ายแม่ไป๋ยังช่วยพูดอีกว่าพ่อไป๋ถูกใส่ร้าย
ท้ายที่สุดตามการให้การของคนเหล่านี้ ตำรวจจึงตัดสินว่าแม่ไป๋และไป๋ซวงแจ้งความเท็จ จากนั้นจึงต่อว่าพวกหล่อนอย่างรุนแรงก่อนจากไป
ตาหลัวและยายหลัวต่างก็รู้สึกโกรธจนห้ามน้ำตาไม่ได้ พวกเขาทุบตีและดุด่าแม่ไป๋อีกครั้งด้วยใจที่แตกสลาย
จากนั้นพวกเขาก็หันไปขอโทษปู่ไป๋และย่าไป๋ โดยบอกว่าเพราะตนสั่งสอนลูกสาวไม่ดี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความเศร้าใจ
ปู่ไป๋และย่าไป๋ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขณะที่มองดูลูกสะใภ้ถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทุบตีจนอยู่ในสภาพยับเยินและน่าเวทนายิ่ง
พวกเขาพูดกับพ่อไป๋ว่า “หากไม่มีอะไรแล้ว เราขอกลับก่อน”
พ่อไป๋ส่งเสียงตอบรับแผ่วเบา
แม่ไป๋ใจร้ายกับเขามากจนถึงขนาดใส่ร้ายกันอย่างไม่ปรานี ดังนั้นชีวิตสมรสครั้งนี้คงต้องจบที่การหย่าร้าง
แต่อย่างไรต้องรอจัดการเรื่องครอบครัวของไป๋ซวงให้เรียบร้อยก่อน จึงจะทำเรื่องหย่าได้
หากมีเรื่องหย่าร้างขึ้นก่อน อาจไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้
เมื่อปู๋ไป๋และย่าไป๋เดินจากไป ก็เหลือเพียงแม่ไป๋และครอบครัวของหล่อนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในบ้าน
แม่ไป๋คุกเข่าลงแทบเท้าพ่อไป๋พลางร้องไห้อย่างขมขื่น เอ่ยสารภาพทั้งน้ำตา “หมิงหยวน ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณจริงๆ ฉันทนไม่ได้ที่คุณละเลยฉันแบบนี้ ทนไม่ได้ที่คุณไม่อ่านหนังสือให้ซวงเอ๋อร์ฟังอีกแล้ว ฉันเลยคิดน้อยจนอยากแก้แค้นคุณ ยกโทษให้ฉันได้ไหม?”
พ่อไป๋หัวเราะออกมาด้วยความเคืองขุ่น “คุณคิดแก้แค้นด้วยการใส่ร้ายผมแบบนี้น่ะหรือ? เห็นได้ชัดว่าคุณอยากทำลายผม!”
ท้ายที่สุดเขาก็สะบัดขาจนหลุดจากอ้อมกอดของแม่ไป๋ ไปหยิบสมุดทะเบียนบ้านและเดินเข้าไปยังห้องรับแขก หลังจากเก็บกระเป๋าเอกสารแล้ว จึงเดินออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน
พี่น้องไป๋ลู่และไป๋เซี่ยจากไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
จึงเหลือเพียงแม่ไป๋และไป๋ซวงอยู่บ้านหลังนี้
แม่ไป๋อดไม่ได้ที่จะบ่นไป๋ซวง อีกฝ่ายไม่ควรบังคับให้หล่อนใส่ร้ายพ่อไป๋ต่อหน้าเพื่อนบ้าน และตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่
ไป๋ซวงคุกเข่าลงพื้นพร้อมร้องไห้อย่างขมขื่น
“หนูขอโทษค่ะแม่ หนูแค่ไม่อยากให้แม่ถูกทำร้าย หนูเลยใส่ร้ายพ่อไป ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ หนูผิดเอง แม่ตีหนูได้เลย”
แม่ไป๋ไม่ได้ต้องการทุบตีหล่อน ตอนนี้ทั้งครอบครัวเหลือเพียงไป๋ซวงเท่านั้นที่ยังทำดีต่อหล่อน
แม่ลูกทั้งสองโผเข้ากอดกันและกัน ก่อนร้องไห้เสียงดัง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เออ ในเมื่อทำร้ายจิตใจกันแบบนี้ก็สมควรโดนหย่าแล้ว ไปอยู่กับนังลูกเลี้ยงเลวๆ ให้สมกับสมองเท่าลูกเทนนิสของเธอเลยนังแม่ไป๋
คันมืออยากคว้าขวานจากมือพ่อไป๋มาสับหน้ายัยไป๋ซวงจังเลยค่ะ เอาให้เละเทะเสียโฉมเลย อิลูกช่างเสี้ยม สาระแนนักนะ
ไหหม่า(海馬)