ตอนที่380 วาฬ
“นี่คือไข่มุกจากก้นทะเลลึกของข้า ถ้าหากเจ้าใช้มันในเขตบลูมูนตะวันตก เจ้าสามารถขี่สัตว์ขนาดยักษ์ที่อยู่ในการดูแลของข้าได้ แต่จำไว้ว่าเจ้าสามารถใช้มันได้แค่ปีเดียวเท่านั้น ถือส้ะว่านี่ก็ไม่ผิดเพี้ยนในสัญญาระหว่างเรา”
คำพูดของวาฬทำให้หลีหยุนหมู่ตื่นเต้นมาก
เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ยินอะไรแบบนั้น เพราะอะไรกัน? เพราะเห็นว่าหลีหยุนหมู่อ่อนแอหรือว่าวาฬนี่ขี้เกียจกันแน่?
หลีหยุนหมู่ดีใจมากและแสดงความขอบคุณอย่างรวดเร็ว ในใจของหลีหยุนหมู่คงเป็นอารมณ์แบบว่า ‘นี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ ใจดีอะไรขนาดนี้ สัตว์ก้นทะเลลึกที่โดดเดี่ยวมีอิทธิพลขนาดนี้เลยงั้นหรออ?’
หลังจากนั้นหลีหยุนหมู่ก็ได้รับรู้เกี่ยวกับพื้นที่ลับในนิกายบลูมูน ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นอีกมิตินึงในโลกจริงนี้
แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือ เขตลับในนิกายบลูมูนนั้นอยู่หลังภูเขาที่มีสองผู้เฒ่าดูแลอยู่ตลอดเวลา
ถ้าหากหลีหยุนหมู่ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดนี้จากวาฬเขาเองก็คงไม่รู้ว่าช่องว่างระหว่างมิตินั้นสำคัญกว่าธาตุจักรวาลสะอีก
ดังนั้นหลีหยุนหมู่จึงรีบถามออกไปทันทีเกี่ยวกับเทคนิคที่ทำให้มองเห็นช่องว่างระหว่างมิติโดยไม่ลังเล และคำตอบที่วาฬตอบมานั้นก็ประโยคง่ายๆเลย แค่ว่า น้ำผลไม้จากต้นไม้โลก
ว่าแต่ต้นไม้โลกนี้คืออะไรกัน?
หลีหยุนหมู่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย! แต่ถ้าหากเขารู้ เขาก็จะมีโอกาสมากขึ้นอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่าการเรียกวาฬตัวนี้ออกมาจะเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะทำให้หลีหยุนหมู่รู้อะไรหลายๆอย่าง หลายสิ่งที่ควรจะทำ
ความเร็วของวาฬที่สันโดษตัวนี้มันเว่อวังมาก โดยปกติต้องใช้เวลากว่า 10วันกว่าจะไปถึงเกาะเมฆ แต่สำหรับหลีหยุนหมู่ที่นั่งวาฬตัวนี้ไปมันทำให้ถึงเพียง 7ชั่วโมงเท่านั้น จึงทำให้หลีหยุนหมู่ถึงจุดนัดพบเร็วกว่ากลุ่มของเจงเขียน
“เอาล่ะ เจ้ามนุษย์ ไว้เจอกันใหม่ อนาคตเจ้าต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งให้ได้นะ”
วาฬบอกลาพร้อมกลับดำดิ่งลงลึกใต้ทะเลไป
หลีหยุนหมู่ก็รีบตะโกนกลับทันที “ขอบคุณอย่างมาก ที่ช่วยเหลือข้าในหลายๆเรื่อง ว่าแต่ขอทราบชื่อของเจ้าได้มั้ย?”
หลีหยุนหมู่พยายามที่จะผูกมิตรภาพเอาไว้
อย่างไรก็ตามเสียงของวาฬก็แล่นเข้ามาในหัวอีกครั้ง “รอจนกว่าเจ้าจะเป็นเซียนผู้ใช้พลังที่เชี่ยวชาญก่อน เมื่อถึงเวลานั้นเราค่อยรู้จักกัน!”
หลีหยุนหมู่ยิ้มแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็รีบเข้าชายฝั่งอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขามาถึงจุดนัดพบ ก็พบว่าสถานที่นี้มันเล็กมากก
เกาะนี้มันเล็กจนเทียบไม่ได้กับเกาะอื่นๆเลย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงไม่มีประตูวาป
แต่ก็ตามนั้นแหละ มันเป็นเพียงเกาะธรรมดาเกาะนึง ที่ไม่มีแม้แต่ผู้ดูแลด้วยซ้ำ
เมื่อหลีหยุนหมู่ลองสำรวจขนาดของเกาะนี้ก็พบว่ามันมีขนาดเทียบได้เท่ากับสนามฟุตบอล 50สนาม
เขาเดินไปเรื่อยๆ เป็นเวลานานกว่าจะพบที่อยู่อาศัยของมนุษย์
มีบ้านราวๆ สิบหลัง ด้วยขนาดประชากรที่เห็นนี้ นับว่าเป็นชาวประมงยังไม่ได้ด้วยซ้ำ
หลีหยุนหมู่รู้ดีว่าคนพวกนี้ต้องเป็นคนที่ไม่มีฐานะ เป็นเพียงแค่คนจนๆเท่านั้น
เมื่อพวกเขาเห็นหลีหยุนหมู่ที่สวมเสื้อผ้าอย่างดี มีลักษณะเหมือนคนชั้นสูง พวกเขาก็หวาดกลัวอย่างมาก
“ขอโทษนะครับที่ทำให้กลัว ผมแค่มาเดินเล่นแถวนี้เฉยๆ ผมไม่ได้มาทำอะไรร้ายแรง” หลีหยุนหมูแสดงความจริงใจอย่างตรงไปตรงมา
จากนั้นเขาก็หยิบกระสอบข้าว เนื้อสัตว์ สิ่งที่จำเป็นต่างๆออกมา
ผู้คนที่แข็งแกร่งบนเกาะนี้ไม่มีใครอยู่เลยเพราะต้องออกไปหาอาหาร ดังนั้นที่นี่จึงมีแค่ผู้หญิงและเด็กเท่านั้น
พวกเขาทั้งหมดยากจนมากก
แม้แต่วัสดุสร้างเรือพวกเขาก็ยังไม่มี ไม่สามารถจะสร้างเองได้เลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นการที่หลีหยุนหมู่มอบข้าว อาหาร เนื้อสัตว์ต่างๆให้ ถือว่าเป็นการแสดงความจริงใจที่ดีที่สุดแล้ว