ตอนที่ 662 คุณคือบุคคลที่มีประวัติอาชญากรรม(1)
หลินม่ายแต่งตัวให้โต้วโต้วอย่างดีและเตรียมของขวัญมากมายสำหรับฟางจั๋วหรานในฐานะว่าที่ลูกเขยที่จะนำไปมอบให้พ่อและครอบครัวของเธอ จากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางออกไป
ฟางจั๋วหรานขอให้หลินม่ายและลูกสาวไปรอที่ประตูลานบ้านสักครู่ จากนั้นเขาขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่ายออกมาทางประตูหลัง
หลินม่ายรู้สึกประหลาดใจ “คุณนำรถทั้งหมดมาที่เมืองหลวงแล้วเหรอคะ?”
ฟางจั๋วหรานเปิดประตูห้องโดยสารคนขับร่วมให้แม่และลูกสาวเข้ามาในรถแล้วพยักหน้า “ทุกสิ่งที่จำเป็นถูกนำมาไว้ในเมืองหลวงแล้ว เพราะเราจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่นานถึงสี่ปี”
หลินม่ายตกตะลึง “แล้วจัดส่งของสำหรับงานแต่งงานแล้วหรือยังคะ?”
ฟางจั๋วหรานพยักหน้า
หลินม่ายถามว่า “คุณวางแผนที่จะแต่งงานในเมืองหลวงเหรอคะ?”
ฟางจั๋วหรานพยักหน้าอีกครั้ง
หลินม่ายกล่าว “โชคดีที่เราไม่ได้ส่งการ์ดเชิญในเจียงเฉิง ไม่งั้นเราจะไม่มีทางอธิบายให้แขกทราบเลยว่าทำไมเราถึงเปลี่ยนสถานที่กะทันหัน”
“ต่อให้ส่งการ์ดเชิญให้พวกเขาแล้วก็ไม่ใช่ปัญหา เราก็เพียงจ่ายค่าเดินทางให้กับพวกเขา” ฟางจั๋วหรานกล่าวอย่างใจเย็น
หลินม่ายกังวลเล็กน้อย “เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือน เราจะเตรียมตัวสำหรับงานแต่งทันเหรอคะ?”
“ทุกอย่างสำหรับงานแต่งงานพร้อมแล้ว เหลือแค่ตกแต่งบ้านใหม่ จองโรงแรม และส่งการ์ดเชิญให้แขก ผมทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องรบกวนปู่ย่าด้วย”
หลินม่ายได้ยินแล้วรู้สึกโล่งใจ ทั้งสามขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไปที่ตรอกเสี่ยวหยาง
คนที่นี่เป็นชาวเมืองหลวงผู้มีประสบการณ์มากมาย คนหนุ่มสาวหลายคนในตรอกเสี่ยวหยางจึงจำโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้และวิ่งออกไปดู
ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่ที่สามารถขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้คือชาวต่างชาติ กระทั่งชาวเมืองหลวงเองก็มีน้อยคนนักที่จะขับได้
ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็น ใครกันที่มายังตระกูลไป๋? แถมยังขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์เสียด้วย!
เมื่อเห็นหลินม่ายและฟางจั๋วหรานลงจากรถ เพื่อนบ้านหลายคนก็ซุบซิบกันและถามหลินม่ายว่าฟางจั๋วหรานคือใคร
หลินม่ายบอกพวกเขาอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า ฟางจั๋วหรานเป็นคู่หมั้นของเธอ
ฟางจั๋วหรานได้รับการยกย่องผ่านคำพูดของหลินม่าย
เมื่อเขาเห็นบุรุษ เขาก็ยื่นบุหรี่ให้ด้วยความใจดี เมื่อเขาเห็นเด็กเล็ก เขาก็ยื่นลูกกวาดในมือให้ด้วยความเมตตา
ฟางจั๋วหรานทั้งหล่อเหลาและอ่อนโยน เขาสร้างความประทับใจในครั้งแรกได้ดี
นอกจากนี้เขายังสามารถทำให้เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงรู้สึกดีและชื่นชมเขาด้วยสุดใจ
ไป๋เซี่ยได้ยินเสียงเคลื่อนไหวนอกประตูบ้านจึงวิ่งออกไปดูและเห็นว่าเป็นครอบครัวสามคนของหลินม่าย จึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เขาอุ้มโต้วโต้วขึ้นมา และหันศีรษะตะโกนอย่างมีความสุขไปยังลานบ้าน “พ่อ ลู่ลู่ ม่ายจื่อกับหมอฟางมาแล้ว!”
พ่อไป๋และไป๋ลู่เดินออกมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าฟางจั๋วหรานมาด้วย พ่อไป๋ก็ดีใจมาก
เขาหัวเราะพลางกล่าว “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงได้ยินเสียงนกกางเขนในลานบ้านตอนตื่นนอน เพราะแขกผู้มีเกียรติจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนนั่นเอง”
พ่อไป๋เชิญพวกเขาเข้าบ้านอย่างมีความสุข
หลินม่ายและฟางจั๋วหรานถือของขวัญในมือและเดินตามพ่อไป๋ ไป๋เซี่ย และไป๋ลู่เข้าบ้านไป
หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขาเห็นผ้าพันคอสีแดงของไป๋ซวงแขวนไว้หน้าต่างเมื่อวานนี้ พวกเขาจึงแอบซุ่มอยู่ใกล้บ้านตระกูลไป๋ในช่วงเช้าของวันนี้
เพียงรอให้ทุกคนในตระกูลไป๋ออกไป พวกเขาก็จะได้เข้าไปในบ้านและทำการขโมยทรัพย์สิน
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายพาโต้วโต้วและฟางจั๋วหรานมาด้วย ทั้งคู่ก็โล่งใจเป็นปลิดทิ้ง
ในตอนแรกพวกเขาไม่ค่อยสบายใจนักกับการลักทรัพย์ เพราะเกรงว่าจะตกหลุมพรางของพ่อไป๋
แต่ม่ายจื่อพาคู่หมั้นและลูกของเธอมาด้วย เห็นได้ว่านี่ไม่ใช่การนัดหมายเพื่อเป็นกับดักให้พวกเขาตกหลุมพราง
เพราะหากพวกเขาทำการวางแผนเช่นนั้นจริง คงไม่ให้ลูกสาวพาคู่หมั้นและหลานมาด้วย
ครอบครัวของหลินม่ายตามพ่อไป๋และคนอื่น ๆ ไปที่ห้องนั่งเล่นและนั่งลง
ไป๋ลู่ไปที่ครัวเพื่อชงชา และหลินม่ายก็ตามไป
แน่นอนว่าพวกเธอได้ทำการวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว สองพี่น้องสบตากันด้วยความเข้าใจแม้ไม่เอ่ยสิ่งใดขณะชงชา
หลินม่ายเรียนรู้จากสายตาของไป๋ลู่ว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน และกำลังรอให้ครอบครัวของไป๋ซวงกระโดดลงไปในหลุมพราง
หลินม่ายรู้สึกโล่งใจ
หลังชงชาเสร็จสองพี่น้องก็กลับมายังห้องนั่งเล่น เมื่อเดินออกจากประตูห้องครัว พวกเธอก็ได้พบกับไป๋ซวง
หลินม่ายและไป๋ลู่ไม่ได้ไร้ปัญญา ไป๋ซวงยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาอย่างเงียบงัน แน่นอนว่าหล่อนจะต้องแอบฟัง
นับเป็นโชคดีที่สองพี่น้องไม่ได้สนทนากัน ไม่เช่นนั้นแผนการทั้งหมดที่พวกเธอวางแผนไว้อาจถูกไป๋ซวงดักฟัง ซึ่งนั่นจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง
ไป๋ซวงถูกจับได้ว่าแอบฟังและตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้ม
“พี่รอง ม่ายจื่อ ชาคงร้อนน่าดูนะคะ ให้ฉันช่วยเสิร์ฟนะ” หลังจากพูดจบ หล่อนก็เอื้อมมือไปหยิบถ้วยชาในมือของทั้งสองคน
หลินม่ายเป็นคนฉลาดเฉลียว หญิงผู้นี้คิดจริงเหรอว่าพวกเธอไม่รู้เกี่ยวกับแผนการของหล่อน?
ทักษะการชงชาระดับไก่กาและความเจ้าเล่ห์ของไป๋ซวงไม่ควรค่าในสายตาของเธอหรอก
เพียงไป๋ซวงอ้าปาก หลินม่ายก็เห็นลิ้นไก่ทันที
หลินม่ายขยิบตาให้ไป๋ลู่สาดถ้วยชาใส่ร่างของเธออย่างจงใจแล้วกรีดร้องออกมา
ไป๋ลู่ให้ความร่วมมือทันที และหันไปต่อว่าไป๋ซวงด้วยความโกรธ “ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?!”
เมื่อคนในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงกรีดร้องของหลินม่าย พวกเขาทั้งหมดก็รีบมายังห้องครัวทันที
ฟางจั๋วหรานรีบวิ่งไปที่ด้านข้างหลินม่ายและถามอย่างกระวนกระวาย “เกิดอะไรขึ้น?”
ไป๋ซวงรีบเอ่ยละล่ำละลัก “ฉันกำลังจะเสิร์ฟชาให้ม่ายจื่อ…”
ก่อนที่หล่อนจะพูดจบ ฟางจั๋วหรานก็ตวาดเสียงกร้าว “หุบปาก!”
ไป๋ซวงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นแม่ไป๋กำลังมา หล่อนก็ปิดปากและล้มลงในอ้อมแขนของแม่ไป๋ ร้องไห้ด้วยความคับแค้นใจ
เพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสาร ท่าทางของหล่อนล้วนเต็มไปด้วยการประจบสอพลอ ดูบอบบางและอ่อนแอในอ้อมแขนของแม่ไป๋
น่าเสียดายที่ฟางจั๋วหรานไม่ได้แม้แต่จะมองไป๋ซวง และความสนใจทั้งหมดของเขาก็อยู่ที่หลินม่าย
หลินม่ายถูกชาร้อนลวกจนน้ำตาไหล ขณะที่ไป๋ลู่กล่าวด้วยความโกรธเคือง “ฉันกับม่ายจื่อกำลังชงชาและจะนำไปเสิร์ฟในห้องนั่งเล่น ไป๋ซวงก็วิ่งมาหาและบอกว่าจะช่วยเราเสิร์ฟชา แต่กลับจงใจผลักม่ายจื่อและสาดชาร้อนใส่เท้าของหล่อน”
ฟางจั๋วหรานรู้สึกกระวนกระวายเมื่อได้ยิน ก้มลงสำรวจเท้าที่ถูกน้ำร้อนลวกของหลินม่าย
โชคดีที่วันนี้หลินม่ายสวมรองเท้าผ้าใบและส่วนบนของผ้าใบป้องกั้นน้ำร้อน แม้ว่าหลังเท้าของหลินม่ายจะถูกไฟลวกเป็นสีแดง แต่ผิวหนังก็ไม่ไหม้และแผลไหม้ก็ไม่ร้ายแรง
ฟางจั๋วหรานขอให้ไป๋เซี่ยไปเอาอ่างน้ำเย็นมาแช่เท้าที่ถูกไฟลวกของหลินม่าย
พ่อไป๋นำยาทาแก้น้ำร้อนลวกจากกล่องยาที่บ้านและส่งให้ฟางจั๋วหราน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แผนการจับนังจิ้งจอกมาถลกหนังได้เริ่มต้นแล้ว แถมต้องยอมเจ็บตัวด้วย ขอให้สำเร็จนะคะ
ไหหม่า(海馬)