ตอนที่ 663 คุณคือบุคคลที่มีประวัติอาชญากรรม (2)
ฟางจั๋วหรานรีบร้อนเข้าไปช่วยหลินม่าย ขณะไป๋ซวงร้องไห้อย่างขมขื่นและทะเลาะกับไป๋ลู่
หล่อนชี้ไปยังไป๋ลู่และพูดอย่างเสียใจ “เธอใส่ร้ายฉัน ฉันไม่ได้สาดชาร้อนให้ม่ายจื่อเลย เธอทำเอง!”
ไป๋ลู่ตะคอกอย่างเย็นชา “ทำขนาดนี้แล้วยังจะปฏิเสธอีก! เธอบอกว่าเธออยากเข้ามาช่วยม่ายจื่อเสิร์ฟชา ขอถามหน่อยเถอะว่าเธอหวังดีกับม่ายจื่อจริงหรือเปล่า? ฉันรู้ว่าเธอวางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันไม่ให้ม่ายจื่อกลับมาที่ตระกูลไป๋ของเรา แล้วเธอทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน! เธอแสร้งทำเป็นช่วยม่ายจื่อเสิร์ฟชาเพื่อจะให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็นคนดีเหรอ? เธอเป็นคนสาดน้ำชารดม่ายจื่อ แล้วยังใส่ร้ายว่าหล่อนทำตัวเองอีก เธอเป็นคนวางแผนและทำทุกอย่าง แต่กลับบอกว่าม่ายจื่อโยนความผิดให้เธออย่างนั้นเหรอ?”
ไป๋ซวงพูดด้วยความเศร้าโศกและขุ่นเคือง “พี่กำลังพูดเรื่องไร้สาระ!”
อันที่จริงหล่อนวางแผนนี้ไว้ในใจแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะโดนหลินม่ายกับไป๋ลู่ชิงสกัดไว้ก่อน
ไป๋ลู่โต้กลับ “ฉันไม่ได้พูดไร้สาระ ก็เธอมีประวัติเคยทำแบบนี้มาก่อน!”
ไป๋ซวงตะลึงจนพูดไม่ออก ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
ไป๋เซี่ยเกลียดหล่อนที่เสแสร้งเป็นฝ่ายผิดทุกครั้ง เขาจึงพูดประชดประชัน “ม่ายจื่อเป็นเหยื่อ แต่เธอเป็นผู้กระทำความผิดที่แสร้งทำเป็นรับผิดมากกว่าใคร เธอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?”
เมื่อพูดประโยคสุดท้าย เขาก็มองไปยังแม่ไป๋อย่างมีความหมาย
สีหน้าของแม่ไป๋เต็มไปด้วยความรังเกียจ พูดกับพ่อไป๋ด้วยใบหน้าเย็นชา “นี่เหรอคือสิ่งที่ลูกบอกว่าอยากทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวดีขึ้น?”
แม้ว่าพ่อไป๋จะไม่มีความสุขมาก แต่เขาก็ยังระงับความโกรธและพูดกับพวกเขา “เอาล่ะ หยุดเถียงกันได้แล้ว วันนี้เป็นโอกาสสุดท้าย ถ้ากระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ก็อยู่กันต่อไป ถ้ากระชับไม่ได้ก็แค่แยกย้าย ทุกคนต่างใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง”
ไป๋เซี่ยเงียบปากทันที
ก่อนออกไป ไป๋ซวงบอกว่าหล่อนต้องแต่งตัวก่อน
ทั้งครอบครัวนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและรอนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ไป๋ซวงต้องการแต่งตัวก็เพราะฟางจั๋วหรานปรากฏตัว
ก่อนหน้านี้ที่เห็นฟางจั๋วหรานในเจียงเฉิง หล่อนก็ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น
เพียงแต่ในเวลานั้นหล่อนมีปัญหามากมาย จึงไม่สบโอกาสที่จะยั่วยวนเขา
แต่ตอนนี้ทุกอย่างต่างออกไปแล้ว ครอบครัวไป๋ยังคงอยู่เคียงข้างหล่อน แต่นอกจากแม่ไป๋แล้ว คนอื่น ๆ เกลียดชังหล่อนอย่างสุดซึ้ง
เธอจึงคิดล่อลวงฟางจั๋วหรานโดยไม่มีความละอายใจ
อย่างไรก็ตาม หล่อนตระหนักดีว่าฟางจั๋วหรานเกลียดหล่อนมากแค่ไหน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมฟางจั๋วหราน
หล่อนเพียงต้องการทำให้หลินม่ายโกรธ จากนั้นก็ยั่วยุความสัมพันธ์ระหว่างหลินม่ายและฟางจั๋วหราน การทำลายพวกเขาเป็นเป้าหมายสูงสุดของหล่อน
ไป๋ซวงแต่งหน้าตัวเองอย่างสวยงาม เดินออกจากห้องและแอบดูปฏิกิริยาของฟางจั๋วหราน
ฟางจั๋วหรานไม่แม้แต่จะปรายสายตามาทางหล่อน
ส่วนไป๋เซี่ยและไป๋ลู่ก็เหลือบมองหล่อนอย่างเย็นชา
เป็นเพราะหล่อนต้องการแต่งตัว พวกเขาทั้งหมดจึงต้องรออยู่นาน เหล่าพี่น้องต่างอารมณ์เสีย และใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
มีเพียงหลินม่ายเท่านั้นที่มองไป๋ซวงอย่างจริงจัง
ท้ายที่สุดแล้วหล่อนก็เป็นผู้หญิงที่เติบโตมาในครอบครัวที่ดี ทำให้มีรสนิยมในความงามค่อนข้างดี หล่อนจึงรู้สึกการแต่งหน้าแบบขับจุดเด่นอำพรางจุดด้อย
บวกกับชุดที่ดูงดงาม ทุกอย่างบนตัวหล่อนจึงล้วนดูสวยงาม แต่น่าเสียดายที่หล่อนเป็นคนไม่ดี
ในที่สุดพวกเขาก็ออกจากบ้าน
เพื่อนบ้านหลายคนในละแวกนั้นต่างซุบซิบถึงรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่าย
บางคนบอกว่าหลินม่ายนอกจากจะมีแฟนที่หล่อเหลา แล้วยังรวยมีรถหรูอีกด้วย
ทันใดนั้นก็มีคนพูดถึงข้อดีของหลินม่าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟางจั๋วหรานสนใจเธอ
ไป๋ซวงรู้สึกโกรธอย่างมากเมื่อได้ยินคำชมของหลินม่ายจากเพื่อนบ้าน
หล่อนสะกิดโต้วโต้วทันที “ดูสิ แม่และลุงฟางเดินนำหน้าเธอไปแล้ว รีบตามพวกเขาไปเสียสิ ระวังพวกเขาทิ้งเอานะ”
หล่อนเรียกสรรพนามของพ่อแม่เด็กคนนั้นว่าแม่หลินม่าย? ลุงฟางจั๋วหราน?
เพื่อนบ้านต่างตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ไป๋ซวงพูด
พวกเขาคิดว่าโต้วโต้วเป็นลูกของฟางจั๋วหราน
เขาอยู่ในวัยยี่สิบกว่า อาจจะแต่งงานแล้ว และเป็นเรื่องปกติที่จะมีลูก
แต่ใครจะคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของหลินม่าย หมายความว่าหลินม่ายเคยแต่งงานมาก่อนเหรอ?
เธอหย่าร้างหรือสามีตาย?
เพื่อนบ้านหลายคนซุบซิบกัน
ใบหน้าของพ่อไป๋พลันหม่นลง
สิ่งที่ไป๋ซวงพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด แต่หล่อนไม่ได้บอกว่าโต้วโต้วเป็นลูกบุญธรรม หล่อนกำลังจงใจให้เพื่อนบ้านที่ไม่รู้ความจริงเข้าใจผิดว่าหลินม่ายเคยมีลูกมาก่อนไม่ใช่หรอกหรือ?
ไป๋ซวงเป็นคนชั่วร้ายเกินไป หากหล่อนไม่ได้รับการจัดการ ก็คงไม่อาจรู้ได้เลยว่าในอนาคตหล่อนจะวางแผนร้ายอะไรอีก
แทนที่จะให้เพื่อนบ้านคาดเดากันลับหลัง เขาควรอธิบายด้วยตัวเอง
พ่อไป๋รักษารอยยิ้มที่ดีและกล่าว “โต้วโต้วเป็นลูกบุญธรรมของม่ายจื่อ แม้ว่าม่ายจื่อของผมจะแต่งงานมาก่อน แต่หล่อนก็ถูกพ่อแม่ของไป๋ซวงจับแต่งงานเพื่อแลกกับค่าเล่าเรียนของพี่สาว”
เขาหยุดชั่วคราวแล้วมองไปยังไป๋ซวง “พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของไป๋ซวงกระทำการอุกอาจ ไป๋ซวงไม่เพียงไม่รู้สึกละอายใจ แต่ยังมองว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของม่ายจื่อ พร้อมพยายามกล่าวใส่ความเพื่อให้ทุกคนหัวเราะเยาะและดูถูกม่ายจื่อ”
ใบหน้าของไป๋ซวงพลันซีดเซียว
พ่อไป๋เปิดเผยเรื่องราวของหล่อนในที่สาธารณะ และยังบอกว่าหล่อนมีจิตใจชั่วร้าย ซึ่งทำให้เพื่อนบ้านรังเกียจ!
ฟางจั๋วหรานกล่าวเสริม “นับตั้งแต่หมั้นหมายกับม่ายจื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนอื่นบอกว่าการมีลูกเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิต จิตใจคนเช่นนี้ช่างสกปรกเสียจริงๆ! แต่น่าเสียดายที่คนจิตใจสกปรกเช่นนี้จะต้องพานพบกับความผิดหวัง ผมรักหลินม่ายและไม่สนใจว่าชีวิตของหล่อนจะผ่านอะไรมา นับประสาอะไรกับการมีลูก ไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกของหล่อนหรือไม่ ผมก็ยังรักหล่อนอยู่ดี”
แม้ไป๋ซวงจะเป็นคนไร้ยางอาย แต่เมื่อหล่อนถูกพ่อไป๋และฟางจั๋วหรานประจานในที่สาธารณะ ใบหน้าของหล่อนก็ร้อนผ่าวทันทีและหวังจะหนีไปให้ไกล
เพื่อนบ้านมองหล่อนด้วยแววตาแปลกประหลาด ซึ่งทำให้หล่อนรู้สึกอับอายยิ่งนัก
แม่ไป๋เห็นความลำบากใจของไป๋ซวง จึงช่วยพูดให้หล่อน “รีบออกเดินทางกันเถอะ สายแล้ว”
พ่อไป๋มองดูนาฬิกา “ผมนัดกับแท็กซี่ไว้ตอนเก้าโมง และยังเหลือเวลาอีกสิบนาที”
ปักกิ่งแตกต่างจากที่อื่น เพราะมีชาวต่างชาติจำนวนมาก ดังนั้นตลาดแท็กซี่จึงมีความคึกคักมากกว่าในเจียงเฉิง คนธรรมดาก็สามารถเรียกแท็กซี่ได้ตราบใดที่มีเงิน
อีกสิบนาทีกว่าแท็กซี่ที่จองไว้จะมาถึง
ไป๋ซวงจึงมีสภาพเหมือนปลาย่างบนกองไฟ อับอายอย่างสุดแสนกับการถูกเพื่อนบ้านชี้หน้าด่าทอ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ย่างให้สุกไปเลยค่ะ เอาให้ไม่มีหน้าไปพบใครเลย
ไหหม่า(海馬)