ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 674 ความเคลื่อนไหว (ปลาย)

ตอนที่ 674 ความเคลื่อนไหว (ปลาย)

หาก​บอกว่า​ช่วงนี้​ใคร​ใกล้ชิด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มาก​ที่สุด​ ​นั่น​ก็​คือ​ยง​อ๋อง

 

 

 

ตอนนี้​เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​เขา​ก็​คงจะ​รู้สึก​ได้​กระมัง​!

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​จากนั้น​ก็​นั่งลง​ทำ​ซับใน​ให้​จิ​่น​เกอ​ต่อ

 

 

 

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เข้ามา​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ยง​อ๋อง​มา​ขอรับ​!​”

 

 

 

“​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​วาง​เข็ม​กับ​ด้าย​ใน​มือ​ลง​ ​“​ยง​อ๋อง​มีเรื่อง​จะ​คุย​กับ​ท่าน​พ่อ​ ​เจ้า​อย่า​ไปร​บก​วน​พวกเขา​เลย​”

 

 

 

ยง​อ๋อง​มาบ​่อย​ๆ​ ​ก็​ต้อง​เจอ​ลูกพี่ลูกน้อง​สอง​สาม​คน​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เป็น​คน​อ่อนโยน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เป็น​คน​สุขุม​ขี้อาย​ ​มี​แค่​จิ​่น​เกอ​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ ​ไม่​กลัว​คนแปลกหน้า​ ​อีกทั้ง​ยัง​สนิท​กับ​คน​ง่าย​ ​ยง​อ๋อง​จึง​โปรดปราน​เขา​ ​มักจะ​นำ​สิ่งของ​ที่​น่าสนใจ​มา​ให้​จิ​่น​เกอ​อยู่​บ่อยๆ

 

 

 

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ซบ​หน้า​ลง​บน​หน้าตัก​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​พูดคุย​กับ​มารดา​ ​“​ข้า​ไป​ฝึก​คัดตัว​หนังสือ​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​พอ​เห็น​องครักษ์​ของ​ยง​อ๋อง​ ​ข้า​เลย​กลับมา​ ​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ยง​อ๋อง​ถึง​มาที​่​จวน​เรา​เล่า​”

 

 

 

“​เหตุใด​ถึง​ถาม​เช่นนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ลูบ​ผม​สีดำ​ขลับ​ราวกับ​ผ้าไหม​ของ​เขา​อย่างเบามือ​

 

 

 

“​พวกเรา​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​มาต​ลอด​ ​แต่ก่อน​หน้า​นี้​เขา​ไม่เคย​มาหา​เรา​เลย​ ​แต่​ท่าน​ลอง​สังเกต​ดูเถิด​ว่า​สอง​เดือน​ที่ผ่านมา​เขา​นั้น​มาหา​เรา​บ่อยครั้ง​”​ ​บน​ใบหน้า​มีความสุขุ​มที​่​ไม่​สอดคล้อง​กับ​อายุ​ของ​เขา​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​หรือไม่​”

 

 

 

ปกติ​มักจะ​คิด​ว่า​เขา​ยัง​เด็ก​ ​นิสัย​ก็​โผงผาง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​มี​ความใส่ใจ​เช่นนี้​ ​หาก​เป็นเรื่อง​อื่น​ ​สือ​อี​เหนียง​คงจะ​บอก​เขา​ตรงๆ​ ​แต่​เรื่อง​นี้​นาง​กลับ​บอก​เขา​ไม่ได้

 

 

 

“​หาก​เจ้า​ไม่​พูด​ ​แม่​ก็​คง​ไม่รู้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ ​แต่​เขา​คือ​ท่าน​อ๋อง​ ​บางที​เขา​อาจ​แค่​คิด​ขึ้น​มา​ว่า​อยาก​มาก​็​ได้​”

 

 

 

“​หาก​แค่​คิด​ขึ้น​มา​ได้​ ​แล้ว​เหตุใด​ถึง​มาบ​่อย​เช่นนี้​เล่า​”​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่เห็นด้วย​กับ​ความคิด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พวกเขา​มักจะ​ไป​คุย​กัน​ใน​ห้อง​หนังสือ​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​คิดหนัก​ ​“​ท่าที​ก็​ไม่​เหมือน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ต้อง​คุย​กัน​ ​พูดคุย​กัน​ประเดี๋ยว​ก็​หยุด​คุย​ ​เงียบ​อยู่นาน​ ​แล้วยัง​พูด​เรื่อง​ที่​ข้า​ฟัง​ไม่เข้าใจ​สัก​ประโยค​”

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรา​ไม่สน​ใจ​พวกเขา​ดีกว่า​”​ ​นาง​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ครั้งก่อน​เจ้า​เล่าเรื่อง​ที่​เจ้า​ไป​เซ​วี​ยนถง​ให้​ข้า​ฟัง​ ​เจ้า​ยัง​เล่า​ไม่​จบ​เลย​ ​ชาย​เฒ่า​ที่​ขาย​ฟืน​สุดท้าย​เป็น​เช่นไร​”

 

 

 

จิ​่น​เกอ​ได้สติ​กลับมา​ ​เขา​ทิ้ง​เรื่อง​นี้​ไป​ชั่วคราว​ ​“​…​คุณชาย​คน​นั้น​พยุง​เขา​ขึ้น​มา​ ​เห็น​ว่า​เขา​มี​แผล​บน​ใบหน้า​ ​จึง​มอบ​เงิน​ให้​เขา​ห้า​ตำลึง​ ​พอ​ชาย​เฒ่า​คน​นั้น​เห็น​ก็​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​คุณชาย​คน​นั้น​ทันที​ ​ขอร้อง​ให้​คุณชาย​คน​นั้น​ซื้อ​ฟืน​ของ​เขา​ ​คุณชาย​คน​นั้น​จึง​มอบ​เงิน​อีก​สอง​ตำลึง​ให้​เขา​ ​แต่​ไม่เอา​ฟืน​ ​ชาย​เฒ่า​ขอบพระคุณ​เขา​ ​คุณชาย​คน​นั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ ​ข้า​คิด​ว่า​คุณชาย​คน​นั้น​เป็น​คน​ใจกว้าง​ขอรับ​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่าวัน​ต่อมา​ ​ตอนที่​เรา​ทานข้าว​ ​ก็​บังเอิญ​เจอ​กับ​ชาย​เฒ่า​ขาย​ฟืน​คน​นั้น​อีกครั้ง​ ​เขา​บังเอิญ​ถูก​รถม้า​ที่​ดู​เรียบง่าย​ชนกั​นอี​กค​รั้ง​ ​แต่ว่า​ครั้งนี้​เขา​ได้​แค่​เงิน​ค่ายา​ ​ไม่ได้​ซื้อ​ฟืน​ของ​เขา​ขอรับ​…​”

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​มองดู​จิ​่น​เกอ​ ​ฟัง​เขา​เล่าเรื่อง​ที่​เจอ​ระหว่างทาง​เงียบๆ​ ​นาง​รู้สึก​ทอดถอนใจ

 

 

 

ไม่​แปลกที่​ผู้คน​มักจะ​พูดว่า​อ่านหนังสือ​เป็น​พัน​เล่ม​ไม่​สู้​เดินทาง​พัน​ลี้

 

 

 

จิ​่น​เกอ​ออก​ไป​ข้างนอก​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สองครั​้ง​ ​คนแก่​และ​คน​หลอกลวง​ก็​เคย​เจอ​แล้ว​ ​ถือว่า​เขา​ได้​เรียนรู้​อะไร​มากขึ้น​ไม่น้อย​

 

 

 

อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่ง​ยง​อ๋อง​ออก​ไป​ ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​สวี​ซื่อ​จุน​ไปหา

 

 

 

“​สามารถ​เคลื่อนย้าย​เงิน​ใน​จวน​ได้​เท่าไร​”

 

 

 

หลังจาก​ขึ้นปีใหม่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​พวก​นี้​ ​กลับมา​เขา​ก็​เอาแต่​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​สกุล​โอว​ ​ไม่ได้​ถาม​เรื่อง​ใน​ตระกูล​ตัวเอง​สัก​เท่าไร

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​แปลกใจ

 

 

 

เหตุใด​จู่ๆ​ ​ท่าน​พ่อ​ถึง​ถาม​เรื่อง​นี้

 

 

 

หรือว่า​ท่าน​พ่อ​ขาดแคลน​เงิน​?​ ​แต่​ท่าน​พ่อ​ก็​ไม่น่า​จะ​ยุ่ง​กับ​เงิน​ของ​ห้อง​ซือ​ฝัง​!

 

 

 

ท่าน​พ่อ​มีเงิน​เก็บ​อยู่​ใน​มือ​ไม่ใช่​หรือ

 

 

 

แต่​ก็​ไม่แน่​…

 

 

 

ตน​ดู​บัญชี​ช่วง​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​ของ​จวน​ ​รายได้​เพิ่มขึ้น​เกือบ​สองเท่า​ของ​ทุกปี​ ​เมื่อก่อน​เพิ่ม​เพียงแค่​สอง​สาม​หมื่น​ตำลึง​เท่านั้น

 

 

 

ทันใดนั้น​เขา​ก็​นึกถึง​ยง​อ๋อง​ ​ที่​มักจะ​มาหา​บิดา​บ่อยๆ

 

 

 

ได้ยิน​มา​ว่า​ ​สอง​สาม​วันก่อน​ยง​อ๋อง​สร้าง​ลาน​ที่​สวยงาม​ ​ใช้​เงิน​ไปมา​กก​ว่า​แปด​แสน​ตำลึง

 

 

 

หรือว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​นำ​เงิน​ไป​ให้​ยง​อ๋อง​ยืม​?

 

 

 

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​รีบ​พูด​ทันที​ ​“​สามารถ​เคลื่อนย้าย​ได้​สาม​แสน​ตำลึง​ขอรับ​”

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​“​เหตุใด​ถึง​เคลื่อนย้าย​ได้​เยอะ​ขนาด​นี้​ ​รายได้​ของ​จวน​ ​หนึ่ง​ปีก​็​แค่​หก​แสน​ตำลึง​ ​ตอนนี้​พึ่ง​จะ​ปลายเดือน​แปด​ ​นอกจากนี้​ครึ่ง​ปี​แรก​ยัง​ใช้​เงิน​ไป​ไม่น้อย​…​”

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พูด​ ​“​มีเงิน​ใน​บัญชี​สอง​แสน​ตำลึง​ขอรับ​ ​แต่​ข้า​สามารถ​ดึง​เงิน​ส่วนตัว​ออกมา​ได้​อีก​หนึ่ง​แสน​ตำลึง​”

 

 

 

ตัวเลข​นี้​ถึง​จะ​ค่อนข้าง​ปกติ

 

 

 

“​มีเงิน​เท่าไร​กัน​แน่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​อย่า​นำ​เงิน​ของ​ตัวเอง​มารว​มกับ​เงิน​ของ​จวน​ ​บรรดา​ผู้ดูแล​ของ​ห้อง​ซือ​ฝัง​ ​ตอนที่​พวกเขา​ทำงาน​ ​พวกเขา​ไม่เคย​พก​เงินติดตัว​เลย​แม้แต่​ตำลึง​เดียว​ ​เพราะ​พวกเขา​กลัว​ว่า​เงิน​ของ​ตัวเอง​จะ​ไป​ปะปน​กับ​เงิน​ของ​ส่วนกลาง​แล้ว​ทำให้​บัญชี​ไม่ชัด​เจน​”

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​บน​หน้า​บัญชี​มีเงิน​สอง​แสน​หก​พัน​สี่​ร้อย​สี่​สิบห้า​ตำลึง​ขอรับ​”

 

 

 

“​บน​หน้า​บัญชี​?​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคร่งขรึม​ขึ้น

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​หวาดกลัว​ ​“​ข้า​ตรวจดู​บัญชี​อย่างละเอียด​แล้ว​ ​ไม่มี​ข้อผิดพลาด​อย่างแน่นอน​”

 

 

 

บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​กำลังจะ​เป็น​พ่อ​คน​แล้ว​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​ไว้หน้า​เขา​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​บุตรชาย​จะ​มีศักดิ์ศรี​ความ​เป็น​พ่อ​ต่อหน้า​หลาน​ได้​อย่างไร

 

 

 

คิด​เช่นนี้​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อ่อนโยน​ลง​ ​“​ข้า​ถาม​ว่า​ใน​คลัง​มีเงิน​เท่าไร​”

 

 

 

เงิน​ของ​สกุล​สวี​เก็บ​ไว้​ใน​คลัง​ ​ไม่ใช่​แค่​เก็บ​ไว้​เฉยๆ​ ​แบบ​นั้น​ ​แต่​ส่วนหนึ่ง​จะ​นำ​ไป​เก็บ​ไว้​ที่​ร้าน​เงิน​ที่เชื่อถือได้​เพื่อให้​ได้​ดอกเบี้ย​ ​อีก​ส่วนหนึ่ง​ก็​เก็บ​ไว้​ใน​คลัง​เพื่อ​เอาไว้​ใช้​ยามฉุกเฉิน

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พูด​ ​“​หนึ่ง​แสน​เจ็ด​หมื่น​หก​พัน​เก้า​ร้อย​สามสิบ​สอง​ตำลึง​ขอรับ​”

 

 

 

พูด​อย่าง​ชัดถ้อยชัดคำ

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ด้วย​ความพอใจ​ ​“​ข้า​อยาก​ดึง​เงิน​มาจาก​เจ้า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​ดึง​ได้​เท่าไร​”

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​ท่าน​พ่อ​ขาดแคลน​เงิน​เท่าไร​ก็​นำ​ออก​ไป​ได้​หมด​เลย​ขอรับ​ ​ข้า​ล้วนแต่​กิน​ดื่ม​ที่​จวน​ ​เงิน​หนึ่ง​แสน​ตำลึง​ก้อน​นั้น​ที่เก็บ​ไว้​ก็​ไม่ได้​ใช้​อะไร​…​”

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ ​“​หาก​ไม่​ใช้​เงิน​ของ​เจ้า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​ให้​ข้า​ได้​เท่าไร​”

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความลังเล​ ​“​หนึ่ง​แสน​…​สี่​หมื่น​ตำลึง​ขอรับ​”

 

 

 

เทศกาล​สำคัญ​ของ​ช่วง​ครึ่ง​ปี​หลัง​คือ​วันเฉลิม​พระชนมพรรษา​และ​เทศกาล​ตรุษจีน​ ​เก็บเงิน​สอง​หมื่น​ไว้​ซื้อของ​สำหรับ​วันเฉลิม​พระชนมพรรษา​ ​เงิน​ที่​เหลือ​เป็น​ค่าใช้จ่าย​ประจำวัน​ ​สำหรับ​เทศกาล​ตรุษจีน​ ​รายได้​ของ​ปลายปี​น่าจะ​เข้ามา​ใน​คลัง​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​คงมี​เงิน​เหลือเฟือ

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า

 

 

 

เป็น​เหมือน​ที่​เขา​คิด​ไว้

 

 

 

เขา​โล่งใจ​ไม่น้อย​ ​จากนั้น​ก็​นึกถึง​ยง​อ๋อง​ขึ้น​มา

 

 

 

ยืม​เงิน​ห้า​แสน​ตำลึง​…​ไม่ใช่​ปัญหา​ใหญ่​อะไร​…​แต่​หาก​ตัวเอง​นำ​เงิน​จำนวน​นั้น​ออกมา​ภายใน​ครั้ง​เดียว​ ​เกรง​ว่า​สกุล​สวี​คงจะ​กลายเป็น​ที่จับ​ตาม​อง​…​วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​ให้ยืม​ทีละ​นิด​…​ให้​ทุกคน​รู้​ว่า​เขา​ยืม​เงิน​สกุล​สวี​…

 

 

 

เมื่อ​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​เขา​ก็​เอ่ยปาก​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​เงิน​ของ​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ได้คืน​เมื่อไร​”

 

 

 

แย่​แล้ว​!

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​สมอง​พลัน​มึนงง

 

 

 

ช่วงเดือน​สอง​ ​ราชสำนัก​จะ​ส่ง​เงิน​ไป​ที่ฝู​เจี​้​ยน​และ​เจ้อ​เจียง​ ​เงื่อนไข​คือ​ร้าน​ที่จะ​ทำการ​ขนส่ง​ต้อง​นำ​เงิน​มา​วางมัดจำ​สาม​ล้าน​ตำลึง​ ​เงินมัดจำ​นี้​ ​คือ​สาม​ใน​สี่​ส่วน​ของ​เงิน​ทั้งหมด​ ​หาก​ถึง​ตอนนั้น​ราชสำนัก​ไม่ยอม​คืน​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​ตอนที่​ร้าน​เงิน​สอง​สาม​ร้าน​ใน​เยี​่​ยน​จิง​กำลัง​ลังเล​ ​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ ​ร้าน​เงิน​ที่มา​จาก​อาน​ฮุย​ ​มา​เปิด​สาขา​ที่​เยี​่​ยน​จิง​กลับ​ตอบ​ตกลง​โดย​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​จากนั้น​ก็​ยืม​เงิน​จาก​ผู้มีอำนาจ​ใน​เยี​่​ยน​จิง​สอง​สาม​สกุล​ ​ดอกเบี้ย​รายเดือน​ร้อยละ​ยี่สิบ​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ให้​พวกเขา​ยืม​ไป​สอง​แสน​ตำลึง​ ​สัญญา​ว่า​จะ​คืน​ช่วง​กลางเดือน​สาม​ ​ตอนนั้น​ท่าน​พ่อ​บอก​เขา​ว่า​ ​ให้​เขา​คอย​จับตาดู​เรื่อง​นี้​เอาไว้​ ​หาก​กลางเดือน​ห้า​แล้ว​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ยัง​ไม่​นำ​เงิน​มาคืน​ ​ก็​ให้​รีบ​ไปหา​ซุน​อ๋อง​ ​ตอนนั้น​เขา​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​หาร​้าน​ทำ​โคมไฟ​…​เมื่อ​ไป​ตรวจ​บัญชี​ช่วง​กลางเดือน​ห้า​ก็​เห็น​ว่า​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​คืนเงิน​ทั้ง​ต้น​และ​ดอก​ครบ​หมด​แล้ว​ ​เขา​จึง​ไม่ได้​คิด​อะไร

 

 

 

ได้ยิน​มา​ว่า​ตอนนั้น​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ยืม​เงิน​ไป​ทั้งหมด​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​ครุ่นคิด​

 

 

 

ร้าน​นั่น​คง​ไม่​สามารถ​คืนเงิน​ช่วงเดือน​สาม​แน่นอน

 

 

 

หาก​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​มีทาง​เลือก​ก็​คง​ไม่มีทาง​เสนอ​ดอกเบี้ย​เยอะ​ขนาด​นั้น

 

 

 

แต่​คืนเงิน​ช่วงเดือน​สี่​หรือ​เดือน​ห้า​กัน​แน่​?

 

 

 

ตน​จำ​ไม่ได้​จริงๆ​!

 

 

 

แต่​บิดา​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​ร้อนผ่าว​ราวกับ​ไฟ​ ​ทำเอา​เขา​รู้สึก​หวาดกลัว​ ​“​คืน​เมื่อ​เดือน​ห้า​ขอรับ​…​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่​มั่นใจ​

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขมวดคิ้ว​แล้ว​เรียก​พ่อบ้าน​ไป๋​เข้ามา​ ​“​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​คืนเงิน​เมื่อไร​”

 

 

 

พวกเขา​ไม่เคย​ไปมาหาสู่​กับ​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​มาก​่อน​ ​เงิน​ที่​ยืม​ไป​ก็​มี​ความเสี่ยง​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​รีบ​พูด​ ​“​ปลายเดือน​สาม​ ​คืน​ทั้ง​ต้น​และ​ดอก​ขอรับ​”

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​สวี​ซื่อ​จุน

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​เหงื่อ​ออกหน้า​ผาก

 

 

 

“​ถ้าอย่างนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​เรื่อง​ที่​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ขนส่ง​เงิน​ไปฝู​เจี​้​ยน​และ​เจ้อ​เจียง​คง​กำลัง​แพร่กระจาย​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ใช่​หรือไม่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง

 

 

 

“​ใช่​ขอรับ​!​”​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ทันทีที่​พวกเขา​มา​เยี​่​ยน​จิง​ก็ได้​รับ​งาน​ขนส่ง​เงิน​ไปฝู​เจี​้​ยน​และ​เจ้อ​เจียง​ ​พวกเขา​ต้อง​มี​คน​ของ​ตัวเอง​อยู่​ใน​ราชสำนัก​แน่นอน​ขอรับ​ ​ยืม​เงิน​คนอื่น​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ใน​ครั้ง​เดียว​ ​หายืม​แต่​สกุล​อย่าง​พวกเรา​ ​เวลา​เพียงเดือน​เดียว​ก็​คืนเงิน​ทั้ง​ต้น​และ​ดอก​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​ตอนที่​คืนเงิน​ ​หลาย​ตระกูล​ต่าง​ก็​บอกว่า​ ​หาก​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​มา​ขอยืม​เงิน​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​ให้​ตอบ​ตกลง​ไป​เลย​ ​พูดตาม​ตรง​ ​เถ้าแก่​ของ​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​ ​ขอรับ​”

 

 

 

“​เช่นนั้น​เจ้า​ไป​ยืม​เงิน​สอง​แสน​ตำลึง​ที่​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​มา​ให้​ข้า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​พยายาม​กด​ดอกเบี้ย​ให้​ต่ำ​ที่สุด​!​”

 

 

 

ถึงแม้ว่า​พ่อบ้าน​ไป๋​จะ​แปลกใจ​ ​แต่​เขา​ฟัง​คำสั่ง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มาต​ลอด​เลย​ไม่​ถาม​อะไร​ ​ขานรับ​ด้วย​ความเคารพ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​จาก​ห้อง​หนังสือ​

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันมา​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา​ ​“​ข้า​ไม่​อยาก​ทำให้​เจ้า​เสียหน้า​ ​เช่นนั้น​ข้า​จะ​ไม่​ถาม​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​เจ้า​บอก​ข้า​เอง​เถิด​ ​ว่า​ช่วงนี้​เจ้า​เอาแต่​ทำ​อะไร​”

 

 

 

“​ข้า​ ​ข้า​…​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​หน้าซีด​ขาว​ราวกับ​กระดาษ​ก็​ไม่​ปาน

 

 

 

“​ทำ​โคมไฟ​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา

 

 

 

กลับมา​เขา​ก็ได้​ยิน​เรื่อง​นี้​แล้ว

 

 

 

ก็​แค่​เรื่อง​เงิน​สามสี​่​พัน​ตำลึง

 

 

 

เขา​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ต้าถง​ ​สือ​อี​เหนียง​คงจะ​ไม่สบายใจ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นไท​่ฮู​หยิน​หรือว่า​สือ​อี​เหนียง​ ​พวก​นาง​คงจะ​รู้สึก​ดีขึ้น​ไม่น้อย​

 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ชอบ​ทำ​โคมไฟ​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​มีโอกาส​แบบนี้​ ​เขา​คงจะ​ดีใจ

 

 

 

ตน​เลย​ไม่​ซักถาม​อะไร

 

 

 

แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​ตน​คง​คิด​ง่าย​เกินไป

 

 

 

เพื่อ​ทำ​โคมไฟ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่สน​ใจคำ​พูด​ของ​เขา​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​ทำ​เช่นนี้​เพราะ​อยาก​ให้​ทุกคน​ได้​ฉลอง​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​อย่าง​มีความสุข​ ​หรือ​เพื่อ​ตอบสนอง​ความชอบ​ใน​การ​ทำ​โคมไฟ​ของ​ตัวเอง​กัน​แน่​?​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่มีใคร​รู้

 

 

 

“​ได้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ด้วย​ความโมโห​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ครอบครัว​ของ​เรา​มี​ช่างทำ​โคมไฟ​กี่​คน​ ​เพื่อ​ทำ​โคมไฟ​ ​เจ้า​กลับ​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งนั้น​”

 

 

 

สวี​ซื่อ​จุน​พลัน​ตัว​แข็งทื่อ

 

 

 

เขา​พูดไม่ออก

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ใบหน้า​ที่​แข็งทื่อ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​เขา​เอง​ก็​พูดไม่ออก​เหมือนกัน​

 

 

 

จากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​สะบัด​แขน​แล้ว​เสื้อ​เดิน​ออก​ไป

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท