ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 676 ท้อใจ (กลาง)

ตอนที่ 676 ท้อใจ (กลาง)

“​ค่อยๆ​ ​คืน​ก็ได้​ ​แต่​ตอนนี้​เงิน​ที่​เขา​ยืม​กรมพระราชวัง​หก​แสน​ตำลึง​ยัง​คืน​ไม่​หมด​เลย​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​เหอ​เฉิง​ปี้​ได้รับ​ชัยชนะ​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​ฮ่องเต้​อยาก​ถือโอกาส​เสริม​การป้องกัน​ตอน​ใต้​ ​ปีก่อน​เขื่อน​แม่น้ำ​หวงเหอ​แตก​ ​ปีนี​้​เกิด​ภัยแล้ง​ที่​เจ้อ​เจียง​ ​ฮ่องเต้​ต้อง​ใช้​เงิน​จำนวนมาก​มาย​ ​หนี้​บัญชี​เก่า​ของ​ยง​อ๋อง​ค่อยๆ​ ​คืน​ได้​ ​แต่​ตอนนี้​เขา​จะ​ยืม​เงินได้​จาก​ที่ไหน​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​ยง​อ๋อง​ยืม​แบบ​เปิดเผย​หรือ​แอบ​ยืม​เจ้า​คะ​”

หาก​ยืม​แบบ​เปิดเผย​ ​ก็​แสดงว่า​อยาก​ให้​ฮ่องเต้​รู้​ว่า​เขา​ไม่มี​เงิน​ ​แต่​หาก​แอบ​ยืม​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​เขา​ยืม​เงิน​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​ใน​คราว​เดียว​ ​ไม่รู้​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​สงสัย​สถานะ​ทางการเงิน​ของ​สกุล​สวี​หรือไม่

“​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ยืม​อย่างเปิดเผย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​ข้า​นำ​เงิน​สอง​แสน​ตำลึง​ออกมา​ ​ยืม​เงิน​มาจาก​ร้าน​เงิน​สอง​แสน​ตำลึง​ ​ยืม​มาจาก​ญาติสนิท​มิตรสหาย​อีก​หนึ่ง​แสน​ ​เช่นนี้​ก็​ถือว่า​ไม่​มาก​เท่าไร​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​มัน​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​สัก​เท่าไร​ ​“​เงิน​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​ ​ท่าน​ให้​ยง​อ๋อง​ยืม​เช่นนี้​ ​ฮ่องเต้​จะ​ไม่พอ​พระทัย​แล้ว​สั่ง​ให้ท่า​นบ​ริ​จาค​เงิน​อีก​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​บริจาค​ก็​บริจาค​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ก็​ขาย​ที่ดิน​และ​ร้านค้า​ของ​ข้า​ใน​ต้า​ซิ่ง​และ​เยี​่​ยน​จิง​ให้​หมด​”

“​ไม่ต้อง​ถึงขนาด​นั้น​ก็ได้​กระมัง​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ร้านค้า​ใน​เยี​่​ยน​จิง​อยู่​ที่​ถนน​ตง​ต้า​และ​ถนน​ซี​ต้า​ ​หาก​ขาย​ไป​ ​ต่อไป​มีเงิน​มาก​แค่ไหน​ก็​คงจะ​ซื้อ​คืน​มา​ไม่ได้​”

“​ข้า​กลัว​เขา​ไม่​บังคับ​ให้​ข้า​ขาย​มากกว่า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่สน​ใจ​ ​“​ของเก่า​ไม่​ไป​ของ​ใหม่​ไม่​มา​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​เรา​ไม่​เสียเปรียบ​แน่นอน​”

พวกเขา​สอง​คนพูด​คุย​กัน​อยู่​ที่นี่​ ​เจียง​ซื่อ​ไป​ถึง​ห้อง​หนังสือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​

“​ท่าน​พี่​เป็น​อะไร​ไป​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​นั่ง​ข้าง​เตียง​แล้ว​ยื่นมือ​ออก​ไป​แตะ​หน้าผาก​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือ​”

“​ข้า​ไม่เป็นอะไร​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​คิดไม่ถึง​ว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​มาหา​เขา​ด้วยตัวเอง​ ​รีบ​ลุกขึ้น​นั่ง​ด้วย​ท่าที​กระอักกระอ่วน​ ​“​ไม่ได้​เจอ​น้อง​ห้า​นาน​แล้ว​เลย​มา​พูดคุย​กับ​น้อง​ห้า​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​เผลอ​หลับ​ไป​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​หัวเราะ

“​ช่วงนี้​ท่าน​พี่​เอาแต่​ช่วย​ท่าน​พ่อ​จัดการ​เรื่อง​ใน​จวน​ ​คิด​ว่า​คงจะ​เหนื่อย​กระมัง​”​ ​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​แล้ว​หันไป​เรียก​เป่า​จู​ ​“​ไป​ชงชา​โสมมา​ให้​คุณชาย​น้อย​สี่​”

“​ไม่เป็นไร​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ ​“​นี่​มัน​เรือน​ของ​น้อง​ห้า​!​”

“​ก็​จริง​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​พี่​ ​เช่นนั้น​เรา​กลับกัน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่กล้า​อยู่​ที่นี่​ต่อ​ ​เขา​กลับ​ไป​ที่​เรือน​กับ​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​ไป​ชงชา​โสม​ด้วยตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​นั่ง​ดู​สวี​ซื่อ​จุน​ดื่ม​ชาด​้วย​รอยยิ้ม

“​ท่าน​พี่​เจ้า​คะ​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​จะ​ถึง​วันที่​เก้า​เดือน​เก้า​แล้ว​ ​วันนั้น​ของ​ทุกปี​ที่​จวน​ฉลอง​กัน​อย่างไร​หรือ​”

สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​นาง​พูดเป็นนัย​ ​เขา​จึง​พูดว่า​ ​“​เจ้า​มี​ความคิดเห็น​อะไร​หรือไม่​”​ ​เขามอง​ไป​ที่​ท้อง​ของ​นาง

“​ข้า​ท้อง​โต​แบบนี้​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​อยู่​ที่​เรือน​ ​ไม่​ควร​ทำให้​ท่าน​ย่า​กับ​ท่าน​แม่​เป็นห่วง​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​แค่​คิด​ว่า​ ​หาก​ใน​จวน​ไม่มี​อะไร​พิเศษ​ ​ไม่​สู้​เรา​เชิญ​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​แม่​ ​แล้วยัง​มีท​่า​นอา​สะใภ้​ห้า​และ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่​งมา​ชมด​อก​เบญจมาศ​ ​ทาน​ปู​ที่​จวน​ ​ท่าน​คิดเห็น​อย่างไรเล่า​”

สวี​ซื่อ​จุน​ลังเล

เมื่อ​ครู่​พึ่ง​จะ​ถูก​ท่าน​พ่อ​ตำหนิ​ ​แต่​เขา​กลับ​จะ​จัดงาน​เลี้ยง​ใหญ่​ ​ไม่​ไตร่ตรอง​ตัวเอง​ให้​ดี​ ​หาก​ท่าน​พ่อ​รู้​เข้า​ ​เกรง​ว่า​ท่าน​พ่อ​คงจะ​โมโห​มากกว่า​เดิม​

เจียง​ซื่อ​เห็นท่า​ทาง​ของ​เขา​

แต่​นาง​ก็​มี​เจตนา​ของ​นาง

“​ท่าน​พี่​คิด​ว่า​ไม่ดี​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​ ​“​เลี้ยง​ญาติผู้ใหญ่​ใน​เทศกาล​ฉง​หยาง​นับว่า​คือ​เรื่อง​ที่​ดีที​่​สุด​ ​ข้า​ได้ยิน​พี่สะใภ้​ใหญ่​บอกว่า​ ​หลังจาก​เทศกาล​ฉง​หยาง​ ​พี่ใหญ่​ก็​จะ​ออก​ไป​เก็บเงิน​แล้ว​ ​เรา​จะ​ได้​ถือโอกาส​นี้​ฉลอง​ด้วยกัน​ ​ไม่เช่นนั้น​ก็​คง​ต้อง​รอ​ถึง​ปีใหม่​”

“​เก็บเงิน​!​?​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​เรื่อง​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​ช่วย​ฟัง​ซื่อ​จัดการ​เรื่อง​สินเดิม​ ​ถึงแม้ว่า​พวกเขา​สอง​คน​ไม่ได้​ป่าวประกาศ​ ​แต่​บน​โลก​ใบ​นี้​ไม่มี​กำแพง​ที่​ลม​ผ่าน​ไม่ได้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​เคย​ได้ยิน​มาบ​้าง​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ซื่อ​ฉิน​ยัง​จะ​ไป​เก็บเงิน​ด้วยตัวเอง

เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​ ​นาง​พูด​ ​“​เมื่อก่อน​ข้า​คิด​ว่า​พี่ใหญ่​เป็น​คน​ร่า​เรง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​พี่ใหญ่​ยัง​เป็น​คนขยัน​ขันแข็ง​อีกด้วย​ ​หาก​เป็น​คนอื่น​ใคร​ยัง​จะ​ไป​เก็บเงิน​อย่างลำบาก​ด้วยตัวเอง​เช่นนี้​ ​แค่​ส่ง​ผู้ดูแล​ที่​เชื่อใจได้​ไป​ก็​พอแล้ว​”​ ​นาง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​พี่สะใภ้​ใหญ่​แล้ว​ ​เหตุผล​ที่​พี่ใหญ่​ไป​เก็บเงิน​เอง​ ​เพราะ​อยาก​ถือโอกาส​นี้​ทำ​กิจการ​ ​หารายได้​ให้​ครอบครัว​”

“​จริง​หรือ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่​ค่อย​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​“​พี่​สาม​มีเงิน​ใน​มือ​จำนวนมาก​ไม่ใช่​หรือ​”

“​หาก​เอาแต่​ใช้จ่าย​อย่าง​เดียว​ ​เงิน​นั้น​ก็​หมด​ได้​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ต่อไป​ ​“​พี่​สาม​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ตั้ง​หลาย​ปี​แล้ว​ ​แล้วยัง​ไม่มี​หน้าที่​การงาน​เป็นหลัก​เป็น​แหล่ง​ ​ไม่​แปลกที่​จะ​ไม่มี​เงิน​ ​แต่​พี่​สาม​ย้ายออก​ไป​จาก​จวน​สกุล​หย่ง​ผิง​โหว​ ​งาน​สังสรรค์​ใน​แต่ละ​ปี​ ​แขก​ที่​เชิญ​มาที​่​เรือน​ ​ล้วนแต่​ต้อง​ใช้​ค่าใช้จ่าย​จำนวนมาก​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​มักจะ​นำ​เงิน​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ช่วย​ ​พี่ใหญ่​ไม่​อยาก​ใช้​สินเดิม​ของ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ ​จึง​อยาก​ทำ​กิจการ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​เกลี้ยกล่อม​พี่ใหญ่​ ​บอกว่า​การ​ทำ​กิจการ​ก็​ต้อง​มีความรู้​เรื่อง​ค้าขาย​ ​ไม่​สู้​ช่วย​พี่สะใภ้​ใหญ่​จัดการ​บัญชี​สินเดิม​ก่อน​ ​เดิน​ไปดู​แต่ละ​ที่​ ​รอ​ให้​มี​ความสนใจ​เรื่อง​กิจการ​แล้ว​ค่อย​เปิดร้าน​ก็​ไม่​สาย​เกินไป​ ​พี่ใหญ่​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​คิด​ว่า​มีเหตุผล​ ​จึง​เริ่ม​ช่วย​พี่สะใภ้​ใหญ่​ดูแล​บัญชี​ ​บางครั้ง​บัญชี​ไม่ชัด​เจน​ ​ก็​ต้อง​ไปดู​ที่​ไร่​ ​เจอ​คน​ทำการค้า​ขาย​ระหว่างทาง​ ​ก็​เดิน​เข้าไป​พูดคุย​ด้วย​สอง​สาม​ประโยค​ ​เช่นนี้​พี่ใหญ่​จึง​ถือโอกาส​ตอนที่​ไป​เก็บเงิน​ทำ​กิจการ​สอง​สาม​อย่าง​ ​ล้วนแต่​ได้​กำไร​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​สั่งสม​ความรู้​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​ ​อีก​สอง​ปี​เขา​จะ​เปิดร้าน​ค้า​ที่​ถนน​ตง​ต้า​ไม่​ก็​ถนน​ซี​ต้า​ใน​เยี​่​ยน​จิง​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ได้ยิน​พี่สะใภ้​ใหญ่​บอกว่า​ ​เมื่อก่อน​ครอบครัว​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ล้วนแต่​ขึ้นอยู่กับ​พี่​สาม​ ​แต่​ตอนนี้​พี่ใหญ่​เป็น​คนดู​แลค​รอบ​ครัว​ ​พี่​สาม​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ยัง​ต้อง​มาป​รึก​ษา​พี่ใหญ่​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เช่นนี้​สายตา​ก็​เป็นประกาย​

เจียง​ซื่อ​เห็น​ดังนั้น​ก็​ลอบ​ดีใจ​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​จิน​ซื่อ

“​ท่าน​พี่​รู้​หรือไม่​ ​พี่​สาม​มี​แต่​เปลือก​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ตกใจ​ ​“​เจ้า​ไป​ฟัง​มาจาก​ใคร​”

“​พี่สะใภ้​สาม​เป็น​คนพูด​เอง​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​บอกว่า​เงินเดือน​ของ​พี่​สาม​ยัง​ไม่พอ​ซื้อ​ข้าว​ทาน​สอง​วัน​ ​แต่​สหาย​ร่วมงาน​ของ​พี่​สาม​กลับ​ร่ำรวย​และ​ใช้​เงิน​เก่ง​ทุกคน​ ​พี่​สาม​จะ​ปลีกตัว​อยู่​คนเดียว​ได้​อย่างไรเล่า​ ​แต่​หาก​ทำตาม​พวกเขา​ ​ตอนที่​พี่​สาม​อยู่​ที่​องครักษ์​วัง​หลวง​เขา​เป็น​แค่​องครักษ์​ถือ​ธง​ไม่​ค่อย​ได้รับ​ผลตอบแทน​มากมาย​อะไร​ ​เลย​คิด​อยาก​จะ​เปลี่ยน​ตำแหน่ง​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​พ่อ​หรือ​ท่าน​ลุง​ช่วย​พูด​ให้​เขา​ ​แต่​เรื่อง​ที่​ควร​ดูแล​ก็​ควร​ดูแล​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​คนอื่น​ก็​จะ​คิด​ว่า​เขา​ใจแคบ​ ​ต่อไป​คง​ไม่​ไปหา​มาสู่​กับ​เขา​อีกแล้ว​ ​มีเรื่อง​ดี​อะไร​ก็​ไม่มีทาง​นึกถึง​ ​พี่​สาม​จึง​ไม่​ไปหา​ใคร​ทั้งนั้น​ ​คิด​หา​แต่​วิธี​ตีสนิท​กับ​ผู้บัญชาการ​ ​ขึ้นปีใหม่​ที​หนึ่ง​ก็​ใช้​เงิน​ไม่น้อย​ ​เพื่อ​เรื่อง​นี้​ ​พี่สะใภ้​สาม​ถึงกับ​ขาย​เรือน​ที่​เป็น​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​ทิ้ง​ไป​เรือน​หนึ่ง​”

“​ขาย​เรือน​ที่​เป็น​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​ได้​อย่างไร​กัน​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“​หรือ​ท่าน​ลุง​สาม​และ​พี่ใหญ่​ก็​ปล่อย​ให้​พวกเขา​ทำ​เหลวไหล​เช่นนี้​?​”

“​ข้า​ก็​ถาม​พี่สะใภ้​สาม​แบบ​นั้น​เจ้าค่ะ​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ ​“​พี่สะใภ้​สาม​บอกว่า​ ​มีเงิน​ไม่​สู้​มีชีวิต​ที่​ดี​ ​พี่ใหญ่​และ​พี่สะใภ้​ใหญ่​เห็น​พวกเขา​ลำบาก​ ​นาง​คอย​ดูแล​พวกเขา​ตลอด​ ​แม้แต่​ไป​ซื้อ​แป้ง​ดอกไม้​ตาม​ท้องถนน​ก็​ยัง​ต้อง​ซื้อ​สอง​กล่อง​ ​พวกเขา​จะ​กล้า​ขอ​เงิน​พี่สะใภ้​ใหญ่​ได้​เช่นไร​กัน​ ​จึง​กลับ​ไป​ปรึกษา​กับ​คน​สกุล​เดิม​ ​ใต้เท้า​จิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตอบ​ตกลง​ทันที​ ​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ลำบาก​ ​เรื่องสำคัญ​ตอนนี้​ของ​พี่​สาม​คือ​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ไป​ทำงาน​ที่​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ให้​ได้​ ​เรือน​ขาย​ไป​แล้ว​ซื้อ​ใหม่​ได้​ ​แต่​โอกาส​นี้​หาก​ปล่อย​ให้​หลุดมือ​ไป​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีเงิน​ก็​ซื้อ​ไม่ได้​”

พูดถึง​ตรงนี้​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​แอบ​เหลือบมอง​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​เห็นได้ชัด​ว่า​หาก​เรา​จะ​ทำ​อะไร​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นเรื่อง​ขาย​ไร่​หรือ​ขาย​ที่ดิน​ ​ญาติผู้ใหญ่​ใน​สกุล​ล้วนแต่​สนับสนุน​เจ้าค่ะ​”

“​จริง​หรือ​?​”​ ​คำพูด​ของ​ภรรยา​ทำให้​เขา​ตกใจ​ ​เขา​ถือ​ถ้วย​ชา​โสม​ด้วย​ท่าที​เหม่อลอย

“​ใช่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​ดู​อย่าง​น้อง​ห้า​ ​เพราะ​อยาก​เป็น​ขุนนาง​ ​ใน​จวน​ก็​มี​อาจารย์​เป็น​ของ​ตัวเอง​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ท่าน​พ่อ​ยัง​ขอให้​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ช่วย​แนะนำ​อาจารย์​ฉัง​ให้​อีก​ ​แล้ว​ท่าน​ดู​น้อง​หก​สิ​เจ้า​คะ​ ​อยาก​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​ ​ท่าน​เขย​ใหญ่​ไปหา​อาจารย์​มา​ให้​ยัง​ไม่พอ​ ​แล้วยัง​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ด้วยตัวเอง​ ​แม้แต่​น้อง​เจ็ด​ ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ก็​ส่ง​อาจารย์​มา​ให้​เขา​ตั้ง​สอง​คน​ ​ท่าน​ลอง​คิดดู​สิ​ ​พวกเขา​ต้อง​ใช้​ความพยายาม​มาก​แค่ไหน​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ท่าน​พ่อ​หรือ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ ​ ​ล้วน​ไม่มีใคร​คิด​ว่า​มัน​เป็นเรื่อง​ลำบาก​เลย​สัก​คน​ ​ก็เพราะว่า​มัน​เกี่ยวข้อง​กับ​อนาคต​ของ​น้อง​ห้า​และ​น้อง​หก​ ​ดังนั้น​ ​เรา​ต้อง​เรียงลำดับ​ความสำคัญ​ให้​ชัดเจน​”

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่​พูด​อะไร

เจียง​ซื่อ​รู้​ว่าวั​นนี​้​คง​พูด​ได้​แค่​เท่านี้​ ​หาก​พูดมาก​ไป​กว่านี​้​ ​อาจ​ทำให้​สวี​ซื่อ​จุน​รำคาญ​เอา​ได้

นาง​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ​สรุป​ประเด็นสำคัญ​ของ​วันนี้​ ​“​ท่าน​พี่​ดื่ม​ชา​เสร็จ​แล้วก็​พักผ่อน​สักประเดี๋ยว​เถิด​ ​ข้า​ใกล้​จะ​คลอด​แล้ว​ ​ข้า​หวัง​ว่า​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​พี่​จะ​ช่วย​ข้า​ตัดสินใจ​!​ ​“

“​อ้อ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ได้สติ​กลับมา​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​จะ​ต้อง​ช่วย​เจ้า​แน่นอน​”

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​แล้ว​ช่วย​เปลี่ยน​หมอน​ที่อยู่​ข้างหลัง​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ ​จากนั้น​ก็​รับใช้​เขา​พักผ่อน​

สวี​ซื่อ​จุน​นอนไม่หลับ​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่​อยาก​ปฏิเสธ​น้ำใจ​ของ​ภรรยา​ตัวเอง​ ​เขา​นอน​อยู่​ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงัด​จนได้​ยิน​แม้กระทั่ง​เสียง​เข็ม​ตก​ ​พลิกตัว​ไปมา​ก็​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​

สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​ที่​ยืน​อยู่​ใน​ห้องโถง​ด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความกังวล​เห็น​เจียง​ซื่อ​เดิน​ออกมา​ ​นาง​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​ไม่ได้​โกรธ​ใช่​หรือไม่​”

“​เรื่อง​ที่​ควร​พูด​ข้า​ก็​พูด​ไป​หมด​แล้ว​”​ ​เจียง​ซื่อ​ไม่​มั่นใจ​ ​“​คง​ต้อง​ดู​ว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​คิด​อย่างไร​!​”

“​คุณชาย​น้อย​สี่​เป็น​คนฉลาด​เจ้าค่ะ​”​ ​สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​ปลอบใจ​นาง​ ​“​เขา​ต้อง​รู้​ถึง​ความลำบาก​ของ​ท่าน​แน่นอน​”

“​ข้า​ก็​แค่​ทำตาม​หน้าที่​ของ​ภรรยา​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​เช่นนี้​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​แอบ​อธิษฐาน​ขอให้​สวี​ซื่อ​จุน​เข้าใจ​เจตนา​ของ​ตัวเอง​

สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​เห็น​ดังนั้น​ก็​เอ่ย​เรียก​ ​“​คุณนาย​น้อย​สี่​”​ ​ด้วย​ความลังเล​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​เรา​ควร​บอกฮู​หยิน​หรือไม่​เจ้า​คะ​…​”​

หาก​ทำ​แบบ​นั้น​ ​ถึงแม้ว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​ไม่ยอม​ฟัง​ ​คุณหนู​ของ​นาง​ก็​จะ​ได้​มีความผิด​น้อย​หน่อย​

“​ท่าน​ป้า​คิดได้​รอบคอบ​อย่างมาก​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ ​“​ส่ง​คน​ไป​บอก​ท่าน​แม่​เถิด​ ​บางที​ท่าน​แม่​อาจจะ​ยัง​เป็นห่วง​อยู่​!​”

“​เจียง​ซื่อ​คน​นั้น​ ​ช่างพูด​เก่ง​เสีย​จริง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​หู่​พั่ว​ที่มา​รายงาน​ว่า​ ​“​ภรรยา​ของ​เจี่ยน​เกอ​ขาย​เรือน​ที่​เป็น​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​จริง​หรือ​ ​เหตุใด​ข้า​ถึง​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​!​”

“​ขาย​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​”​ ​หู่​พั่ว​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แต่​พวกเขา​คิด​ว่าที่​ตรงนั้น​ไม่ดี​ ​ขาย​แล้ว​ค่อย​ไป​ซื้อ​เรือน​ที่​ขนาดเล็ก​กว่า​และ​ทำเล​ดีกว่า​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​นาง​หันไป​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​มี​ภรรยา​ที่​ดี​ราวกับ​มีสมบัติ​ล้ำค่า​ก็​ไม่​ปาน​ ​ท่าน​โหว​วางใจ​ได้​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

เขา​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​อยาก​จะ​ปรึกษา​เจ้า​!​”

สือ​อี​เหนียง​ฟัง​อย่างตั้งใจ

“​เจ้า​คิด​ว่า​ ​ให้​อิง​เหนียง​แต่งงาน​กับ​เจี​้ย​เกอ​ดี​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ตกอกตกใจ

ใน​ใจ​ของ​นาง​คิด​ว่า​พวกเขา​นั้น​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​กัน

“​เด็ก​คน​นั้น​น่ารัก​ตั้งแต่​เด็ก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เจี​้ย​เกอ​กับ​นางอายุ​เท่ากัน​ ​นาง​เหมือน​เจ้า​ ​ชอบ​ดอกไม้​ต้นไม้​ ​แล้ว​เจ้า​ก็​ยัง​เป็น​อา​หญิง​ของ​นาง​ ​หาก​นาง​แต่ง​เข้ามา​ ​เรา​ไม่มีทาง​ทำให้​นาง​ลำบาก​แน่นอน​ ​เจ้า​ก็​จะ​ได้​มี​เพื่อน​ ​เจ้า​คิด​อย่างไรบ้าง​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท