บทที่ 641 เจ้ารออยู่นี่ ข้าขอไปประมือกับหลี่จิ่วเต้าผู้นี้หน่อย!
ภายในเมืองจิ่งเทียน
กลุ่มของหลี่จิ่วเต้าเดินวนอยู่หนึ่งรอบเต็ม ก่อนจะกลับไปที่รถลาก และออกจากเมืองจิ่งเทียนไป
เมืองจิ่งเทียนไม่เลวจริง ๆ อารยธรรมฝึกตนซึ่งมนุษย์ปุถุชนไม่อาจสัมผัสได้มีอยู่ทุกที่ หลี่จิ่วเต้าเปิดประสบการณ์ไม่น้อย ทว่าน่าเสียดาย เขาไม่เจอซี
เขาไม่ได้ถามไปทั่วว่ามีผู้ใดเคยพบซีหรือไม่ แม้ว่าเขาอยากจะเจอซีมากก็ตาม
ช่วงเวลาที่เขาได้ใช้ร่วมกับซี ซีมักมีความสุขอยู่เสมอ
แต่กระนั้น เขายังสัมผัสได้ถึงความเศร้าหมองของนางภายใต้ความสุขเหล่านั้น
โดยเฉพาะยามนางบอกลาเขา ความเศร้าเสียใจนั้นยิ่งเด่นชัด
ซีในยามนั้นเด็ดเดี่ยวถึงที่สุด ราวกับหลังจากกันคราวนี้ พวกเขาจะมิได้พานพบกันอีกทั้งชีวิต!
เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ซีแบกรับบางอย่างไว้บนบ่า!
และเพราะสิ่งที่อยู่บนบ่านาง นางจึงจำเป็นต้องบอกลาเขา มุ่งหน้าต่อไปตามลำพัง
ที่เขาไม่ได้ถามผู้ใดก็เพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อซี นำพาเหตุร้ายสู่นาง จนเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับอีกฝ่าย
หากมิใช่ว่าคำนึงถึงเรื่องนั้น เขาย่อมต้องไปซักไซ้กับสิ่งมีชีวิตฝึกตนในเมืองให้ทั่วว่าพวกเขาเคยพบซีหรือไม่
และเขาจะทิ้งรูปวาดของนางไว้ในเมือง รวมถึงที่อยู่ของเขา เผื่อว่าวันหน้ามีสิ่งมีชีวิตฝึกตนใดรู้เบาะแสของนาง จะได้ไปหาเขาที่เมืองชิงซาน
เช่นนี้ย่อมเพิ่มโอกาสที่เขาจะได้พบซีอีกมาก
ไม่แน่ว่าซีอาจได้เห็นภาพวาดที่เขาทิ้งไว้ แล้วไปหาเขาที่เมืองชิงซานด้วยตนเอง
ทว่าน่าเสียดาย เขาไม่รู้เลยว่าซีแบกรับสิ่งใดไว้บนบ่า และไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วซีมีภารกิจอันใด จึงมิกล้าทิ้งข้อมูลของซีไว้สุ่มสี่สุ่มห้า
‘มีวาสนาพันลี้ยังได้พานพบ ไร้วาสนาอยู่ตรงข้ามยังมิได้เห็นหน้า…ข้าเชื่อว่าข้ากับซียังมีวาสนาต่อกัน สุดท้ายต้องได้พบกันอีกแน่!’
หลี่จิ่วเต้าครุ่นคิดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
จิ้งจอกขาวยังคงนอนนิ่งอยู่ตรงมุม มิได้แสดงท่าทีอันใดกับการกลับมาของพวกหลี่จิ่วเต้า
สีหน้าของนางยังคงเย็นชา ดูไม่เข้ากับที่นี่เป็นอย่างยิ่ง
หลี่จิ่วเต้ามิได้ถือสาเรื่องนั้น เขาดูออกว่าจิ้งจอกขาวยังต่อต้านตัวเขาอยู่บ้าง นี่มิใช่เรื่องใหญ่ ภายหลังย่อมดีขึ้นเอง
“ไปกันเถิด”
เขาวางจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงลง ให้จิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงไปอยู่เป็นเพื่อนจิ้งจอกขาว
จิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงวิ่งเข้าไปอยู่ข้างกายจิ้งจอกขาว หัวเล็ก ๆ ของมันถูตัวจิ้งจอกขาวไปมาอย่างสนิทสนม พลันสีหน้าเย็นชาของจิ้งจอกขาวอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
อีกด้าน เฟ่ยชงพาเซียวฮุ่ยมาที่นี่ ทันได้เห็นสัตว์อสูรทั้งเก้าลากรถออกจากเมืองจิ่งเทียนพอดี
“ใช้อสูรจ้าวสูงสุดเก้าตัวลากรถ บางทีหลี่จิ่วเต้าอาจอยู่ข้างในนั้น!”
เซียวฮุ่ยตาเป็นประกาย จับสัมผัสขอบเขตพลังของสัตว์อสูรทั้งเก้าได้ในทันที
ใช้อสูรจ้าวสูงสุดเก้าตัวลากรถ ต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน ในพื้นที่เล็ก ๆ อย่างแดนบูรพาทิศเหยียนโจว มีผู้ยิ่งใหญ่ระดับนี้ที่ไหน
นางนึกถึงหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาในบัดดล
“ให้ลงมือเลยหรือไม่” เซียวฮุ่ยปริปากถาม
เวลานี้นางสวามิภักดิ์อยู่ใต้บัญชาเฟ่ยชงอย่างสมบูรณ์ แต่ช่วยไม่ได้ หากนางไม่ยอมศิโรราบก็เท่านั้น เรื่องนี้นางไม่มีสิทธิ์ตัดสิน
“ยังก่อน!”
เฟ่ยชงมีสีหน้าเคร่งเครียด “แม้แต่ข้ายังจับสัมผัสมิได้ว่าภายในรถลากเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งลงมือ”
เรื่องนี้เกินความคาดหมายของเขาไปหน่อย นึกไม่ถึงเลยสักนิด
เขาทรงพลังปานใด เป็นถึงจ้าวแห่งเซียนสูงสุด ไฉนถึงไม่สามารถล่วงรู้สถานการณ์ภายในรถลากได้
ทว่าความจริงเป็นเช่นนั้น
เขาคลี่แผ่ประสาทสัมผัสเซียนออกไปสืบค้น กลับไม่ได้ข้อมูลกลับมาสักนิด ประสาทสัมผัสเซียนของเขาเมื่อไปถึงที่นั่นเสมือนศิลายักษ์ที่จมดิ่งลงก้นมหาสมุทร หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่อาจสืบทราบเหตุการณ์ข้างในได้เลย!
ส่งผลให้เขามิกล้าบุ่มบ่ามลงมือ
“ตามไปดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
เขาโบกมือ พลังนิรนามบางอย่างเข้าครอบคลุมเขาและเซียวฮุ่ย อำพรางพลังปราณของพวกเขาไว้มิดชิด ป้องกันมิให้ถูกเปิดเผย
สัตว์อสูรทั้งเก้าลากรถมุ่งหน้าต่อไปช้า ๆ ส่วนเฟ่ยชงและเซียวฮุ่ยตามหลังมาติด ๆ แต่พวกเขามิกล้าเข้าใกล้จนเกินไป กลัวจะถูกจับได้
ตกกลางคืน สัตว์อสูรทั้งเก้าหยุดลากรถ และหยุดอยู่ในเทือกเขาแห่งหนึ่ง
หลี่จิ่วเต้าเป็นผู้สั่งให้หยุดเอง
ชายหนุ่มกลัวว่าสัตว์อสูรทั้งเก้าต้องเดินทางต่อเนื่องแล้วจะเหนื่อย เพราะอย่างนั้นเมื่อถึงยามค่ำคืน จึงให้สัตว์อสูรทั้งเก้าได้หยุดพักผ่อนหนึ่งคืน กลางวันค่อยเดินทางต่อ
ทว่ามิมีผู้ใดออกมาจากข้างใน
ข้างในนั้น พวกหลี่จิ่วเต้ากำลังกินมื้อเย็นกันอยู่
พวกเขาสนทนาเฮฮา กินกันอย่างสุขสราญ ทั้งยังดื่มสุราไปไม่น้อย
แต่เฟ่ยชงและเซียวฮุ่ยซึ่งอยู่ด้านนอกไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง พลังของรถลากปิดกั้นทุกสิ่ง
“ฮ่า ๆ ราตรีนี้งดงามนัก ข้าจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย พวกเจ้าพักผ่อนเถิด”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม ตั้งใจจะออกไปเดินเล่นข้างนอก
อันที่จริง เขามิได้ต้องการเดินทอดน่องชมทัศนียภาพยามราตรีในเทือกเขานี้
แต่เพียงต้องการสร่างเมาเท่านั้น
ทุกคนนั่งกินข้าวด้วยกัน ซ้ำยังมีความสุขปานนั้น ประกอบกับมีต้าเต๋อ เพื่อนตัวน้อยผู้ถูกจริตการดื่มสุรากับเขาอย่างยิ่ง เขาจึงดื่มไปไม่น้อย บัดนี้ฤทธิ์สุราเริ่มตีขึ้นหัวแล้ว
คราวก่อนที่เขาเมา เขาเข้าห้องผิดไปที่ห้องลั่วสุ่ย นอนทับลั่วสุ่ยตลอดคืน เช้ามายังมีปฏิกิริยาอย่างที่บุรุษพึงจะเป็นอีก อย่าให้พูดเลยว่ากระอักกระอ่วนเพียงใด
เขาไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทำความผิดซ้ำซาก
มิหนำซ้ำ ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงลั่วสุ่ย แต่ยังมีหลิงอิน เซี่ยเหยียน และพวกอันหลานเสวี่ย ขืนเขาเข้าห้องผิดไปที่ห้องของเซี่ยเหยียน หลิงอิน หรือว่าอันหลานเสวี่ย มิยิ่งกระอักกระอ่วนหรอกหรือ
เพราะเหตุนี้ เขาถึงอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก ตากลมยามราตรีให้สร่างเสียหน่อย ป้องกันมิให้ตัวเองทำผิดอีก
“หลี่จิ่วเต้า!”
“ใช่เขาจริงด้วย!”
เฟ่ยชงและเซียวฮุ่ยเร้นกายอยู่ในความมืดมาโดยตลอด หลังหลี่จิ่วเต้าลงจากรถลาก พวกเขาจำหลี่จิ่วเต้าได้ในปราดเดียว
“ต้าเต๋อจะอยู่ในรถลากคันนี้หรือไม่”
เซียวฮุ่ยเอ่ยกับเฟ่ยชงเสียงเบา นางรู้สึกว่าต้าเต๋อน่าจะอยู่กับหลี่จิ่วเต้า บางทีอาจอยู่ในรถลากคันนี้ด้วย
“เป็นไปได้!”
เฟ่ยชงพยักหน้า รู้สึกเช่นกันว่าต้าเต๋ออยู่ในรถลากคันนี้
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราลงมือเลยดีหรือไม่”
เซียวฮุ่ยเอ่ย เสนอให้บุกเข้าไปในรถลาก ให้รู้กันไปเลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร
“ไม่ต้องรีบร้อน!”
เฟ่ยชงกล่าว “รถลากคันนี้พิลึกเกินไป กระทั่งข้ายังไม่มั่นใจว่าจะบุกเข้าไปภายในนั้นได้ รถลากคันนี้ถือเป็นยอดศาสตราชิ้นหนึ่งเช่นกัน!”
“พวกเขานำยอดศาสตรามากมายขนาดนี้มาจากที่ใดกัน!”
เซียวฮุ่ยเอ่ยขึ้นอย่างอดมิได้
สี่กระบี่ประหารเซียนของหยวนอี ลูกประคำของต้าเต๋อ รถลากในตอนนี้ นางคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าไปนำของเหล่านี้มาจากไหน
“ตัวการสำคัญอยู่ที่หลี่จิ่วเต้า!”
เฟ่ยชงหัวเราะเสียงเย็น “ในเมื่อหลี่จิ่วเต้าออกมาแล้ว พวกเราก็จับตัวเขาไว้ก่อนแล้วกัน!”
เขาไม่ได้คลี่แผ่ประสาทสัมผัสเซียนออกไปสืบค้นหลี่จิ่วเต้า เพราะกลัวจะแหวกหญ้าให้งูตื่น ตามการคาดการณ์ของเขา หลี่จิ่วเต้าต้องไม่ใช่ปุถุชนธรรมดาแน่นอน ขอบเขตพลังของเขาคงอยู่ในระดับสูงมาก
ก่อนหน้านี้ เขามิได้มองหลี่จิ่วเต้าเป็นศัตรูตัวฉกาจ ทว่าหลังได้เห็นรถลากคันนี้ เขาก็หยุดความคิดนั้น ให้ความสำคัญกับหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาก ปฏิบัติต่อเขาดั่งศัตรูตัวฉกาจอย่างแท้จริง
“เจ้ารออยู่นี่ ข้าจะไปประมือกับหลี่จิ่วเต้าผู้นี้หน่อย!”
เฟ่ยชงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น
จากนั้น เขาก็มุ่งตรงไปประชิดตัวหลี่จิ่วเต้า